หริปนี้สำหรับ คนหลงรักเขา เที่ยวเลห์..ไม่ต้องลังเล

ทัวร์อินเดีย แคชเมียร์ เล่ห์ ลาดักห์ ศรีนาคา คาร์กิล ลามายูรู นูบร้า 8 วัน 6 คืน

การผจญภัย ชายหาดและแสงอาทิตย์ เกมส์สำหรับครอบครัว ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โรแมนติก ช้อปปิ้ง ดินเนอร์ ศาสนา อุทยานแห่งชาติ เที่ยวเต็มวัน, ไม่มีวันอิสระ พักโรงแรม 4 ดาว บินตรง ทุ่งดอกไม้ ฟาร์ม สวนผลไม้ ไม่เข้าร้านรัฐบาล ทะเลสาบ พิพิธภัณฑ์
รายละเอียด

ทัวร์อินเดีย แคชเมียร์ เล่ห์ ลาดักห์ ศรีนาคา คาร์กิล ลามายูรู นูบร้า 8 วัน 6 คืน โดยสายการบินไทย เที่ยวศรีนาคา สวนโมกุล ล่องเรือชิคารา เรือพายแบบแคชเมียร์ โซนามาร์ค คาร์กิล ถนนไร้หมายเลย มูลเบกห์ ลามายูรู เลห์ จุดชมวิวแม่น้ำสองสี คาร์ดุง ลา ฮุนเดอร์ เดสกิต นูบร้าวัลเลย์ ทะเลสาบพันกอง


รหัสทัวร์ : TATIN8638
 ชัมมู และ กัศมีร์, อินเดีย
สายการบินการบินไทย
ราคาเริ่มต้น
USD 1,514
ทำไมต้องจองทัวร์กับเรา
  • ราคาสุดท้ายไม่บวกเพิ่ม
  • รับประกันราคาที่ดีที่สุด
ติดต่อสอบถาม
02 001 5855
จันทร์ - เสาร์ 09:00 น. - 18:00 น.
ตารางการเดินทาง
  • วันที่
    1
    กรุงเทพฯ - เดลลี - ศรีนาคา

    04.00 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น4 เคาน์เตอร์สายการบินไทย เจ้าหน้าที่บริษัทต้อนรับและอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางแก่ท่าน
    07.00 น. ออกเดินทางจากสู่ เดลลี โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG323 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
    09.55 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธีร์ เมืองนิวเดลลี (New Delhi) ตามเวลาท้องถิ่นผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระ
    นำท่านเดินออกไปอาคารภายในประเทศเพื่อเดินทางต่อไปเมืองศรีนาคา(แคชเมียร์) เพื่อสะดวกกับการเดินทาง อิสระอาหารกลางวันในสนามบินตามอัธยาศัยภานในสนามบิน (เวลาที่อินเดียช้ากว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง 30 นาที)
    14.50 น. ออกเดินทางสู่ศรีนาคา โดยสายการบิน SPICEJET เที่ยวบินที่ SG-8150
    16.30 น. เดินทางถึง สนามบินศรีนาคา (Srinagar) เมืองหลวงของรัฐจัมมูและแคชเมียร์ พร้อมรับสัมภาระแล้วเปลี่ยนเป็นรถเทมโป นำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองศรีนาคา นำท่านเดินทางไปชมสวนโมกุล (Mughal Gardens) สวนโมกุล แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ตามแบบชาวเปอร์เซีย คือ ลำธาร สระน้ำ และ แปลงดอกไม้นานาพันธุ์หลายหลายสี สวยงาม แล้วยังมีลานน้ำพุที่ทอดยาว จากที่ต่ำขึ้นที่สูง หันหน้าสู่ทะเลสาบดาล สวนสวรรค์แห่งดอกไม้ ช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน ดอกไม้เมืองหนาวออกดอกชูช่ออย่างสวยงาม นำท่านล่องเรือชิคารา (เรือพายแบบแคชเมียร์) ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ1 ชม. “ชิคาร่า (Shikara) เรือพายโบราณ เป็นพาหนะสำหรับทำมาหากินของชาวแคชเมียร์ที่มีบ้านเรือนอยู่ริมน้ำที่สำคัญใบพายเป็นรูปหัวใจ ให้ท่านชมความงดงาม ทะเลสาบดาล ทะเลสาบได้รับการขนานนามว่า “เพชรยอดมงกุฏของแคชเมียร์” หรือ “อัญมณีแห่งศรีนาคา” เนื่องจากเป็นทะเลสาบที่มีความสวยงาม เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาของ ชาวแคชเมียร์
    ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ บ้านเรือ
    ที่พัก Meena Deluxe House Boat

  • วันที่
    2
    ศรีนาคา - โซนามาร์ค - คาร์กิล

    เช้า บริการอาหารเช้า ณ บ้านเรือ
    จากนั้น นำท่านออกเดินทางสู่ โซนามาร์ค (Sonamarg) ใช้เวลาประมาณ 3.30 ชั่วโมง ระหว่างสองข้างชมวิวความสวยงามตลอดทาง “โซนามาร์ค” ทุ่งทองคำแห่งแคชเมียร์ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นประตูโบราณเส้นทางสายไหมเชื่อมต่อจัมมูและแคชเมียร์กับทิเบต เป็นจุดเริ่มต้นที่จะมุ่งหน้าไปยังลาดักห์ หรือเป็นรู้จักกันดีในชื่อว่า“ประตูสู่ลาดักห์” เส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางที่มีทิวทัศน์สวยงามตลอดสองข้างทาง
    กลางวัน บริการอาหารกลางวัน  ณ ภัตตาคาร (โซนาร์ค)
    บ่าย ออกเดินทางสู่ คาร์กิล (Kargil) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ช.ม. ระหว่างสองข้างทางท่านจะพบกับทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ไต่ระดับความสูงขึ้นขึ้นไปเรื่อยๆ โดยใช้เส้นทาง โซจิ ลา (Zojila Pass) ถนนที่เชื่อมต่อระหว่างแคชเมียร์กับลาดักห์ มีความยาวเพียงแค่ 9 กิโลเมตรเท่านั้น แต่อยู่บนความสูงระดับ 3,500 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล นั่งชมวิวภูเขาสูงสลับซับซ้อน วิถีชีวิตชาวแคชเมียร์ตลอดทาง ผ่านเมืองดราส (Dras) ตั้งอยู่บนทางด่วนสาย NH 1 ระหว่างช่องเขาโซจิ ลา กับเมืองคาร์กิล ดราสเป็นสถานที่อยู่อาศัยที่หนาวเย็นที่สุดในอินเดียและเป็นอันดับสองของโลก (ไซบีเรียเป็นที่แรก) หมู่บ้านบนภูเขาของ Dras เริ่มเป็นที่รู้จักในปี 1999 เมื่อการรุกรานของกองทัพปากีสถานนำไปสู่สงครามคาร์กิล (Kargil War) เริ่มตั้งแต่ 26 พฤษภาคม - 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1999 ถึงแม้อินเดียจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะแต่อินเดียพบกับความสูญเสียมหาศาล เนื่องจากสูญเสียทหารไปจำนวนมาก นำท่านชม อนุสรณ์สถานสงครามคาร์กิล (Kargil War Memorial) เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าอนุสรณ์สถานสงครามดราส สร้างโดยกองทัพอินเดียเพื่อรำลึกถึงสงครามในปี ค.ศ.1999 ตรงข้ามเขาไทเกอร์ (Tiger Hill) จัดแสดงเกี่ยวกับเรื่องราวของสงครามคาร์กิล อีกทั้งยังมีเปลวไฟชั่วนิรันดร์ เพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารอินเดียที่เสียชีวิตในช่วงสงคราม เดินทางต่อไปยังเมืองคาร์กิล เมืองชายแดนรอยต่อระหว่างแคชเมียร์ ลาดักห์และปากีสถาน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำซูรู (Suru River) ครั้งหนึ่งเมืองนี้เคยเป็นสมรภูมิอันดุเดือด "สงครามคาร์กิล" ระหว่างอินเดียและปากีสถาน เมื่อปี 1999 เมืองนี้อยู่ในเขตลาดักห์แต่มีวัฒนธรรมคล้ายกับเขตบัลติสถานของแคชเมียร์ฝั่งปากีสถาน ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม เดินทางถึงเมืองคาร์กิลในช่วงค่ำๆ 
    ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
    ที่พัก Higland Mountain Resort Kargil หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    3
    คาร์กิล - ถนนไร้หมายเลย-มูลเบกห์ - ลามายูรู - เลห์

    เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
    จากนั้น ออกเดินทางไป มูลเบกห์ (Mulbek) ระยะทาง 40 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ช.ม. ระหว่างทางจะสังเกตเห็นทิวทัศน์ระหว่างทางที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไป ภูเขาโล้นสีน้ำตาล ต้นไม้ข้างทางที่พบได้มากคือต้อนป็อปลาร์ (Poplar) พอเริ่มเข้าเขตเมืองมูลเบกห์จะเริ่มเห็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป ตั้งแต่ผู้คนอยู่ในเมืองมีหน้าตาคล้ายกับคนในทิเบต นับถือศาสนาพุทธมหายาน ตามบ้านเรือน วัด และอาคารประดับด้วยธงมนต์ ชาวทิเบตเชื่อว่า ธงมนต์คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บนธงจะมีบทสวดอยู่ ชาวทิเบตมักจะนำธงมนต์ไปผูกไว้ในที่สำคัญทุกที่ เช่นตามยอดเขาสูง หน้าผาสูงชันหรือถนนริมเขาที่อันตราย บ้านเรือน แม้แต่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ด้วยความที่เชื่อกันว่าเมื่อลมพัดผ่านธงมนต์ ก็จะนำพาบทสวดไปปกปักรักษาผู้คน นำท่านชม วัดมูลเบกห์ (Mulbekh Monastery) มีรูปแกะสลัก พระศรีอริยเมตไตรย บนผาหินขนาดสูง 9 เมตร เก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 วัดมูลเบกห์เป็นวัดพุทธในนิกายเกลุกปะภายในวัดมีทั้งภาพพระบฏและจารึกอักษรโบราณที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง นำท่านเดินทางสู่ เมืองลามายูรู (Lamayuru) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ช.ม. ผ่านจุดสูงสุดบนเส้นทางศรีนาคา-เลห์ฟอร์ทูล่า ท็อป (Fotula Top) ระดับความสูง 4,108 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นำท่านผ่านถนนไร้หมายเลขเข้า สู่เมืองเลห์ Leh Ladakh ตามทางหลวงไร้หมายเลข ไปจนถึงเมืองเลห์ เมืองหลวงแห่ง ลาดักห์
    กลางวัน บริการอาหารกลางวัน  ณ ภัตตาคาร
    บ่าย จากเมืองคาร์กิลไปยังเมืองเลห์ เส้นทางเลห์ลาดักห์ แคชเมียร์ ที่ระดับความสูง 3,390 เมตร นำท่านชม วัดลามายูรู (Lamayuru Monastery) หนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดในลาดัก วัดทางพุทธศาสนาแบบทิเบต มีอายุประมาณ 1000 ปี สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 โดย Mahasiddhacharya Naropaจุดเด่นของที่นี่คือสถาปัตยกรรมโบราณ มีมนต์ขลัง และทัศนียภาพที่ตระการตาเนื่องจากตั้งอยู่บนภูเขาสูงที่ได้ชื่อว่าเป็น “The Moon land” เพราะว่ามีภูมิประเทศที่คล้ายดวงจันทร์ ออกเดินทางสู่เมืองเลห์ (Leh) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง ลาดักห์ หรือ ทิเบตน้อย (little tibet) โดยมี เลห์ (Leh) เป็นเมืองหลวงของลาดักห์ พื้นที่ตอนบนสุดของลาดักห์เคยเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของทิเบตตะวันตก แวะถ่ายรูป จุดชมวิวแม่น้ำสองสี (Sangam View Point) ที่มองเห็นแม่น้ำสินธุสีเขียวฟ้า และแม่น้ำซันสการ์สีน้ำตาลข้น ไหลมาบรรจบกัน เป็นวิวซึ่งสวยงามแปลกตามากๆ ก่อนเดินทางเข้าเมืองเลห์จะผ่าน Magnetic Hill ถ้าจอดรถเอาไว้ตรงจุดที่กำหนดไว้แล้วดับเครื่องยนต์ เราจะเห็นเหมือนรถไหลขึ้นภูเขาได้เอง ซึ่งจริงๆแล้วเป็นภาพลวงตา ถนนจริงๆเป็นทางลงเขาต่างหาก เดินทางต่อจนถึง เมืองเลห์ (Leh) ตั้งอยู่บนความสูง 3,524 เมตรจากระดับน้ำทะเล ประชากรส่วนใหญ่ในเลห์สืบเชื้อสายจากชาวทิเบต พูดภาษาลาดักห์ ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ
    ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
    ที่พัก Northern Singge Leh หรือเทียบเท่า (หมายเหตุ: กรุณาเตรียมกระเป๋าเล็กเพื่อพักในหุบเขานูบรา 1 คืน)

  • วันที่
    4
    เลห์ - คาร์ดุง ลา - ฮุนเดอร์ - เดสกิต - นูบร้าวัลเลย์

    เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
    จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ นูบร้าวัลเล่ย์ (Nubra Valley) ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของแคว้นลาดักห์ หมู่บ้านที่ตั้งอยู่กลางหุบเขา มองไปทางไหนมีแต่ทะเลทรายสีเงิน แรงดึงดูดของความร้อนระอุของทะเลทราย ยิ่งทำให้ ที่นี่ เป็นที่ต้องตาโดนใจของนักท่องเที่ยวที่อยากไปเยือนซักครั้งในชีวิต ผ่านเส้นทางขึ้นเขาที่นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนลาดักห์ คาร์ดุง ลา พาส (Khardung La Pass) จากจุดนี้เราสามารถมองเห็นเทือกเขาคาราโครัมในประเทศปากีสถานได้เลย สวยจนแทบหยุดหายใจ นั่งรถขึ้นเขาไต่ระดับไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่สูงที่สุดบนเส้นทางนี้ ความสูงอยู่ที่ 5,359 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล แวะให้ท่านได้ถ่ายรูปคู่กับป้ายอดีตทางผ่านสำหรับยานยนต์ที่สูงที่สุดในโลก (ปัจจุบันคือ Umling La, Ladakh ระดับความสูงอยู่ที่ 5,883 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) ถ่ายรูปเช็คอินลงโซเชียลให้เพื่อนๆได้อิจฉา เราจะไม่ให้คณะอยู่นานนัก เพราะอากาศที่เบาบางอาจทำให้เราแพ้ความสูงและไม่สบายได้ ได้เวลาอันเหมาะสมนำท่านเดินทางต่อจนถึงนูบร้าวัลเลย์
    กลางวัน บริการอาหารกลางวัน  ณ โรงแรม/ร้านอาหาร
    บ่าย ออกเดินทางชม หมู่บ้านฮุนเดอร์ ชมทะเลทรายสีเงินแห่งหุบเขานูบร้า หรือ Silver Sand Dune of Nubra เนื้อทรายสีขาวละเอียดมองไปได้สุดลูกหูลูกตา โอบล้อมด้วยภูเขาใหญ่หลายลูก นำท่าน“ขี่อูฐนูบร้า” อูฐนูบร้าเป็นพันธุ์แบกเทรียน Bactrian มีสองหนอก ตัวไม่ใหญ่มากนัก มีขนหนาปกคุลมทั่วร่างกายเพื่อช่วยในการรักษาความอบอุ่นในฤดูหนาว เดิมทีใช้เป็นพาหนะหลักสำหรับขนส่งสินค้าตามเส้นทางแถบเอเชียกลาง ให้ท่านถ่ายรูปได้ชิคๆมีรูปเริ่ดๆไปอัพลงโซเชียลรัวๆแน่นอน เพราะอูฐที่นี่เชื่องและเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวมากอีกด้วย จากนั้นนำท่านไปชมวัดเดสกิต (Deskit Monastery)วัดที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในหุบเขานูบร้า มีการสร้างพระพุทธรูปพระศรีอริยเมตไตรย ขนาดมหึมา ประดิษฐานอยู่บนยอดเนิน สามารถมองเห็นได้จากทุกทิศทางในหุบเขา พระศรีอริยเมตไตรยหรือที่นิยมเรียกว่าพระศรีอาริย์ เป็นพระโพธิสัตว์ผู้จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 5 และองค์สุดท้ายแห่งภัทรกัปนี้ ภายในวัดยังมีจิตรกรรมฝาผนังโบราณ “กงล้อแห่งชีวิต” หรือ Wheel of Life ที่สะท้อนถึงการเวียนว่ายตายเกิด…นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
    ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
    ที่พัก Nubra Ethic Camp หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    5
    นูบร้าวัลเล่ย์ - คาร์ดุง ลา- เลห์

    เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
    จากนั้น นำท่านเดินทางกลับเมืองเลห์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ช.ม. ขึ้นคาดุงลาพาส แวะยืนเล่นถนนที่สูงที่สุดในโลก “สูงจากระดับน้ำทะเล 5602 เมตรที่นี่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี Khardung La (Khardung ลาหมายถึงการผ่านในทิเบต) เป็นผ่านภูเขาในย่านเลห์ของดินแดนอินเดียสหภาพของลาดัคห์ การออกเสียงในท้องถิ่นคือ "Khardong La" หรือ "Khardzong
    กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ โรงแรม/ร้านอาหารเมืองเลห์
    บ่าย นำท่านชม พระราชวังเลห์ (Leh Palace) ตั้งอยู่บนเนินเขาสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากจัตุรัสกลางเมืองสร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 17 มีทั้งหมด 9 ชั้น ในอดีตเป็นพระราชวังที่ประทับของราชวงศ์แห่งลาดักห์ พระราชวังเลห์ หรือที่รู้จักในชื่อวังลาเชน ปัลการ์ พระราชวังที่ตั้งสูงเด่นกลางเมืองเป็นอดีตพระราชวังที่มองเห็นเมืองเลห์ในลาดักห์ ประเทศอินเดีย ชมและสักการะเจดีย์สันติภาพ(Shanti Stupa) เป็นเจดีย์สีขาวขนาดใหญ่ โดยชาวญี่ปุ่นเป็นผู้สร้างขึ้นเพื่อประกาศพระศาสนาและแสดงถึงสันติภาพแห่งโลก รอบๆเจดีย์สามารถมองเห็นหิวทัศน์ของเมืองเลห์ได้อย่างรอบด้าน สถานที่ยอดนิยมเมืองมาถึงเมืองเลห์ ชมวิวเมืองเลห์สุดลูกตา
    ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
    ที่พัก Northern Singge Leh หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    6
    เลห์ - ทะเลสาบพันกอง - เลห์

    เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
    จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบพันกอง (Pangong Lake) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6-7 ชั่วโมง วันนี้เราจะนั่งกันนาน และ จะแวะถ่ายรูปกันตลอดเส้นทางเลย ระหว่างเส้นทางจาก เมืองเลห์ลาดักสู่ ทะเลสาบพันกอง ระดับความสูง 4,650 เมตร ผ่าน ชางลาพาส Chang La Pass เป็นหนึ่งในถนนที่ตัดผ่านยอดเขาสูงในลาดักห์ ที่ระดับความสูง 5,3601 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล สูงเป็นอันดับ 3 ของอินเดีย วิวระหว่างทางสวยมากๆ ความสวยต้องแลกด้วยการเดินทางที่นานหน่อยและระหว่างทาง ทะเลสาบพันกอง-เลห์ ลาห์ดัก แวะ ตามหา หิมาลายัน มาร์มอต ( Himalayan Marmot) มาร์มอตแห่งเทือกเขาหิมาลัย ที่แสนน่ารัก หลงรักตั้งแต่เจอครั้งแรกเลย ถ้าเราโชคดีเค้าจะออกให้เราถ่ายรูปกัน  มาร์มอต (Marmot) สัตว์ตระกูลเดียวกับกระรอก ที่ขุดหลุมใต้ดินไว้เป็นอาณาจักรส่วนตัว เป็นดาวเด่นของภูเขาแถบนี้ก็ว่าได้ เพราะใคร ๆ ต้องจอดรถ ลงไปทักทาย และดูท่ามาร์มอตเองก็ชินคนไม่น้อย ดูจากการวิ่งเข้าใส่หรือไต่ขึ้นมาบนตัก ในช่วงฤดูหนาวพวกมันจะจำศีลและอยู่ได้ด้วยพลังงานที่กักเก็บไว้ในร่างกาย
    กลางวัน บริการอาหารกลางวัน  ณ โรงแรม 
    บ่าย นำท่านชมทะเลสาบพันกอง ทะเลสาบผางกงโฉ (ในภาษาจีน) หรือทะเลสาบแปงกอง Panggong Lake เป็นทะเลสาปน้ำเค็มที่อยู่ในระดับความสูงที่สูงที่สุดในโลก มีระดับความสูงถึง 4500 เมตร จากระดับน้ำทะเล ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบหลากสี ตั้งอยู่ตอนเหนือสุดของแคว้นลาดักห์ พื้นที่พรมแดนทับซ้อนของอินเดียและจีน (พื้นที่เขตการปกครองตนเองทิเบต) ทะเลสาบน้ำเค็มสีครามสด ธรรมชาติดิบๆ มีภูมิประเทศเขาหินทรายท้องฟ้าปลอดโปร่งแทบจะไม่พบเมฆเพราะอยู่บนที่สูง ส่วนที่กว้างที่สุดกว้างเพียง 5 กม. แต่ยาวถึง 134 กม. สาเหตุที่ทำให้ทะเลสาบแห่งนี้มีชื่อเสียงมาจาก "ปันกอง" ตามรอย ภาพยนตร์เรื่อง 3 Idiots ภาพยนตร์เสียดสีระบบการศึกษาในมหาวิทยาลัยอินเดียแบบมันส์หยด! เล่าเรื่องของรานโช ฟาร์ฮาน และราจู เพื่อนรักสามคนที่เคยสัญญากันเอาไว้ว่าอีก 10 ปีข้างหน้า พวกเขาจะได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เพื่อดูว่าใครคือคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตได้มากกว่ากัน ซึ่งในสมัยมหาวิทยาลัยนั้น พวกเขาเรียนคณะวิศวะด้วยกันในมหาลัยที่ขึ้นชื่อว่าเข้ายากที่สุดในอินเดีย พวกเขาได้สร้างวีรกรรมเอาไว้มากมาย รวมถึงการตอกหน้าระบบการศึกษาที่มีอยู่ เพราะไม่เชื่อว่าการเรียนรู้แบบนี้จะนำไปสู่ความสำเร็จและความสุขในชีวิตให้กับบรรดานักศึกษาได้ จนทำให้พวกเขาต้องเผชิญกับเรื่องวุ่นๆ ที่ตามมา พร้อมทั้งจัดการกับปัญหาชีวิตและมิตรภาพของพวกเขาเองไปด้วยซึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้มีฉากที่ไปถ่ายทำกันที่ทะเลสาบพันกองด้วย หลังจากภาพยนตร์ออกฉายทำให้คนอินเดียหาว่าทะเลสาบในเรื่องคือที่ไหน หลังจากนั้นจึงกลายเป็นกระแสดังจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในที่สุด ใครได้ชมภาพยนตร์แล้วอย่าลืมแวะไปถ่ายรูปกับจุดเช็คอินที่นี่ได้ ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับเมืองเลห์
    ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
    ที่พัก Northern Singge Leh หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    7
    เลห์ - เดลลี - กรุงเทพฯ

    เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
    อิสระให้ท่านได้พักผ่อนจนถึงเวลานัดหมาย จากนั้น นำท่านเดินทางสู่สนามบินเพื่อเดินทางสู่เมืองเดลี    
    12.20 น. ออกเดินทางสู่ เดลลี โดยสายการบิน SPICEJET เที่ยวบินที่ SG-124
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
    15.30 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธีร์ เมืองนิวเดลลี
    จากนั้น นำท่าน ผ่านชมประตูอินเดีย โครงสร้างเป็นซุ้มหินทรายที่สร้างขึ้นโดยชาวอังกฤษในศตวรรษที่ 20 อนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงเป็นเครื่องหมายของทหารอังกฤษอินเดียที่สูญหาย 70,000 นายในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ตั้งแต่ปี 1971 ผ่านชมราษฏรปติภวัน ที่พำนักทางการของประธานาธิบดีอินเดีย ตั้งอยู่ปลายฝั่งตะวันตกของราชปัถในนิวเดลี อาคารหลักประกอบด้วยห้อง 340 ห้อง การปฏิสังขรณ์ครั้งแรกเริ่มขึ้นในปี 1985 และเสร็จสิ้นในปี 1989 ส่วนในครั้งที่สองได้เริ่มต้นในปี 2010 นำท่านไปช้อปปิ้งที่ ตลาดจันปาร์ต (Janpath Market) มีสินค้าพื้นเมืองของประเทศอินเดียที่มาทั่วสารทิศ อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของตามอัธยาศัยจนถึงเวลานัดหมาย นำท่านเดินทางสู่สนามบินนิวเดลลี
    ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
    จากนั้น พาท่านเดินทางสู่สนามบินเพื่อเดินทางกลับประเทศไทย

  • วันที่
    8
    กรุงเทพฯ

    00.20 น. ออกเดินทางจากสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG316 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
    05.25 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ 

มื้ออาหารและที่พัก
วันที่
อาหารเช้า
อาหารเที่ยง
อาหารเย็น
โรงแรม
1
Meena Deluxe House Boat
2
Higland Mountain Resort Kargil or Equivalent
3
Northern Singge Leh or Equivalent
4
Nubra Ethic Camp or Equivalent
5
Northern Singge Leh or Equivalent
6
Northern Singge Leh or Equivalent
7
-
8
-
ข้อตกลงและเงื่อนไข
  • ชำระเงินเต็มจำนวน

  • การจองนี้ยังไม่ใช่การยืนยันที่นั่ง (เนื่องจากที่ว่างมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา) เจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการเช็คที่นั่งว่างและแจ้งกลับลูกค้าอีกครั้ง ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง

แพ็กเกจนี้รวม
  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ชั้นประหยัด ตามระบุในรายการ

  • ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งและค่าประกันภัยสายการบิน ตามระบุในรายการ

  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับหนังสือเดินทางไทย ยื่นแบบออนไลน์เท่านั้น (ไม่ต้องโชว์ตัว)

  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าโหลดระหว่างประเทศ 20 กก.ท่านละ1 ใบ/ภายในประเทศ 15 กก/กระเป๋าเล้กขึ้นเครื่อง 7 กก. ตามเงื่อนไขของเราสาบการบิน

  • ค่าที่พักโรงแรมระดับ มาตารฐานนักท่องเทียว 3-4 ดาว ตามระบุในรายการ

  • ค่าขี่อูฐที่หุบเขานูบร้า ตามระบุในรายการ

  • ค่าล่องเรือชิคาล่า ที่ศรีนาคา

  • รถเทมโปปรับอากาศตลอดการเดินทาง ตามระบุในรายการ

  • ค่าอาหารมื้อ ตามระบุในรายการ

  • ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามระบุในรายการ

  • ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,000,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 1,000,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลต่อเนื่องในประเทศไทย 50,000 บาท (คุ้มครองผู้เอาประกันภัย อายุระหว่าง 6-75 ปี ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัย อายุต่ำกว่า 6 ปี หรือ ระหว่าง 76 ปีขึ้นไปจะมีเบี้ยประกันคุ้มครอง 50 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์ / ผู้เอาประกันภัยอายุสูงกว่า 85 ปี ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคุ้มครอง) ประกันครอบคลุมการติดโควิดและการรักษาในต่างประเทศ(ต้องมีใบเสร็จโรงพยาบาลเท่านั้น)และหลังจากกลับจากต่างประเทศต่อเนื่องอีก 7 วัน วงเงินคุ้มครองอาหารเป็นพิษ (โดยแพทย์จะต้องระบุในใบรับรองแพทย์ว่า อาหารเป็นพิษเท่านั้น) แต่ทั้งนี้ย่อมอยู่ในข้อจำกัดที่มีการตกลงไว้กับบริษัทประกันชีวิต

แพ็กเกจนี้ไม่รวม
  • ค่าจัดทำหนังสือเดินทาง (PASSPORT) และค่าทำใบอนุญาตที่กลับเข้าประเทศของคนต่างชาติหรือคนต่างด้าว

  • ค่าใช้จ่ายอื่นๆนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในรายการและค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างๆ เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ฯลฯ

  • ค่าธรรมเนียมน้ำมันของสายการบิน (ถ้ามี)

  • ค่าวีซ่าที่มีค่าธรรมเนียมแพงกว่าหนังสือเดินทางไทย

  • ค่าภาษีหักณ ที่จ่าย 3% ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (กรณีออกใบกำกับภาษี)

  • ค่าธรรมเนียมการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต VISA 3% 

  • ค่าน้ำหนักเกินพิกัดตามสายการบินกำหนด 20 กิโลกรัม 

  • ค่าทิปคนที่บริการ อาทิ ไกด์ท้องถิ่น,พนักงานขับรถ 50 USD ต่อลูกค้า 1 ท่าน /ทริป

  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย ทิปหัวหน้าทัวร์แล้วแต่ความพึงพอใจในบริการของท่าน

  • ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรมและสนามบิน ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง

เงื่อนไขการยกเลิก
  • หากมีการชำระมัดจำทัวร์และต้องการยกเลิกไม่ว่ากรณีใดๆก็ตามต้องชำระค่าบริการ ท่านละ 2,000 บาท

  • ยกเลิกเดินทาง 30 วันล่วงหน้าก่อนการเดินทางหักค่าธรรมเนียมท่านละ 2,000 บาท และใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น มัดจำตั๋วเครื่องบิน,วีซ่า,ค่าดำเนินการ (ถ้ามี), ค่าโรงแรม, ค่าตั๋วรถไฟ, หรืออื่นๆ โดยจะมีราละเอียดแสดงให้แก่ลูกค้าได้รับทราบ (หมายเหตุ ช่วง Peak season สายการบินให้มัดจำล่วงหน้า 2-3 เดือนก่อนออกเดินทาง) 

  • แจ้งยกเลิกเดินทาง 15-29 วัน ก่อนการเดินทาง หัก 50% ของราคาทัวร์ + ค่าธรรมเนียม 2,000 บาท

  • แจ้งยกเลิกเดินทาง 0-14 วัน ก่อนการเดินทาง หัก 100 % ของราคาทัวร์

หมายเหตุ
  • บริษัทฯ มีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้

  • บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะเลื่อนการเดินทางในกรณีที่มีผู้ร่วมคณะไม่ถึง 10 ท่าน หรือตามที่บริษัทฯ กำหนด

  • รายการนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทฯ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้สารองที่นั่งบนเครื่อง และโรงแรมที่พักในต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตามรายการนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม

  • บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายในเหตุการณ์ที่เกิดจากสายการบิน ภัยธรรมชาติ และอื่นๆที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัทฯหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทางตรงหรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย, การถูกทำร้าย, การสูญหาย, ความล่าช้า หรือจากอุบัติเหตุต่างๆ

  • หากท่านยกเลิกก่อนรายการท่องเที่ยวจะสิ้นสุดลง ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านสละสิทธิ์และจะไม่รับผิดชอบค่าบริการที่ท่านได้ชำระไว้แล้วไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น

  • บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อการห้ามออกนอกประเทศ หรือ ห้ามเข้าประเทศ อันเนื่องมาจากมีสิ่งผิดกฎหมาย หรือเอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆ

  • ราคานี้คิดตามราคาตั๋วเครื่องบินในปัจจุบัน หากราคาตั๋วเครื่องบินปรับสูงขึ้น บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะปรับราคาตั๋วเครื่องบินตามสถานการณ์ดังกล่าว

  • กรณีเกิดความผิดพลาดจากตัวแทน หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนมีการยกเลิก ล่าช้า เปลี่ยนแปลง การบริการจากสายการบินบริษัทฯขนส่ง หรือ หน่วยงานที่ให้บริการ บริษัทฯจะดาเนินโดยสุดความสามารถที่จะจัดบริการทัวร์อื่นทดแทนให้ แต่จะไม่คืนเงินให้สาหรับค่าบริการนั้นๆ

  • หากไม่สามารถไปเที่ยวในสถานที่ที่ระบุในโปรแกรมได้ อันเนื่องมาจากธรรมชาติ ความล่าช้า และความผิดพลาดจากทางสายการบินจะไม่มีการคืนเงินใดๆทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ทางบริษัทฯจะจัดหารายการเที่ยวสถานที่อื่นๆมาให้ โดยขอสงวนสิทธิ์การจัดหานี้โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า

  • เมื่อท่านออกเดินทางไปกับคณะแล้ว ท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่ง หรือไม่เดินทางพร้อมคณะถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่อาจเรียกร้องค่าบริการ และเงินมัดจำคืน ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น

  • กรณีผู้เดินทางไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากเอกสารปลอมหรือการห้ามของเจ้าหน้าที่ไม่ว่าเหตุผลใดๆ ก็ตามทางบริษัทของสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด

  • ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ราคานี้เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยและท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะแบบ Join Tour เท่านั้น กรณีต้องการตัดกรุ๊ปเหมาโปรดสอบถามทางบริษัทอีกครั้ง หากเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือ พระสงฆ์ โปรดสอบถามทางบริษัทอีกครั้ง

  • ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศกรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯก่อนทุกครั้งมีเช่นนั้นทางบริษัทฯจะ ไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น