ประวัติศาสตร์ภาษาและวัฒนธรรมประเทศจอร์แดน
จอร์แดนเคยอยู่ภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักรและได้รับเอกราชเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2489 หลังจากนั้นในปี 2496 สมเด็จพระราชาธิบดีฮุสเซนเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระประมุขของจอร์แดน จนถึงต้นปี 2542 และสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ที่ 2 บิน อัล ฮุสเซ็น เสด็จขึ้นครองราชย์สืบต่อจากสมเด็จพระราชาธิบดีฮุสเซน พระราชบิดาซึ่งเสด็จสวรรคต โดยทรงกระทำสัตย์สาบานต่อรัฐสภาจอร์แดน เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2542
จอร์แดนเป็นประเทศเล็กและไม่มีทางออกทะเล ยกเว้นที่เมืองท่าอะกาบาออกทะเอแดงจึงทำให้ต้องพึ่งพาประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอิรักในการขนส่งสินค้าผ่านทางทะเล ในอดีตกษัตริย์ฮุสเซ็นทรงมีบทบาทอย่างสูงต่อเสถียรภาพในภูมิภาค โดยทรงเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการไกล่เกลี่ยปัญหาความขัดแย้งระหว่างกลุ่มประเทศอาหรับ นอกจากนั้น การที่จอร์แดนได้ลงนามความตกลงสันติภาพกับอิสราเอลในปี 2537 ทำให้กษัตริย์ฮุสเซ็นทรงมีความสำคัญต่อกระบวนการเจรจาเพื่อสันติภาพในตะวันออกกลางในสายตาของสหรัฐอเมริกาเพิ่มมากขึ้น
ภาษาอาหรับจอร์แดน (Jordanian Arabic) เป็นกลุ่มของสำเนียงย่อยของภาษาอาหรับเลอวานต์ ใช้พูดในราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน โดยมีโครงสร้างของภาษาเป็นแบบของกลุ่มภาษาเซมิติก แต่ได้อิทธิพลทางรากศัพท์จากภาษาอังกฤษ ภาษาตุรกี และภาษาฝรั่งเศส มีผู้พูดมากกว่า 6 ล้านคน และเป็นที่เข้าใจกันในบริเวณเลอวานต์ จัดเป็นภาษาที่ใช้พูดในชีวิตประจำวันในจอร์แดน
จอร์แดน มีสถานที่ที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์และศาสนาที่มีคุณค่าทั้งในด้านศิลปะและวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การเรียนรู้หลายแห่งด้วยกัน ได้แก่ ทะเลสาบ Dead Sea เป็นทะเลศักดิ์สิทธิ์ที่ปรากฏอยู่ ใน The Old Testament แม่น้ำจอร์แดน (The River of Jordan) ซึ่งเป็นสถานที่ที่เชื่อกันว่าเป็นที่ที่พระเยซูทรงรับศีลจุ่ม ณ แม่น้ำจอร์แดนแห่งนี้ แม่น้ำจอร์แดนจึงเป็นสถานที่ที่มีผู้คนเดินทางมาเพื่อแสวงบุญเป็นจำนวนมาก
1 =