ทัวร์สเปน โปรตุเกส บาร์เซโลน่า ซาราโกซ่า มาดริด ลิสบอน 10วัน 7คืน โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ส

ทัวร์สเปน โปรตุเกส บาร์เซโลน่า ซาราโกซ่า มาดริด ลิสบอน

การผจญภัย ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โรแมนติก กีฬา ดินเนอร์ ไหว้พระ อุทยานแห่งชาติ เที่ยวเต็มวัน, ไม่มีวันอิสระ พักโรงแรม 4 ดาว กลับถึงเช้า พิพิธภัณฑ์
รายละเอียด

ทัวร์สเปน โปรตุเกส บาร์เซโลน่า ซาราโกซ่า มาดริด ลิสบอน 10วัน 7คืน โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ส (TK) พาเที่ยว บาร์เซโลน่า,มหาวิหารซากราด้า ฟามิเลียร์,ซาราโกซ่า,ซานตามาเรีย เดอร์ฟิลลาร์,เซโกเบีย,ปราสาทอัลคาร์ซาร์,มาดริด, โทเลโด,พระราชวังหลวง,คอร์โดบ้า,เซบีญ่า,หอคอยฆีรัลดา,ชมระบำฟลาเมนโก้,อิโวลา,ซินทรา,พระราชวังพีนา,แหลมโรคา,หอคอยเบเล็ง,ลิสบอน


รหัสทัวร์ : TATES8811
 บาร์เซโลนา, สเปน
สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์
วันที่เดินทาง :
27 ธ.ค. 2567 ถึง 05 ม.ค. 2568
ราคาเริ่มต้น
USD 3,622
ทำไมต้องจองทัวร์กับเรา
  • ราคาสุดท้ายไม่บวกเพิ่ม
  • รับประกันราคาที่ดีที่สุด
ติดต่อสอบถาม
02 001 5855
จันทร์ - เสาร์ 09:00 น. - 18:00 น.
ตารางการเดินทาง
  • วันที่
    1
    กรุงเทพมหานคร

    20.00 น.คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่เคาน์เตอร์เช็คอิน ผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ส (TK) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
    23.05 น.ออกเดินทางสู่อิสตันบูลโดยเที่ยวบิน TK69 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.15 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง สายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำระหว่างเที่ยวบิน 

  • วันที่
    2
    บาร์เซโลนา – มหาวิหารซากราด้า ฟามิเลียร์ – ช้อปปิ้งเอาท์เลต

    05.15 น.เดินทางถึงอิสตันบูล แวะเปลี่ยนเครื่อง เที่ยวบิน TK1853 อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีภายในสนามบินซึ่งมีสินค้าให้เลือกซื้อมากมาย 
    07.35 น.ออกเดินทางสู่สนามบินบาร์เซโลนา (BCN) บริการอาหารเช้าบนเครื่องบิน(ใช้เวลาบินประมาณ 3.30 ชม.)
    10.15 น.เดินทางถึงสนามบินบาร์เซโลนา ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร 
    นำท่านเดินทางสู่ กรุงบาร์เซโลนา (Barcelona) เมืองใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศสเปน และเป็นท่าเรือสำคัญที่สุดในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมหลากยุคสมัย มีสวนสาธารณะสิ่งแวดล้อมและการวางผังเมืองที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ชมผลงานก่อสร้างในศิลปะแบบอาร์ตนูโว ที่แสดงความงดงามอย่างมีชีวิตชีวาโดยฝีมือของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่นาม อันโตนีโอ เกาดี้ (Antonio Gaudi) ผู้ที่ทำให้เมือง บาร์เซโลนา ได้รับฉายาว่า “City of Gaudi” นำท่านชมความงามของเมืองบาร์เซโลนา เมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของสเปน  นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารซากราด้าฟามิเลียร์ (Sagrada Familia) สัญลักษณ์แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สูงใหญ่ถึง 170 เมตร ออกแบบก่อสร้างอย่างสวยงามแปลกตา ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1882 เป็นผลงานชั้นยอดที่แสดงถึงอัจฉริยภาพของ อันโตนี เกาดี้ สถาปนิกผู้เลื่องชื่อ มหาวิหารแห่งนี้ ตั้งอยู่บนถนน Carrer de Mallorca งานชิ้นนี้มีความแปลกตาจากงาน ชิ้นอื่นของเกาดี้ ตรงสีสันอันเรียบนิ่งแบบโทนสีธรรมชาติให้ความรู้สึกที่สงบผ่อนคลายและเยือกเย็น เพราะความที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และยังคงรายละเอียดไว้อย่างดี ดูจากลวดลายสลักเสลาที่ด้านนอกตัวโบสถ์และภายในแสดงให้เห็นถึงแรงศรัทธาในศาสนาอย่างท่วมท้นสมเป็นงานชิ้นสุดท้ายที่เขาอุทิศตนให้กับศาสนจักรปัจจุบันมหาวิหารแห่งนี้ยังคงดำเนินการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 2026 อิสระให้ท่านได้บันทึกภาพความยิ่งใหญ่ของมหาวิหารแห่งนี้
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
    บ่าย   นำท่านผ่านชมอนุสาวรีย์คริสโตเฟอร์โคลัมบัส นักเดินเรือผู้ยิ่งใหญ่ที่ออกเดินทางจากบาร์เซโลนาไปพบหมู่เกาะแคริบเบียนและทวีปอเมริกาในปี คศ.1492 จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ช้อปปิ้งเอาท์เลต La Roca Village ซึ่งเป็น Open Air Outlet ขนาดใหญ่ มีร้านค้าและชอป กว่า 150 ร้านให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าได้แบบจุใจ อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    นำท่านเข้าพักสู่โรงแรมที่พัก Porta Fira Hotel **** หรือเทียบเท่า
     

  • วันที่
    3
    ยอดเขามองเซอร์รัต - ซาราโกซ่า - ซานตา มาเรีย เดอร์ฟิลลาร์

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 
    นำท่านเดินทางสู่ยอดเขามองเซอร์รัต (Montserrat)นำท่านเข้าชมวิหารมองเซอร์รัตซึ่งตั้งอยู่บนเขามองเซอร์รัตที่สูงถึง 1,236 เมตรจากน้ำทะเล ภูเขามองเซอร์รัต มีลักษณะรูปทรงเป็นหินตะปุ่มตะป่ำแปลกประหลาดโดยคำว่า Montserrat หมายถึง ปุ่มปม ซึ่งในภาษาคาตาลัน ซึ่งเป็นภาษาหลักของคนในแถบนี้ใช้สื่อสารกัน ว่ากันว่าบริเวณนี้เดิมเคยเป็นทะเลมาก่อนเพราะยังมีซากเศษหอยอยู่ทั่วไปรวมไปถึงหินรูปทรงประหลาดของยอดเขาก็คาดว่าเกิดจากแรงดันตามธรรมชาตินับล้านปีมาแล้ว อาณาบริเวณที่ตั้งของวิหารมองเซอร์รัตซึ่งซ่อนตัวอยู่บนยอดเขาได้อย่างตระการตานั้น มีพื้นที่กว้างขวางจนทำให้ฉงนว่าผู้คนในอดีตนำวัสดุก่อสร้างมากมายขึ้นมาสร้างบนเขาที่สูงขนาดนี้ได้อย่างไร เหมือนเมืองในฝันอย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว ภายในวิหารมีศิลปกรรมที่งดงามตระการตามากมายให้ชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งประติมากรรมรูปปั้นที่ตกแต่งบนอาคารทั้งหลายที่งดงามเกินบรรยาย รอบๆบริเวณวิหารมีทั้งโบสถ์คริสต์นิกายคาทอลิค โรงแรม ภัตตาคาร ร้านค้าขายของที่ระลึก ห้องสมุด ห้องแสดงศิลปะ และสำนักนักบวชเบนาดิก(Benedictine) ซึ่งเป็นองค์กรนักบวชคาทอลิคบริหารวิหารอยู่บนนี้ สถานที่ทั้งหมดจึงเป็นบรรยากาศแบบเงียบเรียบสงบตามแบบฉบับสำนักปฎิบัติธรรมของนักบวช โดยมีจุดเด่นที่มีพระแม่มารีดำ(Black Madonna หรือ The Virgin of Montserrat) ที่มีชื่อเสียงประดิษฐานอยู่ ซึ่งชาวสเปนซึ่งนับถือศาสนาคริสต์คาทอลิคส่วนใหญ่เขามีความเชื่อว่าภูเขานี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    บ่าย นำท่านออกเดินทางสู่เมืองซาราโกซ่า (Zaragoza) (ระยะทาง 310 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ช.ม.) ซึ่งเป็นเมืองหลวงในอดีตของอาณาจักรอารากอน ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศสเปน ริมฝั่งแม่น้ำเอโบร ระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับธรรมชาติของภูมิประเทศอันหลากหลายและงดงามแปลกตาของภูมิภาคสเปนตอนกลาง เมืองซาราโกซ่าได้รับการเสนอชื่อให้เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม (City of Culture) ของทวีปยุโรป  นำท่าน เข้าชมมหาวิหารแม่พระแห่งเสาศักดิ์สิทธิ์ (Basilica of our lady of the pillar) หรือที่รู้จักในนาม ซานตา มาเรีย เดอร์ฟิลลาร์ ตามตำนานสมัยแรกเริ่มของศาสนจักรกล่าวไว้ว่า อัครสาวกยาคอบหรือเซนต์เจมส์  ในระยะเริ่มแรกนั้นการเผยแพร่พระธรรมของท่านไม่ได้เกิดผลมากมายนัก จนกระทั่งท่านเห็นพระแม่มารีมาปรากฎเพื่อชักชวนท่านไปยังกรุงเยรูซาเล็ม ในนิมิตนั้น พระนางปรากฎอยู่บนเสาที่ถูกแบกมาโดยหมู่เทพนิกร และเชื่อกันว่าเป็นเสาศักดิ์สิทธิ์ต้นเดียวกันกับเสาในซาราโกซ่า
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    นำท่านเข้าพักสู่โรงแรมที่ Diagonal Plaza Hotel**** หรือเทียบเท่า
     

  • วันที่
    4
    เซโกเวีย - สะพานส่งน้ำโรมัน - ปราสาทอัลกาซาร์ - มาดริด (พักค้าง 2 คืน)

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 
    นำท่านเดินทางสู่เมืองเซโกเวีย (Segovia) (ระยะทาง 409 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30 ช.ม.) เป็นเมืองหลักของจังหวัดเซโกเวีย ในแคว้นคาสตีลและเลออนของประเทศสเปน ตั้งอยู่บริเวณจุดบรรจบระหว่างแม่น้ำเอเรสมา (Eresma) กับแม่น้ำกลาโมเรส (Clamores) ณ เชิงเขากวาดาร์รามา 
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (ลิ้มลอง เมนูหมูหัน อันเลื่องชื่อ)
    บ่าย นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารแห่งเมืองเซโกเวีย (Segovia Cathedral) และสะพานส่งน้ำโรมันที่มีชื่อเสียง (Roman Aqueduct) นำชมเขตเมืองเก่าซึ่งล้อมรอบด้วยกำแพงที่สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 8 และได้รับการบูรณะในระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 15 จากนั้น นำท่านเข้าชมปราสาทแห่งเซโกเวียหรือปราสาทอัลกาซาร์ หลายคนเรียกปราสาทแห่งนี้ว่าปราสาทแห่งเทพนิยาย เพราะความสวยสง่างามที่มองเห็นได้จากภายนอก ตั้งอยู่บนชะง่อนผาสูงที่แม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกัน สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 13 แล้วได้รับการต่อเติมในศตวรรษที่ 15 - 16 มีลักษณะเหมาะแก่การตั้งรับข้าศึกในอดีต เพราะมีทั้งช่องเชิงเทินขนาดใหญ่ ใช้สำหรับติดตั้งอาวุธ และมีช่องสำหรับเทน้ำเดือดและกรวดร้อน เพื่อทำลายกองทัพข้าศึกที่เข้าประชิดกำแพงเมืองภายในปราสาทได้จัดเป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับแสดงของมีค่าทางประวัติศาสตร์ ห้องใต้หลังคาเป็นที่แสดงแสนยานุภาพของอาวุธในสมัยกลาง รวมถึงเครื่องมือเครื่องใช้ในอดีต และในปี ค.ศ. 1975 ยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เมืองเซโกเวียเป็นเมืองมรดกโลกทางศิลปะวัฒนธรรมได้เวลานำท่านเดินทางสู่กรุงมาดริด (Madrid) (ระยะทาง 92 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ช.ม.) เมืองหลวงของประเทศสเปน ตั้งอยู่ใจกลางแหลมไอบีเรียน ในระดับความสูง 650 เมตร เป็นมหานครอันทันสมัยล้ำยุค ที่ซึ่งกษัตริย์ฟิลลิปที่ 2 ได้ทรงย้ายที่ประทับจากเมืองโทเลโดมาที่นี่ และประกาศให้มาดริดเป็นเมืองหลวงใหม่ ยกเว้นในช่วงประมาณปี ค.ศ. 1601-1607 เมื่อพระเจ้าฟิลลิปที่ 3 ได้ย้ายเมืองหลวงไปที่เมืองวัลลาโดลิด มาดริดได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และสูงสุดแห่งหนึ่งในยุโรป
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตตาคารจีน
    นำท่านเข้าพักสู่โรงแรมที่พัก Ayre Gran Hotel Colon **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 1)

  • วันที่
    5
    โทเลโด - มหาวิหารโทเลโด – พระราชวังหลวง – มาดริด

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 
    นำท่านเดินทางสู่โทเลโด (Toledo) (ระยะทาง 70 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) อดีตเมืองหลวงเก่าของสเปนตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 เป็นเมืองแห่งศูนย์กลางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสเปนชื่อเมืองหมายถึงการผสมผสานของ 3 วัฒนธรรม คือ คริสเตียน อิสลามและฮีบรู ตัวเมืองตั้งอยู่บนหน้าผาสูงเบื้องล่างล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำตาโค (Tajo) ซึ่งเหมาะแก่การป้องกันการรุกรานจากข้าศึกนำท่านเที่ยวชมเมืองข้ามสะพานแบบโรมันดั้งเดิม (ปูเอนเต เด อัลกานตารา) บนเนินเขาท่านจะเห็นกัสตีโย เด ซาน เซร์บานโด ป้อมปราการ ขนาดใหญ่ที่ชาวโรมันสร้างขึ้นเพื่อปกปักษ์รักษาเมือง นำท่านสู่เขตเมืองเก่า ผ่านประตูเมืองปูเอร์ตาเดบิซากรา  หนึ่งในประตูเมืองที่มีความสำคัญที่สุด นำท่านชมการผสมผสานของสถาปัตยกรรมอารบิค มูเดฆาร์โกธิค เรเนสซองส์ จากนั้นนำท่านเข้าชมมหาวิหารโทเลโด (Toledo Cathedral) สถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ยิ่งใหญ่สวยงามแห่งหนึ่งของโลก ใช้เวลาสร้างยาวนาน แต่เดิมชาวมุสลิมใช้เป็นสุเหร่า ต่อมาได้ก่อสร้างรูปทรงแบบโกธิคในปี 1226 และเพิ่มศิลปะแบบมูเดฆาร์ บาร็อค และนีโอคลาสสิค จนแล้วเสร็จสมบูรณ์ในอีก 300 ปีถัดมา ภายในมีการตกแต่งอย่างงดงามวิจิตรด้วยไม้แกะสลักและภาพสลักหินอ่อน มุมด้านในเป็นอัลคาซาร์ ผลงานของสถาปนิกระดับสุดยอดในสมัยศตวรรษที่ 16 จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปบริเวณจุดชมวิวเพื่อชมทิวทัศน์ของเมืองโทเลโด ซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่จิตรกรชื่อดังของสเปน เอล เกรโก (Ei Greco) ได้เคยจำลองลงบนแผ่นภาพอย่างสวยงาม
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    บ่าย นำท่านเดินทางสู่กรุงมาดริด เพื่อเข้าชมพระราชวังหลวง (Royal Palace) ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส มีความสวยงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังใดในทวีปยุโรป พระราชวังหลวงแห่งนี้ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1738 ด้วยหินทั้งหลังในสไตล์บาโรค โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่างๆกว่า 2,830 ห้อง ซึ่งนอกจากจะมีการตกแต่งอย่างงดงามแล้ว ยังเป็นคลังเก็บภาพเขียนชิ้นสำคัญที่วาดโดยศิลปินในยุคนั้น รวมทั้งสิ่งของมีค่าต่างๆอาทิ พัดโบราณ นาฬิกา หนังสือ เครื่องใช้ อาวุธ นำท่านชมอุทยานหลวงที่มีการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ทุกฤดูกาล ดอกไม้งดงามตลอดปี ชมอนุสาวรีย์เซอร์แวนเตส กวีเอกชาวสเปนที่ตั้งอยู่เหนืออนุสาวรีย์ดอนกิโฆเต้ในสวนสาธารณะ (หากพระราชวังหลวงปิด ซึ่งทางพระราชวังจะไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า บริษัทจะจัดให้ท่านได้เข้าชมพระราชวังฤดูร้อน อรานคูเอซ (Placio Real De Aranjuez) แทน ซึ่งพระราชวังดังกล่าวเป็นอดีตพระราชวังฤดูร้อนของกษัตริย์สเปน) ได้เวลานำท่านผ่านชมน้ำพุไซเบเลส (Cibeles Fountain) ที่สร้างอุทิศให้แก่เทพธิดาไซเบลีน เป็นสถานที่ที่ใช้ในการเฉลิมฉลองในเทศกาลต่างๆของเมือง ผ่านชมประตูชัยอาคาล่า (Puerta De Alcala) ที่สร้างถวายพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จากนั้นนำท่านสู่ พลาซ่า มายอร์ (Plaza Mayor) ใกล้เขตปูเอต้าเดลซอล หรือประตูพระอาทิตย์ ซึ่งเป็นจตุรัสใจกลางเมือง นับเป็นจุดนับกิโลเมตรแรกของสเปน (กิโลเมตรที่ศูนย์) และยังเป็นศูนย์กลางรถไฟใต้ดินและรถเมล์ทุกสาย นอกจากนี้ยังเป็นจุดตัดของถนนสายสำคัญของเมืองที่หนาแน่นด้วยร้านค้าและห้างสรรพสินค้าใหญ่มากมาย นำท่านแวะถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์หมีกับต้นมาโดรนา สัญลักษณ์ของเมือง มีเวลาให้ท่านอิสระและช้อปปิ้งตามอัธยาศัยแบบเต็มๆ
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
    นำท่านเข้าพักสู่โรงแรมที่พัก Ayre Gran Hotel Colon **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 2)

  • วันที่
    6
    มาดริด - คอร์โดบา - สุเหร่าเมซกีต้า - เซบีญ่า - ชมระบำฟลาเมนโก้

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 
    นำท่านเดินทางสู่ “เมืองคอร์โดบา” (Cordoba) (ระยะทาง 397 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ช.ม.) ครั้งหนึ่งเคยถูกครอบครองโดยชาวโรมันและชาวมัวร์จากอาหรับ เมืองคอร์โดบาตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดัลกีเบีย เป็นเมืองศูนย์กลางของวัฒนธรรมมุสลิมในประเทศสเปน องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เมืองคอร์โดบาเป็นเมืองมรดกโลกของประเทศสเปน เมืองนี้เป็นเมืองในระบบกาหลิบที่มีความเจริญรุ่งเรืองที่สุดของยุโรปในสมัยศตวรรษที่10 มีการสร้างมหาวิทยาลัยเน้นการเรียนรู้ด้านวรรณกรรม วิทยาศาสตร์ ปรัชญาและการแพทย์ 
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น 
    บ่าย นำท่านเข้าชมมัสยิด (สุเหร่า) เมซกีต้า ที่มีขนาดใหญ่โตและออกแบบอย่างวิจิตร ด้วยการใช้เสาหินจำนวนมากถึง 850 ต้น ต่อยอดเสาด้วยโครงสร้างคานโค้งแบบศิลปะโรมัน ผสมกับลวดลายแบบมัวริช ประดับด้วยเครื่องกระเบื้องเคลือบ อิฐ และหินฉลุลาย ทั่วทั้งอาคาร ด้านในสุดของมัสยิดจะสร้าง “มีหรับ” อันเป็นครื่องหมายแสดงทิศทางของเมืองเมกกะ ต่อมาเมื่อชาวคริสต์เข้ามายึดครองเมืองคอร์โดบา จึงได้มีการสร้างโบสถ์ขึ้นบริเวณกึ่งกลางของมัสยิด และสร้างหอระฆังสูง 93 เมตร ขึ้นในบริเวณสวนส้มและลานน้ำพุ ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ “เมืองเซบีย่า” Seville (ระยะทาง 142 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ช.ม.) ซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นอันดาลูเซียเป็นเมืองที่มีมรดกทางวัฒนธรรม เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความเขียวขจี สวนสาธารณะและสวนดอกไม้งานเทศกาลที่จัดขึ้นในเมืองเซบีย่าได้รับการกล่าวขานมากที่สุด เนื่องจากเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในแคว้นอัลดาลูซีย เมืองนี้เคยอยู่ภายใต้การปกครองของแขกมัวร์มานานกว่า 800 ปี จึงได้รับอิทธิพลศิลปะแบบแขกมัวร์ค่อนข้างมาก
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำพร้อมชมโชว์ระบำฟลาเมนโก้อันเลื่องชื่อของสเปน 
    นำท่านเข้าพักสู่โรงแรมที่พัก Hesperia Sevilla Hotel **** หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    7
    เซบีย่า – มหาวิหารเซบีย่า - หอคอยฆีรัลดา – อิโวลา – ลิสบอน (พักค้าง 2 คืน)

    เช้า  รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 
    นำท่านเข้าชมปลาซาเดเอสปาญา (Plaza De Espanya) ชมกลุ่มอาคารรูปครึ่งวงกลมซึ่งรวมเอาความเป็นสถาปัตยกรรมแบบสเปนที่เรียงต่อกันเป็นแนวยาว แต่ละซุ้มโค้งประตูมีตราประจำจังหวัดไล่เรียงตามตัวอักษร ฝั่งตรงข้ามเป็น อุทยานมาเรีย ลุยซ่า ซึ่งเคยเป็นราชอุทยานที่ร่มรื่นงดงามตระการตาและแฝงความโรแมนติก อิสระให้ท่านเก็บภาพความงามรอบบริเวณ จากนั้นนำท่านเข้าชมมหาวิหารแห่งเมืองเซบีย่า ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสาม รองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่กรุงโรม และเซนต์ปอลที่ลอนดอน และใหญ่ที่สุดในสเปน สร้างด้วยศิลปะแบบโกธิค ภายในตกแต่งได้อย่างวิจิตรตระการตา สร้างขึ้นแทนที่ตั้งของสุเหร่าเดิม โดยต้องการให้ยิ่งใหญ่แบบไม่มีใครเทียบเทียมได้ ในห้องเก็บทรัพย์สมบัติล้ำค่า มีทั้งภาพเขียน เครื่องใช้ในศาสนพิธี ที่ทำมาจากทองคำและเงิน ล้วนแล้วแต่ประเมินค่ามิได้ ตอนกลางโบสถ์เป็นที่ตั้งของสุสานคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ซึ่งสร้างอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติยศ นำท่านชมและถ่ายรูปกับหอคอยฆีรัลดา (Giralda Tower) หอศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เป็นหอคอยที่สร้างขึ้นโดยชาวมุสลิม เป็นตึกทรงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสูง 93 เมตร ติดกันกับมหาวิหารเป็นลานส้มและน้ำพุ เพื่อใช้ในพิธีชำระร่างกายของชาวมุสลิม 
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
    บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองอิโวรา (Evora) (ระยะทาง 267 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ช.ม.) เป็นเมืองและเทศบาลแห่งหนึ่งทางตอนกลางของประเทศโปรตุเกส รวมทั้งเป็นเมืองหลักของเขตแอวูราและภูมิภาคอาเลงแตฌู เมืองอิโวรา มีอายุยาวนานถึงห้าสหัสวรรษ หรือห้าพันปี เมื่อแรกสร้างใช้ชื่อเมืองว่า อิโบร่า โดยชาวเซลติกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ตั้งเมืองหลวงของตน นำท่านเที่ยวชมเมืองเก่าอิโวรา (Old town) ซึ่งมีหมู่อาคารสถาปัตยกรรมที่สวยงามที่ยังคงความสมบูรณ์ สะท้อนให้เห็นถึงการเป็นเมืองหลวงในอดีต ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองลิสบอน (Lisbon)  เมืองหลวงของโปรตุเกสตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเตจู้ (Tejo)  (ระยะทาง 131 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ช.ม.)  โดยผ่านเส้นทางมอเตอร์เวย์สายสำคัญที่ท่านจะได้เพลิดเพลินกับภาพชีวิตชนบท ชาวไร่ ชาวสวน และป่าคอร์ค (Cock) ตลอดการเดินทางท่านจะได้ให้ภูมิประเทศที่แตกต่าง ทั้งริมฝั่งมหาสมุทรและฝั่งแผ่นดินใหญ่ ลิสบอนเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800 ปี และเคยประสบกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวในศตวรรษที่ 17 จึงทำให้อาคารเก่าแก่โบราณได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ผู้นำคนสำคัญของเมืองในสมัยนั้น คือ มาร์คิส เดอร์ ปองปาล (Marquis de Pombal) ได้เริ่มบูรณะและจัดวางผังเมืองลิสบอนใหม่ให้ทันสมัย เกิดการสร้างถนนและอาคารสมัยใหม่กลายเป็นเมืองลิสบอนที่สวยงามมีเอกลักษณ์เป็นของตนเองจนถึงปัจจุบัน 
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม 
    นำท่านเข้าพักสู่โรงแรมที่พัก Mercure Lisboa Almada Hotel**** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)

  • วันที่
    8
    ซินทรา – พระราชวังพีน่า – แหลมโรคา

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
    นำท่านเดินทางสู่ เมืองซินทรา(Sintra) (ระยะทาง 33 ก.ม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที)เมืองแห่งสถาปัตยกรรมโรแมนติก ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขาอันงดงาม เป็นที่ตั้งของพระราชวังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังพีน่า, พระราชวังหลวง, พระราชวังมอนเซอราเต้, และพระราชวังควินต้าเดอรีกัลเลร่า นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงเคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนเมืองนี้เมื่อคราวเสด็จประพาสยุโรป เมืองซินทราได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1995 อีกด้วย นำท่านชมตัวเมืองเก่าซินทราที่มีอายุมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 และเข้าชมพระราชวังพีน่า (Pena National Palace) พระราชวังที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือเมืองซินตร้า โดยพระราชวังแห่งนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของประเทศโปรตุเกส ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโปรตุเกส โดยในอดีตพระราชวังถูกใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์โปรตุเกสมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 14 ภายในถูกตกแต่งประดับประดาอย่างวิจิตรงดงาม โดยเฉพาะพื้นกระเบื้องที่ว่ากันว่าสวยงามที่สุดในโปรตุเกส
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น 
    บ่าย นำท่านเดินทางชมแหลม Cabo da Roca ที่ถือว่าเป็นสุดเขตทวีปยุโรปทางตะวันตก จุดตะวันตกสุดของโปรตุเกสและของทวีปยุโรป ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติซินทรา ห่างจากลิสบอนเมืองหลวงประมาณ 45 กม. ตัวแหลมจะยื่นออกไปทางตะวันตกสู่มหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นชะง่อนผาสูงประมาณ 100 เมตรเกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลซึ่งทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่สูงกว่า 30 เมตร และถือได้ว่าใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ จากตรงนี้ท่านจะได้ชมความงามของมหาสมุทรแอตแลนติกอันยิ่งใหญ่ไพศาลในยามอาทิตย์อัศดง เป็นภาพที่งดงามยิ่งนักและยังมี ป้อม Cabo da Roca มีความสำคัญมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ในด้านการป้องกันตามแนวชายฝั่งและการเดินเรือ ประภาคารบนแหลมนี้ยังคงใช้งานอยู่ถึงปัจจุบัน สมควรแก่เวลานำท่านกลับสู่เมืองลิสบอน
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    นำท่านเข้าพักสู่โรงแรมที่พัก Mercure Lisboa Almada Hotel**** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)

  • วันที่
    9
    มหาวิหารเจอโรนิโม - หอคอยเบเล็ง - ลิสบอน

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
    นำท่านชม กรุงลิสบอน (Lisbon) เมืองหลวงของโปรตุเกสตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเตจู้ (Tejo)และเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800 ปี เคยประสบกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวในศตวรรษที่ 17 จึงทำให้อาคารเก่าแก่โบราณได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ผู้นำคนสำคัญของเมืองในสมัยนั้น คือ มาร์คิส เดอร์ ปองปาล (Marquis de Pombal) ได้เริ่มบูรณะและจัดวางผังเมืองลิสบอนใหม่ให้ทันสมัยเกิดการสร้างถนนและอาคารสมัยใหม่กลายเป็นเมืองลิสบอนที่สวยงามมีเอกลักษณ์เป็นของตนเองจนถึงปัจจุบัน นำท่านถ่ายรูปหอคอยเบเล็ง (Belem Tower) เดิมสร้างไว้กลางน้ำเพื่อเป็นป้อมรักษาการณ์ดูแลการเดินเรือ เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเรือออกไปสำรวจ และค้นพบโลกของ วาสโก ดากามา และนักเดินเรือชาวโปรตุเกส เป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมแบบมานูเอลไลน์ที่สวยงาม จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์ดิสคัฟเวอรี่ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1960 เพื่อฉลองการครบรอบ 500 ปี แห่งการสิ้นพระชนม์ของ เจ้าชายเฮนรี่เดอะเนวิเกเตอร์ จากนั้นนำท่านเข้าชมมหาวิหารเจอโรนิโม ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ วาสโก ดากามา ซึ่งได้เดินเรือสู่ประเทศอินเดียได้เป็นผลสำเร็จในปี ค.ศ.1498 โดยมหาวิหารแห่งนี้เป็นผลงานอันเยี่ยมยอดของงานสถาปัตยกรรมแบบมานูเอลไลน์ (Manueline) ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้นถึง 70 ปี จึงเสร็จสมบูรณ์ ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1983 
    12.30 น.นำท่านเดินทางสู่สนามบินลิสบอน (LIS) เพื่อเชคอินและทำ Tax Refund
    อิสระอาหารกลางวันภายในสนามบินตามอัธยาศัย
    16.20 น.ออกเดินทางสู่สนามบินอิสตันบูล โดยเที่ยวบินที่ TK1760 (ใช้เวลาบินประมาณ 4.55 ชม.)
    บริการอาหาร เครื่องดื่ม และพักผ่อน บนเครื่องบิน
    23.45 น.เดินทางมาถึงอิสตันบูล แวะเปลี่ยนเครื่อง อิสระให้ท่านช้อปปิ้งใน DUTY FREE SHOP ภายในสนามบิน

  • วันที่
    10
    กรุงเทพมหานคร

    01.35 น.ออกเดินทางสู่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ TK68 (ใช้เวลาบินประมาณ 09.30 ชั่วโมง) 
    สายการบินฯ มีบริการอาหาร 2 รอบ คือ อาหารค่ำ และ อาหารเช้า
    15.25 น.เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)

มื้ออาหารและที่พัก
วันที่
อาหารเช้า
อาหารเที่ยง
อาหารเย็น
โรงแรม
1
-
2
Porta Fira Hotel or similar
3
Diagonal Plaza Hotel or similar
4
Ayre Gran Hotel Colon or similar
5
Ayre Gran Hotel Colon or similar.
6
Hesperia Sevilla Hotel or similar.
7
Mercure Lisboa Almada Hotel or similar
8
Mercure Lisboa Almada Hotel or similar
9
-
10
-
ข้อตกลงและเงื่อนไข
  • ชำระเงินเต็มจำนวน
  • การจองนี้ไม่ได้รับการยืนยัน (เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา) เราจะตรวจสอบและยืนยันให้กับลูกค้าภายใน 24 ชั่วโมง
แพ็กเกจนี้รวม
  • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ชั้นนักท่องเที่ยว โดยสายการบิน TK Airlines (น้ำหนักสัมภาระไม่เกิน 30 กก.)
  • ภาษีสนามบิน, ภาษีน้ำมัน, ประกันภัยทางอากาศ
  • ประกันอุบัติเหตุการเดินทาง วงเงิน 1,500,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศ วงเงิน 2,000,000 บาท
  • ค่ารักษาพยาบาลหลังจากกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท (ประกันไม่คุ้มครองผู้ที่มีอายุ 85 ปีขึ้นไป)
  • ภาษีในสเปนและโปรตุเกส
  • ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่)
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามที่ระบุ ค่าขนส่ง หรือค่ารับ-ส่ง ระหว่างทัวร์มีค่าเข้าชม
  • เจ้าหน้าที่ (มัคคุเทศก์ไทย) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในเส้นทาง มอบความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง
แพ็กเกจนี้ไม่รวม
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าเชงเก้น 4,000 บาทต่อท่าน (เรียกเก็บในใบแจ้งหนี้)
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าซักรีด โทรศัพท์-แฟกซ์ เครื่องดื่ม มินิบาร์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  • เคล็ดลับลูกหาบที่ต้องดูแลกระเป๋าเอง
เงื่อนไขการยกเลิก
  • ยกเลิกล่วงหน้า 30 วันก่อนการเดินทางเพื่อหักค่าใช้จ่ายตามจริง เช่น ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน ค่าวีซ่า และค่าดำเนินการ (ถ้ามี) ค่าโรงแรม ค่าตั๋วรถไฟ โดยมีรายละเอียดแสดงให้ลูกค้าเห็น (หมายเหตุ: PEAK Season สายการบินให้มัดจำ 2-3) เดือนก่อนการเดินทาง)
  • ยกเลิกการเดินทาง 15-29 วันก่อนเดินทาง หักค่าทัวร์ 50% + ค่าใช้จ่ายจริง
  • ยกเลิกการเดินทาง 0-14 วันก่อนการเดินทางยึดทัวร์ได้ 100%
  • ผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้าออกเมืองได้เนื่องจากเอกสารปลอม หักส่วนลด 100%
  • หากทัวร์ถูกยกเลิก หลังจากทำวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำหนังสือเดินทางมายกเลิกวีซ่าทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากโปรแกรมทัวร์ก็ตาม
หมายเหตุ
  • บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีเดินทางน้อยกว่า 15 คน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันก่อนการเดินทาง
  • บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงสถานที่ท่องเที่ยวที่ปิดให้บริการ โดยจะหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นมาทดแทนก่อน หรือคืนค่าธรรมเนียมแรกเข้าให้กับผู้เดินทางแทน
  • บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมการท่องเที่ยว ในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัย เช่น ความล่าช้าของสายการบินในการหยุดปัญหาการป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติของร้านอาหารที่ช้าลงหรือเหตุใด ๆ ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท เป็นต้น จะพิจารณาและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางให้มากที่สุด เป็นไปได้.
  • เพราะการท่องเที่ยวครั้งนี้เป็นการชำระเงินกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ คุณไม่สามารถเรียกร้องเงินคืนได้ ในกรณีที่ท่านปฏิเสธหรือสละสิทธิ์ในการใช้บริการที่ทัวร์จัดให้ เว้นแต่ท่านได้ตกลงหรือแจ้งให้ทราบก่อนการเดินทาง
  • ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆ หากคุณถูกปฏิเสธการเข้าเมือง และจะไม่คืนทัวร์ของทัวร์ที่คุณได้ชำระเงินไปแล้ว หากคุณถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าเมืองเนื่องจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย หรือหลบหนีเข้าไปในเมือง
  • กรณีจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (สมุดสีฟ้า) เดินทางไปกับคณะบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ หากคุณถูกปฏิเสธการเข้าหรือออกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะปกติแล้วนักท่องเที่ยวจะใช้หนังสือเดินทางส่วนตัว สมุดสีเลือดหมู
  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระค่ามัดจำ หมายถึง ท่านยอมรับข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทแจ้งไว้ข้างต้น