ดินแดนในอ้อมกอดหิมาลัย 1 ใน 5 ประเทศที่เทือกเขาหิมาลัยพาดผ่าน ประเทศที่รอให้คุณไปสัมผัสสักครั้ง ด้วยวิวทิวทัศน์อันสวยงาม ศิลปะวัฒนธรรม รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย

ทัวร์เนปาล กาฐมัณฑุ โภครา ภัตตาปูร์ ปาทัน นากาก็อต

บินตรง เที่ยวเต็มวัน ฟรีประกันการเดินทาง ฟรีน้ำหนักกระเป๋าตามที่สายการบินกำหนด ฟรีวีซ่า รวมค่าเข้าสถานที่เที่ยว
รายละเอียด

ทัวร์เนปาล กาฐมัณฑุ โภครา ภัตตาปูร์ ปาทัน นากาก็อต 5 วัน 4 คืน โดยสายการบินไทน ไลอ้อน แอร์ เที่ยวกาฐมัณฑุ โภครา เทือกเขาอานาปุระ ยอดเขาหางปลา ศูนย์อพยพชาวทิเบต ตลาดเก่าเมืองโภครา ล่องเรือพายในทะเลสาบเฟวา วัดบาลาฮี ซางรางก็อต วัดบินดาบาซินี สะพานข้ามแม่น้ำเซติ ภัคตะปูร์ จัตุรัสปักตะปุร์ ดูร์บาร์ พระราชวังภักตาปูร์ดูร์บาร์สแควร์ ประตูทองคำ วัดเนียตา โปลา ตลาดเครื่องปั้นดินเผา จัตุรัสทัตตะเตรยา หน้าต่างนกยูง เทือกเขานากาก๊อต วัดปศุปฏินารถ ปาทัน จัตุรัสปะฏัน ดูร์บาร์  พิพิธภัณฑ์ปะฏัน วัดตะเลชู บาวานี กฤษณะ มัณฑีร์ หิรัณยะ วรรณะ มหาวิหาร วัดทอง มหาเจดีย์โพธินาถ จัตุรัสกาฐมาณฑุดูร์บาร์ พระราชวังหนุมานดอร์กา ประตูหนุมานโดกา วัดกัลไบรับ พรหมบาเรีย วัดกุมารี กาฐมณฑป วัดสยมภูวนาถ ย่าน Thamel


รหัสทัวร์ : GONP8778
 กาฐมาณฑุ, เนปาล
สายการบินไทยไลอ้อนแอร์
วันที่เดินทาง :
31 ธ.ค. 2567 ถึง 04 ม.ค. 2568
ราคาเริ่มต้น
USD 1,463
ทำไมต้องจองทัวร์กับเรา
  • ราคาสุดท้ายไม่บวกเพิ่ม
  • รับประกันราคาที่ดีที่สุด
ติดต่อสอบถาม
02 001 5855
จันทร์ - เสาร์ 09:00 น. - 18:00 น.
ตารางการเดินทาง
  • วันที่
    1
    กรุงเทพฯ – กาฐมัณฑุ (ประเทศเนปาล)

    12.00 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง สายการบิน  Thai Lion Air (SL) โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระต่างๆ แก่ท่าน 
    15.00 น. ออกเดินทางสู่ กาฐมาณฑุ โดยสายการบิน THAI LION AIR เที่ยวบินที่ SL220 (ไม่มีอาหารบริการบนเครื่องบิน ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.)
    17.20 น. เดินทางถึง กาฐมาณฑุ (Kathmandu) ประเทศเนปาล ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระ นำท่านเดินทางสู่โรงแรม เมืองกาฐมัณฑุ (Kathmandu) เป็นเมืองหลวงของประเทศเนปาล และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดด้วยหลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้วนท่านเวลาของประเทศเนปาลช้ากว่าประเทศไทย 1. 15 ชั่วโมง
    18.30 น. บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร BHOJAN BHUMI NEPALI DINNER WITH SHOW พร้อมชมการแสดงทางวัฒนธรรมของชาวเนปาลี ลิ้มรสอาหารพิเศษ โม โม เกี๊ยวซ่าเนปาลแท้ๆ  ณ ภัตตาคารพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงสำหรับนักท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของประเทศเนปาล  
    ที่พัก Radisson Hotel Kathmandu

  • วันที่
    2
    กาฐมัณฑุ - โภครา

    07.00 น. บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม แบบบุฟเฟ่ต์
    08.00 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองโภครา โดยรถโค้ชปรับอากาศ (ประมาณ 5 ชั่วโมง) หรือชื่อเต็มว่า มหานครโปขรา เป็นมหานครในประเทศเนปาล เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับสองรองจากกรุงกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของประเทศ ระหว่างทางท่านจะได้เห็นทิวทัศน์ที่งดงามและวิถีชีวิตของชาวชนบทในประเทศเนปาลเส้นทางสายนี้มีชื่อเสียงมากในด้านความงดงามทางธรรมชาติ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ชอบเดินทางโดยรถมากกว่าทางเครื่องบิน “หุบเขาโภครา” สูงกว่าระดับน้ำทะเล 900 เมตร และโอบล้อมไปด้วยทิวเขาและป่าที่เขียวขจีเป็นทิวทัศน์ที่งดงามที่สุด จึงมีลักษณะพิเศษไม่เหมือนใครขึ้นไปท่านจะได้เห็น เทือกเขาอานาปุระ (ANNAPURNA) และยอดเขาหางปลา (มัจฉาปูร์ชเร MACHHAPUCHHRE) ที่สูงตระหง่านเสียดฟ้ากว่า 8,000 เมตรเมื่อได้สัมผัสยากนักที่จะลืมเลือนและน่าประทับใจในโภครายามเย็น โดยเฉพาะบริเวณรอบๆ ทะเลสาบมีร้านอาหารและร้านค้ากระจัดกระจายอยู่แบบเรียบง่ายและเป็นกันเอง ไว้คอยต้อนรับผู้มาเยือนตลอดทั้งปี
    12.00 น. บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร BARASINGHAY
    13.00 น. เดินทางต่อไปจนถึง หุบเขาโภครา…นำท่านชม น้ำตกเดวิด ที่มหัศจรรย์ไหลลงเหวลึกต้องก้มมองซึ่งตั้งชื่อตามนายเดวิทชาวสวิสที่ตกลงไปตายเนื่องจากโดนกระแสน้ำพัด นำชม ศูนย์อพยพชาวทิเบต TIBETAN REFUGEE CAMP สัมผัสความเป็นอยู่ของชาวทิเบตที่อพยพมาอยู่ทางตอนเหนือของเนปาลนอกจากนี้ท่านยังจะได้ชมการทอพรมด้วยมืออิสระให้ท่านได้ชมวิวเมืองโภครา ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ตลาดเก่าเมืองโภครา จากนั้นนำท่าน ล่องเรือพายในทะเลสาบเฟวา ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ ภาพทะเลสาบความงามของเฟวาสะท้อนภาพยอดเขามัจฉาปูชเรที่มีรูปร่างคล้ายหางปลานั้นเป็นภาพที่มีมนต์ขลังยิ่งนักตรงกลางทะเลสาบเป็นที่ตั้งของ วัดบาลาฮี ซึ่งมีสถูปสีขาวชื่อวัดบาลาฮีลอยเด่นตัดกับพื้นน้ำสีเขียวมรกต นำท่านสักการะ วัดบาลาฮี (Barahi Temple) วัดที่มีเทพธิดาอจิมา เทพธิดาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในเมืองโภคราทุกวันเสาร์จะมีการบูชายัญสัตว์แด่เทพธิดาลังที่สุด และอิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ในโภครายามเย็นบริเวณรอบๆทะเลสาบมีร้านอาหารและร้านค้ากระจัดกระจายอยู่แบบเรียบง่ายและเป็นกันเองไว้คอยต้อนรับผู้มาเยือนตลอดทั้งปี จากนั้น ท่านอิสระเดินเล่นช้อปปิ้งสิ้นค้าพื้นเมือง นักเดินทาง หลีกหนีจากเมืองหลวงอันวุ่นวายอย่างกาฐมาณฑุ มาเดินทาง เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมกลางแจ้งในเมืองเล็กๆ อย่างโภคราบริเวณเชิงเขา
    ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
    ที่พัก Mountain Glory Forest Resort & Spa

  • วันที่
    3
    โภครา - กาฐมาณฑุ - ภักตาปูร์ -นากาก็อต

    ปลุกตื่น เดินทางไปชมพระอาทิตย์ขึ้น ซางรางก็อต จุดชมวิวที่ตั้งอยู่บนยอดเขา ไปทางทิศตะวันตกประมาณ  5 กม.(ประมาณ 20 นาที) เป็นจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่งที่ท่านจะได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นเห็นแสงสีทองตัดกับยอดเขาหางปลาและเทือกเขาอานาปูระได้อย่างสวยงามยิ่ง พร้อมบริการจิบชากาแฟอุ่นๆ ในบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยเทือกเขาหิมะอย่างสบายอารมณ์ 
    08.00 น. บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมแบบบุฟเฟ่ต์
    09.00 น. นำท่านแวะสักการะขอพร วัดบินดาบาซินี ซึ่งเป็นที่เคารพของชาวเนปาลีในเมืองโภครามีพิธีทำบุญเฉพาะวันอังคารและวันเสาร์ถ้าเป็นวันพิธีสำคัญใหญ่ๆมีการบูชายันด้วยสัตว์เล็กและใหญ่ตลอดทั้งวัน นำท่านชม สะพานข้ามแม่น้ำเซติ ...เดินทางสู่สนามบินโภครา
    10.40 น. ออกเดินทางสู่ กาฐมาณฑุ โดยสายการบิน YETI AIRLINES เที่ยวบินที่ YT676
    11.30 น. เดินทางถึง กาฐมาณฑุ (Kathmandu)  หลังตรวจรับสำภาระเรียบร้อยแล้ว จากน้นนำท่านเดินทางสู่ภัตตาคาร
    12.30 น. บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร WATSHALA RESTURANT
    13.30 น. นำท่านเดินทางสู่ เมือง ภัคตะปูร์ (Bhaktapur) เป็นเมืองโบราณที่อยู่ห่างจากกรุง กาฐมาณฑุ เพียง 14 กิโลเมตร “เมืองโบราณที่ยังมีชีวิต และเต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลัง เมืองมรดกทางวัฒนธรรมแห่งหุบเขากาฐมาณฑุเมืองภัคตะปูร์ เป็น 1 ใน 7 กลุ่ม ของมรดกทางวัฒนธรรม ในเขตหุบเขากาฐมาณฑุ (Kathmandu Valley) ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองโบราณที่มีความเก่าแก่ และมีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ และ ศิลปะวัฒนธรรมอันดีเยี่ยม ปัจจุบันถือว่าเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยว จนได้รับการขนานนามว่าเป็น "เมืองแห่งอัญมณีทางวัฒนธรรมของเนปาลเมืองปักตะปูร์ หมายถึงเมืองแห่งความภักดีต่อพระเป็นเจ้า ที่มีความสำคัญและสวยงาม เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศเนปาลมีเสน่ห์ทุกซอกทุกมุมทำให้เล่นถ่ายรูปโดยไม่เบื่อเลย ซึ่งองค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้รับการยกย่องให้ เป็นมรดกโลก ในปี 1979 นำท่านเดินทางชม จัตุรัสปักตะปุร์ ดูร์บาร์ (Bhaktapur Durbar Squrae) สถานที่ท่องเที่ยวที่มี ความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองบักตะปูร์ เนื่องจากบริเวณจัตุรัสนั้นเป็นที่ที่ตั้งของหมู่พระราชวังสิ่งก่อสร้างที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม รวมไปถึงสถานที่สำคัญๆของเมืองมากมาย วิหารและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ในศิลปะสกุลช่างเนทาวารี เริ่มต้นที่พระราชวังภักตาปูร์ดูร์บาร์สแควร์ เป็นพระราชวังเดิมที่ตั้งอยู่ในเมืองบักตาปูร์ ประเทศเนปาล เป็นที่ประทับของกษัตริย์มัลลาแห่งเนปาลตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ถึงศตวรรษที่ 15 และกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรบักตาปูร์ตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ถึงปลายศตวรรษที่ 18 จนกระทั่งอาณาจักรถูกยึดครองในปี 1769 ปัจจุบัน ชมประตูทองคำ (Sun Dhaka หรือ Golden Gate) เป็นทางเข้านำไปสู่ลานของ พระราชวังนามว่า Palace of 55 Windows ประตูทองคำสร้างโดยกษัตริย์รานจิต มัลละ (King Ranjit Malla) เป็นประตูที่มีการแกะสลักงดงามและสมบูรณ์ที่สุดในโลก มีการประดับตกแต่งลวดลายของเหล่าเทพและอสูรต่างๆ ไว้อย่างประณีต ชมวัดเนียตา โปลา (Nyatapola Temple) เป็นวิหารความสูงห้าระดับในใจกลางภักตปุร์ ถือเป็นสิ่งปลูกสร้างทางศาสนาที่สูงที่สุดในเมือง และเป็นวิหารที่สูงที่ในในประเทศเนปาล สร้างขึ้นโดยดำริของกษัตริย์ภุปินทระ มัลละ สร้างเสร็จในเวลา 6 เดือน ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 1701 ถึง 15 กรกฎาคม 1702 ตลาดเครื่องปั้นดินเผา ซึ่งเราจะได้พบเห็นหม้อดินนับร้อยใบที่วางผึ่งแดดอยู่กลางจัตุรัส และพระคเณศเศียรช้างชาวบ้านท้องถิ่นนั้นเชื่อว่าเป็นเทพอุปถัมภ์ของช่างปั้นหม้อ เยือน "จัตุรัสทัตตะเตรยา" (Dattatreya Square ) ซึ่งเป็นที่ตั้งของ "วัดทัตตะเตรยา" (Dattatreya Temple) วัดเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยกษัตริย์ยักษ์ มัลละ (King Yaksha Malla) เป็นวัดขนาดใหญ่ 3 ชั้น เชื่อกันว่าสร้างจากต้นไม้ต้นเดียวเช่นเดียวกับวัดสำคัญอื่นในเนปาล แต่สิ่งที่โดดเด่นและไม่พลาดชม คือ หน้าต่างนกยูง ซึ่งเป็นหน้าต่างที่แกะสลักเป็นรูปนกยูงลำแพนอย่างละเอียดงดงาม เดินทางเท้าไปชม หน้าต่างนกยูง Peacock Window ตั้งอยู่บนชั้นสองในซอยเล็กๆ ไม่ไกลจากจัตุรัสบักตาร์ปูร์ ดูบา เป็นอาคารฮินดูและแกะสลักอย่างสวยงาม พาทุกท่านชิม Juju Dhau เป็นโยเกิร์ตที่ผลิตขึ้นชื่อของเนปาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหุบเขากาฐมา ณ ฑุ (บักตาปูร์) คำว่า "Dhau" หมายถึงโยเกิร์ตรสหวาน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วชาว Newars ซึ่งเป็นชนเผ่าพื้นเมืองของเนปาลจะเป็นผู้เตรียม Juju Dhau แปลว่า "ราชาโยเกิร์ต" ในภาษา Newari จากนั้นได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ เทือกเขานากาก๊อต (Nagarkot) (เส้นทางขึ้นเขาประมาณ 1 ชม.) จากทิวทัศน์ทิศตะวันออกของหุบเขาจะสามารถมองเห็นเทือกเขาหิมาลัยได้โดยรอบ ซึ่งที่นี่สามารถชมยอดเขา 5 ยอด จากจำนวน 10 ยอดที่สูงที่สุดในโลก ได้แก่ ยอดเขาเอเวอร์เลส (Everest), โลดเส (Lhotse), โชยู (Cho Yu), มาคารา (Makala), มานาสรู (Mamaslu) และยังเป็นเมืองตากอากาศของชาวเนปาล นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาพักผ่อนและชมพระอาทิตย์ตกและพระอาทิตย์ขึ้น ความสวยงามอยู่ที่แสงของพระอาทิตย์สาดส่องตัดกับหิมะสีขาวที่ปกคลุมตามยอดเขาอย่างสวยงาม…รถไต่ระดับความสูงของเทือกเขาที่คดโค้งและมีทิวทัศน์นาคันบันไดที่สวยงามอย่างยิ่ง …จนถึงที่พักคืนนี้ ความสูง 2,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล..แบบ ชมวิวยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะอันงดงามทางตะวันออกของเนปาล
    ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
    ที่พัก Club Himalaya Nagarkot

  • วันที่
    4
    นากาก็อต - ปาทัน - กาฐมาณฑุ

    เช้าตรู่ ปลุกตื่น..อิสระ ชมพระอาทิตย์รุ่งอรุณเหนือเทือกเขาหิมาลัยจากห้องพักของท่าน หรือเดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์  ชมวิวที่น่าทึ่งของเทือกเขาหิมาลัยและดูว่าคุณสามารถมองเห็นยอดเขาเอเวอเรสต์ได้หรือไม่ ณ ที่นี้ท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศหนาวเย็นอันสดชื่นของธรรมชาติ ที่สะอาดบริสุทธิ์เหนือเทือกเขาหิมาลัย.. ท่านจะได้เห็นภูเขาเปลี่ยนสีทองเปล่งประกายสวยงาม หากทัศนะวิสัยปลอดโปร่งท่านจะได้เห็นยอดเขา “เอเวอเรสท์” ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก (สูง 8,848 เมตร) เปรียบได้ว่าเป็น “มงกุฎของโลก” และยังสามารถมองเห็น ยอดเขาอื่นๆอีก 5 ยอด จากจำนวนยอดเขา 10 ยอดที่สูงที่ในโลก อาทิ ยอดเขา เอเวอร์เรสท์ (EVEREST) โลดเส (LHOTSE) โชยู (CHOYU) มาลาคู (MAKALA) และ มานาสรู (MAMASLU) 
    ** หมายเหตุ ในวันที่อากาศโปร่งใส่ท่านสามารถที่จะเห็นเทือกเขาหิมาลัยตลอดแนวตั้งแต่ฝั่งตะวันออกถึงตะวันตกเลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศวันนั้นเป็นสำคัญ **
    08.00 น. บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม แบบบุฟเฟต์
    09.00 น. นำท่านเดินทางสู่หุบเขากาฐมาณฑุ เส้นทางเดิม (เส้นทางลงเขาประมาณ 1.30 ชม.)  
    11.00 น. นำท่านชม วัดปศุปฏินารถ  (Pashupatinath Temple) ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์ศิวะเทพของชาวเนปาล “ปศุปตินาถมนเทียร” เป็นโบสถ์พราหมณ์ในประเทศเนปาล สร้างถวายพระปศุบดี ซึ่งเป็นเทพเจ้าประจำชาติเนปาล ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำพัคมาตี (Bagmati River) ซึ่งไหลผ่านใจกลางเมืองกาฏมาณฑุ เป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับที่ชาวอินเดียนับถือแม่น้ำคงคาแห่งเมืองพาราณสี ชาวเนปาลก็ถือว่าพัคมาตีเป็นแม่น้ำแห่งพระศิวะ เป็นแม่น้ำที่สัมพันธ์กับชีวิตของชาวฮินดูตั้งแต่เกิดจนตาย เป็นวัดมีความศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาฮินดู มีการเผาศพริมน้ำ เค้าเชื่อกันว่าเมื่อเสียแล้วต้องเผาใน 24 ชม. ส่วนในตัววัดเข้าไม่ได้เนื่องจากเฉพาะศาสนาฮินดูถึงเข้าได้ ช่วงศตวรรษที่ 3 ปาตันได้ชื่อว่าเป็นเมืองคู่แฝดของกรุงกาฐมาณฑุได้รับการขนานนามว่าเมืองแห่งความงาม (City of Beauty) นับเป็นนครโบราณที่ยังมีชีวิตภายในเมืองเต็มไปด้วยวัดทางศาสนาฮินดูและสิ่งปลูกสร้างในพุทธศาสนาวัดปศุปฏินาถแห่งนี้ได้รับการทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ในปี พ.ศ. 2522
    12.30 น. บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร CHINA TOWN LAZIMPAT
    13.30 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองปาทัน เมืองเก่ามรดกโลก (Patan city) ปาฏัน หรือ ยละ หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า “มหานครลลิตปุร์” เป็นหนึ่งในเมืองหลักของประเทศเนปาล ปาฏันถือเป็นนครที่ร่ำรวยด้วยมรดกด้วตุรัสปะฏัน ดูร์บาร์ (Patan Durbar Square) ตั้งอยู่ตรงใจกลางเมือง จัตุรัสแห่งนี้เต็มไปด้วยพระราชวังโบราณ วัด และโบสถ์ที่เก่าแก่มีชื่อเสียงในด้านการแกะสลักที่ประณีตงดงาม นอกจากนี้ อาคารโดยรอบจัตุรัสเป็นบ้านเรือนประชาชนที่แกะสลักบานประตูและหน้าต่างอย่างสวยงามอีกด้วย นำท่านเดินชมเดินทางเท้าชมบริเวณ จัตุรัสปะฏัน ดูร์บาร์ ชมพระราชวังปะฏัน (Patan Palace) ถือได้ว่าเป็นต้นแบบของงานสถาปัตยกรรมแบบศิขะระ (Shikhara Style) ของเนปาล  ประกอบไปด้วย “ฉอก”(Chowk) ห้องอาบน้ำหลวง (Royal Bath) ที่เรียกว่าตุศาหิตี(Tushahity) ซึ่งนับว่าเป็นสถาปัตยกรรมหินชิ้นสำคัญด้วย จัตุรัสนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกเป็นมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งยศิลปะและวัฒนธรรมเป็นที่สุด ชมพิพิธภัณฑ์ปะฏัน (Patan Museum) พิพิธภัณฑ์นี้อยู่ภายในบริเวณจัตุรัสปะฏัน ดูร์บาร์ เป็นเขตพระราชทานชั้นในของพระราชวังเก่ามีชื่อเสียงทางด้านรูปปั้นทองเหลือง รวมทั้งศาสนวัตถุทั้งหลาย โดยเฉพาะพระราชบัลลังก์กษัตริย์แห่งปะฏัน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปเอเชียเลยทีเดียว ชมวัดตะเลชู บาวานี (Taleju Bhawani) ภายในวัดมีเทวรูปพระศิวะและพระนางปารวตีประทับอยู่บนยอดประตูทองคำ (Golden Gate) ชมกฤษณะ มัณฑีร์ (Krishna Mandir) สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2180 นอกจากนี้ยังเป็นวัดเดียวในเนปาลที่มีเจดีย์ 21 องค์ที่ทำจากหินแกรนิตสีเทาทั้งหมด ชมมหาพุทธะ (Mahabuddha) วัดทางศาสนาพุทธแห่งนี้สร้างจากดินเหนียวสีแดง มีพระพุทธรูปสลักขององค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านับพันๆ องค์ตั้งประดิษฐานอยู่ โครงสร้างที่ทำจากดินเหนียวเผาไฟสีน้ำตาลแดงนี้เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมชิ้นสำคัญในยุคศตวรรษที่ 14 ของเนปาล ชม หิรัณยะ วรรณะ มหาวิหาร (Hiranya Varna Mahavihar) ตั้งอยู่ภายในควาพาเทฮาล (Kwabadehal) มีลักษณะเป็นเจดีย์ทอง 3 ชั้น เป็นที่ประดิษฐานของโลเกศวร (Lokeshwor) หรือองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 โดยกษัตริย์ภาสกร เวรมา (King Bhaskar Verma) ที่นี่มีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นวัดทองคำ ชั้นบนของเจดีย์มีพระพุทธรูปทองคำและธรรมจักรทองคำอยู่ด้วย
    วัดทอง (Golden Temple) หรือวัดหิรัณยะ วรรณะ มหาวิหาร (Hiranya Vama Mahavilhan) เป็นวัดในพุทธศาสนา ลักษณะเป็นเจดีย์ทอง 3 ชั้น หลังคาทำด้วยแผ่นทองเป็นเส้นยาวลงมาจรดพื้นดินซึ่งสร้างตามความเชื่อที่ว่าจะเป็นเส้นทางที่เดินไปสู่สวรรค์ นอกจากนี้วัดยังประดับตกแต่งด้วยทองเหลือและทองแดงจนอร่ามเรือง สมกับเป็นวัดเก่าแก่นับพันปีที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองปะฏัน ช้อปปิ้งในปาทัน (ลลิตปูร์) จัตุรัสปาตันดูร์บาร์ ทั่วทั้งบริเวณเต็มไปด้วยร้านขายสินค้าหัตถกรรม มากมาย เช่น เครื่องประดับ หัตถกรรม เสื้อผ้าสำเร็จรูป และร้านขายของที่ระลึกอื่นๆ จนถึงเวลานัดหมาย...
    16.00 น. นำท่านเดินทางสู่  มหาเจดีย์โพธินาถ (Boudhanath) มหาเจดีย์โพธินาถมีความหมายบ่งบอกถึง “พระพทธเจ้าผู้เป็นที่พึ่ง” มหาเจดีย์สีขาว ยอดสีทอง เป็นศาสนาสถานใหญ่ที่สุดและศักดิ์สิทธิที่สุดของเนปาล มหาเจดีย์โพธินาถได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1979 โดยเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล (สูง 38 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 32 เมตร) ชาวทิเบตเรียกกันในชื่อ “จารุง กาโซว์ โชร์เตน (Jarung Kashor Chorten)” นำท่านเข้าชมภายใน “มหาเจดีย์โพธินาถ”จิตวิญญาณของชาวทิเบต ในประเทศเนปาล เจดีย์ ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง อบอวลไปด้วยพลังแห่งศัทธา ไม่มีที่ไหนเหมือน เจดีย์โพธานาท เจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เป็นเหมือนเจดีย์ ที่มีชีวิต เนื่องจากมีผู้แสวงบุญหลายพันคนมารวมตัวกันทุกวัน เพื่อทำพิธี และเดินรอบเจดีย์แห่งนี้ภายใต้สายตาของพระพุทธเจ้า ที่นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งในโลกที่สามารถเข้าถึงวัฒนธรรมของพุทธศาสนาในทิเบต นอกจากนี้ถนนรอบๆ เจดีย์ก็เต็มไปด้วย อารามต่างๆ ร้านค้าที่ผลิต ธูปเทียน ไม้กฤษณา ที่ใช้ในการบูชาพระพุทธเจ้า แตรสำหรับทำพิธีทางทิเบต หมวกพระและเครื่องใช้อื่นๆ เป็นต้น..อสิระให้ทุกท่านได้จุดเทียน ตะเกียงที่ทำจากน้ำมันเนยและเดินทางชม ร้านค้าต่างๆๆ รอบๆเจดีย์..จนถึงเวลานัดหมายนำท่าเดินทางสู่ที่พัก
    19.00 น. บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
    ที่พัก The Everest Hotel

  • วันที่
    5
    กาฐมาณฑุ - กรุงเทพฯ

    07.00 น. บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม แบบบุฟเฟต์ 
    08.00 น. นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสกาฐมาณฑุดูร์บาร์(Kathmandu Durbar Square)  จัตุรัสกาฐดูร์บาร์มีสถาปัตยกรรมและงานฝีมือของช่างชาวเนวาร์อายุหลายร้อยปี แต่อาคารหลายแห่งเสียหายจากแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2015 เคยเป็นที่ตั้งวังมัลลกษัตริย์และศากะกษัตริย์ซึ่งครองอำนาจอยู่ในบริเวณนั้น ทั้งยังมีลานซึ่งประกอบด้วยชานชาลาและวัดมากมาย ลานนั้นชื่อว่า หนุมานโธคา (Hanuman Dhoka) ตั้งชื่อตามรูปปั้นหนุมานที่อยู่ตรงทางเข้าวัง หน้าพระราชวังเก่าของอดีตราชอาณาจักรกาฐมาณฑุ จัตุรัสแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปีพ.ศ. 2522 นำท่านเดินเท้าชมภายใน จัตุรัสกาฐมาณฑุดูร์บาร์ แห่งนี้ นับเป็นวิถีแห่งความรุ่งโรจน์จากอดีต ที่ยังคงรูปร่างที่ตระการตามาจนถึงปัจจุบันประกอบไปด้วยวัดและปราสาทเก่าแก่ ทั้งใหญ่และเล็กรวมกันกว่า 50 แห่ง เรียงรายกระจายกันอยู่เต็มพื้นที่ ซึ่งแสดงภาพของความเจริญรุ่งเรืองทางด้านศาสนาและวัฒนธรรมของชาวเนปาลและยังเป็นสถานที่ที่กษัตริย์เนปาลประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกขึ้นครองราชย์อีกด้วย ชมพระราชวังกาฐมัณฑุ หรือ พระราชวังหนุมานดอร์กา (Hanumandhoka) เป็นอาคารสีขาวที่สร้างในแบบสถาปัตยกรรมยุโรป มีหอสูง 9 ชั้น เรียกว่าหอพสันตปุร์ เพื่อใช้ในการประกอบพิธีกรรมสำคัญในราชวงศ์และยังเป็นสถานที่กษัตริย์เนปาลประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกขึ้นครองราชสมบัติ ชม “ประตูหนุมานโดกา” "Hanuman Dhoka" หรือประตูหนุมาน เป็นประตูทางเข้าพระราชวังซึ่งมีรูปปั้นหนุมานยืน (เทพเจ้าลิง) มีอายุประมาณปี พ.ศ. 2215 คอยเฝ้าพระราชวัง หนุมานประดับด้วยผ้าสีแดงและร่ม ใบหน้าถูกทาด้วยแป้งสีแดง ชม “วัดกัลไบรับ พรหมบาเรีย” Kal Bhairab Temple เป็นวัดฮินดูสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระศิวะวัดแห่งนี้มีชื่อเสียงจากพระศิวะลิงกะขนาดยักษ์ซึ่งเป็นรูปปั้นพระศิวะสูง 28 ฟุต ซึ่งสันนิษฐานว่าใหญ่ที่สุดในโลก วัดแห่งนี้เป็นสถานที่แสวงบุญที่สำคัญของชาว Shaivites ในบังคลาเทศ ชม “วัดกุมารี หรือกุมารีฆระ“ (Temple of Kumari or Kumari Ghar) "เทพธิดาแห่งชีวิต" กุมารี หรือกุมารีเทวี หรือเทพธิดาที่มีชีวิต เป็นประเพณีการบูชาหญิงพรหมจารีที่ได้รับเลือกเป็นการสำแดงพลังแห่งสตรีอันศักดิ์สิทธิ์หรือศักติในประเพณีทางศาสนาธรรม เชื่อกันว่าหญิงสาวถูกครอบงำโดยเทพธิดาTaleju หรือ Durga คำว่า กุมารี มาจากภาษาสันสกฤต แปลว่า เจ้าหญิง ขบวนแห่นี้คล้ายกับพระอินทร์หรือศากรา โดยนำพระอินทร์ไปยังที่ประทับบนสวรรค์ในฐานะเจ้าสาวของเขา เทศกาลนี้มีการเฉลิมฉลองในช่วงกุมารี จันทรา ซึ่งตามพิธีทางศาสนาของพระอินทร์จาตรี.ชาวเนปาลเชื่อกันว่ากุมารีคืออวตารของเทพธิดาพรมจรรย์ ชม “กาฐมณฑป” Kasthamandap หรือ “เรือนไม้” กาษฐมณฑป หรือ มรุ สตะ เป็นอาคารไม้เก่าแก่ต้นกำเนิดของชื่อเมืองกาฐมัณฑุ ซึ่งสร้างจากต้นไม้เพียงต้นเดียว สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 12
    12.30 น. บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร BAN THAI (อาหารไทย)
    13.30 น. นำท่านสักการะ วัดสยมภูวนาถ (Swayambhunath) หรือวัดลิง (Monkey Temple) สยมภูวนาถ หมายถึง พระผู้ถือกำเนิดขึ้นเองเพื่อเป็นที่พึ่งของชาวพุทธ สร้างขึ้นตรงจุดที่เชื่อว่า พระอาทิพุทธ ปรากฏพระองค์บนโลกมนุษย์ และเป็นจุดกำเนิดของหุบเขากาฏมาณฑุ หุบเขาแห่งศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ เป็นอีกหนึ่งมรดกโลกของเนปาล ที่มีอายุกว่า 2,500 ปี นำท่านสักการะ “วัดสยมภูวนาถ” (Swayambhunath) หรือวัดลิง (Monkey Temple) สยมภูวนาถ หมายถึง พระผู้ถือกำเนิดขึ้นเองเพื่อเป็นที่พึ่งของชาวพุทธ สร้างขึ้นตรงจุดที่เชื่อว่า พระอาทิพุทธ ปรากฏพระองค์บนโลกมนุษย์ และเป็นจุดกำเนิดของหุบเขากาฏมาณฑุ หุบเขาแห่งศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ เป็นอีกหนึ่งมรดกโลกของเนปาล ที่มีอายุกว่า 2,500 ปี ส่วนตรงฐานของสถูปซึ่งมีดวงตาเห็นธรรม หรือ Wisdom Eyes อยู่ทั้งสี่ด้าน ซึ่งแฝงความหมายของ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นวัดที่ได้แสดงถึงวิถีชีวิตวัฒนธรรมของชาวเนปาล ซึ่งผสมผสานศาสนาฮินดูกับศาสนาพุทธเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน จากนั้นเดินทางสู่ ย่าน Thamel สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและคึกคักที่สุดในเนปาล ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง ย่านที่มีชีวิตชีวาแห่งนี้เป็นที่รู้จักจากตรอกสั้นๆ ที่เต็มไปด้วยร้านค้า แผงขายของ ร้านอาหาร และผับที่หลากหลาย ทาเมลเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของกาฐมาณฑุมานานกว่าศตวรรษ และเป็นสถานที่ ที่นักท่องเที่ยวเนปาลต้องไม่พลาด อิสระให้ท่านเดินทางชม และช้อปปิ้งจำถึงเวลานัดหมาย
    16.30 น. เดินทางสู่สนามนานาชาติบินตรีภูวัน เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย
    18.20 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพ โดยสายการบิน THAI LION AIR เที่ยวบินที่ SL 221
    22.45 น. เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ

มื้ออาหารและที่พัก
วันที่
อาหารเช้า
อาหารเที่ยง
อาหารเย็น
โรงแรม
1
Radisson Hotel Kathmandul or Equivalent
2
Mountain Glory Forest Resort & Spa or Equivalent
3
Club Himalaya Nagarkot or Equivalent
4
The Everest Hotel or Equivalent
5
-
ข้อตกลงและเงื่อนไข
  • ชำระเงินเต็มจำนวน

  • การจองนี้ยังไม่ใช่การยืนยันที่นั่ง  (เนื่องจากที่ว่างมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา) เจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการเช็คที่นั่งว่างและแจ้งกลับลูกค้าอีกครั้ง ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง

แพ็กเกจนี้รวม
  • ค่าตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัดไป-กลับตามที่ระบุไว้ในรายการ

  • สายการบินภายในประเทศ ตามที่ระบุไว้ในรายการ

  • ค่าโรงแรมพักห้องคู่ ตามที่ระบุไว้ในรายการ 

  • ค่ายานพาหนะและค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆตามที่ระบุไว้ในรายการ

  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าและภาษีสนามบินทุกแห่งตามที่กำหนดไว้ในรายการ

  • ค่าประกันภัยการเดินทาง วงเงิน 1,000,000 บาท ต่อท่าน(วงรักษาพยาบาลเงินไม่เกิน 500,000 บาท) แต่ทั้งนี้ย่อมอยู่ในข้อจำกัดที่มีการตกลงไว้กับบริษัทประกันชีวิต

แพ็กเกจนี้ไม่รวม
  • ค่าจัดทำหนังสือเดินทาง( PASSPORT) และค่าทำใบอนุญาตที่กลับเข้าประเทศของคนต่างชาติ หรือ คนต่างด้าว

  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างๆ เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าถ่ายรูป/ถ่ายวีดีโอ ที่ต้องจ่ายเพิ่มในสถานที่ท่องเที่ยพิเศษต่างๆ, ค่าอาหาร, ค่าเครื่องดื่มที่สั่งนอกเหนือจากรายการ

  • ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (กรณีออกใบกำกับภาษี)    

  • ค่าน้ำหนักเกินพิกัดตามสายการบินกำหนด 20 กิโลกรัม

  • ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น,คนขับรถ และผู้ช่วยวันละ (รวม 45 USD /ท่านตลอดรายการ)

  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทยแล้วความประทับใจในบริการ

  • การให้ทิปตามธรรมเนียม ทางบริษัทฯมิได้มีผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของท่านเพื่อเป็นกำลังใจให้กับไกด์ และคนขับรถ

เงื่อนไขการยกเลิก
  • หากมีการชำระมัดจำทัวร์และต้องการยกเลิกไม่ว่ากรณีใดๆก็ตามต้องชำระค่าบริการ ท่านละ 2,000 บาท

  • ยกเลิกเดินทาง 30 วันล่วงหน้าก่อนการเดินทางหักค่าธรรมเนียมท่านละ 2,000 บาท และใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น มัดจำตั๋วเครื่องบิน, วีซ่า, ค่าดำเนินการ (ถ้ามี), ค่าโรงแรม, ค่าตั๋วรถไฟ, หรืออื่นๆ โดยจะมีราละเอียดแสดงให้แก่ลูกค้าได้รับทราบ (หมายเหตุ: ช่วง Peak season สายการบินให้มัดจำล่วงหน้า 2-3 เดือนก่อนออกเดินทาง) 

  • แจ้งยกเลิกเดินทาง 15-29 วัน ก่อนการเดินทาง หัก 50% ของราคาทัวร์ + ค่าธรรมเนียม 2,000 บาท

  • แจ้งยกเลกเดินทาง 0-14 วัน ก่อนการเดินทาง หัก 100% ของราคาทัวร์

  • หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังจากยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้วบริษัทของสงวนสิทธิ์ในการนำพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช่จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม

  • ยกเลิกช่วงเทศกาล 

- ยกเลิกก่อนการเดินทาง สงกรานต์-ปีใหม่ 50 - 60 วัน (กรณีมีการชำระมัดจำแล้วยกเลิก) ชำระค่าบริการ ท่านละ 2,000 บาท + และใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น มัดจำตั๋วเครื่องบิน, วีซ่า, ค่าดำเนินการ (ถ้ามี), ค่าโรงแรม, ค่าตั๋วรถไฟ หรืออื่นๆ โดยจะมีราละเอียดแสดงให้แก่ลูกค้าได้รับทราบ (หมายเหตุ: ช่วง Peak season สายการบินให้มัดจำล่วงหน้า 2-3 เดือนก่อนออกเดินทาง) 

- ยกเลิกก่อนการเดินทาง สงกรานต์-ปีใหม่ 0 - 30 วัน ชำระ 100% ของราคาทัวร์ 

หมายเหตุ
  • บริษัทฯ มีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้

  • บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะเลื่อนการเดินทางในกรณีที่มีผู้ร่วมคณะไม่ถึง 10 ท่าน หรือตามที่บริษัทฯ กำหนด

  • รายการนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทฯ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้สารองที่นั่งบนเครื่อง และโรงแรมที่พักในต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตามรายการนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม

  • บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายในเหตุการณ์ที่เกิดจากสายการบิน ภัยธรรมชาติ และอื่นๆที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัทฯหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทางตรงหรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย, การถูกทำร้าย, การสูญหาย, ความล่าช้า หรือจากอุบัติเหตุต่างๆ

  • หากท่านยกเลิกก่อนรายการท่องเที่ยวจะสิ้นสุดลง ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านสละสิทธิ์และจะไม่รับผิดชอบค่าบริการที่ท่านได้ชำระไว้แล้วไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น

  • บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อการห้ามออกนอกประเทศ หรือ ห้ามเข้าประเทศ อันเนื่องมาจากมีสิ่งผิดกฎหมาย หรือเอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆ

  • ราคานี้คิดตามราคาตั๋วเครื่องบินในปัจจุบัน หากราคาตั๋วเครื่องบินปรับสูงขึ้น บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะปรับราคาตั๋วเครื่องบินตามสถานการณ์ดังกล่าว

  • กรณีเกิดความผิดพลาดจากตัวแทน หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนมีการยกเลิก ล่าช้า เปลี่ยนแปลง การบริการจากสายการบินบริษัทฯขนส่ง หรือ หน่วยงานที่ให้บริการ บริษัทฯจะดาเนินโดยสุดความสามารถที่จะจัดบริการทัวร์อื่นทดแทนให้ แต่จะไม่คืนเงินให้สาหรับค่าบริการนั้นๆ

  •  มัคคุเทศก์ พนักงาน และตัวแทนของบริษัทฯ ไม่มีสิทธิ์ในการให้คำสัญญาใดๆ ทั้งสิ้นแทนบริษัทฯ นอกจากมีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัทฯ กำกับเท่านั้น

  • หากไม่สามารถไปเที่ยวในสถานที่ที่ระบุในโปรแกรมได้ อันเนื่องมาจากธรรมชาติ ความล่าช้า และความผิดพลาดจากทางสายการบิน จะไม่มีการคืนเงินใดๆทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ทางบริษัทฯจะจัดหารายการเที่ยวสถานที่อื่นๆมาให้ โดยขอสงวนสิทธิ์การจัดหานี้โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า

  • เมื่อท่านออกเดินทางไปกับคณะแล้ว ท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่ง หรือไม่เดินทางพร้อมคณะถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่อาจเรียกร้องค่าบริการ และเงินมัดจาคืน ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น

  • กรณีเจ็บป่วยจนไม่สามารถเดินทางได้ซึ่งจะต้องมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรับรองบริษัทฯจะพิจารณาเลื่อนการเดินทางของท่านไปยังคณะต่อไปแต่ทั้งนี้ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถเรียกคืนได้ เช่นค่าตั๋วเครื่องบินค่าห้อง ค่าธรรมเนียมวีซ่าตามที่สถานทูตฯ เรียกเก็บ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เกิดขึ้นตามจริง ในกรณีที่ไม่สามารถเดินทางได้

  • กรณีผู้เดินทางไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากเอกสารปลอมหรือการห้ามของเจ้าหน้าที่ไม่ว่าเหตุผลใดๆ ก็ตามทางบริษัทของสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด

  • ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ราคานี้เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยและท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะแบบ Join Tour เท่านั้น กรณีต้องการตัดกรุ๊ปเหมาโปรดสอบถามทางบริษัทอีกครั้ง หากเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือ พระสงฆ์ โปรดสอบถามทางบริษัทอีกครั้ง

  • หากมีการยกเลิกการจองทัวร์หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้วบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณีไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม