10 วิธีป้องกันกระเป๋าเดินทางหาย

Atchamaporn R.

       เมื่อกระเป๋าเดินทางหรือสัมภาระของคุณหาย! คงจะเป็นข่าวร้ายไม่เบาที่จะสามารถทำลายทริปแสนสนุกของคุณได้เลย และแน่นอนว่าปัญหาเหล่านี้เราควรได้รับการวางแผนเพื่อป้องกันก่อนการเดินทาง คงเป็นเรื่องยากที่จะหาเที่ยวบินแบบไม่แวะพัก รวมถึงการถือทุกอย่างขึ้นเครื่องเองทั้งหมดเพื่อป้องกันปัญหานี้ ก็คงเป็นวิธีที่ยากของหลาย ๆ คน แต่ยังมีวิธีอื่น ๆ ที่จะช่วยคุณป้องกันปัญหาแย่ ๆ ได้ มาดูกันเลย


1. ลิสต์รายชื่อสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋าพร้อมบอกมูลค่าโดยประมาณก่อนออกเดินทาง

       เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องที่น่าเบื่อที่จะต้องมาลิสต์รายละเอียดของที่ยาวยืด แต่คุณคงไม่อยากลืมของมีค่า ถ้ากระเป๋าคุณหายแล้วคุณถูกเจ้าหน้าที่สอบถามว่ามีอะไรอยู่ในกระเป๋าคุณบ้าง 
       แล้วอย่าลืมเก็บใบเสร็จสิ่งของมีค่าเหล่านั้นไว้กับตัว เพื่อเป็นหลักฐานให้สายการบินตรวจสอบ ในกรณีที่กระเป๋าสูญหาย แต่จะให้ดีคุณควรทำประกันแยกกันไว้ เพราะสายการบินอาจคุ้มครองไม่ครอบคลุมมูลค่าสิ่งของราคาแสนแพง


2. ไม่ควรใส่ของที่ขาดไม่ได้ลงในกระเป๋าที่ต้องโหลดใต้ท้องเครื่อง

       ไม่ว่าจะเป็น เครื่องประดับต่าง ๆ ยารักษาโรค แล็ปท็อป หรือเอกสารตัวจริงที่สำคัญ จำไว้ว่าสิ่งเหล่านี้ควรถูกใส่ลงในกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง และยารักษาโรคของคุณควรมีสลากกำกับยาที่ถูกต้องเป็นภาษาอังกฤษเพื่อป้องกันการเข้าใจผิดแก่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นด้วย


3. สำรองของใช้จำเป็นเก็บไว้ในกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง

       เพราะหากกระเป๋าที่คุณโหลดใต้ท้องเครื่องเกิดการสูญหายหรือล่าช้า คุณจะยังมีของใช้ที่จำเป็น เช่น แปรงสีฟันยาสีฟัน หรือเสื้อผ้าซักชุด และถ้าคุณเดินทางกับเพื่อนหรือคนรัก ก็อาจแบ่งเสื้อผ้าของแต่ละคนใส่กระเป๋าของอีกคนก่อนที่จะโหลดใต้เครื่อง เผื่อว่ามีกระเป๋าใบใดใบหนึ่งสูญหายจะได้ยังมีของที่จำเป็นต้องใช้อยู่บ้าง


4. ปรับแต่งให้กระเป๋าเดินทางของคุณดูโดดเด่นไม่เหมือนใคร

       บางทีหน้าตากระเป๋าเดิม ๆ อาจทำให้เกิดความสับสนบนสายพานลำเลียงสัมภาระ จนทำให้ใครบางคนหยิบผิดโดยไม่รู้ตัว คุณอาจเปลี่ยนโฉมกระเป๋าของคุณด้วยสติกเกอร์น่ารัก ๆ หรือสายรัดกระเป๋าสีสันสดใสสะดุดตา ที่จะทำให้รู้ว่าหยิบไม่ผิดใบแน่นอน


5. เขียนชื่อและเบอร์โทรของคุณติดไว้ทั้งด้านนอกและด้านในกระเป๋า

       เนื่องจากแท็กตั๋วปลายทางที่เจ้าหน้าที่ติดไว้ อาจฉีกขาดได้ง่ายระหว่างการเดินทาง แต่การมีชื่อและช่องทางติดต่อ พร้อมทั้งสำเนาแผนการเดินทางของคุณอยู่ในกระเป๋านั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะฉีกขาดหายไป


6. ถ่ายภาพกระเป๋าเดินทางของคุณเก็บไว้ก่อนเดินทาง

       การมีภาพกระเป๋าเดินทางหรือสัมภาระต่าง ๆ ของคุณเก็บไว้กับตัว จะทำให้ง่ายต่อการแสดงเป็นหลักฐานเพื่อแสดงให้เจ้าหน้าที่ของสายการบินช่วยค้นหา และหากคุณถ่ายภาพสิ่งของที่อยู่ภายในกระเป๋า ก็จะยิ่งมีประโยชน์ในกรณีที่คุณต้องยื่นคำร้องประกันสำหรับทรัพย์สินที่สูญหายอีกด้วย


7. เช็คอินสัมภาระก่อนเวลาขึ้นเครื่องอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง

       คุณควรกำหนดเวลาที่จะก้าวเท้าเหยียบสนามบินไว้ให้แน่นอน และควรเผื่อเวลาเช็คอินก่อนกำหนดขึ้นเครื่องอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงหรือเร็วกว่านั้นในช่วงที่การเดินทางหนาแน่น เพราะเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาดำเนินการลำเลียงสัมภาระขึ้นเครื่องและคุณอาจติดอยู่ในขั้นตอนการคัดกรองผู้โดยสาร หากช้าสัมภาระของคุณอาจถูกแยกออกไปได้


8. กระเป๋าสัมภาระทุกใบต้องถูกเจ้าหน้าที่ติดแท็กตั๋วปลายทางที่ถูกต้อง

       ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ที่ตรวจสอบสัมภาระของคุณติดแท็กตั๋วปลายทางที่ถูกต้องบนกระเป๋าทุกใบ และอย่าลืมแกะแท็กอันเก่าบนกระเป๋าใบเก่งของคุณออกเพื่อป้องกันการสับสนด้วย


9. พยายามเลี่ยงการต่อเครื่องที่กระชั้นชิด

       หากคุณจำเป็นจะต้องเดินทางด้วยการแวะต่อเครื่องเพื่อไปยังจุดหมายปลายทาง อาจเป็นไปได้ว่าเที่ยวบินต่อไปของคุณอาจล่าช้า ซึ่งจะทำให้การลำเลียงขนย้ายสัมภาระจากเครื่องบินลำหนึ่งไปอีกลำหนึ่งมีเวลาจำกัดมากขึ้น คุณจึงควรเลือกเที่ยวบินที่มีเวลาในการแวะเปลี่ยนเครื่องระหว่างทางอย่างน้อย 90 นาที เพื่อจะสามารถการันตีได้ว่าการประหยัดเวลาของคุณจะไม่กลายเป็นการเสียเวลาตามหากระเป๋า อีกทั้งยังต้องผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ที่ค่อนข้างซับซ้อนอีก


10. ซื้อประกันการเดินทางไว้ อุ่นใจกว่า

       ประกันการเดินทางเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะรับประกันได้ว่าคุณจะได้รับการชดเชยต่อความเสียหายหรือความสูญเสียในระหว่างการเดินทางที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

       หากคุณทำตามคำแนะนำครบทุกข้อแล้ว แต่ยังไม่มีประกันการเดินทางที่คุณไว้ใจ สามารถเลือกซื้อประกันการเดินทางกับ TraveliGo ซื้อง่าย ได้รับใบกรมธรรม์ทันที และยังสามารถใช้ยื่นขอวีซ่าเชงเก้นได้ทันที คลิก 
นอกจากนี้ยังสามารถเลือกใช้บริการติดตามค้นหาสัมภาระ ในขั้นตอนการจองตั๋วเครื่องบินได้อย่างง่ายดายอีกด้วย