เก็บกระเป๋า แล้วไปฟินที่ Spain

พระราชวังหลวง (Palacio Real )ที่เมืองมาดริด เป็นที่พำนักอย่างเป็นทางการของกษัตริย์สเปน แม้ว่าจะใช้เฉพาะพิธีการเฉลิมฉลองของรัฐเท่านั้น เป็นสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่ดัดแปลงมาจากกรีก-โรมัน ด้านนอกตกแต่งในสไตล์แบบอิตาเลี่ยน ส่วนภายในตกแต่งแบบฝรั่งเศส ถูกตกแต่งด้วยภาพศิลป์ พรม เครื่องลายคราม และเครื่องประดับอันมีค่ามากมาย นับเป็นพระราชวังที่งดงามแห่งหนึ่งของโลก

เทศกาลสุดคลั่งที่หาดูได้แค่ที่นี่แหละ จัดขึ้นทุกปีตั้งแต่วันที่ 6 - 14 กรกฎาคม หัวใจของเทศกาลคือ El Encierro ซึ่งคือการปล่อยวัวกระทิงประมาณ 12 ตัวให้ลงมาวิ่งขวิดผู้คนบนถนนหินแคบๆ เป็นระยะทาง 846 เมตร เพื่อไปยังสนามต่อสู้วัวเพื่อที่จะสู้กับมาทาดอร์ต่อไป

ชายหาด La Concha ตั้งอยู่ที่เมือง San Sebastian ประเทศสเปน เป็นชายหาดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดอันดับต้น ๆ ของยุโรป มีทั้งพักผ่อน เล่นน้ำ นอนอาบแดด ชายหาดจะมีลักษณะเป็นอ่าวโค้งครึ่งวงกลม ที่ชายหาดมีทั้ง โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร ครบครันทุกความสะดวกสบาย

สะพานส่งน้ำที่เซโกเบียเป็นอนุสาวรีย์ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีโดยชาวโรมันในประเทศสเปน สะพานส่งน้ำเก่าแก่แห่งนี้ ลำเลียงน้ำ 16 กม จากแม่น้ำฟรีโอไปยังเมืองเซโกเบีย และสร้างขึ้นจากบล็อคหินแกรนิตขนาดใหญ่ 24,000 บล็อคโดยไม่ต้องใช้ปูน ถือเป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง Segovia ที่ยืนตระหง่านเป็นด่านแรกในการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองที่เดินทางมายังเมืองนี้

เมืองเกวงกา (Cuenca)  ตั้งอยู่ระหว่างเมืองมาดริดและวาเลนเซีย เมืองเกวงกาเป็นตัวอย่างเมืองหนึ่งที่น่าอัศจรรย์ จุดเด่นของ Cuenca ก็คือ การสร้างบ้านริมหน้าผา จนแทบจะแยกกันไม่ออก ความแปลกก็คือ เค้าจะสร้างบ้านในส่วนของระเบียง ให้ยื่นออกมาจากหน้าผา และมีจุดชมวิวบนยอดผาที่สามารถเดินลัดเลาะไปตามภูเขาเพื่อดูทิวทัศน์ทั้งเมืองได้

นี่คือเกาะปาร์ตี้ระดับโลก กลางวันเดินเล่น อาบแดด ส่วนกลางคืนไปเพื่อ เต้น และ เมา อย่างแท้จริง แถมหาดบางหาดยังเป็นหาดเปลือยอีกด้วย! แต่นอกจากปาร์ตี้แล้วที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติที่สวยงาม และแหล่งโรงแรม สปาชั้นเลิศที่น่าลองมาใช้บริการซักครั้งในชีวิต

เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก ออกแบบโดย อันโตนี เกาดี้ (Antoni Gaudí) สถาปนิกชาวคาตาลันที่ทำงานในโครงการนี้มาเกือบ 40 ปีจนกระทั่งเสียชีวิตในปี 2469 ตอนนี้ก็ยังสร้างที่แห่งนี้ไม่เสร็จ ยังไงก็ตาม ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งในบาร์เซโลน่าแล้วค่ะ ด้วยดีไซน์ของโบสถ์ที่อลังการ เน้นความใหญ่โตด้วยเส้นโค้ง มุมแหลม แทนที่จะใช้เส้นตรงหรือมุมฉากอย่างการก่อสร้างทั่วๆ ไป เกิดเป็นผลงานที่เรียกว่าโมเดิร์นนิสโมอย่างที่เห็น

เอลเอสโกเรียลอยู่ที่ตีนเขากวาดาร์รามา พระเจ้าฟิลิปที่ 2 แต่งตั้งให้ ควน เบาติสตา เด โตเลโด (Juan Bautista de Toledo)  เป็นสถาปนิกในปี ค.ศ. 1559 และได้ร่วมกันออกแบบเอลเอสโกเรียล เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงบทบาทของสเปนในฐานะศูนย์กลางของโลกคริสเตียน ปัจจุบันมีหน้าที่เป็นวัดอารามหลวง  พิพิธภัณฑ์และโรงเรียน

อยู่ที่เมืองกอร์โดบา (Cordoba) เป็นมัสยิดที่มีความสวยงามน่าหลงใหลซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องของเสาหินที่วิจิตร งดงาม และซุ้มภายในห้องโถงใหญ่ ก่อนที่ อุมัยยะฮ์ มัวร์ (Umayyad Moors) จะสร้างมัสยิดแห่งนี้ สถานที่นี้เดิมเป็นวัดโรมันและโบสถ์วิสิกอธส์ หลังจากการพิชิตดินแดนคืนในสเปน ที่นี่ก็ถูกสร้างอยู่ใจกลางของอาคารแขกมัวร์

พระราชวัง และป้อมปราการ ตั้งอยู่ที่เมือง กรานาดาในแคว้นอันดาลูเซีย ทางภาคใต้ของประเทศสเปน คำว่า "อาลัมบรา" มาจากคำในภาษาอาหรับว่า "อัลคัมรอ" แปลว่า "(สิ่งที่มี) สีแดง" เนื่องจากตัวป้อมปราการนั้นก่อสร้างด้วยหิน ดิน และอิฐสีแดง ส่วนอาคารอื่น ๆ ซึ่งสร้างด้วย การใช้ปูนขาวเป็นส่วนประกอบก็จะเห็นเป็นสีออกแดง ๆ ตัวพระราชวังตั้งอยู่บนเนินเขาหินขนาดใหญ่ ความงามของที่นี่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมหาศาล