หริปนี้สำหรับ คนหลงรักเขา เที่ยวเลห์..ไม่ต้องลังเล เลห์ ลาดักห์ ทะเลสาบพันทอง หุบเขานูบร้า

15.00 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น4 เคาน์เตอร์สายการบินแอร์อินเดีย เจ้าหน้าที่บริษัทต้อนรับและอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางแก่ท่าน
17.55 น. ออกเดินทางจากสู่ เดลลี โดยสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI335
20.50 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธี เมืองนิวเดลลี (New Delhi) ตามเวลาท้องถิ่น ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระ นำท่านเดินทางสู่โรงแรม (วลาที่อินเดียช้ากว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง 30 นาที)
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม 
วันนี้เตรียมความพร้อม เพราะเราต้องบินตรงเข้าเมืองเลห์ คืนนี้หากใครไม่มั่นใจ แนะนำกินยา diamox ไปก่อน 24-48 ชม. การใช้ยาเพื่อป้องกัน altitude sickness ในนักท่องเที่ยวบางรายมีความจำเป็น เพราะยาจะช่วยป้องกันและลดบรรเทาอาการได้ แต่การใช้ยาควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เพราะแพทย์ต้องพิจารณาแผนการเดินทาง ข้อบ่งชี้ ข้อห้ามในการใช้ยา ด้วยรักและห่วงใจ รายการเน้นเที่ยวธรรมชาติ ถ่ายรูป เส้นทางนี้งดงามเกินบรรยาย ที่ควรแก่การไปเยือน อยู่ที่วิวสองข้างทาง สวยงามจนหลับตาไม่ลง เป็นรายการที่ปรับมาเพื่อท่านที่ต้องการเที่ยวแบบ สบาย ที่พักในรายการนี้อยู่ระดับ 3600เมตรที่เมืองเลห์ 
ที่พัก Rdisson Blu Dwarka New Delhi หรือเทียบเท่า

เช้าตรู่ เดินทางสู่สนามบิน
06.30 น. ออกเดินทางจากสู่ เลห์ โดยสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI445 
08.10 น. เดินทางถึง สนามบินเมืองเลห์ …รับสัมภาระเรียบร้อยนำท่านเข้าสู่ตัวเมืองเลห์ เมืองศูนย์กลางของการท่องเที่ยว ตั้งอยู่ในความสูงระดับ 3,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล และยังคงมีมีกลิ่นอายวัฒนธรรมของชาวทิเบตหลงเหลือให้เห็น อากาศเบาบางแนะนำให้ดื่มน้ำบ่อยๆ ค่ะ 
เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม 
พักผ่อนตามอัธยาศัย ปรับร่างกายก่อนออกเดินทาง
กลางวัน บริการกลางวัน ณ ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านออก ชมเมืองเลห์ (Leh) เมืองหลวงของแคว้นลาดักห์ มีอีกชื่อคือทิเบตน้อย (Little Tibet) เพราะวัฒนธรรมส่วนใหญ่มาจากทิเบต เลห์เป็นเมืองเล็กๆในอ้อมกอดแห่งขุนเขาอยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 3500 เมตร ผู้คนแถบนี้ยิ้มแย้มแจ่มใส ใจดี ใช้ชีวิตแบบช้าๆ อยู่กับธรรมชาติเริ่มต้น วันนี้เราจะค่อยๆเที่ยวกันเบาๆ นำท่านชมเจดีย์สันติภาพ (Shanti Stupa) เจดีย์สีขาวทรงโดมตั้งอยู่บนเนินเขาใกล้หมู่บ้าน Changspa ในเมือง Leh ที่นี่ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพและเป็นการฉลองครบรอบ 2,500 ปี ของศาสนาพุทธเจดีย์นี้สร้างโดยญี่ปุ่นเพื่อประกาศพระศาสนาและจรรโลงสันติภาพ นำท่านชมวัดนัมเกลเซโม (Namgyal Tsemo Monastery) อีกหนึ่งวัดสำคัญ ที่เราสามารถมองเห็นได้จากหลายมุมในตัวเมืองเลห์ ที่นี่ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูง สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 (ประมาณปี 1430) โดย King Tashi Namgyal ได้เวลาอันสมควรนำท่านเข้าพักผ่อน 
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
หมายเหตุ:กรุณาเตรียมกระเป๋าเล็กเพื่อพักในหุบเขานูบรา 1 คืน
ที่พัก Singge Palace Leh หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ นูบร้าวัลเล่ย์ (Nubra Valley) เดินทาง ไปยังนูบรา วัลเลย์ ระยะทาง 125 กม. ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง เพราะแวะถ่ายรูปตลอดทางเล้ย ที่นี่เป็นส่วหนึ่งของเส้นทางสายไหม อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของแคว้นลาดักห์ หมู่บ้านที่ตั้งอยู่กลางหุบเขา มองไปทางไหนมีแต่ทะเลทรายสีเงิน แรงดึงดูดของความร้อนระอุของทะเลทราย ยิ่งทำให้ ที่นี่ เป็นที่ต้องตาโดนใจของนักท่องเที่ยวที่อยากไปเยือนซักครั้งในชีวิต ผ่านเส้นทางขึ้นเขาที่นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนลาดักห์ คาร์ดุง ลา พาส (Khardung La Pass) จากจุดนี้เราสามารถมองเห็นเทือกเขาคาราโครัมในประเทศปากีสถานได้เลย สวยจนแทบหยุดหายใจ นั่งรถขึ้นเขาไต่ระดับไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่สูงที่สุดบนเส้นทางนี้ ความสูงอยู่ที่ 5,359 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล แวะให้ท่านได้ถ่ายรูปคู่กับป้ายอดีตทางผ่านสำหรับยานยนต์ที่สูงที่สุดในโลก (ปัจจุบันคือ Umling La, Ladakh ระดับความสูงอยู่ที่ 5,883 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) ถ่ายรูปเช็คอินลงโซเชียลให้เพื่อนๆได้อิจฉา เราจะไม่ให้คณะอยู่นานนัก เพราะอากาศที่เบาบางอาจทำให้เราแพ้ความสูงและไม่สบายได้...ได้เวลาอันเหมาะสมนำท่านเดินทางต่อจนถึงนูบร้าวัลเลย์.ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางต่อจนถึงนูบร้าวัลเลย์
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน  ณ โรงแรม
บ่าย ออกเดินทางไป ชม หมู่บ้านฮุนเดอร์ ชม ทะเลทรายสีเงินแห่งหุบเขานูบร้า หรือ Silver Sand Dune of Nubra เนื้อทรายสีขาวละเอียดมองไปได้สุดลูกหูลูกตา โอบล้อมด้วยภูเขาใหญ่หลายลูก จากนั้นนำท่าน“ขี่อูฐนูบร้า” อูฐนูบร้าเป็นพันธุ์แบกเทรียน Bactrian มีสองหนอก ตัวไม่ใหญ่มากนัก มีขนหนาปกคุลมทั่วร่างกายเพื่อช่วยในการรักษาความอบอุ่นในฤดูหนาว เดิมทีใช้เป็นพาหนะหลักสำหรับขนส่งสินค้าตามเส้นทางแถบเอเชียกลาง ให้ท่านถ่ายรูปได้ชิคๆมีรูปเริ่ดๆไปอัพลงโซเชียลรัวๆแน่นอน เพราะอูฐที่นี่เชื่องและเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวมากอีกด้วย นำท่านชม วัดเดสกิต (Deskit Monastery)วัดที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในหุบเขานูบร้า มีการสร้างพระพุทธรูปพระศรีอริยเมตไตรย ขนาดมหึมา ประดิษฐานอยู่บนยอดเนิน สามารถมองเห็นได้จากทุกทิศทางในหุบเขา พระศรีอริยเมตไตรยหรือที่นิยมเรียกว่าพระศรีอาริย์ เป็นพระโพธิสัตว์ผู้จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 5 และองค์สุดท้ายแห่งภัทรกัปนี้ ภายในวัดยังมีจิตรกรรมฝาผนังโบราณ “กงล้อแห่งชีวิต” หรือ Wheel of Life ที่สะท้อนถึงการเวียนว่ายตายเกิด…นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พัก Grand Nubra หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
จากนั้น นำท่านเดินทางกลับเมืองเลห์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ช.ม. ขึ้นคาดุงลาพาส แวะยืนเล่นถนนที่สูงที่สุดในโลก“สูงจากระดับน้ำทะเล 5602 เมตรที่นี่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี Khardung La (Khardung ผ่าน, ลาหมายถึงการผ่านในทิเบต) เป็นผ่านภูเขาในย่านเลห์ของดินแดนอินเดียสหภาพของลาดัคห์ การออกเสียงในท้องถิ่นคือ "Khardong La" หรือ "Khardzong
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ โรงแรม
บ่าย นำท่านชม พระราชวังเลห์ (Leh Palace) ตั้งอยู่บนเนินเขาสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากจัตุรัสกลางเมือง สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 17 มีทั้งหมด 9 ชั้น ในอดีตเป็นพระราชวังที่ประทับของราชวงศ์แห่งลาดักห์ ตลาดเลห์ (Leh Market) สถานที่สำคัญที่แห่งหนึ่งของเลห์ ร้านค้าต่างๆมากมายทั้งร้านโชว์ห่วย ร้านขายยา หรือของใช้จิปาถะ ทุกอย่างที่จำเป็นเราสามารถหาซื้อได้ที่ตลาด ยามเย็นเราจะเห็นชาวบ้านออกมาปูผ้าวางของขายริมฟุตบาทหน้าร้านค้า มีทั้งผักสด ผลไม้ บรรยากาศชิลล์ๆ ผู้คนที่เดินผ่านไปมาทั้งชาวบ้าน พ่อค้าแม่ขาย นักเรียน นักท่องเที่ยว 
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พัก Singge Palace Leh หรือเทียบเท่า

06.00 น. บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
06.30 น. นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบพันกอง (Pangong Lake) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6ชั่วโมง วันนี้เราจะนั่งกันนาน เพราะเราจะแวะถ่ายรูปกันตลอดเส้นทางเลย ระยะทาง 160 กิโลเมตรจากเมืองเลห์ ณ จุดกึ่งกลางกิโลเมตรที่ 83 ต้องผ่านช่องเขาสูงชัง-ลา (Chang la) บนความสูง 5,360 เมตรจากระดับน้ำทะเล ช่องเขานี้ถูกอ้างว่าเป็นช่องเขาสูงอันดับ 3 ของโลก นั่นหมายถึงบรรยากาศออกซิเจนเบาบาง แต่วันนั้นดูเหมือนว่า “ชิลล์ๆ” นับตั้งแต่การผจญภัยบน คาร์ดุง-ลา(Khardung -La) บนความสูง 5,606 เมตรผ่านพ้นมาได้ เพราะร่างกายปรับสภาพกับบรรยากาศบนพื้นที่สูงเรียบร้อยแล้ว วิวระหว่างทางสวยมาก ๆ ความสวยต้องแลกด้วยการเดินทางที่นานหน่อย..เดินทางต่อไปทะเลสาบพันกอง พันกอง หรือ แปงกอง ทะเลสาบแห่งฝันและศรัทธา นี่คือทะเลสาบสีเทอร์ควอยซ์ในอ้อมกอดของหุบเขาหลายสี ทะเลสาบแปงกอง คือทะเลสาบน้ำกร่อยกลางทะเลทรายบนเทือกเขาหิมาลัย ความสูง 4,350 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล หนึ่งในสามของพื้นที่ทะเลสาบตั้งอยู่ในแคว้นลาดักห์ รัฐจัมมู-แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย ส่วนที่เหลืออยู่ในฝั่งทิเบต นี่คือทะเลสาบชายขอบที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซุกซ่อนอยู่ภายในภูมิประเทศที่แห้งแล้งแสนกันดาร ถึงทะเลสาบ อิสระให้ทกท่านได้เก็บภาพความสวยงาม ความยิ่งใหญ่ของภาพที่ ต้องไปเที่ยวซักครั้งในชีวิตให้ได้ จนถึงเวลานัดหมาย
13.00 น. บริการอาหารกลางวัน  ณ โรงแรม 
14.00 น. เดินทางกลับสู่เมืองเลห์ และระหว่างทาง ทะเลสาบพันกอง-เลห์ ลาห์ดัก แวะ ตามหา หิมาลายัน มาร์มอต (Himalayan Marmot) มาร์มอตแห่งเทือกเขาหิมาลัย ที่แสนน่ารัก หลงรักตั้งแต่เจอครั้งแรกเลย ถ้าเราโชคดีเค้าจะออกให้เราถ่ายรูปกัน มาร์มอต (Marmot) สัตว์ตระกูลเดียวกับกระรอก ที่ขุดหลุมใต้ดินไว้เป็นอาณาจักรส่วนตัว เป็นดาวเด่นของภูเขาแถบนี้ก็ว่าได้ เพราะใครๆ ต้องจอดรถ ลงไปทักทาย และดูท่ามาร์มอตเองก็ชินคนไม่น้อย ดูจากการวิ่งเข้าใส่หรือไต่ขึ้นมาบนตัก ในช่วงฤดูหนาวพวกมันจะจำศีลและอยู่ได้ด้วยพลังงานที่กักเก็บไว้ในร่างกาย ผ่านเส้นทาง ชาง ลา (Chang La pass) เป็นเส้นทาง motorable ที่สูงเป็นอันดับสองของโลก รองจาก khadung la pass สูงจากระดับนน้ำทะเล 4350 เมตร เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่าง เมือง leh กับ ทะเลสาบ pangong แวะเก็บภาพก่อนเข้าเหมืองเลห์
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พัก Northern Singge Leh หรือเทียบเท่า

08.00 น. บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
ให้พักผ่อนตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบินเลห์
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่สนามบินเมืองเลห์เพื่อเดินทางสู่เดลี
12.00 น. ออกเดินทางสู่ เดลลี โดยสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI446
13.35 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธีร์ เมืองนิวเดลลี
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร 
จากนั้น นำท่าน ผ่านชมประตูอินเดีย โครงสร้างเป็นซุ้มหินทรายที่สร้างขึ้นโดยชาวอังกฤษในศตวรรษที่ 20 อนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงเป็นเครื่องหมายของทหารอังกฤษอินเดียที่สูญหาย 70,000 นายในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ได้รับการออกแบบโดย Sir Edward Lutyens. ตั้งแต่ปี 1971 ผ่านชมราษฏรปติภวัน ที่พำนักทางการของประธานาธิบดีอินเดีย ตั้งอยู่ปลายฝั่งตะวันตกของราชปัถในนิวเดลี อาคารหลักประกอบด้วยห้อง 340 ห้อง การปฏิสังขรณ์ครั้งแรกเริ่มขึ้นในปี 1985 และเสร็จสิ้นในปี 1989 ส่วนในครั้งที่สองได้เริ่มต้นในปี 2010 นำท่านไปช้อปปิ้งที่ ตลาดจันปาร์ต (Janpath Market) มีสินค้าพื้นเมืองของประเทศอินเดียที่มาทั่วสารทิศ อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของตามอัธยาศัยจนถึงเวลานัดหมาย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน เดินทางสู่สนามบิน

02.25 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI336
07.55 น. เดินทางถึง ท่าอากาศสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ