ขั้นตอนการเดินทางเข้าญี่ปุ่น 2022

Atchamaporn R.

     ใครที่ได้ข่าวว่าญี่ปุ่นเตรียมเปิดประเทศเดือนมิถุนายนนี้ อย่าเพิ่งผลีผลามจองเที่ยวกัน เพราะมาตรการในตอนนี้นั้นยังไม่แน่นอนและไม่เป็นทางการแต่อย่างใด อาจเปิดจริงแต่รองรับนักท่องเที่ยวบางส่วนเท่านั้น หรืออาจจะเลื่อนออกไปอีกก็เป็นได้! จะให้ดีก็ต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการเท่านั้น

     โดยปัจจุบันขั้นตอนการเดินทางเข้าญี่ปุ่น ต้องเป็นผู้ที่มีถิ่นพำนักหรือได้รับวีซ่าจากสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย (ทางการญี่ปุ่นยังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยว) โดยก่อนเดินทางต้องแสดงผลตรวจ RT-PCR เป็นลบ ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนขึ้นเครื่องโดยใช้แบบฟอร์มที่ทางการญี่ปุ่นกำหนด และดาวน์โหลด application MySOS ไว้ในมือถือ

     เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ญี่ปุ่นได้ปรับมาตรการเดินทางเข้าเมือง โดยผู้ที่เดินทางจากประเทศไทยและฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มตามข้อกำหนดของญี่ปุ่น จะได้ผ่อนผันไม่ต้องกักตัว มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป สรุปรายละเอียดได้ ดังนี้

     1. วัคซีนที่ญี่ปุ่นรับรองสำหรับการผ่อนผันระยะเวลากักตัว ได้แก่
         1.1. วัคซีน 2 เข็มแรก ได้แก่ Pfizer, AstraZeneca, Moderna จำนวน 2 เข็ม และ Johnson & Johnson 1 เข็ม
          1.2. วัคซีนเข็มที่ 3 ได้แก่ Pfizer และ Moderna

     2. มาตรการกักตัว
          2.1. กลุ่มประเทศ/พื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งรวมถึงไทย
               2.1.1. โดยหลักการ ผู้ที่เดินทางเข้าจากกลุ่มประเทศ/พื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ
สายพันธุ์โอไมครอนจะต้องกักตัว 7 วันที่บ้านพัก
               2.1.2. สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนครบ 3 เข็มตามข้อ 1 จะต้องกักตัว 7 วันที่บ้าน ทั้งนี้
หากยื่นผลตรวจเชื้อโดยสมัครใจ (PCR หรือ ATK) ตั้งแต่วันที่ 3 ที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นเป็นต้นไป (วันที่เดินทางถึงนับเป็นวันที่ 0) ต่อกระทรวงสาธารณสุขฯ ญี่ปุ่น สามารถสิ้นสุดการกักตัวได้เมื่อได้รับการยืนยันผลจากกระทรวงสาธารณสุขฯ ญี่ปุ่นแล้ว
               2.1.3. สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มตามข้อ 1 ไม่ต้องกักตัวแต่อย่างใด
         2.2. กลุ่มประเทศ/พื้นที่ที่เข้าข่ายมาตรการเข้าเมืองของญี่ปุ่น ซึ่งพบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯสายพันธ์ Beta, Gamma, Delta, Eta, Iota, Kappa, Lambda และ Mu ได้แก่ อัฟกานิสถาน อาร์เจนตินา บังกลาเทศ เบลเยียม โบลิเวีย บราซิล ชิลี โคลอมเบีย คอสตาริกา คิวบา เดนมาร์ก สาธารณรัฐโดมินิกัน เอกวาดอร์ จอร์เจีย กรีซ อินเดีย อินโดนีเซีย คาซักสถาน คีร์กีซสถาน ลิเบีย มาเลเซีย มัลดีฟส์ โมแซมบิก เมียนมา เนปาล ปากีสถาน ปารากวัย เปรู ฟิลิปปินส์ โปรตุเกส รัสเซีย (กรุงมอสโกและคาบารอฟสก์) อุซเบกิสถาน แอฟริกาใต้ เซย์เชลส์ สเปน ศรีลังกา ซูรินาเม แทนซาเนีย ตรินิแดดและโตเบโก ตุรกี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร อุรุกวัย เวเนซูเอลา และแซมเบีย
               2.2.1. สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนครบ 3 เข็มตามข้อ 1 จะต้องกักตัว 3 วันในสถานกักตัว
ที่รัฐบาลญี่ปุ่นจัดหา อย่างไรก็ดี หากผลตรวจเชื้อ PCR ที่สถานกักตัวในวันที่ 3 เป็นลบก็ไม่ต้องกักตัวต่อที่บ้าน
(สิ้นสุดการกักตัวทั้งหมด)
               2.2.2. สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มตามข้อ 1 จะต้องกักตัว 7 วันที่บ้าน ทั้งนี้ หากยื่นผลตรวจเชื้อโดยสมัครใจ (PCR หรือ ATK) ตั้งแต่วันที่ 3 ที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นเป็นต้นไป (วันที่เดินทางถึงนับเป็นวันที่ 0) ต่อกระทรวงสาธารณสุขฯ ญี่ปุ่น สามารถสิ้นสุดการกักตัวได้เมื่อได้รับการยืนยันผลจากกระทรวงสาธารณสุขฯ ญี่ปุ่นแล้ว

     3. การใช้ระบบการขนส่งสาธารณะ สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไปกักตัวที่บ้านตามข้อ 2.1.2 และ 2.2.2 สามารถใช้ระบบการขนส่งสาธารณะได้ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังจากได้รับการตรวจเชื้อเมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่นแล้ว
(on-arrival test)

     4. การอนุญาตให้กลุ่มชาวต่างชาติเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้เพิ่มเติม ได้แก่
         4.1. ผู้เดินทางระยะสั้น (ต่ำกว่า 3 เดือน) เพื่อดำเนินธุรกิจและทำงาน
         4.2. ผู้ที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นใหม่เพื่อพำนักในญี่ปุ่นระยะยาว

หมายเหตุ: นักท่องเที่ยวยังไม่สามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้

ดังรายละเอียดปรากฏตามเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น และเอกสารมาตรการเข้าเมืองของญี่ปุ่นฉบับที่ 27 
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นอาจปรับปรุงมาตรการตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป จึงขอให้ติดตามข่าวสารจากทางการญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด คุณสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม ตามเว็บไซต์สถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย

ข้อมูลจาก  สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น