แกรนด์อเมริกา ครอสคันทรี ทริป ตะวันออก ตะวันตก เส้นทาง Route 66 รวมทิปต่างๆแล้ว พร้อมเที่ยวบินภายใน 2 เที่ยว

ทัวร์อเมริกา แคลิฟอร์เนีย โคโลราโด นิวเม็กซิโก โอคลาโฮมา เท็กซัส มิชิแกน มิสซูรี ลุยเซียนา

การผจญภัย ชายหาดและแสงอาทิตย์ เกมส์สำหรับครอบครัว ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โรแมนติก ช้อปปิ้ง ดินเนอร์ ศาสนา อุทยานแห่งชาติ เที่ยวเต็มวัน, ไม่มีวันอิสระ พักโรงแรม 4 ดาว พักโรงแรม 5 ดาว ล่องเรือ บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง ฟาร์ม สวนผลไม้ ไม่เข้าร้านรัฐบาล ทะเลสาบ พิพิธภัณฑ์
รายละเอียด

ทัวร์อเมริกา แคลิฟอร์เนีย โคโลราโด นิวเม็กซิโก โอคลาโฮมา เท็กซัส มิชิแกน มิสซูรี ลุยเซียนา 20 วัน โดยสายการบินอีว่า แอร์ เที่ยวชิคาโก เมมฟิส นิวออร์ลีนส์ ลุยเซียนา ฮิวสตัน แซนแอนโทนีโอ ออสติน แดลลัส โอคลาโฮมาซิตี้ คลินตัน อามาริลโล คาร์ลสแบด อุทยานแห่งชาติคาร์ลสแบดแคเวินส์ แอละโมกอร์โด แอลบูเคอร์คี ซานตาเฟ เทาส์ อลาโมซา ครีด เลคซิตี้ มอนต์โรส แอสเพน เกลนวูดสปริงส์ จอร์จทาวน์ เดนเวอร์ ซานฟรานซิสโก


รหัสทัวร์ : TATUS8651
 แคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา
สายการบินอีว่าแอร์เวย์
วันที่เดินทาง :
07 ต.ค. 2567 ถึง 26 ต.ค. 2567
ราคาเริ่มต้น
USD 9,475
ทำไมต้องจองทัวร์กับเรา
  • ราคาสุดท้ายไม่บวกเพิ่ม
  • รับประกันราคาที่ดีที่สุด
ติดต่อสอบถาม
02 001 5855
จันทร์ - เสาร์ 09:00 น. - 18:00 น.
ตารางการเดินทาง
  • วันที่
    1
    กรุงเทพฯ - ไต้หวัน - ชิคาโก

    09.30 น. พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบินอีวีเอแอร์
    12.20 น. ออกเดินทางสู่สนามบินไต้หวันเถา-ยฺเหวียน (TPE) โดยเที่ยวบิน BR212 (ใช้เวลาบินประมาณ 3.50 ชม.) สายการบินมีบริการอาหารเช้า บนเครื่องบิน
    17.10 น. เดินทางถึงสนามบินไต้หวันเถา-ยฺเหวียน (TPE) แวะเปลี่ยนเครื่อง 
    20.00 น. ออกเดินทางสู่สนามบินชิคาโกโอแฮร์ (ORD) โดยเที่ยวบิน BR56 (ใช้เวลาบินประมาณ 14 ชม.) สายการบินมีบริการอาหารค่ำและอาหารเช้าบนเครื่องบิน
    ********** บินข้ามเส้นแบ่งเขตเวลาสากล **********
    21.00 น. เดินทางถึงสนามบินชิคาโกโอแฮร์ (ORD) ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hilton Chicago Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)

  • วันที่
    2
    ชิคาโก - พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติภาคสนาม

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
    นำท่านเดินทางสู่เมืองชิคาโก (Chicago) ในรัฐอิลลินอย สหรัฐอเมริกา ชิคาโกเป็นเมืองใหญ่อันดับสามในสหรัฐอเมริกาเทียบตามจำนวนประชากร รองจากเมืองนิวยอร์ก และลอสแอนเจลิส เมืองชิคาโกตั้งอยู่ในเคาน์ตีคุก รัฐอิลลินอย เขตมิดเวสต์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีประชากรประมาณ 9 ล้านคน ชิคาโกพัฒนาจากเมืองทุ่งนาจากปี พ.ศ. 2376 กลายมาเป็นศูนย์กลางความเจริญแห่งหนึ่งของโลก และในปัจจุบันนับเป็น 1 ใน 10 เมืองสำคัญของโลกทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ชิคาโกยังคงเป็นศูนย์กลางทางด้านความเจริญ การเงิน การคมนาคม และวัฒนธรรมที่สำคัญของเขตมิดเวสต์ นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติภาคสนาม (Field Museum of Natural History) เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติในชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ และเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ประเภทนี้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รับความนิยมในด้านขนาดและคุณภาพของโปรแกรมการศึกษาและวิทยาศาสตร์รวมถึงตัวอย่างทางวิทยาศาสตร์และคอลเล็กชั่นสิ่งประดิษฐ์มากมาย ในสวนของ Jurassic World นอกเหนือจากจะได้ เห็นฟอสซิลของไดโนเสาร์นานาชนิด ท่านจะได้สัมผัสกับแบบจำลองไดโนเสาร์ที่ทำให้ท่านได้รู้สึกเสมือนเดินเล่นในจูราสสิค ปาร์ค อีกด้วย
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    บ่าย นำท่านเดินทางล่องเรือชมสถาปัตยกรรมแม่น้ำชิคาโก (Chicago Architecture River Cruise) (ใช้ระยะเวลาประมาณ 1.30 ชม.) ล่องเรือไปตามแม่น้ำและตื่นตาตื่นใจไปกับตึกระฟ้าอันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองชิคาโก ชื่นชมอาคารอันงดงาม เช่น อาคาร John Hancock, Wrigley, Willis Tower, Trump Tower และ Civic Opera Building ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง นำท่านเดินทางชมLake Shore Drive จากแม่น้ำชิคาโกทางใต้ไปจนถึงถนน 57th ถนนแห่งนี้ได้ชื่อว่า Leif Ericson Drive ในปี 1927 สำหรับนักสำรวจชาวนอร์ส Leif Ericson ถนนสายนี้มีชื่อเล่นว่า Field Boulevard ถนนทั้งสายเปลี่ยนชื่อเป็น Lake Shore Drive ในปี 1946 และทิวทัศน์อันงดงามของริมน้ำ ชายหาด สวนสาธารณะ หอคอย และตึกสูงได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของชิคาโก อิสระให้ท่านถ่ายภาพ บริเวณริมทะเลสาบมิชิแกน
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hilton Chicago **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)

  • วันที่
    3
    เมืองเมมฟิส – ถนนบีล - เกรซแลนด์

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
    06.30 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินชิคาโก
    08.50 น. ออกเดินทางจากสนามบินชิคาโก สู่สนามบินเมมฟิส โดยเที่ยวบิน UA5371 (ใช้เวลาบิน 1.48 ช.ม.)
    10.30 น. เดินทางถึงสนามบินเมมฟิส    
    นำท่านเดินทางสู่เมืองเมมฟิส (Memphis) เป็นเมืองในรัฐเทนเนสซีของสหรัฐอเมริกา ที่นี่เป็นที่ตั้งของเชลบีเคาน์ตี้ทางตะวันตกเฉียงใต้สุดของรัฐ และตั้งอยู่ริมแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ เมมฟิสเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา มีภูมิประเทศที่หลากหลาย 
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    บ่าย นำท่านเดินเล่นที่ถนนบีล (Beale Street) เป็นถนนในดาวน์ทาวน์เมมฟิส รัฐเทนเนสซี ซึ่งทอดยาวจากแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ไปยังถนนอีสต์ ระยะทางประมาณ 2.9 กม. เป็นสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของเมืองตลอดจนในประวัติศาสตร์ดนตรีบลูส์ ปัจจุบัน คลับเพลงบลูส์และร้านอาหารที่เรียงรายบนถนน Beale Street เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในเมมฟิส เทศกาลและคอนเสิร์ตกลางแจ้งมักดึงดูดผู้คนจำนวนมากมาที่ถนนและพื้นที่โดยรอบ อิสระให้ท่านได้เดินเล่น และเก็บภาพตามอัธยาศัย นำท่านเดินทางสู่เกรซแลนด์ (Graceland) เป็นคฤหาสน์บนพื้นที่ 13.8 เอเคอร์ เมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา พิพิธภัณฑ์ที่เก็บของทุกอย่างของ Evis Presley ตั้งแต่เครื่องดนตรี ไปถึงของใช้อย่างรถยนต์ Cadillac คันโปรด นอกจากนี้ยังเคยเป็นสถานที่อยู่อาศัยของ เอววิส เพรสลีอีกด้วย ครั้งหนึ่งเคยเป็นของนักร้องชาวอเมริกัน เอลวิส เพรสลีย์ เพรสลีย์ถูกฝังอยู่ที่นั่น เช่นเดียวกับพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย หลานชาย และลูกสาวของเขา Graceland ตั้งอยู่ที่ 3764 Elvis Presley Boulevard ในย่าน Whitehaven เมมฟิส ห่างจากใจกลางเมมฟิสไปทางใต้ประมาณ 14 กิโลเมตร และห่างจากชายแดนมิสซิสซิปปี้ไปทางเหนือไม่ถึง 6.4 กม. เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมเป็นพิพิธภัณฑ์บ้านเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2525
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก The Central Station Memphis, Curio Collection by Hilton **** หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    4
    เมืองทูเพโล - บ้านเกิดของเอลวิส เพรส - เมืองนิวออร์ลีนส์

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
    นำท่านเดินทางสู่เมืองทูเพโล (Tupelo) (ระยะทาง 171 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.50 ชม.) เป็นเมืองในและเป็นที่ตั้งเทศมณฑลของลีเคาน์ตี้ รัฐมิสซิสซิปปี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยจำนวนประชากรประมาณ 38,300 คน ทูเพอโลจึงเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 7 ในรัฐมิสซิสซิปปี้ และถือเป็นศูนย์กลางการค้า อุตสาหกรรม และวัฒนธรรมของนอร์ทมิสซิสซิปปี้ Tupelo มีความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับประวัติศาสตร์ดนตรีของรัฐมิสซิสซิปปี้ โดยเป็นที่รู้จักในฐานะบ้านเกิดของ Elvis Presley และ Diplo รวมถึงต้นกำเนิดของกลุ่ม Rae Sremmurd เมืองนี้เป็นที่ตั้งของสถาบันศิลปะและวัฒนธรรมหลายแห่ง รวมถึงสถานที่เกิดของเอลวิส เพรสลีย์ และสนามกีฬา Cadence Bank Arena ความจุ 10,000 ที่นั่ง ซึ่งเป็นสนามกีฬาในร่มอเนกประสงค์ที่ใหญ่ที่สุดในรัฐมิสซิสซิปปี้ นำท่านเดินทางชมบ้านเกิดของเอลวิส เพรสลีย์ (Elvis Presley Birthplace) เป็นสถานที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ในเมืองทูเพโล รัฐมิสซิสซิปปี้ ซึ่งอุทิศให้กับการอนุรักษ์บ้านเกิดของนักดนตรีชาวอเมริกัน เอลวิส เพรสลีย์ มีรายชื่ออยู่บนเส้นทางมิสซิสซิปปี้บลูส์
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองแจ็คสัน (Jackson) (ระยะทาง 285 กม. ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในรัฐมิสซิสซิปปี เมืองก่อตั้งในปี 1821 ในฐานะเมืองหลวงใหม่ของรัฐ โดยตั้งชื่อตามนายพลแอนดรูว์ แจ็กสัน เพื่อเป็นเกียรติให้แก่ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในยุทธการที่นิวออร์ลีนส์ ระหว่างสงคราม ค.ศ. 1812 ซึ่งภายหลังได้รับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1920 แจ็กสันเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของรัฐ แซงหน้าเมืองเมริเดียน จากการเฟื่องฟูของการขุดพบก๊าซธรรมชาติในภูมิภาคนั้น ปัจจุบันเมืองมีคำขวัญคือ "นครแห่งจิตวิญญาณ" (The City with Soul) เมืองมีนักดนตรีมากมาย ทั้งแนวบลูส์ กอสเปล โฟล์ก และแจ๊ส นำท่านเที่ยวชมเมืองแจ็คสัน นำท่านถ่ายรูปกับศาลาว่าการประจำเมือง (Mississippi State Capital) ตั้งตระหง่านยิ่งใหญ่สวยงาม จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ Winsor Ruins ซึ่งปรากฎเสาคอลัมน์สไตล์ โครินเธียนที่หลงเหลือจากการถูกเผาไหม้ ของแมนชั่นเศรษฐี โดยแมนชั่นนี้สร้างขึ้นในปี 1890 และมีเสาโครินเธียนสูงกว่า 27 ต้น ที่ยังคงหลงเหลือสะท้อนให้เห็นถึงความมั่งคั่งในยุคก่อน
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hilton Garden Inn Jackson Downtown **** หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    5
    ชมจตุรัสแจ็คสัน – อาสนวิหารเซนต์หลุยส์ – ถนนบูร์บง – เมืองแบตันรูช – อาคารรัฐสภาลุยเซียนา

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
    นำท่านเดินทางสู่เมืองนิวออร์ลีนส์ (New Orleans) (ระยะทาง 300 กม. ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.) เป็นนครและแพริชที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมิสซิสซิปปีในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐลุยเซียนา มีประชากรราว 390,144 คนจากการประมาณในปี 2019 ถือเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในรัฐลุยเซียนา และเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญด้วยท่าเรือสำคัญในภูมิภาคริมอ่าวของสหรัฐอเมริกา นำท่านเดินทางชมจตุรัสแจ็คสัน (Jackson Square) เป็นสวนสาธารณะเก่าแก่ในย่านเฟรนช์ควอร์เทอร์ เมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา จัตุรัสแห่งนี้ได้รับการประกาศเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งชาติในปี 1960 ในฐานะสถานที่สำคัญใจกลางเมืองมาตลอดประวัติศาสตร์ของนิวออร์ลีนส์ และในฐานะสถานที่ที่ซึ่งในปี 1803 ลุยเซียนาได้ถูกซื้อโดยสหรัฐเข้าเป็นดินแดนของสหรัฐอเมริกา รูปปั้นตรงกลางจัตุรัสคือรูปปั้นของแอนดรูว์ แจ็คสันบนหลังม้า ผลงานออกแบบโดยคลาร์ก มิลส์
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    บ่าย นำท่านเดินทางชมอาสนวิหารเซนต์หลุยส์ (St. Louis Cathedral) เป็นที่ตั้งของอัครมุขมณฑลนิวออร์ลีนส์และเป็นอาสนวิหารที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐที่ยังใช้งานต่อเนื่องถึงปัจจุบัน อาสนวิหารนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่นักบุญหลุยส์ (หรือพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 แห่งฝรั่งเศส) โบสถ์หลังแรกสร้างขึ้นในปี 1718 และหลังที่สามสร้างขึ้นในสมัยภายใต้การปกครองของสเปนในปี 1789 และได้ยกสถานะขึ้นเป็นอาสนวิหารในปี 1793 อาสนวิหารหลังเดิมถูกเพลิงไหม้เสียหายในเพลิงไหม้ใหญ่เมื่อปี 1788 จากนั้นได้มีการขยาย ต่อเติม และปรับปรุงจนเสร็จสมบูรณ์ในทศวรรษ 1850 และยังคงมีโครงสร้างบางส่วนจากปี 1789 หลงเหลืออยู่ อาสนวิหารนักบุญหลุยส์ตั้งอยู่ในเฟรนช์ควอร์เตอร์ นิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา และตั้งอยู่ติดกับจัตุรัสแจ็คสัน หันหน้าเข้าสู่แม่น้ำมิสซิสซิปปีในย่านใจกลางประวัติศาสตร์ของนิวออร์ลีนส์ นำท่านเดินที่ถนนบูร์บง (Bourbon Street) เป็นถนนสายประวัติศาสตร์ในใจกลางย่านเฟรนช์ควอร์เทอร์ของเมืองนิวออร์ลีนส์ ถนนมีความยาวสิบสามช่วงอาคาร เขื่อมถนนคาแนลกับถนนเอสพลานาด ถนนบูร์บงเป็นที่รู้จักจากบาร์และคลับจำนวนมากตลอดสายถนน จึงถือว่าเป็นถนนสายสำคัญของเมืองนิวออร์ลีนส์โดยเฉพาะในทางการท่องเที่ยว ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองแบตันรูช (Baton Rouge) (ระยะทาง 133 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม.) เป็นเมืองหลวงของรัฐลุยเซียนาของสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ พื้นที่แบตันรูชมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เนื่องจากเป็นที่ตั้งทางยุทธศาสตร์บน Istrouma Bluff ซึ่งเป็นต้นน้ำหน้าผาธรรมชาติแห่งแรกจากสามเหลี่ยมปากแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ที่อ่าวเม็กซิโก สิ่งนี้ทำให้เกิดการพัฒนาย่านธุรกิจที่ปลอดภัยจากน้ำท่วมตามฤดูกาล นอกจากนี้ ยังสร้างระบบเขื่อนกั้นน้ำที่ทอดยาวจากหน้าผาไปทางทิศใต้เพื่อปกป้องพื้นที่ริมแม่น้ำและพื้นที่เกษตรกรรมที่ราบต่ำ นำท่านเดินทางชมอาคารรัฐสภาลุยเซียนา (Louisiana State Capitol) เป็นตึกระฟ้าที่โดดเด่นสะดุดตา ตั้งตระหง่านอยู่บนพื้นที่ชายขอบฝั่งทิศเหนือของตัวเมืองแบตันรูช อาคารนี้มีความสูง 137 เมตร เป็นแลนด์มาร์กที่สูงที่สุดของเมือง และเป็นอาคารรัฐสภาที่สูงที่สุดในสหรัฐฯตึกสูงหลังนี้เริ่มเปิดทำการในปี ค.ศ. 1932 โดยสร้างขึ้นจากแนวคิดของอดีตของผู้ว่าการรัฐ Huey P. Long และใช้แทนอาคารรัฐสภา Old State Capitol หลังเดิม Old State Capitol ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของตัวเมืองแบตันรูช อาคารรัฐสภาอันงดงามหลังนี้มีความเป็นมาย้อนกลับไปถึงช่วงกลางทศวรรษ 1800 โดยตั้งตระหง่านอย่างสง่างามเหนือเนินเขาและมองเห็นวิวแม่น้ำมิสซิสซิปปี อาคารหลังนี้เคยใช้เป็นที่ประชุมสภานิติบัญญัติของรัฐลุยเซียนา แถมยังใช้เป็นเรือนจำและป้อมปราการอีกด้วย ปัจจุบันที่นี่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสร์แห่งชาติ โดยภายในมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ทางการเมืองอันน่าสนใจของรัฐลุยเซียนา
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hilton Baton Rouge Capitol Center **** หรือเทียบเท่า 

  • วันที่
    6
    ลุยเซียนา - พอร์ตอาเธอร์ - เมืองฮิวสตัน – ศูนย์อวกาศฮิวสตัน - วอเตอร์วอลล์พาร์ค

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
    นำท่านเดินทางสู่เมืองพอร์ตอาร์เธอร์ (Port Athur) (ระยะทาง 295 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 3.15 ช.ม.) เป็นเมืองในรัฐเท็กซัสของสหรัฐอเมริกา พอร์ตอาร์เธอร์เป็นส่วนหนึ่งของเขตมหานครโบมอนต์–พอร์ตอาร์เธอร์ โดยส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเทศมณฑลเจฟเฟอร์สัน โดยมีส่วนขยายขนาดเล็กที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ในออเรนจ์เคาน์ตี้ และมีโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา Motiva Refinery ตั้งอยู่ที่นั่นด้วย นำท่านเที่ยวชมเมืองริมทะเลอย่างพอร์ตอาร์เธอร์ พร้อมผ่อนคลายอิริยาบถ จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ Rainbow bridge 
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองฮิวสตัน (Houston) (ระยะทาง 90 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม.) ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐเท็กซัส ใกล้กับอ่าวกัลเวสตันและอ่าวเม็กซิโก เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของรัฐเท็กซัส และมากเป็นอันดับที่ 4 ของสหรัฐ และเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 6 ของทวีปอเมริกาเหนือ นำท่านเข้าชมศูนย์อวกาศฮิวสตัน (Space Center Houston) เป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์นักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการของศูนย์อวกาศนาซาจอห์นสันในฮูสตัน ได้รับการกำหนดให้เป็นพิพิธภัณฑ์ในเครือสมิธโซเนียนในปี 2014 องค์กรนี้เป็นเจ้าของโดย NASA และดำเนินการภายใต้สัญญาโดยมูลนิธิ Manned Spaceflight Education Foundation ที่ไม่แสวงหากำไร ซึ่งเป็นองค์กร 501 ศูนย์อวกาศจอห์นสันเป็นที่ตั้งของศูนย์ควบคุมภารกิจและการฝึกนักบินอวกาศ ศูนย์นี้เปิดในปี 1992 แทนที่ศูนย์นักท่องเที่ยวเดิมในอาคารศูนย์อวกาศจอห์นสัน อาคาร 2 พิพิธภัณฑ์นี้มีพื้นที่ 250,000 ตารางฟุต และจัดแสดงสิ่งประดิษฐ์ในอวกาศมากกว่า 400 ชิ้น รวมถึงแคปซูลอวกาศ Mercury 9, Gemini 5 และ Apollo 17 ในส่วนที่เข้าชมได้นั้นจะได้ชมชิ้นส่วนหลายอย่างจากจรวดและยานอวกาศต่างๆ นอกจากนี้ยังมีรถรางพาชมศูนย์ควบคุมภารกิจ มีโรงภาพยนตร์ฉายหนังเกี่ยวกับอวกาศและมีการแสดงการใช้ชีวิตในอวกาศให้ชมอีกด้วย นำท่านเข้าชมส่วนพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงส่วนต่างๆของจรวดและกระสวยอวกาศ ตลอดจนชุดนักบินอวกาศ และ หินดวงจันทร์ ที่ท่านสามารถสัมผัสได้ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพและชมความมหัศจรรย์และความก้าวหน้าทางด้านอวกาศขององค์การนาซ่าในแต่ละยุคสมัย นำท่านเดินทางชมวอเตอร์วอลล์พาร์ค (Waterwall Park) เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญและเป็นสัญลักษณ์อันเป็นที่รักและเป็นศูนย์กลางของชุมชนสำหรับผู้มาเยือนทุกวัยในฮูสตัน เมื่อท่านยืนอยู่ในหมอกของวอเตอร์วอลล์และถูกห่อหุ้มด้วยเสียงคำรามอันอ่อนโยนของสายน้ำที่ลดหลั่น เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง ท่านสามารถเดินไปตามร่มไม้อันเขียวชอุ่มของต้นโอ๊กสูงตระหง่านในขณะที่อยู่ในใจกลางย่านธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง      
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก DoubleTree by Hilton Hotel Houston - Greenway Plaza **** หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    7
    แซนแอนโทนีโอ – ถ้ำเนเชอรัลบริดจ์ – มิชชั่นซานโฮเซ่ – คณะเผยแพร่ศาสนาแอละโมในแซนแอนโทนีโอ - ทางเดินริมแม่น้ำซานอันโตนิโอ

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 
    นำท่านเดินทางสู่เมืองแซนแอนโทนีโอ (San Antonio) (ระยะทาง 315 กม. ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.)  เมืองในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของรัฐ และมีเปอเซ็นต์การเจริญเติบโตเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ เปรียบเสมือนประตูสู่ภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ชื่อเมืองมาจากชื่อของเซนต์แอนโทนีแห่งปาดัว ชาวโปรตุเกส นำท่านเดินทางสู่ถ้ำเนเชอรัลบริดจ์ (Natural Bridge Caverns) ถ้ำตั้งอยู่ใกล้เมืองซานอันโตนิโอ รัฐเท็กซัส ในเท็กซัสฮิลล์คันทรี ถ้ำที่มีลักษณะเฉพาะหลายแห่งและการก่อตัวทางธรณีวิทยาอื่นๆ อุณหภูมิภายในถ้ำอยู่ที่ 21 °C ตลอดทั้งปี
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    บ่าย นำท่านเดินทางชมมิชชั่นซานโฮเซ่ (Mission San Jose) (ระยะทาง 53 กม. ใช้เวลาประมาณ 42 นาที) เป็นคณะเผยแผ่คาทอลิกเก่าแก่ในเมืองซานอันโตนิโอ รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งใน 5 ภารกิจคาทอลิกชายแดนสเปนในเมืองเท็กซัส เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติ San Antonio Missions ซึ่งเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ที่มีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 เป็นตัวอย่างที่สวยงามของสถาปัตยกรรมยุคอาณานิคมสเปน ภารกิจนี้ยังคงเป็นเขตคาทอลิกที่ยังคงใช้งานอยู่ ด้วยอาคารและพื้นที่ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ลักษณะที่โดดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งของสถาปัตยกรรมของคณะเผยแผ่ ได้แก่ งานแกะสลักของโบสถ์และหน้าต่างกุหลาบอันโด่งดัง บันได 25 ขั้นแต่ละขั้นไปยังห้องนักร้องประสานเสียงและหอระฆังแกะสลักด้วยมือจากท่อนไม้โอ๊คท่อนเดียว โดยไม่ต้องใช้ตะปูหรือหมุด จากนั้นนำท่านเดินทางชมคณะเผยแพร่ศาสนาแอละโมในแซนแอนโทนีโอ (Alamo Mission in San Antonio) The Alamo เป็นส่วนหนึ่งของแหล่งมรดกโลกคณะเผยแพร่ศาสนาแซนแอนโทนีโอในแซนแอนโทนีโอ รัฐเท็กซัสของสหรัฐ ก่อตั้งในคริสต์ศตวรรษที่ 18 เป็นคณะเผยแพร่ศาสนาโรมันคาทอลิกและป้อมปราการ (fortress compound) เป็นสมรภูมิของยุทธการที่ดิแอละโมใน ค.ศ. 1836 วันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ. 2015 ดิแอละโมร่วมกับคณะเผยแพร่ศาสนาอีกสี่คณะในอุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติคณะเผยแพร่ศาสนาแซนแอนโทนีโอ ได้รับกำหนดเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก ปัจจุบันแอละโมเป็นพิพิธภัณฑ์ในเขตประวัติศาสตร์จัตุรัสแอละโม นำท่านเดินทางสู่ทางเดินริมแม่น้ำซานอันโตนิโอ (San Antonio River Walk) เป็นสวนสาธารณะในเมืองและถนนคนเดินกรณีพิเศษในซานอันโตนิโอ รัฐเท็กซัส ซึ่งอยู่ต่ำกว่าถนนรถยนต์หนึ่งระดับ River Walk คดเคี้ยวและวนอยู่ใต้สะพานเป็นทางเท้าคู่ขนานสองทางที่เรียงรายไปด้วยร้านอาหารและร้านค้า ซึ่งเชื่อมต่อสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น ร้านค้าที่ Rivercenter, โรงละคร Arneson River, เกาะ Marriage, La Villita, สวนสาธารณะ HemisFair, อาคาร Tower Life, พิพิธภัณฑ์ศิลปะซานอันโตนิโอ ไข่มุก และภารกิจอาณานิคมสเปนทั้งห้าของเมืองซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นมรดกโลกซึ่งรวมถึงอลาโมด้วย ในช่วงเทศกาล Fiesta San Antonio ประจำปีในฤดูใบไม้ผลิ ขบวนพาเหรดแม่น้ำจะมีขบวนแห่ดอกไม้ที่ลอยไปตามแม่น้ำ พื้นที่ภายในเส้นรอบวงของ River Walk เป็นหัวใจของด่านหน้า Villa de Bejar ดั้งเดิมในช่วงทศวรรษ 1700 ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นเมืองซานอันโตนิโอในที่สุด อิสระให้ท่านเดินเล่น และเก็บภาพความประทับใจริมสองฝั่งแม่น้ำ
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น 
    นำท่านเข้าพักสู่โรงแรมที่พัก Hilton Palacio del Rio **** หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    8
    เมืองออสติน – ศาลาว่าการรัฐเท็กซัส – พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์บูลล็อคเท็กซัส – เมืองแดลลัส - หมู่บ้านมรดกดัลลัสที่โอลด์ซิตี้ปาร์ค

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 
    นำท่านเดินทางสู่เมืองออสติน (Austin) (ระยะทาง 128 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.25 ชม.) เป็นเมืองหลวงของรัฐเท็กซัสของสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2382 เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดอันดับที่ 10 ของสหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับสี่ในรัฐรองจากดัลลาส ซานอันโตนิโอ และฮูสตัน นำท่านเดินทางชมศาลาว่าการรัฐเท็กซัส (Texas State Capitol) เป็นศาลากลางและที่นั่งของรัฐบาลของรัฐเท็กซัสของสหรัฐอเมริกา โครงสร้างนี้ตั้งอยู่ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส เป็นที่ตั้งของสำนักงานและห้องประชุมของสภานิติบัญญัติแห่งรัฐเท็กซัสและผู้ว่าการรัฐเท็กซัส ออกแบบในปี 1881 โดยสถาปนิก Elijah E. Myers สร้างขึ้นระหว่างปี 1882 ถึง 1888 ภายใต้การดูแลของวิศวกรโยธา Reuben Lindsay Walker ส่วนต่อขยายใต้ดินมูลค่า 75 ล้านดอลลาร์แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2536 อาคารหลังนี้ได้รับการเพิ่มเข้าในทะเบียนสถานที่ประวัติศาสตร์แห่งชาติในปี พ.ศ. 2513 และได้รับการยอมรับให้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งชาติในปี พ.ศ. 2529 นำท่านเดินทางชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์บูลล็อคเท็กซัส (Bullock Texas State History Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ในออสติน รัฐเท็กซัส พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งชื่อตามรองผู้ว่าการรัฐเท็กซัสคนที่ 38 Bob Bullock ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนการอนุรักษ์และนิทรรศการประวัติศาสตร์เท็กซัส และตั้งอยู่ห่างจากศาลาว่าการรัฐเท็กซัสไปทางเหนือเพียงไม่กี่ช่วงตึก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตีความ เรื่องราวของเท็กซัส ที่เปิดเผยอย่างต่อเนื่องแก่ผู้ชมในวงกว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ผ่านประสบการณ์การศึกษาที่มีความหมาย 
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น 
    บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองแดลลัส (Dallas) (ระยะทาง 313 กม. ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.) เป็นเมืองในรัฐเท็กซัสของสหรัฐอเมริกา และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในเขตเมโทรเพล็กซ์ของดัลลาส-ฟอร์ตเวิร์ธ ดัลลัสได้รับการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมและการเงินที่แข็งแกร่ง และเป็นท่าเรือภายในประเทศที่สำคัญ เนื่องจากการบรรจบกันของทางรถไฟสายหลัก ทางหลวงระหว่างรัฐ และการก่อสร้างสนามบินนานาชาติดัลลัส/ฟอร์ตเวิร์ธ ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามบินที่ใหญ่ที่สุดและพลุกพล่านที่สุดในโลก นอกจากนี้การขนส่งด่วนบริเวณดัลลัสยังให้บริการรถไฟและรถบัสทั่วเมืองและชานเมืองโดยรอบ นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านมรดกดัลลัสที่โอลด์ซิตี้ปาร์ค (Dallas Heritage Village at Old City Park) สวนสาธารณะแห่งนี้เป็นที่ตั้งของอาคารและเครื่องเรือนที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ตั้งแต่ทศวรรษ 1840 มีบริการทัวร์ เวิร์คช็อป และกิจกรรมอื่น ๆ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะแห่งแรกในประวัติศาสตร์ของดัลลัส
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hilton Anatole Hotel **** หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    9
    เมืองโอคลาโฮมาซิตี้ – พิพิธภัณฑ์มรดกคาวบอยและตะวันตกแห่งชาติ

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 
    นำท่านเดินทางสู่เมืองโอคลาโฮมาซิตี้ (Oklahoma City) (ระยะทาง 326 กม. ใช้เวลาประมาณ 3.45 ชม.) เป็นรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 28 ของอเมริกา มีเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐคือ เมืองโอคลาโฮมาซิตี รัฐนี้เป็นรัฐผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติ น้ำมันปิโตรเลียมและอาหารรายใหญ่ มีอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในเรื่องการบิน พลังงาน โทรคมนาคมและเทคโนโลยีชีวภาพ มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงและมีการเจริญเติบโตของรายได้สูงที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ค่ะ  ภูมิประเทศของรัฐโอคลาโฮมาจะมีแนวภูเขาขนาดเล็ก ทุ่งหญ้าแพร์รี่ และป่าไม้ทางตะวันออก รัฐนี้ มีชื่อเล่นว่า "The Sooner State" หรือ "รัฐแห่งความเร็ว" นอกจากนี้ รัฐโอคลาโฮมา ยังเป็นบ้านเกิดของ แบรด พิตต์ อีกด้วย 
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    บ่าย นำท่านเดินทางเข้าชมพิพิธภัณฑ์มรดกคาวบอยและตะวันตกแห่งชาติ (National Cowboy & Western Heritage Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ในเมืองโอคลาโฮมาซิตี รัฐโอคลาโฮมา สหรัฐอเมริกา โดยมีงานศิลปะและสิ่งประดิษฐ์ของชาวอินเดียตะวันตกและอเมริกันอินเดียนมากกว่า 28,000 ชิ้น สถานที่นี้ยังมีคอลเลกชันภาพถ่ายโรดิโอของอเมริกา ลวดหนาม เครื่องอานม้า และถ้วยรางวัลโรดีโอในยุคแรกๆ มากมายที่สุดในโลก คอลเล็กชันของพิพิธภัณฑ์มุ่งเน้นไปที่การอนุรักษ์และตีความมรดกของอเมริกาตะวันตก พิพิธภัณฑ์แห่งนี้กลายเป็นแกลเลอรีศิลปะในช่วงนิทรรศการและการขายศิลปะ Prix de West Invitational ประจำปีในแต่ละเดือนมิถุนายน ศิลปิน Prix de West ขายผลงานศิลปะต้นฉบับเพื่อระดมทุนให้กับพิพิธภัณฑ์
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก The Skirvin Hilton Oklahoma City **** หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    10
    เมืองคลินตัน - พิพิธภัณฑ์รูท 66 - หอเกียรติยศและพิพิธภัณฑ์ American Quarter Horse - คาดิลแลคแรนช์

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 
    นำท่านเดินทางสู่เมืองคลินตัน (Clinton) (ระยะทาง 137 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.20 ชม.) เป็นเมืองในเทศมณฑลคัสเตอร์และวาชิตาในรัฐโอคลาโฮมาของสหรัฐอเมริกา คลินตันได้รับประโยชน์เป็นพิเศษจากการมีทางหลวงหมายเลข 66 ของสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับเมืองอื่นๆ ส่วนใหญ่บนทางหลวงหมายเลข 66 คลินตันเป็นที่ตั้งของธุรกิจท่องเที่ยว รวมถึงร้านอาหาร ร้านกาแฟ โมเทล และปั๊มน้ำมันหลายแห่ง นำท่านเดินทางเข้าชมพิพิธภัณฑ์โอคลาโฮมารูท66 (Oklahoma Route 66 Musuem) ตั้งอยู่ในเมืองคลินตัน รัฐโอคลาโฮมา ครอบคลุมประวัติศาสตร์ของ Route 66 ตั้งแต่ชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ไปจนถึงซานตา โมนิกา แคลิฟอร์เนีย เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดที่อุทิศให้กับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของถนนสาย 66 ซึ่งเป็นทางหลวงที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก พิพิธภัณฑ์ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการพิเศษที่เปลี่ยนแปลง โดยเน้นไปที่ประสบการณ์ Route 66 ในแกลเลอรี Now and Future
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองอามาริลโล (Amarillo) (ระยะทาง 280 กม. ใช้เวลาประมาณ  2.30 ชม.) อามาริลโลเป็นเมืองในรัฐเท็กซัสของสหรัฐอเมริกาและเป็นที่ตั้งของพอตเตอร์เคาน์ตี้ เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 14 ในเท็กซัส และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเท็กซัส แพนแฮนเดิล ส่วนหนึ่งของเมืองขยายไปสู่ Randall County จำนวนประชากรโดยประมาณของ Amarillo คือ 200,393 เมืองอามาริลโล เดิมชื่อโอไนดา ตั้งอยู่ในภูมิภาคยาโนเอสตากาโด ความพร้อมใช้งานของทางรถไฟและบริการขนส่งสินค้าโดยทางรถไฟฟอร์ตเวิร์ธและเดนเวอร์ซิตี้ มีส่วนทำให้เมืองเติบโตขึ้นในฐานะศูนย์กลางการตลาดปศุสัตว์ในปลายศตวรรษที่ 19 อามาริลโลเคยประกาศตัวเองว่าเป็น "เมืองหลวงฮีเลียมของโลก" เนื่องจากมีแหล่งฮีเลียมที่มีประสิทธิผลมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ เมืองนี้ยังเป็นที่รู้จักในชื่อ "กุหลาบสีเหลืองแห่งเท็กซัส" นำท่านเดินทางเข้าชมหอเกียรติยศและพิพิธภัณฑ์ American Quarter Horse (American Quarter Horse Hall of Fame & Museum) จัดแสดงประวัติศาสตร์อันมีสีสันและกิจกรรมสมัยใหม่ของม้าสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกและผู้คนที่มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ มีการจัดแสดงนิทรรศการที่เปลี่ยนแปลงไม่ซ้ำใครตลอดทั้งปี มีร้านขายของที่ระลึกภายในหอเกียรติยศและพิพิธภัณฑ์ ซึ่งจำหน่ายสินค้าทุกประเภทสำหรับคนรักม้า และยังมีแกลเลอรีที่แสดงศิลปะตะวันตกอีกด้วย นำท่านเดินทางชมคาดิลแลคแรนช์ (Cadillac Ranch) เป็นงานศิลปะสาธารณะและประติมากรรมในเมือง Amarillo รัฐ Texas ประเทศสหรัฐอเมริกา สร้างขึ้นในปี 1974 โดย Chip Lord, Hudson Marquez และ Doug Michels ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มศิลปะ Ant Farm สถานที่ปฏิบัติงานนอกชายฝั่งประกอบด้วยรถคาดิลแลคจำนวน 10 คัน (พ.ศ. 2492-2506) โดยฝังจมูกไว้กับพื้นเป็นอันดับแรก รถยนต์ที่ติดตั้งในปี 1974 มีทั้งรถวิ่ง ใช้งานแล้ว หรือรถขยะ ซึ่งรวมกันแล้วสืบทอดมาจากรุ่นต่อๆ ไปของรถยนต์ และถือเป็นวิวัฒนาการที่นิยามของครีบท้ายรถ รถต่างๆ เอียงอยู่ในมุมเดียวกับปิรามิดแห่งกิซ่า 
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น 
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hilton Garden Inn Amarillo **** หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    11
    เมืองคาร์ลสแบด – อุทยานแห่งชาติคาร์ลสแบดแคเวินส์

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 
    นำท่านเดินทางสู่เมืองคาร์ลสแบด (Carlbad) (ระยะทาง 456 กม. ใช้เวลาประมาณ 4.25 ชม.) เป็นเมืองในและเป็นที่ตั้งของเทศมณฑลเอ็ดดีเคาน์ตี นิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา คาร์ลสแบดตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของนิวเม็กซิโก คร่อมแม่น้ำเพคอสและตั้งอยู่ทางขอบด้านตะวันออกของเทือกเขากัวดาลูเป 
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    บ่าย นำท่านเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติคาร์ลสแบดแคเวินส์ (Carlsbad Caverns National Park) ตั้งอยู่ในรัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา บริเวณถ้ำคาร์ลสแบด ซึ่งเป็นถ้ำที่อยู่ภายในเทือกเขากัวดาลูพี ถ้ำนี้เป็นที่อยู่ของค้างคาวฝูงใหญ่ที่สุดในโลก ภายในถ้ำมีทางยาวที่ซ้ำซ้อนเชื่อมต่อกันยาวกว่า 37 กิโลเมตร คูหาที่อยู่ลึกที่สุดลึกลงไปกว่า 309 เมตร มีห้องโถงใหญ่ที่สุดชื่อว่า "เดอะบิกรูม" เป็นคูหาถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ มีเนื้อที่ประมาณ 0.056 ตารางกิโลเมตร หรือ 35 ไร่ ภายในถ้ำมีทะเลสาบใต้ดิน มีน้ำจืดสะอาดมากซึ่งไม่มีสิ่งมีชีวิตใด ๆ อยู่เลย ภายในถ้ำมีหินปูนที่สวยงามมากมาย ทั้งหินงอก หินย้อย ถ้ำแห่งนี้ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติใน ค.ศ. 1930 เนื้อที่รวมทั้งหมดกว่า 189 ตารางกิโลเมตร ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่เมืองคาร์ลสแบด (Carlsbad) เป็นเมืองในและเป็นที่ตั้งของเทศมณฑลเอ็ดดีเคาน์ตี นิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Home 2 Suites By Hilton Carlsbad **** หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    12
    อุทยานแห่งชาติเทือกเขา กัวดาลูเป – เมืองแอละโมกอร์โด - อุทยานแห่งชาติไวท์แซนด์ส

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 
    นำท่านเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติเทือกเขา กัวดาลูเป (Guadalupe Mountains National Park) (ระยะทาง 79 กม. ใช้เวลาประมาณ 45 นาที) เป็นอุทยานแห่งชาตพี่พิเศษมาก ในทางธรณีวิทยา เนื่องจากที่นี่มีชั้นหินอายุกว่า 250 ล้านปี และเป็นหลังฐานที่แสดงให้เห็นว่า เท็กซัสเคยตั้งอยู่ใต้ทะเลมาก่อน ปัจจุบันที่นี่มีภูเขาสูงใหญ่ตระหง่านอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ Guadalupe Peak ภูเขาที่สูงที่สุดในเท็กซัส นักท่องเที่ยวสวาบลุยมักจะมาปีนเขา เดินเทรคกิ้ง หรือขี่ม้าที่อุทยานแห่งนี้
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองแอละโมกอร์โด (Alamogordo) (ระยะทาง 296 กม. ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.) เป็นเคาน์ตีซีตและศูนย์กลางเศรษฐกิจของโอเทโรเคาน์ตี ทางตอนใต้-กลางของรัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับฐานทัพอากาศฮอลโลแมนที่สุด เป็นสถานที่ที่ทดลองระเบิดปรมาณูเป็นครั้งแรก มีมนุษย์อาศัยอยู่บริเวณแอละโมกอร์โดมานานอย่างน้อย 11,000 ปี จากนั้นนำท่านเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติไวท์แซนด์ส (White Sands National Park) ตั้งอยู่ในรัฐนิวเม็กซิโก และล้อมรอบด้วยเทือกเขาไวท์แซนด์สมิสไซล์ อุทยานครอบคลุมพื้นที่ 145,762 เอเคอร์ ในแอ่งทูลาโรซา รวมถึงพื้นที่ทางตอนใต้ 41% ของเนินทรายสีขาวขนาด 275 ตารางไมล์ (710 กม.) ที่ประกอบด้วยผลึกยิปซั่ม เนินทรายยิปซั่มแห่งนี้เป็นเนินทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีความลึกประมาณ 30 ฟุต เนินทรายสูงถึง 60 ฟุต  และมีน้ำหนักประมาณ 4.5 พันล้านตันสั้นๆ  นอกจากนี้ บริเวณลุ่มน้ำทูลาโรซายังพบเห็นมนุษย์อาศัยอยู่จำนวนหนึ่ง ตั้งแต่ชาวอินเดียนแดงในยุค Paleo-Indians เมื่อ 12,000 ปีก่อน ไปจนถึงชาวนาสมัยใหม่ เจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ และคนงานเหมือง และได้รับการประกาศให้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 18 มกราคม ปี 1933
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Home 2 Suites by Hilton Alamogordo White Sands **** หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    13
    เมืองแอลบูเคอร์คี – อนุสาวรีย์แห่งชาติปิโตรกิฟ – ขึ้นกระเช้าซานเดียพีค

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 
    นำท่านเดินทางสู่เมืองแอลบูเคอร์คี (Albuquerque) (ระยะทาง 332 กม. ใช้เวลาประมาณ 3.10 ชม.)  เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐนิวเม็กซิโก ตั้งอยู่กึ่งกลางของรัฐ ใกล้กับแม่น้ำริโอแกรนด์ แอลบูเคอร์คีเป็นที่ตั้งของ มหาวิทยาลัยนิวเม็กซิโก ฐานทัพอากาศเคิร์ตแลนด์ ศูนย์ทดลองแห่งชาติซานเดีย อนุสาวรีย์แห่งชาติเปโตรกลิปห์ ภูเขาแซนเดียทางทิศตะวันออก แม่น้ำริโอแกรนด์ และยังเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทาง หมายเลข 66 (Route 66) แอลบูเคอร์คี เป็นเมืองที่เก่าแก่ของสหรัฐอเมริกา โดยได้รับการก่อตั้งอย่างเป็นทางการในปี 1706 แอลบูเคอร์คีมีความโดดเด่นในการเป็นจุดรวมของวัฒนธรรมชนพื้นเมืองอเมริกัน (Native American) สเปน และละตินอเมริกา
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    นำท่านเดินทางสู่อนุสาวรีย์แห่งชาติปิโตรกิฟ (Petroglyph National Monument) อนุสาวรีย์แห่งชาติ Petroglyph ทอดยาว 27 กม. ไปตามอัลบูเคอร์คี เวสต์เมซาของนิวเม็กซิโก ซึ่งเป็นเนินหินบะซอลต์ภูเขาไฟที่ปกคลุมขอบฟ้าด้านตะวันตกของเมือง อนุสาวรีย์แห่งชาติ Petroglyph ปกป้องทรัพยากรทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่หลากหลาย รวมถึงกรวยภูเขาไฟห้าลูก แหล่งโบราณคดีหลายร้อยแห่ง และภาพสกัดหินประมาณ 24,000 ภาพซึ่งแกะสลักโดยชนเผ่า Pueblo บรรพบุรุษและผู้ตั้งถิ่นฐานชาวสเปนยุคแรก ภาพหลายภาพเป็นที่รู้จักว่าเป็นสัตว์ คน ยี่ห้อ และไม้กางเขน ภาพเหล่านี้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของผู้คนที่ย้ายไปยังพื้นที่อื่นมานานและเคลื่อนตัวผ่านประวัติศาสตร์ด้วยเหตุผลหลายประการ นำท่านเดินทางขึ้นกระเช้าซานเดียพีค (Sandia Peak Tramway)  (ใช้เวลาขึ้นประมาณ 15 นาที) เป็นทางเชื่อมทางอากาศซึ่งตั้งอยู่ติดกับเมืองอัลบูเคอร์คี รัฐนิวเม็กซิโก ทอดยาวจากขอบตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองไปจนถึงยอดเขาแซนเดียบนแนวสันเขาของเทือกเขาแซนเดีย ในระดับความสูง 10,378 ฟุต เหนือระดับน้ำทะเล เป็นรถรางทางอากาศที่ยาวที่สุดในอเมริกา และยาวที่สุดในโลกตั้งแต่ปี 1966 มีบริการเล่นสกีในฤดูหนาว และในช่วงฤดูร้อนมีเส้นทางปั่นจักรยานเสือภูเขามากกว่า 42 กม. ท่านสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจากรถรางครอบคลุมพื้นที่อัลบูเคอร์คีทั้งหมด อิสระให้ท่านได้ถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ตามอัธยาศัย
    16.00 น. นำท่านเดินทางลงกระเช้าซานเดียพีค สู่พิ้นดินด้านล่าง 
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hilton Garden Inn Albuquerque Uptown **** หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    14
    เมืองซานตาเฟ – ถนนแคนยอน – เมืองเทาส์ – เมืองอลาโมซา - อุทยานแห่งชาติเนินทะเลทราย

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 
    นำท่านเดินทางสู่เมืองซานตาเฟ (Santa Fe) (ระยะทาง 105 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.05 ชม.)  เป็นเมืองหลวงของรัฐนิวเม็กซิโกของสหรัฐอเมริกา ด้วยจำนวนประชากร 87,505 คนในการสำรวจสำมะโนประชากรปี 2020 ทำให้ที่นี่เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับสี่ในรัฐ การตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มีอายุนับพันปีในภูมิภาคนี้ เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1610 ในฐานะเมืองหลวงของ Nuevo México แทนที่เมืองหลวงก่อนหน้านี้ที่ San Juan de los Caballeros และ San Gabriel de Yunque ทำให้ที่นี่เป็นเมืองหลวงของรัฐที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา นำท่านเดินเล่นถนนแคนยอน (Canyon Road) เป็นย่านศิลปะในซานตาเฟ่ รัฐนิวเม็กซิโก ซึ่งมีห้องแสดงงานศิลปะและสตูดิโอมากกว่าร้อยห้องที่จัดแสดงงานศิลปะหลากหลายประเภท รวมถึงศิลปะและโบราณวัตถุของชนพื้นเมืองอเมริกัน ศิลปะลาตินในอดีตและร่วมสมัย ศิลปะประจำภูมิภาค ศิลปะพื้นบ้านนานาชาติ และศิลปะร่วมสมัย ถนนสายนี้เป็นทางเดินเท้าระหว่างหุบเขาแม่น้ำซานตาเฟและ Pecos Pueblo ถนนแคนยอนเคยเป็นย่านที่อยู่อาศัยมาก่อน บ้านที่สร้างขึ้นในสไตล์ Pueblo Revival ตามวิธีการของ Spanish Colonial และ Pueblo ในท้องถิ่นนั้น ถูกสร้างขึ้นด้วยกำแพงอิฐดิบและสนามหญ้า นำท่านเดินทางสู่เมืองเทาส์ (Taos) (ระยะทาง 115 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.40 ชม.) เป็นเมืองในเทศมณฑลเทาส์ทางตอนเหนือ-กลางของนิวเม็กซิโก ในเทือกเขาซานเกร เดอ คริสโต ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 1615 และถูกยึดครองเป็นระยะๆ จนกระทั่งมีการก่อตั้งอย่างเป็นทางการในปี 1795 โดยผู้ว่าการ Nuevo México Fernando Chacón เพื่อทำหน้าที่เป็นจัตุรัสที่มีป้อมปราการและเป็นด่านการค้าขายสำหรับชนพื้นเมืองอเมริกัน เทาส์เป็นเมืองหลักของเทาส์ นิวเม็กซิโก พื้นที่สถิติ Micropolitan ซึ่งรวมถึงเทาส์เคาน์ตี้ทั้งหมด ยังเป็นที่ตั้งของสกีรีสอร์ทระดับโลก (ทาออสสกีแวลลีย์) แหล่งมรดกโลก (เทาส์ ปูเอโบล) หนึ่งในโบสถ์ที่มีการถ่ายภาพและโดดเด่นที่สุด (เซนต์ฟรานซิสโกเด) และภูมิทัศน์อันงดงามที่ล้อมเทือกเขาร็อกกีและช่องเขาริโอแกรนด์
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองอลาโมซา (Alamosa) (ระยะทาง 145 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.40 ชม.) ก่อตั้งขึ้นในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2421 โดยทางรถไฟเดนเวอร์และริโอแกรนด์ และกลายเป็นศูนย์กลางทางรถไฟที่สำคัญอย่างรวดเร็ว เมืองนี้เป็นศูนย์กลางการค้าของหุบเขาซานหลุยส์ทางตอนใต้ตอนกลางของโคโลราโด และเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยอดัมส์สเตต นำท่านเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติเนินทะเลทราย (Great Sand Dunes National Park) เป็นอุทยานแห่งชาติของอเมริกาที่อนุรักษ์พื้นที่เนินทรายขนาดใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ มีความสูงถึง 230 ม. และพื้นที่เนินทรายทั้งหมดครอบคลุมพื้นที่ 30 ตารางไมล์ บนขอบด้านตะวันออกของหุบเขา San Luis และพื้นที่อนุรักษ์แห่งชาติที่อยู่ติดกันใน Sangre เทือกเขาเดอคริสโต ในโคโลราโดตอนกลางตอนใต้ สหรัฐอเมริกา เดิมอุทยานแห่งนี้ถูกกำหนดให้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติ Great Sand Dunes เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2475 โดยประธานาธิบดีเฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์ โดยมีฉากหลังเป็นเทือกเขาร็อกกี้ที่มีหิมะปกคลุมในช่วงฤดูหนาวอย่างสวยงาม อิสระให้ท่านได้ถ่ายภาพกับเนินทรายที่งดงามตามอัธยาศัย
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hampton Inn Alamosa **** หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    15
    เมืองครีด – เมืองเลคซิตี้ – ทะเลสาบซานคริสโตบัล – เมืองมอนต์โรส – อุทยานแห่งชาติแบล็คแคนยอน

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
    นำท่านเดินทางสู่เมืองครีด (Creede) (ระยะทาง 106 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.15 ชม.) เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองแห่งสุดท้ายในโคโลราโด ค้นพบแร่เงินในศตวรรษที่ 19 และปัจจุบันเหมืองถูกปล่อยล้างทิ้งไว้ ท่านสามารถชมเส้นทางเหมืองเก่าที่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีอย่างสวยงาม เมืองนี้กระโจนจากจำนวนประชากร 600 คนในปี พ.ศ. 2432 เป็นมากกว่า 10,000 คนในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2434 เหมือง Creede ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2433 ถึง พ.ศ. 2528 และให้บริการโดยทางรถไฟเดนเวอร์และริโอแกรนด์ นำท่านเดินทางสู่เมืองเลคซิตี้ (Lake City) (ระยะทาง 81 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.10 ชม.) ตั้งอยู่ในเทือกเขาซานฮวนในหุบเขาที่เกิดจากการบรรจบกันของลำธารเฮนสันและต้นน้ำของทะเลสาบฟอร์กของแม่น้ำกันนิสันประมาณเจ็ดไมล์ (11 กม.) ทางตะวันออกของยอดเขา Uncompahgre ซึ่งเป็นเทือกเขาโคโลราโดสี่แห่ง เลคซิตี้ตั้งชื่อตามทะเลสาบซานคริสโตบัลที่อยู่ใกล้เคียง บริเวณนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของแถบแร่โคโลราโด และเมื่อมีการค้นพบแหล่งแร่ที่อุดมสมบูรณ์ ประชากรพื้นเมืองก็ถูกผลักออกจากดินแดนของชนเผ่า และเมืองเลคซิตี้ก็ถูกจัดตั้งขึ้นในปี 1873 เป็นเมืองตามกฎหมายซึ่งเป็นที่ตั้งของเขต ชุมชนที่มีประชากรมากที่สุด และเป็นเทศบาลที่จัดตั้งขึ้นเพียงแห่งเดียวในฮินส์เดลเคาน์ตี้ โคโลราโด สหรัฐอเมริกา จากนั้นนำท่านเดินทางชมทะเลสาบซานคริสโตบัล (Lake San Cristobal) เป็นทะเลสาบทะเลสาบน้ำจืดในรัฐโคโลราโด ของสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ในเทือกเขาซานฮวนที่ระดับความสูง 9,003 ฟุต ยาว 3.4 กม. ลึกถึง 89 ฟุต และกักเก็บน้ำได้ประมาณ 11,000 เอเคอร์-ฟุต
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
    บ่าย นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองมอนต์โรส (Montrose) (ระยะทาง 140 กม. ใช้เวลาประมาณ 2.10 ชม.) ตั้งอยู่ทางตะวันตกของโคโลราโด ในหุบเขา Uncompahgre เป็นศูนย์กลางการขนส่งที่สำคัญของภูมิภาค และเป็นจุดอ้างอิงทางเศรษฐกิจ แรงงาน และการคมนาคมสำหรับอุตสาหกรรมนันทนาการโดยรอบ มอนโทรสเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองในโคโลราโดตะวันตก รองจากแกรนด์จังค์ชัน มีเส้นทางรถไฟสาขาทอดยาวไปตามเทือกเขาซานฮวนที่อุดมด้วยแร่ธาตุทางตอนใต้ นำท่านเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติแบล็คแคนยอน (Black Canyon) เป็นหุบเขาบนแม่น้ำโคโลราโด ที่ซึ่งสร้างเขื่อนฮูเวอร์ หุบเขานี้ตั้งอยู่บนแม่น้ำโคโลราโดบริเวณแนวรัฐระหว่างเนวาดาและแอริโซนา กำแพงด้านตะวันตกของช่องเขาอยู่ในเทือกเขาเอลโดราโด และกำแพงด้านตะวันออกอยู่ในเทือกเขาแบล็กของรัฐแอริโซนา หุบเขาแห่งนี้ก่อตัวขึ้นเมื่อประมาณ 15 ล้านปีก่อนในช่วงลุ่มน้ำไมโอซีนและช่วงยกตัวขึ้น แบล็คแคนยอนได้ชื่อมาจากหินภูเขาไฟสีดำที่พบได้ทั่วบริเวณนี้ เป็นหนึ่งในสมบัติอันงดงามที่น่าทึ่งที่สุดของประเทศ กำแพงหุบเขาอันมืดมิดที่แกะสลักผ่านหินแกรนิตแข็งมานานนับพันปีกระโจนลงสู่แม่น้ำกันนิสันเบื้องล่างอย่างน่าทึ่งด้วยความสูง 2,700 ฟุต
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hampton Inn Montrose **** หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    16
    เมืองแอสเพน – ยอดเขามารูนเบล -  เมืองเกลนวูดสปริงส์

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
    นำท่านเดินทางสู่เมืองแอสเพน (Aspen) (ระยะทาง 217 กม. ใช้เวลาประมาณ 2.45 ชม.) เมืองแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นค่ายเหมืองแร่ในช่วงยุคโคโลราโด ซิลเวอร์ บูม และต่อมาได้ตั้งชื่อว่าแอสเพนเนื่องจากมีต้นแอสเพนจำนวนมากในพื้นที่ เมืองนี้เจริญรุ่งเรืองในช่วงทศวรรษปี 1880 ซึ่งเป็นทศวรรษแรก เป็นเมืองสกีรีสอร์ตชื่อดังของสหรัฐอเมริกา นำท่านเดินทางสู่ยอดเขามารูนเบล (Maroon Bells) เป็นยอดเขาสองแห่งในเทือกเขาเอลค์ คือ Maroon Peak และ North Maroon Peak ซึ่งแยกจากกันประมาณครึ่งกิโลเมตร ภูเขาเหล่านี้ตั้งอยู่บนพรมแดนระหว่างเทศมณฑลพิตคินกับเทศมณฑลกันนิสัน รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา ห่างจากแอสเพนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 19 กิโลเมตร อิสระให้ท่านถ่ายภาพและชมทะเลสาบที่มียอดเขา Maroon Bells ที่สวยงามเป็นฉากหลัง ตามอัธยาศัย
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองเกลนวูดสปริงส์ (Glenwood Springs) (ระยะทาง 72 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.05 ชม.) เป็นเทศบาลที่ปกครองตนเองซึ่งเป็นที่ตั้งของการ์ฟิลด์เคาน์ตี้ โคโลราโด สหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ที่จุดบรรจบของแม่น้ำ Roaring Fork และแม่น้ำโคโลราโด ซึ่งเชื่อมระหว่าง Roaring Fork Valley และเมืองเล็กๆ หลายแห่งบนแม่น้ำโคโลราโด เกลนวูดสปริงส์มีชื่อเสียงในเรื่องน้ำพุร้อน เป็นเวลากว่า 130 ปีแล้วที่ Glenwood Hot Springs ได้มอบการพักผ่อนที่ผ่อนคลายและกระปรี้กระเปร่าจากความเครียดในชีวิตประจำวัน แหล่งรวมสระแช่น้ำแร่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก น้ำแร่ธรรมชาติของน้ำพุร้อน Glenwood จะช่วยบรรเทาความกังวลของท่านได้
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Courtyard by Marriott Glenwood Springs **** หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    17
    เกลนวูดสปริงส์ – เมืองจอร์จทาวน์ – นั่งรถไฟจอร์จทาวน์ลูป – เดนเวอร์

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
    นำท่านเดินทางสู่เมืองจอร์จทาวน์ (Georgetown) (ระยะทาง 180 กม. ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.) เมืองนี้ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 8,530 ฟุต เหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่บนภูเขาใกล้กับปลายด้านบนของหุบเขาเคลียร์ครีกในภูเขาทางตะวันตกของเดนเวอร์ตามแนวรัฐ 70 เป็นเขตเทศบาลในเขตเทศบาลเคลียร์ครีก รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่อยู่ในเทือกเขาร็อกกี้ และประกอบไปด้วยหมู่บ้านวิกตอเรียที่งดงาม เมืองนี้เป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมเหมืองแร่ในโคโลราโดในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดยได้รับฉายาว่า "ราชินีเงินแห่งโคโลราโด" นำท่านเดินทางนั่งรถไฟจอร์จทาวน์ลูป (Georgetown Loop Railroad) เป็นทางรถไฟมรดกของสหรัฐอเมริกา และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกๆ ของโคโลราโดทางรถไฟสายที่แคบที่มีความกว้าง 3 ฟุต ซึ่งตั้งอยู่ในเทือกเขาร็อกกีในเคลียร์ครีกเคาน์ตี ติดกับรัฐ 70 ในโคโลราโด สร้างโดยรถไฟจอร์จทาวน์ เบรกเคนริดจ์ และลีดวิลล์ สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2427 และถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมในยุคนั้น เมืองเหมืองแร่ที่เจริญรุ่งเรืองอย่างจอร์จทาวน์และซิลเวอร์พลูมอยู่ห่างจากกัน 3.2 กม. ในหุบเขาสูงชันแคบๆ ของเคลียร์ครีกในเทือกเขาร็อคกี้ทางตะวันตกของเดนเวอร์ หัวรถจักรไอน้ำอันเก่าแก่แล่นขึ้นไปจนถึงหุบเขา Silver Plume ผ่านซากของเหมืองทองคำและแร่เงินที่สำคัญในอดีต  
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
    บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองเดนเวอร์ (Denver) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของ รัฐโคโลราโด ชื่อเล่นของเดนเวอร์ คือ ไมล์ไฮซิตี้ เนื่องจากตัวเมืองสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1 ไมล์ เดนเวอร์ยังได้ชื่อทางประวัติศาสตร์ว่า Queen City of the Plains เนื่องจากความสำคัญของอุตสาหกรรมการเกษตรของเมือง ทำให้เรือรบสหรัฐอเมริกา หลายลำใช้ชื่อว่า USS Denver เพื่อเป็นการให้เกียรติเมืองนี้ นำท่านถ่ายรูปกับศาลาว่าการเมืองโคโลราโด (Colorado State Capital) จากนั้นนำท่านเที่ยวชมสวนพฤกษศาสตร์ เดนเวอร์ (Denver Botanical Garden) ซึ่งเป็นสวนพฤกษศาสตร์ใจกลางเมืองที่มีการนำพืชพันธุ์หลากหลายชนิดมาปลูกไว้ที่นี่ นับเป็นสถานที่ฟอกปอดที่สำคัญของชาวเมืองเดนเวอร์
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hilton Garden Inn Denver Downtown **** หรือเทียบเท่า 

  • วันที่
    18
    ซานฟรานซิสโก

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
    07.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินเดนเวอร์ (DEN)
    09.59 น. ออกเดินทางสู่สนามบินซานฟรานซิสโก (SFO) สายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์โดยเที่ยวบิน UA468 (ใช้เวลาบินประมาณ 2.44 ชม.) กระเป๋าจะทำการเชคทรูไปยังสายการบิน EVA (หากทาง UA อนุญาต)
    11.51 น. เดินทางถึงสนามบินซานฟรานซิสโก (SFO) 
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
    บ่าย นำท่านสู่ ซานฟรานซิสโกพรีเมี่ยมเอาท์เลต (San Francisco Premium Outlet) ซึ่งเป็นเอาท์เลตขนาดใหญ่ มีร้านค้าเอาท์เลตกว่า 110 ร้าน ทั้ง Coach, Polo, Ralph Lauren, DKNY, Guess, Calvin Klien, Burberry, Banana Republic Factory, Adidas, Kate Spread, Kipling, Tumi, Samsonite และ อื่นๆอีกมากมาย อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
    20.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
    หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่สนามบินเมืองซานฟรานซิสโก เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯ

  • วันที่
    19
    ซานฟรานซิสโก - ไทเป

    01.10 น. ออกเดินทางสู่ประเทศไทย โดยเที่ยวบิน BR027 (ใช้เวลาบินประมาณ 13.25 ชั่วโมง) สายการบินมีบริการอาหารค่ำ และ อาหารเช้าบนเครื่องบิน
    ******* บินข้ามเส้นแบ่งเขตเวลาสากล ********

  • วันที่
    20
    กรุงเทพมหานคร

    05.40 น. เดินทางถึงสนามบินไทเป ประเทศไต้หวัน 
    08.25 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบิน BR67 (ใช้เวลาบินประมาณ 3.30 ชม.)
    11.15 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (Bon Voyage)

มื้ออาหารและที่พัก
วันที่
อาหารเช้า
อาหารเที่ยง
อาหารเย็น
โรงแรม
1
Hilton Chicago Hotel or Equivalent
2
Hilton Chicago or Equivalent
3
The Central Station Memphis, Curio Collection by Hilton or Equivalent
4
Hilton Garden Inn Jackson Downtown or Equivalent
5
Hilton Baton Rouge Capitol Center or Equivalent
6
DoubleTree by Hilton Hotel Houston - Greenway Plaza or Equivalent
7
Hilton Palacio del Rio or Equivalent
8
Hilton Anatole Hotel or Equivalent
9
Skirvin Hilton Oklahoma City or Equivalent
10
Hilton Garden Inn Amarillo or Equivalent
11
Home 2 Suites By Hilton Carlsbad or Equivalent
12
Home 2 Suites by Hilton Alamogordo White Sands or Equivalent
13
Hilton Garden Inn Albuquerque Uptown or Equivalent
14
Hampton Inn Alamosa or Equivalent
15
Hampton Inn Montrose or Equivalent
16
Courtyard by Marriott Glenwood Springs or Equivalent
17
Hilton Garden Inn Denver Downtown or Equivalent
18
-
19
-
20
-
ข้อตกลงและเงื่อนไข
  • ชำระเงินเต็มจำนวน

  • การจองนี้ยังไม่ใช่การยืนยันที่นั่ง (เนื่องจากที่ว่างมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา) เจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการเช็คที่นั่งว่างและแจ้งกลับลูกค้าอีกครั้ง ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง

แพ็กเกจนี้รวม
  • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบิน EVA Air (กระเป๋าเดินทางน้ำหนัก ไม่เกิน 23 กก./ใบ ได้ 1 ใบ)

  • น้ำหนักสายการบิน สำหรับเที่ยวบิน Domestic ได้ 20 ก.ก. 1 ใบ

  • ค่าภาษีสนามบิน, ภาษีน้ำมัน, ประกันภัยทางอากาศ

  • ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท

  • ค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 85 ปี)

  • ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่)

  • ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่ ตามระบุ

  • เจ้าหน้าที่ (ไกด์ไทย) คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง พร้อมรวมค่าทิป เรียบร้อยแล้ว

แพ็กเกจนี้ไม่รวม
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์-แฟกซ์ ค่าเครื่องดื่มมินิบาร์และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่มิได้ระบุ

  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%

  • ค่าทิปพนักงานยกกระเป๋าในโรงแรม แนะนำให้ท่านดูแลกระเป๋าด้วยตัวเอง เพื่อป้องกันการสูญหาย

  • ค่าวีซ่าอเมริกา (ลูกค้าจะต้องยื่นวีซ่า และ สัมภาษณ์ด้วยตัวเองเท่านั้น)

เงื่อนไขการยกเลิก
  • แจ้งยกเลิกเดินทาง 30 วันล่วงหน้าก่อนการเดินทางหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่นมัดจำตั๋วเครื่องบิน, วีซ่าและค่าดำเนินการ (ถ้ามี), ค่าโรงแรม, ค่าตั๋วรถไฟ โดยจะมีรายละเอียดแสดงให้แก่ลูกค้าได้รับทราบ (หมายเหตุ: ช่วง Peak season สายการบินให้มัดจำล่วงหน้า 2-3 เดือน ก่อนการเดินทาง)    

  • แจ้งยกเลิกเดินทาง 15-29 วันก่อนการเดินทาง หักค่าทัวร์ 50% + ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง     

  • แจ้งยกเลิกเดินทาง 0-14 วันก่อนการเดินทาง ยึดค่าทัวร์ 100%

  • ผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากการยื่นเอกสารปลอม หักค่าใช้จ่าย 100% 

  • หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม

หมายเหตุ
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 10 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันก่อนการเดินทาง 

  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆ ที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน

  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน การนัดหยุดงาน การประท้วง ภัยธรรมชาติ การก่อจลาจล อุบัติเหตุ ปัญหาการจราจร ปัญหาการเสริฟ์ช้าของร้านอาหาร หรือ เหตุใดๆที่อยู่เหนือการควบคุมของบริษัท ฯลฯ ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด และหากหัวหน้าทัวร์ไม่ได้ดำเนินการทำทัวร์ตามโปรแกรม ท่านต้องแย้งและเรียกร้องสิทธิ์ในรายการนั้น หากท่านไม่มีการแย้งใดๆ ถือว่าท่านยอมรับการทำทัวร์ดังกล่าว

  • เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฏิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง

  • บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฏิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง เนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง 

  • ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู

  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น