ทัวร์อินเดีย มุมไบ ไหว้พระพิฆเนศ 10 องค์ เสริมความปัง 6วัน 4คืน โดยสายการบินไทย

ทัวร์อินเดีย มุมไบ ไหว้พระพิฆเนศ 10 องค์ เสริมความปัง

การผจญภัย ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ศาสนา ไหว้พระ เที่ยวเต็มวัน, ไม่มีวันอิสระ พักโรงแรม 4 ดาว บินตรง พิพิธภัณฑ์
รายละเอียด

ทัวร์อินเดีย มุมไบ ไหว้พระพิฆเนศ 10 องค์ เสริมความปัง 6วัน 4คืน โดยสายการบินไทย นำท่านเดินทางสู่ วัดสิทธิวินายัก • วัดพระแม่ลักษมี • เทวสถานศรีวรทาวินายัก • เทวสถานศรีจินดามณี • เทวสถานศรีมยุเรศวร • เทวสถานศรีสิธิวินายกะ•วัดศรีมหาคณปติ •วัดศรีวิฆเนศวา • วัดศรีคีรีจัตมา • องค์ดั๊กดูเศรษฐ์ ฮาลไว คณาปิติ • เทวสถานศรีบัลลาเลศวา


รหัสทัวร์ : TATIN8617
 เดลี, อินเดีย
สายการบินการบินไทย
วันที่เดินทาง :
29 พ.ค. 2567 ถึง 03 มิ.ย. 2567 ช่วงเวลาอื่น
ราคาเริ่มต้น
USD 1,034
ทำไมต้องจองทัวร์กับเรา
  • ราคาสุดท้ายไม่บวกเพิ่ม
  • รับประกันราคาที่ดีที่สุด
ติดต่อสอบถาม
02 001 5855
จันทร์ - เสาร์ 09:00 น. - 18:00 น.
ตารางการเดินทาง
  • วันที่
    1
    สุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ • มุมไบ อินเดีย

    16.00 น.   พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 2 ROW D เคาน์เตอร์สายการบินไทย THAI AIRWAYS (TG) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
    18.55 น.   ออกเดินทางสู่ เมืองมุมไบ ประเทศอินเดิย โดยเที่ยวบินที่ TG 317 (บริการอาหารบนเครื่อง)
    21.55 น.   เดินทางถึง ท่าอากาศยานสนามนานาชาติ ฉัตรปาตี ศิวะจี เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อย พบการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าหน้าที่ (เวลาท้องถิ่นของประเทศอินเดียช้ากว่าประเทศไทยประมาณ 1.30 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อสะดวกในการนัดหมาย)
    ที่พัก   KOHINOOR/ORCHID HOTEL หรือเทียบเท่า 4 ดาว ที่เมืองมุมไบ มาตรฐานประเทศอินเดีย
    (โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)

  • วันที่
    2
    เมืองมุมไบ • วัดสิทธิวินายัก • ประตูสู่อินเดีย • วัดพระแม่ลักษมี • เมืองมหัต • เทวสถานศรีวรทาวินายัก • เมืองปูเน่

    เช้า   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 1)
    จากนั้น นำท่านเดินทางสู่สิทธิวินายัก (Siddhivinayak Temple) ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองมุมไบ (บอมเบย์) องค์พระพิฆเนศที่นี่มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากที่อื่นตรงที่งวงหันไปทางขวา ถือว่าเป็นประธานของเทวรูปพระพิฆเณศทั้งหมดในโลก ผู้คนที่นับถือพระพิฆเนศทั้งในอินเดียและต่างประเทศ ต่างพากันไปสักการะบูชาและขอพรอย่างไม่ขาดสาย ผู้ที่มาสักการะพระองค์ 
    จากนั้น นำท่านสู่ ประตูสู่อินเดีย GATE WAY เป็นอนุสาวรีย์ซุ้มประตูโค้งแบบประตูชัย ที่ตั้งอยู่ในนครมุมไบ ประเทศอินเดีย ประตูสู่อินเดียสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการเสด็จฯ เยือนนครมุมไบของพระเจ้าจอร์จที่ 5 และ พระนางมาเรียแห่งเท็ค เมื่อปี 1911 ณ บริเวณอะพอลโลบันเดอร์ สถาปัตยกรรมที่ใช้คือแบบอินเดีย-ซาราเซน (Indo-Saracenic) และอนุสาวรีย์สร้างด้วยหินบะซอลต์ ความสูง 26 เมตร (85 ฟุต) ใช้เวลาสร้างสำเร็จในปี 1924 ปัจจุบันใช้เป็นสัญลักษณ์สำหรับพิธีต้อนรับรัฐมนตรีใหม่ของนครมุมไบ และเช่นกัน เป็นทางเข้าประเทศอินเดียหากเดินทางมาทางมหาสมุทรอินเดีย ประตูสู่อินเดียตั้งอยู่หน้าน้ำที่อะพอลโลบันเดอร์ ในทางทิศใต้ของนครมุมไบ มองออกไปคือทะเลอาหรับบางครั้งเรียกว่าเป็นทัชมาฮาลแห่งมุมไบ ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมือง 
    จากนั้น นำท่านสักการะ วัดพระแม่ลักษมี เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของอินเดีย สร้างขึ้นในปี 1831 โดยพ่อค้าชาวฮินดู ภายในประดิษฐานเทวรูปทองคำ พระแม่ลักษมี (Mahalakshmi) ผู้ที่มากราบไหว้บูชาแห่งนี้ จะประสบแต่ความร่ำรวย ความสำเร็จ โชคลาภมากมาย , พระแม่กาลี (Mahakali) คือผู้ปกป้องเราจากสิ่งไม่ดี , พระแม่สุรัสวตี (Mahasaraswathi) คือผู้บันดาลความเฉลี่ยวฉลาด ปัญญาเป็นเลิศ การงานสำเร็จ ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นที่นิยมของชาวอินเดียเดินทางมากราบไว้สักการะมากมาย
    เที่ยง   บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 2)
    จากนั้น เดินทางสู่เมืองมหัต ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร ( ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.)  
    นำท่านสักการะแห่งที่ 1 เทวรูปพระพิฆเนศ ณ เทวสถานศรีวรทาวินายัก (Shri Varad Vinayak) โดยองค์นี้หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก และงวงหันไปทางซ้าย ภายในวิหารที่ประดิษฐานพระวรทาวินายกะแห่งนี้ได้รับแสงสว่างจากตะเกียงน้ำมันที่มีความเชื่อว่าไม่เคยมอดดับตั้งแต่ปีคริสต์ศักราช 1892 โดยมี ปลายยอดโดมทำด้วยทองคำ และเป็นเทวสถานแห่งเดียวที่อนุญาตให้เข้าไปสักการะภายในวิหารได้ ภายนอกวิหารจะปรากฏช้างจำนวน 4 เชือก อยู่ทั้ง 4 ด้าน ผู้ใดที่มาสักการะ จะมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ลบล้างคุณไสย์ มนต์ดำต่างๆได้
    เย็น   บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 3)
    ที่พัก   THE PRIDE/ORCHID HOTEL หรือเทียบเท่า 4 ดาว ที่เมืองปูเน่ มาตรฐานประเทศอินเดีย
     (โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)

  • วันที่
    3
    ปูเน่ • เทอูร์  • เทวสถานศรีจินดามณี • โมเรกาวน์ • เทวสถานศรีมยุเรศวร • สิทธิเทก • เทวสถานศรีสิธิวินายกะ  • เมืองปูเน่

    เช้า   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 4)
    จากนั้น นำท่านเดินทางสักการะแห่งที่ 2 เทวสถานศรีจินดามณี (Shri Chintamani) ตั้งอยู่ที่ เทอูร์ ห่างจากเมืองปูเน่ประมาณ 25 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในเทวสถานในกลุ่มอัษฏวินายักกะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง เทวตำนานจากมุทคลปุราณะเล่าว่า กษัตริย์อภิจิต และ พระนางกุนวตี ทรงมีพระโอรสชื่อ คณราช ได้บำเพ็ญเพียรต่อองค์พระศิวะจนได้รับพรให้มีอำนาจเป็นใหญ่ในโลกทั้งสาม วันหนึ่งคณราชและกองทหารที่ติดตามออกมาล่าสัตว์ได้ ผ่านมาทางอาศรมของ ฤาษีกปิละ (กปิล) จึงได้ขอพักเหนื่อยบริเวณอาศรม พระฤาษีมีความเมตตาให้การต้อนรับ พร้อมทั้งเชิญราชบุตรและผู้ติดตามกินอาหารที่อาศรม พระฤาษีใช้ แก้วจินตามณี (จินดามณี-แก้วสารพัดนึก) เนรมิตอาหารเลี้ยงคณราชและกองทหารทั้งหมด เมื่อคณราชทราบว่าพระฤาษีมีแก้วที่ทรงคุณวิเศษ เกิดความโลภอยากได้จินดามณีมาก ถึงกับเอ่ยปากขอเอาดื้อๆ ฝ่ายพระฤาษีเห็นว่าเป็นของประทานจากองค์พระอินทร์ จึงปฏิเสธ เมื่อขอไม่ได้คณราชจึงใช้กำลังแย่งชิงจินดามณีมาเป็นของตน อาศรมของพระฤาษีตกอยู่ในความลำบากเดือดร้อน เพราะขาดแคลนอาหารที่จะนำมาเลี้ยงคนในอาศรม ฤาษีกปิลจึงอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากพระคเณศ คืนนั้นคณราชฝันไปว่าฤาษีกปิลได้ยกกองกำลังมาเพื่อนำจินดามณีกลับคืน หนึ่งในพลเสนาของพระฤาษีได้ตัดหัวคณราชด้วย ขวาน รุ่งเช้าจึงจัดแต่งกองกำลังเพื่อไปสังหารฤาษีกปิล พระคเณศเสด็จมาช่วยฤาษีกปิล ทำลายกองกำลังของคณราชจนหมดสิ้น คณราชเข้าต่อสู้กับองค์พระคเณศ สุดท้ายถูกพระคเณศสังหาร มหาราชอภิจิต บิดาของคณราช นำแก้วจินดามณีมาคืนแก่ฤาษีกปิล และขออภัยโทษในสิ่งที่คณราชทำ พระฤาษีอธิษฐานให้พระคเณศประทับอยู่ที่นี่ตลอดไป และได้ถวายแก้วจินดามณีนั้นประดับแด่องค์พระคเณศ พระคเณศที่เทวสถานแห่งนี้จึงมีพระนามว่า "ศรีจินดามณี" ผู้มาสักการะองค์ "พระศรีจินดามณี" จะสมหวัง ดังได้อธิษฐานต่อลูกแก้วจินดามณี
    จากนั้น นำท่านเดินทางสักการะแห่งที่ 3 เทวสถานศรีมยุเรศวร (Shri Mayureshwar) ประดิษฐานอยู่ที่ โมเรกาวน์ (Morgaon) กษัตริย์จักรปาณี และ พระนางอัครา ได้ทำพิธีขอบุตรจาก สุริยเทพ เมื่อทรงครรภ์พระนางก็ไม่ สามารถทนความร้อนแรงที่เกิดจากทารกในครรภ์ได้ จึงขับทารกออกจากครรภ์ และได้นำตัวอ่อนของทารกไปฝากไว้กับ พระสมุทร ในทะเล บังเกิดเป็นทารกที่มีกายสีแดง พระโอรสได้รับพระนามว่า สินธุ เพราะถือกำเนิดจากทะเล เมื่อสินธุเติบโตขึ้น บำเพ็ญตบะพร่ำสวดมนตราภาวนาต่อองค์พระสุริยเทพเป็นเวลาถึงสองพันปี จนสุริยเทพพอพระทัย จึงเสด็จมาให้พรสินธุขอพรให้เป็นอมตะ สุริยเทพประทานหม้อน้ำอมฤตโดยบอกว่า ตราบใดที่น้ำอมฤตนี้ยังอยู่ในท้อง ก็จะไม่มีผู้ใดฆ่าสินธุได้ เมื่อได้พรแล้วก็กลับมายังอาณาจักรสืบราชสมบัติต่อจากพระบิดา แต่นิสัยใจคอนั้นดุร้ายเหี้ยมโหดดังอสูร จับเทวดานางฟ้ากักขัง จนบรรดาทวยเทพต้องร่วมกันอ้อนวอนต่อองค์พระคเณศให้ช่วยเหลือ พระคเณศทรงประทับมาบนหลังนกยูง ใช้ขวานผ่าท้องสินธุ เอาหม้อน้ำอมฤตออกจากท้องแล้วสังหารสินธุด้วยการตัดหัว หลังจากที่หัวของสินธุขาดก็เกิดเป็นสีแดงสดใสสาดไปทั่วทั้งสวรรค์ บังเกิดเป็นผงเจิมสีแดงสดที่ใช้ในการบูชาเทพเจ้า ผงนี้จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "ผงสินธู"  ผู้ที่มาสักการะองค์ "พระศรีมยุเรศวร" จะปราศจากอุปสรรคและอันตรายใดๆมาแผ้วพาน 
    เที่ยง   บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 5) 
    จากนั้น เดินทางสู่เมืองสิทธาเทก อยู่ห่างจาก เทอูร์ 74 กิโลเมตร ( ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชม. )
    นำท่าน เดินทางสักการะแห่งที่ 4 เทวสถานศรีสิทธิวินายกะ (Shri Siddhivinayaka) ประดิษฐานอยู่ที่ สิทธาเทก ในคเณศ  ปุราณะ ได้กล่าวถึงตำนานเทวสถานแห่งนี้ว่า ในขณะที่ พระพรหม รังสรรค์โลกและสรรพสิ่งทั้งหลายอยู่นั้น  ครั้งนั้นพระองค์ได้ให้กำเนิดเทวีขึ้น 2 องค์คือ พระนางพุทธิ และ พระนางฤทธิ  พระองค์ได้ประทานบุตรีทั้ง 2 องค์นี้ให้เป็นชายาแก่ พระคเณศ ในเวลานั้น องค์พระหริวิษณุเทพ (พระนารายณ์) อยู่ในระหว่างบรรทมสินธุ์ ณ เกษียรสมุทร มูลพระกรรณ(หรือขี้หู) ของพระวิษณุ 2 เม็ดได้ไหลออกมาจากพระกรรณ กลายเป็นอสูร 2 ตนคือ มาธุสูร และ ไกตภสูร พวกอสูรได้ก่อกวนองค์พระพรหมจนต้องเสด็จไปพึ่งพระวิษณุ เมื่อทราบเรื่องราวของอสูรแล้วจึงได้เสด็จไปปราบอสูรทั้งสอง แต่ก็ไม่สามารถกำราบอสูรลงได้ พระองค์จึงเสด็จไปพบองค์ พระศิวะ เพื่อปรึกษาหนทางที่จะปราบอสูร หลังจากนั้นองค์พระคเณศปรากฎต่อพระวิษณุและให้พรในการปราบอสูร พระวิษณุเทพจึงสามารถสังหารอสูรทั้งสองลงได้สำเร็จ หลังจากนั้นพระวิษณุจึงสร้างเทวสถานขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อครอบสวยัมภูมูรติของพระคเณศ ณ สถานที่แห่งนี้ที่ทำให้พระองค์มีชัยชนะในสงคราม พระคเณศได้ประทานนามแก่เทวสถานแห่งนี้ว่า "สิทธิวินายกะ" ผู้ใดได้สักการะองค์ "ศรีสิทธิวินายัก" นี้จะประสบความสำเร็จในการงานทุกประการ
    จากนั้น เดินทางสู่เมืองปูเน่ 
    เย็น   บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 6)
    ที่พัก   THE PRIDE/ORCHID HOTEL หรือเทียบเท่า 4 ดาว ที่เมืองปูเน่ มาตรฐานประเทศอินเดีย
    (โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)

  • วันที่
    4
    รันยันกาวน์ •วัดศรีมหาคณปติ •โอซาร์ • วัดศรีวิฆเนศวา • เลนยาตรี • วัดศรีคีรีจัตมา •ปูเน่

    เช้า   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 7)
    จากนั้น นำท่านเดินทางสักการะแห่งที่ 5 วัดศรีมหาคณปติ (Sri Mahaganapati) แห่งเมือง รันยันกาวน์ เทวตำนานเล่าว่า ขณะที่ฤาษีคฤตสมาชนั่งบำเพ็ญเพียรภาวนาได้จามออกมาเป็นกุมารน้อยผิวสีแดง จึงสอนให้กุมารสวดบูชาต่อพระพิฆเนตร กุมารน้อยบำเพ็ญเพียรกว่าห้าพันปีทำให้พระพิฆเนศพอใจเป็นอย่างมากจึงประทานพรให้ แต่กุมารขอให้ตนเองมีอำนาจเหนือ 3 โลก พระพิฆเนศให้ตามที่ขอโดยการเนรมิตประสาท 3 หลัง คือประสาททองคำ ประสาทเงิน และประสาทโลหะให้ และตรัสว่า “ต่อไปนามของเจ้าคือ ตรีปุระ และวันใดที่เจ้าชั่วร้าย ประสาทเหล่านี้จะถูกทำลายและเจ้าจะถูกทำลายเสวยศรดอกเดียวของพระศิวะ บิดาแห่งข้า” ต่อมาตรีปุระลำพองตนรุกรานทั้ง 3 โลก องค์พระศิวะจึงเสด็จมาปราบ และหลังจากบวงสรวงต่อพระพิฆเนศแล้วพระศิวะก็ปราบตรีปุระได้สำเร็จ จึงเชื่อว่าเทวสถานแห่งนี้เป็นสถานที่ที่พระศิวะบวงสรวงต่อพระพิฆเนศ การสักการะองค์ศรีมหาคณปติจะทำให้มีอำนาจยิ่งใหญ่ สามารถพิชิตมารร้ายและอุปสรรคทั้งหลายได้สำเร็จ ผู้ที่มาสักการะองค์ "ศรีมหาคณปติ" ที่นี่จะได้รับความสำเร็จสบปรารถนา 
    เที่ยง   บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 8)
    จากนั้น เดินทางสู่เมืองโอซาร์ (ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชม.) นำท่านเดินทางสักการะแห่งที่ 6 วัดศรีวิฆเนศวา (Sri Vighneshwar) ประดิษฐานอยู่ที่ โอซาร์ เทวะสถานแห่งนี้มีชื่อเสียงมากในเรื่องความงดงามทางสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะยอดโดมที่เป็นทองคำและความงดงามของพวงมาลัยที่ประดับอยู่ที่ตัวเทวาลัย นามขององค์ศรีวิฆเนศวรมาจากเทะวตำนานว่า กษัตริย์ อภินันทะประกอบพิธีบูชายัญเพื่อจุติมาเป็นอินทรเทพ พระอินทร์ได้ทราบดังนั้นจึงสร้างวิฆนาสูรเพื่อส่งไปทำลายพิธีกรรมของกษัตริย์อภินันทะ แต่อสูรตนนี้กลับทำลายพิธีทั้งหมดทำให้ธรรมะเลือนหายไปจากทั้งสามโลก เหล่าฤาษีนักบวชจึงอ้อนวอนต่อพระพิฆเนศให้เสด็จมาปราบอสูร พระพิฆเนศใช้อำนาจสยบอำนาจทั้งหมดของอสูรทำให้วิฆนาสูรยอมแพ้และถวายตัวต่อองค์พระพิฆเนศเพื่อให้ไว้ชีวิตตนและขอร้องให้องค์พระพิฆเนศใช้ชื่อของตัวเองรวมกับพระนามของพระองค์เพื่อล้างบาปและเป็นบุญกุศลแก่อสูร เทวรูปพระพิฆเนศที่นี่จึงถูกขนานนามว่า “ศรีวิฆเนศวร” หมายถึงผู้ขจัดอุปสรรคและภยันตราย 
    เชื่อว่าผู้ที่มาสักการะองค์ศรีวิฆเนศวรก่อนทำการใดๆ จะทำการนั้นได้สำเร็จราบรื่น ไร้อุปสรรค
    นำท่านเดินทางสู่เมืองเลนยาตรี 
    จากนั้น นำท่านเดินทางสักการะแห่งที่ 7 วัดศรีคีรีจัตมา (Sri Girijatmaj) ประดิษฐานอยู่ที่ เลนยาตรี ตั้งอยู่ในถ้ำบนภูเขาริมแม่น้ำกุกดี เมืองเลนยาตรี (Lenyadri) ซึ่งครั้งหนึ่งถ้ำที่ภูเขาแห่งนี้ ได้ขุดเจาะเพื่อเป็นวัดในพระพุทธศาสนา หลังจากพระพุทธศาสนาเริ่มเสื่อม ศาสนาฮินดูก็รุ่งเรือง และภายในถ้ำแห่งนี้ก็เกิดปาฏิหาร มีพระพิฆเนศเกิดขึ้นมาทำให้ชาวฮินดูขึ้นมายาตรามหาเทพ จึงทำให้ถ้ำแห่งนี้กลายเป็นถ้ำของพระพิฆเนศ การสักการะองค์พระพิฆเนศ จะต้องขึ้นบันได 283 ขั้น เท วะตำนานแห่งนี้เล่าว่า พระแม่ปารวตี (พระอุมาเทวี) ต้องการโอรสมากจึงได้ทำพิธีปันยากพรต (บุญยักวริตะ) ขึ้นเพื่อเป็นการบูชาต่อพระวิษณุเทพ ตามการแนะนำของพระศิวะเป็นเวลาหนึ่งปี ทำให้พระวิษณุโปรดปราณมาก จึงให้พระกฤษณะไปกำเนิดเป็นบุตรของพระแม่อุมาเทวี และสถานที่ที่พระแม่อุมากระทำพิธีก็คือเทวะสถานคีรีจัตมาแห่งนี้นี่เอง จึงเชื่อกันว่า พระพิฆเนศเป็นอวตารปางหนึ่งของพระกฤษณะด้วยการยาตรามายังถ้ำเทวะสถานคีรีจัตมาแห่งนี้ก็เพื่อขอบุตร ซึ่งผลบุญแห่งการยาตรามาแสวงบุญนี้ จะทำให้ผู้ที่ยังไม่มีบุตรและมาประกอบพิธีขอบุตรที่นี่จะประสบความสำเร็จสมหวังเสมอและ จะได้บุตรที่ดีเฉลียวฉลาดและมีปัญญาหลัก  แหลมเหมือนดังองค์พระคเนศ และที่บริเวณถ้ำแห่งนี้สามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองเลนยาตรีได้อีกด้วย 
    เย็น   บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 9)
    ที่พัก   THE PRIDE/ORCHID HOTEL หรือเทียบเท่า 4 ดาว ที่เมืองปูเน่ มาตรฐานประเทศอินเดีย
    (โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)

  • วันที่
    5
    ปูเน่ • องค์ดั๊กดูเศรษฐ์ ฮาลไว คณาปิติ • เมืองปาลี • เทวสถานศรีบัลลาเลศวา • มุมไบ • สนามบินฉัตรปาตี ศิวะจี มุมไบ

    เช้า   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 10)
    จากนั้น นำท่านสักการะองค์ดั๊กดูเศรษฐ์ ฮาลไว คณาปิติ(Dagadusheth Halwai Ganapati) ประดิษฐานอยู่ที่ เทวลัยพระพิฆเนศวร เมืองปูเน่ เป็นองค์พระพิฆเนศหล่อจากทองคำ ตกแต่งด้วยเครื่องทรงและเครื่องประดับจากทองคำแท้ ความสูง 7.5 ฟุต เชื่อกันว่าผู้ใดที่ได้มาสักการะจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ร่ำรวยเงินทองแบบมหาศาล
    พิเศษ!!! ร่วมพิธี Abhishekam ที่ Dagdusheth Temple
    จากนั้น   เดินทางสู่เมืองปาลี (PALI) (ใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ช.ม.)  นำท่าน สักการะแห่งที่ 8 เทวรูปพระพิฆเนศ ณ เทวสถานศรีบัลลาเลศวา (Shri Ballaleshwar Pali) โดยสวยัมภูมูรติองค์นี้หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก และงวงหันไปทางซ้าย บริเวณพระเนตร และพระนลาฏ (หน้าผาก) ประดับด้วยเพชร ประทับอยู่บนบัลลังก์ไม้แกะสลัก โดยมี มุสิกะ หนูเทวพาหนะของพระองค์ท่าน เหยียบขนมโมทกะอยู่บริเวณด้านหน้าของเทวรูปบริเวณด้านหลังเทวสถานแห่งนี้จะปรากฏ เทวสถานศรีทุนธิ (Shree Dhundi Temple) ที่ประดิษฐานหินพระคเณศ ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นหินพระเคณศเดียวกับที่ถูกนายกัลยัน บิดาของ เด็กหนุ่มบัลลาเขวี้ยงทิ้ง ผู้ใดที่มาสักการะจะได้รับความสุขทั้งครอบครัว
    เที่ยง   บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 11)
    จากนั้น นำท่านเดินทางกลับเมืองมุมไบ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)
    เย็น   บริการอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 12)
    ได้เวลาอันสมควร เดินทางเข้าสู่ สนามบินมุมไบ ประเทศอินเดีย เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ TG 318 (บริการอาหารบนเครื่อง)
    23.35 น.   ออกเดินทางจากสนามบินนานาชาติ ฉัตรปาตี ศิวะจี เมืองมุมไบ มุงหน้าสู่ ประเทศไทย

  • วันที่
    6
    สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ

    05.35 น.   เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม

มื้ออาหารและที่พัก
วันที่
อาหารเช้า
อาหารเที่ยง
อาหารเย็น
โรงแรม
1
KOHINOOR/ORCHID HOTEL or equivalent 4 stars in Mumbai. Indian country standards
2
THE PRIDE/ORCHID HOTEL or equivalent 4 stars in Pune. Indian country standards
3
THE PRIDE/ORCHID HOTEL or equivalent 4 stars in Pune. Indian country standards
4
THE PRIDE/ORCHID HOTEL or equivalent 4 stars in Pune. Indian country standards
5
6
ข้อตกลงและเงื่อนไข
  • ชำระเงินเต็มจำนวน

  • การจองนี้ยังไม่ใช่การยืนยันที่นั่ง  (เนื่องจากที่ว่างมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา) เจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการเช็คที่นั่งว่างและแจ้งกลับลูกค้าอีกครั้ง ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง

แพ็กเกจนี้รวม
  • ตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัดไป - กลับ พร้อมกรุ๊ป เป็นตั๋วหมู่คณะไม่สามารถสะสมไมล์ได้

  • ภาษีน้ำมันและภาษีตั๋วทุกชนิด (สงวนสิทธิ์เก็บเพิ่มหากสายการบินปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง)

  • ค่าระวางน้ำหนักกระเป๋าไม่เกิน 20 กก.ต่อ 1 ใบ (โหลดได้ท่านละ 1 ใบ) กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง Hand Cary 7 กก.ต่อ 1 ใบ

  • ที่พักโรงแรมตามรายการ พักห้องละ 2-3 ท่าน (กรณีที่โรงแรมไม่มีห้องพักสำหรับ 3 ท่าน ลูกค้าจะต้องเพิ่มเงินเป็นห้องพักห้องเดี่ยว)

  • มื้ออาหารตามรายการระบุ (สงวนสิทธิในการสลับมื้อหรือเปลี่ยนแปลงเมนูอาหารตามสถานการณ์)

  • ค่าน้ำดื่มบนรถวันละ 1 ขวด/ท่าน

  • ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการระบุ

  • ค่ารถโค้ช รับ-ส่ง สถานที่ท่องเที่ยวตามรายการระบุ

  • ประกันอุบัติเหตุวงเงิน 1,000,000 บาท (เป็นไปเงื่อนไขตามกรมธรรม์)

  • เงื่อนไขประกันการเดินทาง ค่าประกันอุบัติเหตุและค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองเฉพาะกรณีที่ได้รับอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง ไม่คุ้มครองถึงการสูญเสียทรัพย์สินส่วนตัวและไม่คุ้มครองโรคประจำตัวและปัญหาสุขภาพอื่นๆ ของผู้เดินทาง

แพ็กเกจนี้ไม่รวม
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีทัก ณ ที่จ่าย 3%

  • ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติ

  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าเดินทางในกรณีที่เกินกว่าสายการบินกำหนด 30 กิโลกรัมต่อท่าน

  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มพิเศษ,ทรศัพท์-โทรสาร,อินเตอร์เน็ต,มินิบาร์,ชักรีดที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ

  • ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความล่าช้าของสายการบิน,อุบัติภัยทางธรรมชาติ,การประท้วง,การจลาจล,การนัดหยุดงาน,การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกและเข้าเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งที่เมืองไทยและต่างประเทศชั่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัทฯ

  • หากหน่วยงานรัฐบาลไทย และ/หรือ อินเดียมีการปรับเปลี่ยนข้อกำหนดเกี่ยวกับการกักตัวเพิ่มเติม และ/หรือ ขอเรียกตรวจโรคเพิ่มเติม ทางผู้เดินทางจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนเกินด้วยตนเอง

  • ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น, พนักงานขับรถ  (บังคับตามระเบียบธรรมเนียมของประเทศ)

  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ตามสินน้ำใจของทุกท่าน (ไม่รวมในค่าทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถนะคะแต่ไม่บังคับทิปค่ะ)

  • วีซ่าเข้าประเทศเนปาล  **เงื่อนไขวี่ซ่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามประกาศของเนปาล**

เงื่อนไขการยกเลิก
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 45 วันขึ้นไป บริษัทฯ จะคืนเงินค่ามัดจำให้ทั้งหมด โดยหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ยกเว้นในกรณี วันหยุดเทศกาล, วันหยุดนักขัตฤกษ์ ยกเลิกก่อนการเดินทาง 60 วัน จะคืนเงินค่ามัดจำให้ทั้งหมด โดยหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง (ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง อาทิเช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าโรงแรม ฯลฯ)

  • ยกเลิกการเดินทาง 45 วัน ก่อนการเดินทาง หักค่าทัวร์ 50% จากราคาขาย และหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมดไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น (ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง อาทิเช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าโรงแรม ฯลฯ)

  • ยกเลิกการเดินทาง 30 วัน ก่อนการเดินทาง บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เก็บเงินค่าทัวร์ทั้งหมดไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น

หมายเหตุ
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมด กรณีท่านยกเลิกการเดินทางและมีผลทำให้คณะเดินทางไม่ครบตามจำนวนที่ บริษัทฯ กำหนดไว้ เนื่องจากเกิดความเสียหายต่อทางบริษัทฯ และผู้เดินทางอื่นที่เดินทางในคณะเดียวกันบริษัทต้องนำไปชำระค่าเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดจากการยกเลิกของท่าน

  • ในกรณีที่มีผู้เดินทางไม่ถึงขั้นต่ำ ขอสงวนสิทธิ์เลื่อนวันเดินทาง หรือยกเลิกการเดินทาง โดยทางบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า 10 วัน ก่อนการเดินทาง

  • กรณีที่ท่านต้องออกตั๋วภายใน เช่น (ตั๋วเครื่องบิน, ตั๋วรถทัวร์, ตั๋วรถไฟ) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนทำการออกตั๋ว เนื่องจากสายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ทบิน หรือเวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทางบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ

  • ในกรณี ถ้าท่านออกตั๋วภายในโดยไม่แจ้งให้ทราบและหากไฟล์บินมีการปรับเปลี่ยนเวลาบินเพราะถือว่าท่านยอมรับในเงื่อนไขดังกล่าว

  • กรณีผู้เดินทางที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น การขอใช้วีลแชร์ที่สนามบิน กรุณาแจ้งบริษัทฯ อย่างน้อย 7 วันก่อนการเดินทาง หรือเริ่มตั้งแต่ท่านจองทัวร์ มิฉะนั้นทางบริษัทฯไม่สามารถจัดการได้ล่วงหน้า ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายตามจริงที่เกิดขึ้นกับผู้เดินทาง (ถ้ามี)

  • กรณีท่านเป็นอิสลาม ไม่สามารถทานอาหารบางประเภทได้ โปรดระบุให้ชัดเจนก่อนทำการจอง กรณีแจ้งล่วงหน้าก่อนเดินทางกะทันหัน อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

  • กรณีใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มน้ำเงิน) เดินทางเพื่อการท่องเที่ยวกับคณะทัวร์ หากท่านถูกปฏิเสธในการเข้า - ออกประเทศใดๆ ก็ตาม ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนค่าทัวร์และรับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น

  • เมื่อท่านได้ชำระเงินมัดจำหรือทั้งหมด ทางบริษัทฯจะถือว่าท่านรับทราบและยอมรับในเงื่อนไขต่างๆของบริษัทฯที่ได้ระบุไว้ในรายการทัวร์ทั้งหมด