10 สวนสัตว์ Top Hits เมืองไทย ไม่ควรพลาด

Pawana Tiensiri

     เที่ยวสวนสัตว์ในเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้..ว่าดีแค่ไหน ออกไปเรียนรู้การดำรงชีวิตและสัมผัสสัตว์ต่างๆ ที่มากกว่าการดูผ่านหนังสือหรือหน้าจอโทรศัพท์มือถือ คือ การเที่ยวสวนสัตว์ สัตว์หลายชนิดอาศัยอยู่ในป่ายากที่คุณจะได้เห็นหรือได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด การนำสัตว์ชนิดต่างๆ มาดูแล ให้อาหาร ให้การเลี้ยงดูที่ดีในสวนสัตว์ต่างๆ ไม่ใช่การทรมานสัตว์ แต่อีกแง่มุมหนึ่งเพื่อการเรียนรู้และเพื่อการอนุรักษ์สัตว์ต่างๆ ให้ดำรงชีวิตสืบพันธุ์ ขยายผลให้เติบโตไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลานได้เห็น สวนสัตว์หลายแห่งในเมืองไทยมีทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ที่มีความรู้ความสามารถในการดูแลสัตว์แต่ละชนิด รวมไปถึงสัตว์บางชนิดสามารถเรียนรู้และฝึกฝนความสามารถจนเกิดเป็นการแสดงที่น่ารักน่าเอ็นดูรอให้คุณได้ไปชม ไปดูกันว่า 10 สวนสัตว์ Top Hits เมืองไทย ไม่ควรพลาด มีที่ไหนกันบ้าง

1. สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี

     สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ตั้งอยู่ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เป็นสวนสัตว์ขนาดใหญ่ มีพื้นที่มากถึง 5,000 ไร่ ที่สำคัญไม่ไกลจากกรุงเทพขับรถไม่เกิน 1 ชั่วโมงก็ถึง เสน่ห์ของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว อยู่ตรงที่ความเป็นสวนสัตว์เปิด ปล่อยให้สัตว์บางชนิดใช้ชีวิตแบบอิสระ ผู้คนสามารถเข้าไปชมหรือสัมผัสชีวิตของสัตว์ต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิดด้วย

     สวนสัตว์เปิดเขาเขียว มีสัตว์มากถึง 300 ชนิด ทั้งสัตว์ของไทยและนำมาจากต่างประเทศ ที่นี่ไม่ได้มีสัตว์ไว้แค่ให้ชมการดำเนินชีวิตตามธรรมชาติ แต่ยังมีการแสดงความสามารถพิเศษของสัตว์ต่างๆ อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ และน่าทึ่ง เช่น โชว์ช้างว่ายน้ำ, โชว์การสาธิตการให้อาหารแมวน้ำ, พาเหรดนกกาบบัว และ พาเหรดนกเพนกวิน ที่เดินเรียงรายกันอย่างน่ารักน่าเอ็นดู เรียกเสียงปรบมือจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้อย่างล้นหลาม ไม่ต้องไปชมไกลถึงต่างประเทศ หาชมความน่ารักของสัตว์เหล่านี้ได้ที่ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี

2. สวนสัตว์ขอนแก่น

     อีกหนึ่งสวนสัตว์ของเมืองไทยที่แนะนำให้คุณต้องไปชม คือ สวนสัตว์ขอนแก่น ตั้งอยู่ที่อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น จะนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพไปลงที่ขอนแก่นแล้วเช่ารถขับไปเที่ยวก็สะดวก หรือจะสดวกขับรถจากกรุงเทพเพื่อไปเที่ยวก็ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง สวนสัตว์ขอนแก่น มีสัตว์หลากหลายชนิด เช่น นกฟลามิงโก, หมีควาย และเหล่าบรรดากวางสารพัดสายพันธุ์ ที่ถูกปล่อยให้เดินกันอย่างอิสระ ให้คุณได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด แต่สวนสัตว์ขอนแก่นไม่ได้มีแค่เพียงสัตว์ไว้ให้ชมเท่านั้น

     ความโดดเด่นของ สวนสัตว์ขอนแก่น อยู่ที่ โชว์การให้อาหารเสือ ที่เห็นได้ถึงความเฉลียวฉลาดในการจะไขว่คว้าอาหารมากิน และอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่เหมือนสวนสัตว์ไหนในประเทศไทย คือ ที่สวนสัตว์ขอนแก่น มีสะพานให้เดินชมสัตว์ หรือสกายวอล์ค (Skywalk) ที่มีความยาวประมาณ 100 เมตร และมีความสูงถึง 15 เมตร รอให้คุณได้ไปเดินชมชีวิตสัตว์ต่างๆ เสมือนกำลังเดินอยู่ในทุ่งแอฟริกา 

3. สวนสัตว์เชียงใหม่

     ถ้าพูดถึงช่วงช่วงและหลิงฮุ่ย สองแพนด้า สายพันธุ์จีน แต่มีเติบโตอยู่ที่เหมือนไทย จนเป็นที่รักใคร่ของคนไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ก็ต้องนึกถึง สวนสัตว์เชียงใหม่ หนึ่งเสน่หืดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลไปดูความน่ารักน่าเอ็นดู

     สวนสัตว์เชียงใหม่ ตั้งอยู่ใกล้ทางขึ้นดอยสุเทพ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เป็นสวนสัตว์ขนาดใหญ่ มีสัตว์หลายชนิดอยู่ภายในสวนสัตว์นี้ ความพิเศษของสวนสัตว์เชียงใหม่ นอกจากจะมีแพนด้า ช่วงช่วงและหลิงฮุ่ย ที่นี่ยังมีอุโมงค์ใต้น้ำที่ยาวที่สุดในเอเชีย เป็นสถานที่เลี้ยงสัตว์น้ำทั้งไทยและต่างประเทศ ทำให้คุณได้สัมผัสชีวิตใต้ท้องทะเลได้อย่างใกล้ชิดและสวยงามอีกด้วย 

4. เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

     สวนสัตว์ไม่ได้ให้ชมแค่ช่วงกลางวัน แต่ที่เชียงใหม่ มีการเปิดให้ชมวิถีชีวิตของสัตว์นานาชนิดในช่วงกลางคืนได้ ที่ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี หลายคนเข้าใจว่า เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี คือ สวนสัตว์เชียงใหม่ ความจริงนั้น เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี ตั้งอยู่คนละที่กับสวนสัตว์เชียงใหม่ เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี ตั้งอยู่ที่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ หรือถ้าจะพูดง่ายๆ คือ อยู่บริเวณด้านหลังทางทิศตะวันตกของอุทยานหลวงราชพฤกษ์นั่นเอง  

     ความพิเศษของ เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี เป็นสวนสัตว์กลางคืนแห่งแรกของประเทศไทย และเป็นแห่งที่ 3 ของโลก เป็น ที่นี่มีสัตว์ถึง 1,400 ตัว คุณอาจจะเข้าใจว่า ถ้ามาจะเที่ยวเชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี จะต้องมาในช่วงกลางคืนเท่านั้น

     แต่ความจริงอีกเรื่องของ เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี เปิดตั้งแต่ 11:00 - 23:00น. แต่ในส่วนของ ไนท์ซาฟารี จะเปิดในช่วง 18:30 - 22:00น. ทั้ง 2 ช่วง จะให้บริการคล้ายกัน คือ จะมีบริการรถรางให้นั่งชมสัตว์พร้อมมีผู้บรรยายประกอบ เล่าเรื่องราวความเป็นอยู่ของสัตว์ต่างๆ และจอดให้ชมเป็นจุดๆ หรือคุณจะเลือกการเดินชมวิถีชีวิตสัตว์เองก็ได้  

5. สวนสัตว์นครราชสีมา

     ถ้าคุณวางแผนไปเที่ยวโซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต้องไม่พลาดไปเที่ยวที่ สวนสัตว์นครราชสีมา หรือสวนสัตว์โคราช เพราะที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงสวนสัตว์ที่มีสัตว์ให้ดูอย่างหลากหลาย แต่ยังมีสวนน้ำขนาดใหญ่อยู่ภายในสวนสัตว์นครราชสีมา แบบไม่ต้องลำบากเดินทางมาเที่ยวทะเล สวนสัตว์นครราชสีมา หรือสวนสัตว์โคราช ตั้งอยู่อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นสวนสัตว์ขนาดใหญ่ มีพื้นที่ทั้งหมด 545 ไร่ มีสัตว์มากถึง 1,800 ตัวอาศัยและใช้ชีวิตอยู่ที่ สวนสัตว์นครราชสีมา 

     ไฮไลท์ของสัตว์ที่อาศัยอยู่และเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว ได้แก่ สิงโต เสือดาว-เสือดำ ช้างแอฟริกา แรดขาว และควายป่าแอฟริกา ที่ถูกจัดเป็น "The Big Five" 5 สัตว์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งทุ่งหญ้าแอฟริกา นั่นเอง ความพิเศษยังไม่หมดยังมีความน่ารักของโชว์แมวน้ำ และถือว่าที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยแมวน้ำแห่งแรกของประเทศไทยด้วย

     ส่วนอีกหนึ่งโซนที่น่าสนใจและได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยว คือ สวนน้ำขนาดใหญ่ ที่มีเครื่องเล่นและสไลเดอร์ขนาดยักษ์ ในช่วงกลางคืน มีการแสดง ได้แก่ น้ำพุดนตรี(Musical fountain & Water screen) , การแสดงขบวนพาเหรดสัตว์(Night Safari Activities Parades) และการแสดงนักล่าแห่งรัตติกาล(Night Predators Show) เป็นต้น ล้วนแต่น่าสนใจและดึดดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมาก 

6. ซาฟารีเวิล์ด (Safari World) จ.กรุงเทพมหานคร

     สวนสัตว์ชื่อดังและยอดนิยมของคนกรุงเทพ ต้องยกให้ ซาฟารีเวิล์ด (Safari World) ตั้งอยู่ที่เขตคลองสามวา จ.กรุงเทพมหานคร สวนสัตว์ที่มีสัตว์นานาชนิด เช่น เสือ สิงโตขาว ยีราฟ นกกระจอเทศ จระเข้ ปลาคราฟ เป็นต้น 

     ซาฟารีเวิล์ด (Safari World) มีรูปแบบการนำเสนอทั้งแบบการท่องเที่ยวแบบซาฟารี ที่คุณสามารถขับรถของคุณเองชมวิถีชีวิตสัตว์แบบสัมผัสตัวอย่างใกล้ชิดได้ทั้งที่นั่งอยู่ในรถหรือจะเลือกใช้บริการรถของซาฟารีเวิล์ด (Safari World) ก็สะดวก อีกหนึ่งความโดดเด่นของ ซาฟารีเวิล์ด (Safari World) คือการแสดงชุดต่างๆ เช่น การแสดงความสามารถของโลมาแสนรู้, การให้อาหารยีราฟด้วยตัวคุณเอง หรือจะเลือกเล่นเครื่องเล่นล่องเรือชมป่าซาฟารี ก็ได้อารมณ์อีกแบบ ต้องไปลองสัมผัสอีกหนึ่งประสบการณ์การท่องเที่ยวสวนสัตว์แบบใกล้ชิดชมวิถีชีวิตสัตว์แบบสัมผัสได้ กันที่ ซาฟารีเวิล์ด (Safari World) 

7. ซีไลฟ์ แบงคอก (Sea Life Bangkok Ocean World) จ.กรุงเทพมหานคร

     มาเที่ยวต่อกันอีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะมากสำหรับคนรักโลกใต้น้ำ เพราะที่นี่คือ ซีไลฟ์ แบงคอก (Sea Life Bangkok Ocean World) พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ตั้งอยู่ที่ชั้น B1 และ B2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ใจกลางเมืองกรุงเทพ บนพื้นที่มากกว่า 10,000 ตารางเมตร จะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือรถไฟฟ้าก็สะดวกสบาย


     ซีไลฟ์ แบงคอก (Sea Life Bangkok Ocean World) ออกไปสำรวจโลกใต้น้ำ สัมผัสและชมชีวิตสัตว์น้ำผ่านห้องกระจกขนาดใหญ่ที่มีทั้งสัตว์และพืชทะเลให้คุณชมมากมาย เช่น ฉลาม, เต่าทะเล, เพนกวินเจนทู, ม้าน้ำ เป็นต้น สำหรับคนที่หลงใหลใฝ่ฝันอยากลงไปสัมผัสและลองใช้ชีวิตใต้ท้องทะเลร่วมกับสัตว์นานาชนิด ที่นี่ก็มีบริการดำน้ำเผชิญหน้ากับฉลามเสือทราย ฉลามครีบดำ ฉลามเสือดาว กระเบนหลังดำ กระเบนนก และสิ่งมีชีวิตอีกหลากหลายสายพันธุ์พร้อมกับครูฝึกมากประสบการณ์รอให้คุณได้ไปลองแบบไม่ต้องมองผ่านห้องกระจก สร้างประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตกับโลกใต้น้ำให้กับคุณได้ไม่ยาก

8. ฟาร์มแกะ พัทยา (Pattaya Sheep Farm) จ.ชลบุรี

     สำหรับครอบครัวที่อยากสัมผัสชีวิตสัตว์แบบเบาๆ ขอแนะนำหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวไม่ไกลจากกรุงเทพ ขับรถไปชั่วโมงกว่าๆ ก็ได้ไปสัมผัสบรรยากาศ ฝูงแกะตัวอ้วน ขนปุย เดินตุ้ยนุ้ยอยู่ในทุ่งหญ้า กันที่ ฟาร์มแกะ พัทยา (Pattaya Sheep Farm)

     ฟาร์มแกะ พัทยา (Pattaya Sheep Farm) เป็นสวนสัตว์ ที่เป็นแหล่งรวมของสัตว์หายาก เช่น แกะ, อัลปากา, กวางซิก้า, นกซันคอนัวร์, ม้าแคระ, ลา, หมูจิ๋ว รวมไปถึง เต่าซูคาต้า เป็นต้น และมีโซนกิจกรรมสนุกสนุกมากมาย เช่น เมืองนิทาน, โซนเกมส์ยิงเป้าชิงรางวัล, โชว์นก และโชว์สัตว์แสนรู้ เป็นต้น มาที่เดียวได้ครบ สนุกกันได้ทั้งครอบครัว

9. สวิส ชีพ ฟาร์ม (Swiss Sheep Farm) จ.เพชรบุรี

     ย้ายจากฝั่งตะวันออกมาเที่ยวฟาร์มแกะฝั่งตะวันตกกันบ้าง ไม่ต้องขับรถข้ามไปไกล หากคุณอยู่ทางภาคใต้หรือภาคตะวันตกของประเทศไทย เพราะสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและมีเหล่าบรรดาแกะน้อยรอคอยให้คุณได้ไปสัมผัส ตั้งอยู่ จ.เพชรบุรี ไม่ต้องเสียเวลาขับรถไปไกลถึงชลบุรีก็มีแกะให้ดูเหมือนกัน ต้องแวะไปที่ สวิส ชีพ ฟาร์ม (Swiss Sheep Farm)

     สวิส ชีพ ฟาร์ม (Swiss Sheep Farm) ฟาร์มแกะสไตล์คันทรี ตั้งอยู่ที่อ.เมืองชะอำ จ.เพชรบุรี ที่นี่มีทั้งแกะ ทั้งม้า อัลปาก้าก็มี และตกแต่งสถานที่ไว้เป็นจุดถ่ายรูปสวยๆ เก๋ๆ ต้อนรับเทศกาลต่างๆ หลายจุด ถ้าไปเที่ยวชะอำหรือหัวหินแนะนำให้ลองหยุดแวะเที่ยว สวิส ชีพ ฟาร์ม (Swiss Sheep Farm) ก็ชิลดี 

10. บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ จ.สุพรรณบุรี

     บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ สถานที่ตั้ง อุโมงค์ปลาน้ำจืดแห่งแรกของประเทศไทย เมื่อครั้งที่ก่อสร้างเสร็จกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองไทยที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วเมืองไทย ให้ไปสัมผัสกับอุโมงค์ใต้น้ำที่มีความยาวประมาณ 8.5 เมตร คุณสามารถเดินลอดอุโมงค์ใต้น้ำเหมือนกำลังเดินอยู่ใต้ตู้ปลาขนาดใหญ่ มองเห็นวิถีชีวิตสัตว์น้ำได้อย่างใกล้ชิดกำลังอยู่ใต้ท้องทะเลจริงๆ 

     บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ ไม่ได้มีแค่อุโมงค์สัตว์น้ำให้คุณได้ชม แต่ยังมีโซนสัตว์อื่นๆ อีกหลายส่วนที่น่าสนใจ ได้แก่ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า, กรงเสือและกรงสิงโต, สถานที่ถ่ายภาพร่วมกับสัตว์, ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่า และกรงนกใหญ่ ชมพันธ์นกหายากกว่า 30 ชนิด เช่น นกยูง นกกาบบัว เป็ดแดง เป็นต้น, โซนเกาะกระต่าย ที่เป็นที่พักของกระต่าย 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์เจอร์ซี่ วูลลี่ และสายพันธุ์แองโกร่า ยังมีกวางดาว เนื้อทราย และปลาหลากหลายสายพันธุ์อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบ และโซนศูนย์รวมพันธุ์ไก่ และกรงสัตว์หายาก เช่น ไก่ฟ้าหลังขาว ไก่ฟ้าสีทอง ไก่ฟ้าพญาลอ และสัตว์หายากอีกหลายชนิด

     การเที่ยวสวนสัตว์ ถือเป็นกิจกรรมที่จะช่วยให้คุณเกิดการเรียนรู้ที่หลากหลาย ปัจจุบันการซื้อตั๋วเข้าชมแต่ละสถานที่ก็สะดวกสบาย สามารถซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ มีโปรมากมายให้เลือก อย่างเช่นที่เจอในเว็บไซต์ TraveliGo ก็มีจำหน่ายตั๋วเข้าสวนสัตว์หลายที่ เที่ยวแบบฉลาด ต้องสะดวกและประหยัด ถึงจะคุ้มค่า ออกไปสัมผัสวิถีชีวิตสัตว์สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับคุณได้มากกว่าการดูในหนังสือ หรือดูจากโทรศัพท์มือถือกันดีกว่า