สิ่งที่ควรรู้ก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่น [อัปเดตล่าสุด!]
ญี่ปุ่นได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางได้อิสระอย่างเป็นทางการอีกครั้ง แล้วอะไรคือสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ก่อนเดินทางสู่ญี่ปุ่น? ทั้งเรื่องการเดินทางและมารยาทต่างๆในที่สาธารณะ มาดูกันได้เลย
1. ฟรีวีซ่าท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวต่างชาติระยะสั้นสามารถมาเที่ยวญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่าท่องเที่ยว สำหรับนักท่องเที่ยวจาก 68 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย ที่จะสามารถท่องเที่ยวได้ 15 วัน
2. วัคซีน การทดสอบ และการกักกัน
สำหรับข้อกำหนดในการเข้าประเทศ ผู้เดินทางระหว่างประเทศยังคงต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน แสดงใบรับรองวัคซีนโดสที่สามซึ่งจะต้องเป็นไปตามชนิดที่กำหนด หากไม่สามารถแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนได้ ให้แสดงใบรับรองผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่เป็นลบ ซึ่งจะต้องดำเนินการภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางถึงญี่ปุ่น
รัฐบาลได้ยกเลิกนโยบายการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เมื่อเดินทางมาถึงและระเบียบการกักตัวสำหรับบางคน อย่างไรก็ตาม เมื่อเดินทางมาถึง คุณจะได้รับการประเมินตามประวัติการเดินทาง 14 วันของคุณ
3. ขีดจำกัดของจำนวนนักท่องเที่ยว
จะไม่มีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวรายบุคคลที่จะเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นอีกต่อไป เมื่อเทียบกับข้อบังคับเดิมที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวไม่เกิน 50,000 คนเท่านั้น
4. ไม่ต้องเดินทางกับทัวร์ ไม่ต้องทำ ERFS
ตอนนี้นักท่องเที่ยวยังมีอิสระที่จะเดินเตร่ไปตามสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ทั่วประเทศโดยไม่มีบริษัทนำเที่ยว คุณจึงสามารถเดินทางไปไหนมาไหนด้วยตัวเองได้ไม่ต่างจากช่วงที่ก่อนโควิค-19 จะระบาด
5. มาตรการเดินทางในช่วงโควิด-19
ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคม 2022 ร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการพักผ่อน และกิจกรรมใหญ่ต่างๆ ก็เริ่มกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ อย่างไรก็ตาม สถานที่ท่องเที่ยวและสถานประกอบการหลายแห่งยังคงกำหนดให้สวมหน้ากากอนามัยอยู่ แต่สามารถถอดได้ในที่กลางแจ้ง
6. ใช้ Visit Japan Web ยกเลิกมายเอสโอเอส MySOS
เดิมทีนักท่องเที่ยวต่างชาติทุกคนที่มาถึงญี่ปุ่นต้องติดตั้งแอป MySOS หรือเข้าเว็บไซต์ MySOS เพื่อลงทะเบียนล่วงหน้าให้เสร็จสิ้นอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนถึงเวลาเดินทางของเที่ยวบินของคุณ แต่หลังจากวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นมา นักท่องเที่ยวจะต้องลงทะเบียนผ่าน Visit Japan Web ก่อนถึงวันเดินทาง จะได้ไม่ต้องเสียเวลาที่สนามบินปลายทาง ซึ่งจะรวมเรื่อง Fast Track ใน MY SOS เอาไว้เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้คุณยังควรเรียนรู้วัฒนธรรมการใช้ชีวิตของชาวญี่ปุ่นอีกนิด ซึ่ง TraveliGo มีอีก 9 ข้อควรรู้มาฝากกันค่ะ
9 ธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่นที่คุณควรรู้
1. คนญี่ปุ่นมักจะพูดในขณะที่คุณกำลังพูด
คุณจะพบว่าหลายคนพูดแทรกบ่อยครั้งในขณะที่คุณกำลังพูด นี่ไม่ใช่เรื่องหยาบคาย - มันตรงกันข้าม คุณมักจะจะได้ยินคำว่า うんうんうん (un, un un, “yeah, yeah yeah”) และ そう (sou, “ฉันเข้าใจ”) ในขณะที่คุณกำลังพูด นั่นก็เพื่อแสดงออกว่าพวกเขากำลังให้ความสนใจคำพูดของคุณอยู่
2. การขึ้นรถไฟหัวกระสุนในญี่ปุ่น
เมื่อใดก็ตามที่คุณขึ้นรถไฟหัวกระสุน รถไฟใต้ดิน หรือการขนส่งสาธารณะอื่น ๆ ถ้ารถแน่น คุณอาจถูกผลัก แต่จะเป็นการผลักอย่างนุ่มนวล เนื่องจากสถานีมีผู้คนแน่นขนัดผู้คนจะผลักและดันกันเล็กน้อยเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายที่ต้องไป
3. การแบ่งบิลอย่างเท่าเทียมกัน
เรียกว่า 割り勘 (วาริกัง) เป็นเรื่องปกติที่จะมีการแบ่งบิลให้ทุกคนในโต๊ะเท่าๆ กัน ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนหรือสั่งเท่าไหร่ก็ตาม
4. ขอโทษทุกครั้งที่คุณจาม
เมื่อคุณหรือคนอื่นจาม ถึงแม้จะไม่ตั้งใจ แต่ในญี่ปุ่นแห่งนี้มันอาจดูหยาบคายในสายตาของคนส่วนใหญ่ เป็นเรื่องปกติที่คนญี่ปุ่นจะรู้สึกว่าต้องพูดอะไรสักอย่าง และคุณเองก็สามารถพูดว่า すみません (ซูมิมาเซ็น) ซึ่งแปลว่า “ขอโทษ” นั่นเองค่ะ
5. วันสำคัญในญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไป
แม้ว่าคริสต์มาสจะเป็นวันสำคัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปีในฝั่งตะวันตก แต่เป็นคืนวันที่โรแมนติกในญี่ปุ่น!
ในวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ สาวๆ จะเป็นฝ่ายให้ช็อกโกแลตกับหนุ่มๆ ที่พวกเขาชอบ และในวันไวท์เดย์ 14 มีนาคม หากหนุ่มๆ มีใจ ก็จะตอบรับความรักของฝ่ายหญิงเช่นกัน
วันหยุดที่ใหญ่ที่สุดของปีคือวันปีใหม่ มีประเพณีมากมายเกี่ยวกับอาหาร การทำความสะอาดบ้าน และพิธีนำโชคในวันปีใหม่ของชาวญี่ปุ่น
6. ญี่ปุ่นไม่มีการให้ทิป!
คุณไม่ควรให้ทิปในญี่ปุ่นสำหรับบริการใดๆ ก็ตาม เพราะถ้าคุณทิ้งเงินไว้ พวกเขาจะงง และคิดว่าคุณลืมไว้! แต่คุณสามารถหย่อนเงินตามกล่องรับบริจาคได้นะ
7. ไม่มีถังขยะ
เป็นเรื่องปกติถ้าคุณหาถังขยะไม่เจอตามที่สาธารณะ เพราะประเทศญี่ปุ่นยังคงนโยบายเรื่องการปลอดขยะ โดยผู้คนจะต้องแบกขยะไปกับตัวจนกว่าจะกลับถึงบ้านเพื่อคัดแยก กำจัด หรือรีไซเคิลอย่างถูกต้อง
8. นำ Omiyage กลับมาเสมอ
お土産 (omiyage) ซึ่งก็คือ "ของที่ระลึก" ในภาษาญี่ปุ่น คุณจะนำของขวัญเล็กๆ น้อยๆ กลับไปฝากเพื่อน ครอบครัว และเพื่อนร่วมงานเสมอเมื่อคุณไปเที่ยว แม้ว่าคุณจะเดินทางออกไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่ก็เป็นการสุภาพที่จะนำ omiyage เล็กๆ น้อยๆ กลับมา เช่น เครื่องรางนำโชคจากวัดหรือช็อกโกแลต
9. เมื่อคุณได้รับของขวัญ คุณควรให้คืนกลับไปอย่างน้อยหนึ่งชิ้น
หากคุณได้รับของขวัญในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นของขวัญวันเกิด งานแต่งงาน หรืองานรับขวัญเด็ก คุณควรคืนของขวัญที่มีมูลค่าประมาณ 50% ของมูลค่าที่คุณได้รับ และหากเป็นในฝั่งตะวันตกก็ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าจะได้รับของขวัญชิ้นใหญ่กว่านั้น ของขวัญเหล่านี้เรียกว่า お返し (okaeshi)
นี่คือทั้งหมดที่คุณควรรู้ก่อนไปญี่ปุ่น แต่หากคุณเป็นอีกคนที่ยังไม่เคยไปญี่ปุ่น กรุณาเตรียมตัวเกี่ยวกับซิมการ์ดเพื่อการติดต่อที่ราบรื่น เรียนรู้เรื่องการใช้ห้องน้ำและโถสุขภัณฑ์ ที่สำคัญอย่าลืมเตรียมพร้อมสำหรับสภาพอากาศในช่วงนั้นๆ และทำประกันการเดินทางต่างประเทศให้พร้อม จะได้เที่ยวอย่างมีความสุขและสนุกได้เต็มที่นะคะ
ข้อมูลจาก : TokyoLocalized