ประวัติศาสตร์ภาษาและวัฒนธรรมประเทศนิวแคลิโดเนีย

ประวัติศาสตร์ภาษาและวัฒนธรรมประเทศนิวแคลิโดเนีย

นิวแคลิโดเนีย’ หนึ่งในดินแดนโพ้นทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก ที่อยู่ภายใต้การดูแลของฝรั่งเศสมานานกว่า 150 ปี กำลังจะได้รับโอกาสครั้งสำคัญในการเลือกอนาคตให้กับตัวเอง ด้วยการจัดลงประชามติในช่วงราวปลายปี 2018

 

หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ ‘นิวแคลิโดเนีย’ (New Caledonia) เป็นครั้งแรกและอาจจะนึกภาพไม่ออกว่า ดินแดนแห่งนี้ปักหมุดอยู่ตรงไหนในแผนที่โลก แต่สำหรับนักท่องเที่ยวสายชิลล์ที่ชื่นชอบการเที่ยวทะเลในต่างแดนแล้ว ชื่อนิวแคลิโดเนียอาจจะเคยผ่านหูและไม่น่าพลาดที่จะติดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวที่พวกเขาอยากเดินทางไปเยือนสักครั้งอย่างแน่นอน

 

‘นิวเเคลิโดเนีย’ หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ ‘นูเเวล-กาเลดอนี’ (Nouvelle-Calédonie) ในภาษาฝรั่งเศส ถูกผนวกรวมเป็นหนึ่งในดินแดนโพ้นทะเลรูปแบบพิเศษ (Collectivité sui generis) ภายใต้การดูแลของฝรั่งเศส นับตั้งแต่ปี 1853 ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ใกล้กับออสเตรเลีย มีประชากรประมาณ 275,000 คน กว่า 45% เป็นชนพื้นเมืองชาวคานัก (Kanak) รวมถึงชาวยุโรปชาติอื่นๆ โดยเฉพาะชาวฝรั่งเศส

 

ในปี 1986 ช่วงที่กำลังเดินทางเข้าสู่ศตวรรษใหม่ ดินแดนแห่งนี้ได้ถูกรวมไว้ในรายชื่อดินแดนที่ไม่ปกครองตนเองของคณะกรรมการว่าด้วยการยกเลิกอาณานิคมแห่งสหประชาชาติ เกิดความขัดแย้งระหว่างชนพื้นเมืองและชาวยุโรปที่ย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐานเรื่อยมา ก่อนที่จะนำไปสู่การทำ ‘ข้อตกลงนูเมอา (Nouméa) 1998’ ที่ตั้งชื่อตามชื่อเมืองหลวงและเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของนิวเเคลิโดเนีย โดยระบุว่า รัฐบาลฝรั่งเศสจะยินยอมให้นิวแคลิโดเนียมีสิทธิ์ตัดสินใจเลือกอนาคตของตนเอง หลังอยู่ภายใต้การดูเเลของฝรั่งเศสมานานถึง 150 ปี ซึ่งจะมีช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านได้อีก 10-20 ปี ก่อนที่จะจัดลงประชามติขึ้น

 

การลงประชามติในปี 2018 กับอนาคตของนิวแคลิโดเนียในฐานะประเทศเกิดใหม่

รัฐบาลฝรั่งเศสและผู้นำรัฐบาลท้องถิ่นของนิวเเคลิโดเนียอย่างนายฟิลิปเป แชร์กแมง (Philippe Germain) กำลังเร่งหารือเดินหน้าจัดประชามติก่อนช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2018 โดยจะให้ประชาชนตัดสินใจว่า จะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของฝรั่งเศสต่อไป หรือจะประกาศเอกราชในฐานะประเทศเกิดใหม่ ถ้าหากพลเมืองของดินแดนแห่งนี้ตัดสินใจขอแยกตัวเป็นเอกราช นิวแคลิโดเนียจะกลายเป็นประเทศเกิดใหม่ประเทศล่าสุดในประชาคมโลก และยังเป็นประเทศเกิดใหม่ที่แยกตัวมาจากอดีตเจ้าอาณานิคมอย่างฝรั่งเศสในรอบเกือบ 40 ปี นับตั้งแต่จิบูตี (Djibouti) และวานูอาตู (Vanuatu) ที่ประกาศเอกราชในปี 1977 และปี 1980 ตามลำดับ

 

ปัจจุบันดินแดนโพ้นทะเลรูปแบบพิเศษของฝรั่งเศสที่มีขนาดเพียงครึ่งหนึ่งของเกาะไต้หวันนี้ มีตัวแทนนั่งในรัฐสภาทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรอย่างละ 2 ที่นั่ง

 

ด้านนายเอ็มมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่เพิ่งชนะการเลือกตั้งไปเมื่อช่วงกลางปี 2017 ให้ความเห็นว่า เขายังคงต้องการให้นิวเเคลิโดเนียยังคงเป็นส่วนหนึ่งของฝรั่งเศสต่อไปภายหลังการลงประชามติ เพราะฝรั่งเศสจะช่วยการันตีความสงบเรียบร้อยและการพัฒนาในมิติต่างๆ ของนิวเเคลิโดเนียในอนาคต

 

นอกจากนี้เขายังมองว่า ดินแดนแห่งนี้ยังเผชิญหน้ากับอัตราการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น ระบบการศึกษาที่ล้มเหลวและปัญหาอาชญกรรมวัยรุ่น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของนิวเเคลิโดเนียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากประชาชนตัดสินใจขอแยกตัวเป็นประเทศเอกราชในการลงประชามติที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2018 นี้

แสดงแผนที่
แสดงแผนที่
อัตราแลกเปลี่ยน   to

  1 =