7 สิ่งที่ควรเลี่ยงเมื่อเตรียมกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง

       ใครจะไปรู้ว่าเพียงแค่ 7 การหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในขั้นตอนการเตรียมกระเป๋าสำหรับถือขึ้นเครื่องหรือ carry-on จะสามารถช่วยให้คุณประหยัดเงิน ประหยัดเวลา สะดวกสบาย และไม่ขัดต่อการรักษาความปลอดภัยของทั้งสายการบินและตัวคุณเองได้ด้วย

1. อย่าแพ็กสัมภาระขึ้นเครื่องมากเกินไป

กระเป๋าที่โหลดใต้ท้องเครื่องจะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมหากมีน้ำหนักหรือขนาดเกินกำหนด แต่รู้ไหมว่าหลายสายการบินก็ชั่งน้ำหนักกระเป๋าที่ถือขึ้นเครื่องด้วย คุณสามารถซื้อเครื่องชั่งน้ำหนักกระเป๋าเดินทางแบบพกพาเพื่อชั่งน้ำหนักกระเป๋าของคุณก่อนออกเดินทาง เพื่อจะได้เก็บของที่บ้านแทนการทิ้งของสำคัญที่เคาน์เตอร์สนามบิน

2. อย่าลืมของใช้จำเป็นในเที่ยวบินของคุณ

       โดยเฉพาะเที่ยวบินที่ต้องนั่งนาน ๆ คุณจะต้องเตรียมสิ่งของที่จำเป็นในกระเป๋าถือติดตัวขึ้นเครื่อง นอกจากยารักษาโรค ก็ยังมีของใช้อื่น ๆ เช่น หูฟัง เจลทำความสะอาด ผ้าปิดตา หมอนเพื่อความสะดวกสบาย และหนังสือสนุก ๆ ไว้อ่านแก้เบื่อ

3. อย่าพกของเหลวหรือเจลที่มีขนาดบรรจุภัณฑ์ใหญ่กว่า 3.4 ออนซ์ (100 ml.)

       ข้อนี้เป็นที่รู้กันดีสำหรับใครที่ขึ้นเครื่องบ่อย ๆ แล้วต้องพกพาแชมพู ครีมกันแดด หรือของเหลวอื่น ๆ ซึ่งควรถูกแพ็กไว้ในกระเป๋าที่โหลดใต้ท้องเครื่องหากมีขนาดบรรจุภัณฑ์เกินกำหนด และควรถูกแพคในถุงซิปล็อกให้เรียบร้อยก่อนถือขึ้นเครื่อง แต่ก็มีข้อยกเว้นบางประการสำหรับยาและอาหารที่จำเป็นต่าง ๆ ส่วนเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ ควรซื้อหลังผ่านขั้นตอนคัดกรองสัมภาระเรียบร้อยแล้ว 
คลิกที่นี่ เพื่อดูรายละเอียดต่าง ๆ ของแต่ละสายการบิน

4. อย่าบรรจุสิ่งของต้องห้ามอื่น ๆ

       ในแต่ละประเทศนั้นจะมีกฎเกณฑ์ที่แตกต่างกันเล็กน้อยเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ แต่โดยทั่วไปแล้ว คุณไม่ควรพกสิ่งเหล่านี้ไว้ในกระเป๋าถือขึ้นเครื่องของคุณ: อาวุธ หรืออุปกรณ์กีฬาอื่น ๆ ที่ สามารถใช้เป็นอาวุธได้ รวมถึงสเปรย์ป้องกันตัว และวัตถุมีคม เช่น มีดและมีดโกนเพื่อความปลอดภัย

5. อย่าเก็บของเหลวและเจลไว้ลึกเกินไป

       เพื่อความประหยัดเวลาในการคัดกรองสัมภาระ ควรเก็บของเหลวดังกล่าวไว้ในถุงพลาสติกและอยู่ในที่ที่เข้าถึงได้ง่าย เพื่อให้ง่ายต่อการหยิบจับออกมาตรวจสอบความปลอดภัย เช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป

6. อย่าคิดไปเองว่าสัมภาระของคุณจะเล็ดลอดจากการตรวจสอบ

       แม้สัมภาระของคุณจะมีน้ำหนักและขนาดไม่เกินจากที่สายการบินกำหนดทุกอย่าง แต่คุณก็ยังอาจต้องตรวจสอบอีกครั้งที่ประตูขึ้นเครื่องหากเครื่องบินเต็มมากหรือเป็นเครื่องบินขนาดเล็กกว่าที่คาดไว้ คุณควรแน่ใจว่าสัมภาระทุกชิ้นสำคัญจริง ๆ เช่นเอกสารเดินทาง ของมีค่า ยารักษาโรค และคุณควรมีข้อมูลติดต่อของตัวเองในกระเป๋าด้วย

7. อย่าลืมซื้อน้ำหนักกระเป๋าล่วงหน้าให้ครอบคลุมน้ำหนักสัมภาระ

       สายการบินต้นทุนต่ำบางแห่ง ไม่เพียงแต่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับกระเป๋าที่โหลดใต้ท้องเครื่องเท่านั้น แต่ยังมีค่าธรรมเนียมสำหรับกระเป๋าถือขึ้นเครื่องด้วย หากคุณชำระเงินทางออนไลน์ล่วงหน้า แทนที่จะชำระเมื่อคุณมาถึงสนามบิน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม

       นอกจากนี้คุณยังสามารถปกป้องสิ่งของมีค่าต่าง ๆ ของคุณได้ ด้วยการซื้อประกันการเดินทาง ที่คุ้มครองสัมภาระอย่างครอบคลุม เพื่อความอุ่นใจในการเดินทางและทำให้ทริปของคุณมีความสุข สนุกได้อย่างเต็มที่
อ่านจบแล้วก็จองตั๋วเครื่องบิน ซื้อประกันการเดินทางต่างประเทศ จองที่พักให้เรียบร้อย แล้วออกเดินทางกันเลย!