ครั้งหนึ่งในชีวิต อัศจรรย์ความงามธรรมชาติและแสงเหนือแห่งกรีนแลนด์และหมู่เกาะแฟโร

22.30 น. หัวหน้าทัวร์รอต้อนรับที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 Row D ประตูทางเข้าที่ 2 เคาน์เตอร์สายการบินไทย (TG) แผนกกรุ๊ป 

01.20 น. บินสู่สนามบินโคเปนเฮเกน (CPH) ประเทศเดนมาร์ก โดยเที่ยวบิน TG 950 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชม. 20 นาที)
07.40 น. ถึงสนามบินโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก (ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชม.) ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร เช็กอิน ณ เคาน์เตอร์เช็กอินสายการบินแอตแลนติก แอร์เวย์ส (Atlantic Airways) เพื่อเปลี่ยนเที่ยวบิน
12.25 น. บินสู่สนามบินแฟโร โดยเที่ยวบิน RC 453
13.40 น. ถึงสนามบินแฟโร (Faroe Island Airport) สนามบินแห่งเดียวในหมู่เกาะแฟโร ตั้งอยู่ทางตะวันออกของหมู่บ้านเซอร์วากูร์ (Sørvágur) บนเกาะวาการ์ (Vágar)
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
บ่าย เที่ยวชมบรรยากาศ หมู่เกาะแฟโร (Faroe Islands) ซึ่งเป็นกลุ่มเกาะจำนวน 18 เกาะ ในมหาสมุทรแอตแลนติกระหว่างนอร์เวย์กับไอซ์แลนด์ ทางเหนือของสกอตแลนด์ เป็นหนึ่งในดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์กมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1948 มีอำนาจในการปกครองตนเองทุกด้าน ยกเว้นด้านการต่างประเทศและการทหารเหมือนกับเกาะกรีนแลนด์ หมู่เกาะแฟโรไม่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศใดๆ ภูมิประเทศเต็มไปด้วยหน้าผาริมทะเลและเทือกเขาตามแนวภูเขาไฟ โดยความหมายของคำว่าแฟโรคือเกาะแห่งแกะ ทำไมจึงได้ชื่อเช่นนั้นเราคงต้องไปพิสูจน์กัน เช่น น้ำตกมูลาฟอสเซอร์ (Mulafossur Waterfall) น้ำตกที่เปรียบเสมือนซิกเนเจอร์ของหมู่เกาะแฟโร มีภาพปรากฏในโปสการ์ดท่องเที่ยวมากมาย ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมธรรมชาติและความสวยงามของน้ำตกที่มีฉากหลังเป็นภูเขาสวยแห่งหมู่เกาะแฟโร เดินทางสู่หมู่บ้านบูเออร์ (Bour Village) เที่ยวชมบรรยากาศหมู่บ้านเล็กๆ ที่เก่าแก่ บ้านเรือนมุงหลังคาด้วยหญ้า ตั้งอยู่ในซอร์แวงฟยอร์ด (Sorvagsfjord) ฟยอร์ดที่มีความสวยงามทางธรรมชาติมากที่สุดอีกแห่งของหมู่เกาะแฟโร นับเป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านที่สวยงามและมีทัศนียภาพธรรมชาติที่ปรากฏให้เห็นในโปสการ์ดและหนังสือท่องเที่ยวมากมาย เดินทางสู่หมู่บ้านไคว์วิค (Kvivik Village) เที่ยวชมบรรยากาศหนึ่งในหมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุดบนหมู่เกาะแฟโร และยังมีหลักฐานทางโบราณคดีที่แสดงให้เห็นว่าชาวไวกิ้งมีการเดินทางและตั้งรกรากถิ่นฐานที่หมู่บ้านแห่งนี้เมื่อประมาณศตวรรษที่ 18 เห็นได้จากบ้านเรือนของชาวไวกิ้งโบราณที่ยังคงหลงเหลืออยู่ เที่ยวชมหมู่บ้านเล็กๆ ที่แสนน่ารักแห่งหมู่เกาะแฟโร พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์และชื่นชมธรรมชาติแห่งหมู่เกาะแอตแลนติกเหนือ
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
ที่พัก HOTEL FOROYAR 4* หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
เดินทางสู่ หมู่บ้านซัคซุน (Saksun) เที่ยวชมบรรยากาศหมู่บ้านเล็กๆ ที่สงบเงียบตั้งอยู่บนไหล่เขา โอบล้อมไปด้วยภูเขาสูง เบื้องหน้าเป็นอ่าวรูปวงกลม มีช่องเขาเล็กๆ เปิดไปสู่มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ โดดเด่นด้วยหาดทรายดำ มีประชากรเพียงหลักสิบ ในหมู่บ้านจะมีโบสถ์สีขาว Saksunar Kirkja ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1858 ตัวโบสถ์หันหน้าเข้าหาลากูนที่มีชายหาดสีดำสามารถลงไปเดินเล่นได้ เดินทางสู่หมู่บ้านเกี๊ยว์จ (Gjógv) ตั้งอยู่บนเกาะ Eysturoy ซึ่งคำว่า Gjógv หมายถึงช่องเขา เที่ยวชมบรรยากาศของเมืองในหุบเขาที่โอบด้วยทะเล ล้อมรอบด้วยทิวทัศน์ฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นเกาะ Kalsoy และเกาะอื่นๆ ในภาคเหนือของหมู่เกาะแฟโร เดินทางสู่หมู่บ้านเคิร์กจูบูเออร์ (Kirkjubour) หมู่บ้านเล็กๆ ทางตอนใต้ของหมู่เกาะแฟโร เป็นหมู่บ้านที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของโบสถ์หินโบราณแมกนาส (Magnus Cathedral) จากศตวรรษที่ 13 ย้อนไปตั้งแต่ยุคไวกิ้ง และมีบ้านไม้ที่อายุเก่าแก่ที่สุดซึ่งสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 เที่ยวชมบรรยากาศของหมู่บ้านและความงดงามของโบสถ์หินโบราณที่ยังคงอนุรักษ์ไว้จนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งดื่มด่ำกับทัศนียภาพของบ้านไม้โบราณที่นิยมปลูกหญ้าบนหลังคาเลียบฝั่งมหาสมุทร นับเป็นอีกหนึ่งทัศนียภาพที่สวยงามแห่งหมู่เกาะแฟโร
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
บ่าย สัมผัสประสบการณ์ ล่องเรือสู่ผารังนก (Towering Cliffs) ซึ่งเป็นผาสูงตระหง่านอันเป็นที่อยู่ของนกแถบโซนอาร์กติก ไม่ว่าจะเป็นนกพัฟฟิน (Puffins) นกขนาดเล็กที่มีจะงอยปากสีสันสดใสที่อาศัยอยู่ตามชะง่อนผา และ นกอาร์กติกเทิร์น และอีกนานาชนิด หากโชคดีอาจได้พบโลมา หรือ วาฬที่อาจมาเล่นน้ำในบริเวณนี้
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
ที่พัก HOTEL FOROYAR 4* หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
เดินทางสู่ เมืองทอร์เชาน์ (Torshavn) ซึ่งเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะแฟโร ตั้งอยู่ทางตอนใต้และเป็นส่วนหนึ่งของชายฝั่งทิศตะวันตกของเกาะสเตรอเมอ (Streymoy Island) เที่ยวชมบรรยากาศและเดินเล่นพร้อมเก็บภาพเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ในฟยอร์ดอันสวยงาม ถ่ายรูปกับบ้านหลังคาหญ้า (Tiganes) ซึ่งมีการปลูกหญ้าบนหลังคาบ้านนับเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของเมืองทอร์เชาน์และหมู่เกาะแฟโร
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
เดินทางสู่สนามบินแฟโร 
14.30 น. บินสู่สนามบินโคเปนเฮเกน (CPH) โดยสายการบินแอตแลนติก แอร์เวย์เที่ยวบิน RC 456
17.35 น. ถึงสนามบินโคเปนเฮเกน
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
ที่พัก AC HOTEL BY MARRIOTT BELLA SKY COPENHAGEN 4* หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
เดินทางสู่ สนามบินโคเปนเฮเกน
09.00 น. บินสู่สนามบินแคงเกอร์ลุสซวก (SFJ) เกาะกรีนแลนด์ (Greenland) ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอาร์กติกทางเหนือสุดของโลก โดยสายการบินแอร์กรีนแลนด์ เที่ยวบินที่ GL 779 
10.40 น. ถึง สนามบินเมืองแคงเกอร์ลุสซวก (Kangerlussuaq) เมืองศูนย์กลางการบินทั้งภายในและระหว่างประเทศ เมืองเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากอาร์กติกเซอร์เคิล (Arctic Circle) เพียง 50 กม. เป็นดินแดนแห่งทุ่งหญ้า ทะเลสาบ ธารน้ำแข็ง และมีบางส่วนเป็นทะเลทราย เรียกได้ว่ามีภูมิประเทศค่อนข้างหลากหลาย โอบล้อมด้วยแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ (Greenland Ice Sheet) ที่ยิ่งใหญ่ 
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
บ่าย สัมผัสประสบการณ์ นั่งรถขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) สู่แผ่นน้ำแข็งแห่งกรีนแลนด์ (Ice Sheet Point 660) ผืนน้ำแข็งขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตาพร้อมชมทัศนียภาพของภูเขาน้ำแข็ง ทุ่งหญ้าทุนดราและทะเลทรายในหุบเขา แห่งกรีนแลนด์ ประเทศที่ได้ชื่อว่ามีพื้นที่แผ่นน้ำแข็งใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจากทวีปแอนตาร์กติกา (ระยะเวลาทำทัวร์ประมาณ 4-5 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
ที่พัก HOTEL KANGERLUSSUAQ 4* หรือเทียบเท่า
** อิสระชมแสงเหนือ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่สามารถมองเห็นในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสจากบริเวณที่พัก 
กรีนแลนด์ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่สามารถมองเห็นแสงเหนือได้จากทุกทิศทุกแห่ง แต่จุดที่จะชมแสงเหนือได้ดีที่สุดและมีโอกาสที่จะเห็นได้มากที่สุดต้องมาที่แคงเกอร์ลุสซวก (Kangerlussuaq) ซึ่งเป็นบริเวณที่แถบแสงเหนือทอดตัวพาดผ่านพอดี

เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
นั่งรถขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) สู่ธารน้ำแข็งรัสเซล (Russell Glacier) ธารน้ำแข็งที่มีผาน้ำแข็งขนาดใหญ่สูงกว่า 60 เมตรเด่นตระหง่าน เรียกได้ว่าเป็นแหล่งประติมากรรมธรรมชาติชิ้นเอกแห่งกรีนแลนด์ เนื่องจากลักษณะของก้อนน้ำแข็ง มีรูปลักษณ์ที่แตกต่างออกไป ตามการกัดเซาะของลมและฝน สามารถจินตนาการได้หลายรูปแบบ ระหว่างการเดินทางจะได้ชมภูมิประเทศแบบทุนดรา (Tundra) ที่มีหิมะปกคลุมเกือบตลอดปี แม้ในช่วงฤดูร้อนใต้พื้นดินก็ยังเป็นน้ำแข็ง พืชที่เติบโตในเขตทุนดราจะมีแต่พืชล้มลุกและไม้พุ่ม อันเป็นแหล่งอาหารอันอุดมสมบูรณ์ของเหล่าวัวป่า เก็บภาพความสวยงามของทัศนียภาพฝูงวัวป่าและทุ่งหญ้าสลับภูเขาและธารน้ำแข็ง นับเป็นภูมิประเทศที่น่าแปลกตา (*กรุณาสวมรองเท้าที่ใส่สบายและเหมาะสำหรับการเดินเป็นเวลานาน)
กลางวัน รับประทานอาหารแบบกล่อง (Lunch Box)
บ่าย เดินทางสู่สนามบินแคงเกอร์ลุสซวก
16.05 น. บินสู่สนามบินอิลลูลิแซท (JAV) โดยสายการบินแอร์กรีนแลนด์ เที่ยวบินที่ GL514
16.50 น. ถึงสนามบินอิลลูลิแซท เดินเล่นชมบรรยากาศ เมืองอิลลูลิแซท เมืองใหญ่อันดับสามของกรีนแลนด์ เขตชุมชนเก่าแก่ ซึ่งตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1741, ท่าเรือประมง, โบสถ์และบ้านเรือน พร้อมเก็บภาพบ้านหลากสีสัน และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวกรีนแลนด์ที่อาศัยอยู่บนเกาะใหญ่อันดับสองของโลกแห่งนี้ (ระยะเวลาทำทัวร์ประมาณ 2 ชั่วโมง กรุณาสวมรองเท้าที่ใส่สบายและเหมาะสำหรับการเดินเป็นเวลานาน)
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
ที่พัก BEST WESTERN PLUS HOTEL ILLULISSAT 3* หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
สัมผัสประสบการณ์ ล่องเรือชมธารน้ำแข็งอิควิเซอร์เมีย (Eqi Sermia Glacier) ชมความยิ่งใหญ่ของธารน้ำแข็งอิควิเซอร์เมีย ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งอีกแห่งบนผืนแผ่นดินใกล้ขั้วโลกเหนือที่มีขนาดใหญ่กว้าง 5 กม. ซึ่งยังมีการเคลื่อนตัวตลอดเวลา และมีกำแพงน้ำแข็งขนาดใหญ่ 200 เมตร ในช่วงที่อุณหภูมิสูงขึ้นธารน้ำแข็งจะละลายส่งเสียงดังกึกก้องเหมือนเสียงฟ้าร้อง เก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย (ระยะเวลาทำทัวร์ประมาณ 5-6 ชั่วโมง)
กลางวัน รับประทานอาหารแบบกล่องบนเรือระหว่างชมธารน้ำแข็ง
บ่าย เดินชม ธารน้ำแข็ง (Icefjord) ที่สวยงามอลังการ บริเวณนี้คือ เซอร์เมอร์มิอุท (Sermermiut) แหล่งโบราณคดีอายุกว่า 4,000 ปี ที่นักโบราณคดีเชื่อว่าเป็นถิ่นฐานของมนุษย์ยุคหินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะกรีนแลนด์ การเข้าชมความสวยงามของไอซ์ฟยอร์ดสะดวกง่ายดายด้วยการเดินบนทางไม้ที่ปูเป็นทางให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปชมความงามของทุ่งน้ำแข็ง และยังสามารถเดินขึ้นไปบนเชิงเขาซึ่งมีจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถมองเห็นทุ่งน้ำแข็งมรดกโลกของกรีนแลนด์และอิลลูลิแซทได้จากมุมสูง ไอซ์ฟยอร์ดเป็นธารน้ำแข็งที่เกิดจากการแตกตัวมาจากธารน้ำแข็งเซอแมค คูจอลเลค (Sermeq Kujalleq Glacier) โดยรูปร่างของก้อนน้ำแข็งหรือไอซ์เบิร์ก (Iceberg) แต่ละก้อนเรียกได้ว่าเป็นประติมากรรมทางธรรมชาติที่รังสรรค์ขึ้นอย่างสวยงาม ซึ่งองค์การ UNESCO ขึ้นทะเบียนให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
ที่พัก BEST WESTERN PLUS HOTEL ILLULISSAT 3* หรือเทียบเท่า
*** อิสระชมแสงเหนือ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่สามารถมองเห็นในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสจากบริเวณที่พัก ***

เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
เปิดประสบการณ์ ล่องเรือชมวาฬ (Whale Watching) กิจกรรมอันเป็นที่สุดของการท่องเที่ยวกรีนแลนด์ ซึ่งมีโอกาสได้พบกับวาฬที่อาศัยอยู่ถึง 15 สายพันธุ์ ในฤดูร้อนอาจจะได้พบกับสายพันธุ์ Minke whale, Fin whale และ Humpback whale ส่วนในช่วงฤดูหนาวจะมี 3 สายพันธุ์ Narwhals Whale, Beluga Whale และ Bow-Head Whale ที่อาจมาอวดโฉมในบริเวณอ่างแห่งนี้ (ใช้เวลาทำทัวร์ประมาณ 2.30-3 ชั่วโมง)
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
บ่าย สัมผัสประสบการณ์ ล่องเรือชมธารน้ำแข็ง (Iceberg Boat Tour) ตื่นตากับความอลังการของก้อนน้ำแข็งยักษ์ (Iceberg) ซึ่งเรียงรายอยู่ตลอดเส้นทาง หากเป็นวันที่แสงแดดส่องประกายจะเห็นเฉดสีฟ้าน้ำเงินของก้อนน้ำแข็งไล่ระดับกันอย่างชัดเจน ถือเป็นประสบการณ์สุดพิเศษครั้งหนึ่งในชีวิตที่ยากลืมเลือน นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งดูวาฬหลังค่อม (Humpback whales) อีกแห่งที่สำคัญของกรีนแลนด์ (ใช้เวลาทำทัวร์ประมาณ 2.30 ชม.)
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
ที่พัก BEST WESTERN PLUS HOTEL ILLULISSAT 3* หรือเทียบเท่า
** อิสระชมแสงเหนือ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่สามารถมองเห็นในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสจากบริเวณที่พัก 

เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
เดินทางสู่สนามบินอิลลูลิแซท 
10.45 น. บินสู่สนามบินโคเปนเฮเกน (CPH) โดยสายการบินแอร์กรีนแลนด์ เที่ยวบิน GL 553 
12.20 น. เครื่องแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินเมืองแคงเกอร์ลุสซวก
13.05 น. บินสู่สนามบินโคเปนเฮเกน โดยเที่ยวบิน GL 780
20.25 น. ถึงสนามบินโคเปนเฮเกน (CPH) ประเทศเดนมาร์ก
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
ที่พัก CROWNE PLAZA COPENHAGEN TOWER 4* หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
เดินทางขึ้นเหนือสู่เมือง North Zealand ดินแดนแห่ง 3 ปราสาท ทะเลสาบ และป่างามที่นักท่องเที่ยวให้สมญานามว่า ริเวียร่าแห่งเดนมาร์ก ถ่ายรูปกับ ปราสาท Frederikborg ที่สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบเรอเนซองส์ที่ใหญ่ที่สุดในแถบสแกนดิเนเวีย เริ่มสร้างราวช่วงต้นศตวรรษที่ 17 โดยพระเจ้าคริสต์เตียนที่ 4 ทดแทนปราสาทเก่าที่สร้างโดยพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 2 ในอดีตใช้เป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนาและพิธีสำคัญอื่นๆ เป็นปราสาทแห่งแรกของเดนมาร์กที่ไม่ได้สร้างติดทะเล ตัวปราสาทมีสวนขนาดใหญ่ที่จัดไว้ในสไตล์บาร็อค ได้ถูกขนานชื่อเล่นว่า Little Deer Park ปราสาทแห่งนี้แม้ว่าจะถูกไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1859 แต่ก็ได้รับการสร้างให้กลับคืนมาดังเดิมและถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ชนชาติเดนนิชแห่งชาติ เปิดใช้ในอีกกว่า 20 ปีถัดมาจนปัจจุบัน ภายในเก็บของสะสม ชิ้นงานศิลปะของเชื้อพระวงศ์และสมบัติของชาติมากมาย เข้าชมปราสาท Kronborg อายุกว่า 500 ปี ตั้งอยู่บนจุดที่แคบที่สุดของเออเรซุนด์ อ่าวระหว่างเดนมาร์กและสวีเดน ซึ่งอ่าวนี้กว้างเพียง 4 ตารางกิโลเมตร ด้วยทำเลชั้นเลิศนี้ตัวปราสาทจึงทำหน้าที่เป็นป้อมยุทธศาสตร์ในควบคุมการเดินเรือในบริเวณอ่าวบอลติกด้วย ตัวปราสาทเป็นผลงานชิ้นสำคัญที่สร้างในแบบเรอเนซองส์อย่างงดงามและยิ่งใหญ่ที่สุดในแถบยุโรปตอนเหนือ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกองค์การ  UNESCO ใน ค.ศ. 2000 นอกจากประวัติศาสตร์อันยาวนาน ปราสาทนี้ยังโด่งดังจากการเป็นสถานที่แสดงนวนิยายเรื่อง Hamlet วรรณกรรมชิ้นเอกอันโด่งดังของ Williams Shakespear ในครั้งครบรอบ 200 ปีการจากไปของกวีชาวอังกฤษผู้นี้ เดินทางกลับสู่โคเปนเฮเกน  
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารไทย
บ่าย เที่ยวชมบรรยากาศในตัวเมืองโคเปนเฮเกน เช่น ถ่ายรูป เงือกน้อย หรือ ลิตเติ้ลเมอร์เมด (Little mermaid) สัญลักษณ์ของกรุงโคเปนเฮเกน รูปปั้นทองแดงของเจ้าหญิงเงือกน้อยบนโขดหิน ผลงานจินตนาการสร้างของ Edv. Eiriksen สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานถึงนักประพันธ์ชาวเดนิช ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน เป็นหนึ่งในตัวละครจากนิทานอันโด่งดังที่แม้กระทั่งดิสนีย์ยังนำเรื่องนี้มาทำเป็นภาพยนตร์การ์ตูน, น้ำพุแห่งราชินีเกฟิออน (The Gefion Fountain) ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1908 ชื่อ Gefion นี้คือชื่อของเทพเจ้าในตำนานของชาวสแกนดิเนเวียน, พระราชวังอมาเรียนบอร์ก (Amalienborg) เป็นพระราชวังที่พระราชินีมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งราชวงศ์เดนมาร์กประทับอยู่และเป็นที่ประทับของราชวงศ์เดนมาร์กมาตั้งแต่ ค.ศ. 1794 เป็นสถาปัตยกรรมแบบร็อคโคโค บริเวณกลางลานมีพระรูปทรงม้าของพระเจ้าเฟรดเดอริกที่ 4 นอกจากนี้ในช่วงเวลา 11.30 น จะมีทหารเดินสวนสนามจากพระราชวังโรเซ่นบอร์ก (Rosenborg) เคลื่อนขบวนมาเปลี่ยนเวรเฝ้ายามที่หน้าพระราชวังอมาเรียนบอร์กแห่งนี้ทุกวัน, ท่าเรือนูฮาวน์ (Nyhavn) แปลว่า ท่าเรือใหม่ แม้จะเป็นท่าเรือที่พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 5 โปรดให้สร้างตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1673 เดิมเป็นท่าเรือพาณิชย์ที่ไว้สำหรับเรือจากทั่วทุกมุมโลกมาเทียบท่า บริเวณนี้จึงรายล้อมไปด้วยผับ บาร์ และร้านขายเหล้า จากนั้นจึงค่อยๆ ปรับปรุงขึ้นมาเป็นร้านอาหารและตึกรามบ้านช่องที่มีสีสันสดใส เป็นที่นิยมสำหรับวัยรุ่นชาวเดนมาร์กและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกนิยมมานั่งรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม ท่าเรือแห่งนี้เป็นที่ตั้งของบ้านเลขที่ 20 ที่นักประพันธ์ชาวเดนิช ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน เขียนนิยายเรื่อง The Tinderbox และ The Princess and the Pea (เจ้าหญิงกับเมล็ดถั่ว) ที่เป็นที่รู้จักนั่นเอง ช้อปปิ้ง ถนนสตรอยเกต (Strøget) ถนนช้อปปิ้งใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโคเปนเฮเกน เป็นถนนคนเดินยาวที่สุดในโลกที่คับคั่งไปด้วยร้านค้า มีตั้งแต่สินค้าราคาถูกจนถึงสินค้าแบรนด์เนมที่มีราคาแพงที่สุดในโลกให้เลือกซื้อหา ถนนคนเดินนี้มีความยาวถึง 1.1 กิโลเมตรที่ทอดยาวจากศาลาว่าการเมืองไปยังถนน Kongens Nytorv Strøget จึงถูกตั้งเป็นชื่อเล่นของถนนคนเดินดังกล่าวตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมา ครอบคลุม ถนน 4 สายด้วยกัน จนถูกประกาศให้เป็นเขตปลอดรถยนต์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1962 นี่เอง  
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
ที่พัก CROWNE PLAZA COPENHAGEN TOWER 4* หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
อิสระพักผ่อนหรือเดินเล่นชมเมืองเก็บภาพก่อนเดินทางกลับ เดินทางสู่ สนามบินโคเปนเฮเกน
14.25 น. เดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยการบินไทย เที่ยวบิน TG 951 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.35 ชั่วโมง)

06.00 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ