ทัวร์จอร์แดน อัมมาน เพตรา วาดิรัม เจราช ทะเลสาบเดดซี 6วัน 3คืน โดยสายการบิน GULF AIR

16.00 น.    นัดหมายพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก โปรดสังเกตป้ายรับคณะ และพบเจ้าหน้าที่เลทส์โกกรุ๊ป ที่คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกเช็คอินให้แก่ท่าน
19.15 น.   นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินบาห์เรน ประเทศบาห์เรน โดยสายการบิน GULF AIR เที่ยวบินที่ GF153 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
22.40 น.   เดินทางถึง สนามบินบาห์เรน ประเทศบาห์เรน เพื่อรอต่อเครื่อง 

01.00 น.   นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินอัมมาน ควีน อาเลีย กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน โดยสายการบิน GULF AIR เที่ยวบินที่ GF964  
03.55 น.   เดินทางถึง สนามบินอัมมาน ควีน อาเลีย กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน หลังจากนั้นนำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง)  
นำท่านเดินทางสู่ กรุงอัมมาน (Amman) เมืองหลวงของประเทศจอร์แดน หรือราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดนศูนย์กลางแห่งตะวันออกกลางที่มีการผสมผสานความเก่าแก่เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน ตั้งอยู่บนภูเขาทั้ง 7 ลูก และมีประวัติศาสตร์เก่าแก่มากกว่า 6,000 ปี
เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโรมันโบราณเจราช หรือเมืองพันเสา (Jerash) หรือปอมเปอีแห่งตะวันออก สถานที่เที่ยวยอดนิยม ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองหลวงอัมมาน เป็นอดีต 1 ใน 10 หัวเมืองเอกของอาณาจักรโรมัน สันนิษฐานว่าถูกสร้างราว 200 –100 ปีก่อนคริสตกาล
นำท่านชม ประตูกษัตริย์เฮเดรียน (The Arch Of Hadrain) ถูกสร้างขึ้น 129 ปี หลังคริสตกาลเปรียบเสมือนเครื่องหมายแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน โดยประตูอยู่ทางทิศใต้ของเขตเมืองใหม่ ชม โอวัลพลาซ่า (Oval Plaza) สถานที่พบปะสังสรรค์ของชาวเมืองเจราช ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 2 ล้อมรอบด้วยแนวเสาที่ทรงเสา Lonic 56 เสา เสาคอรินเทียน กว่า 160 ต้น เสาเหล่านี้ได้กลายเป็นจุดถ่ายรูปที่ได้รับความนิยมมาก ชม โรงละครทางทิศใต้ (Southern Theatre) ซึ่งจุผู้ชมได้ถึง 3,000 คน อัศจรรย์ตรงเราสามารถทดสอบฟังเสียงสะท้อนของตัวเอง จากจุดสะท้อนกลางโรงละคร ด้วยการพูดเบาๆ เท่านั้น เสียงก็จะย้อนกลับมาเข้าหูเราอย่างเหลือเชื่อ 
เที่ยง      บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร 
นำท่านเดินทางสู่ กรุงอัมมาน (Amman) เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศจอร์แดน หรือเรียกอีกชื่อคือราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน (Hashemite Kingdom of Jordan) และยังเป็นศูนย์กลางแห่งตะวันออกกลางที่มีการผสมผสานความเก่าแก่เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน ตั้งอยู่บนภูเขาทั้ง7 ลูก และมีประวัติศาสตร์เก่าแก่มากกว่า 6,000 ปี
นำท่านชม โรงละครโรมัน (Roman Theater) สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 138 ถึง 161 ในรัชสมัยของจักรพรรดิโรมัน แอนโทนิอัส ไพอัส รองรับผู้ชมประมาณ 5,000 คน โรงละครแห่งนี้เคยใช้เป็นสถานที่สำหรับจัดกิจกรรมบันเทิงและกิจกรรมทางวัฒนธรรมมาในอดีต และยังคงเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองจนถึงปัจจุบัน 
นำท่านเดินทางสู่ Abdali Mall ห้างสรรพสินค้าในกรุงอัมมาน มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ กิจกรรม
ในร่ม สินค้าแบรนด์เนมให้ท่านได้เลือกซื้อ
ค่ำ    บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม
ที่พัก      MENA TYCHE HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า 

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม  
นำท่านเดินทางสู่ มหานครเพตรา (Petra) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) มหานครหินสีกุหลาบแกะสลักโบราณที่ซ่อนตัวอย่างลึกลับในหุบเขาวาดี มูซา (Wadi Musa) หรือหุบเขาแห่งโมเสส มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายพันปี ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบเดดซีกับทะเลอัคบาในประเทศจอร์แดน แต่เดิมนครแห่งนี้เป็นนครแห่งการค้าขนาดใหญ่ ซึ่งต่อมาถูกละทิ้งเป็นเวลานานกว่า 700 ปี จนเมื่อมีนักสำรวจชาวสวิตเซอร์แลนด์ โยฮันน์ ลุควิก บวร์กฮาร์ท เดินทางผ่านมาพบเห็นเข้าเมื่อปี ค.ศ. 1812  และได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกแห่งใหม่ โดยการโหวตจากบุคคลนับล้านคนทั่วโลกในวันมหัศจรรย์ 07/07/07 (7 กรกฎาคม พ.ศ. 2550) 
หมายเหตุ : สำหรับการเข้าชมมหานครเพตราทางทัวร์ได้จัดให้ท่านนั่งม้า (One Way Horse ride) เพื่อเข้าชมเมืองเพตรา (รวมในค่าบริการแล้ว) 
เที่ยง      บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร 
นำท่านนั่งม้าลัดเลาะไปตามพื้นหินและทรายกว่า 800 เมตร มุ่งหน้าไปในเส้นทางเข้าออกของเมืองเพตราคือบริเวณซอกเขาที่เรียกว่า ซิค (Siq) เป็นหุบเขาสูง 250 ฟุตและทอดคดเคี้ยวไปบนเส้นทางที่พาดผานเข้าไปถึงใจกลางเมือง เกิดจากการถูกน้ำกัดกร่อนจนเกิดเป็นช่องทางเดินเล็กๆ ระหว่างหุบเขาความสวยงามของหุบเขาทั้งสองด้าน สวยงามด้วยสีสันของหินสีต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติชมร่องรอยซากปรักหักพังที่ยังมีร่องรอยให้เห็นการจัดการเรื่องการชลประทานในการลำเลียงน้ำจากแหล่งน้ำภูเขาเข้าสู่ตัวเมืองได้อย่างน่าทึ่ง และยังมีภาพศิลปะแกะสลักจากภูเขาอีกมากมาย
นำท่านชม วิหารเอล คาซเนห์ (Al Khazneh) หรือ The Treasury วิหารศักดิ์สิทธิ์ที่มีการแกะสลัก เจาะ เข้าไปในภูเขา ขนาดใหญ่ สูงกว่า 40 เมตร หนึ่งในสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียง และโดดเด่นที่สุดในเปตรา เป็นอาคารที่มีลักษณะเหมือนวัดที่สวยงามที่ถูกแกะสลักบนหน้าผา และเป็นสิ่งแรกที่นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นเมื่อเข้าสู่เมืองโบราณผ่านหุบเขาซิค 
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอควาบา (Aqaba) เป็นเมืองตากอากาศชายทะเลเพียงแห่งเดียวของประเทศจอร์แดน ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศ            ติดชายฝั่งทะเลแดง (Red Sea) และอยู่ใกล้พรมแดนกับอียิปต์ อิสราเอล และซาอุดีอาระเบีย ทำให้มีความสำคัญทั้งในด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ
ค่ำ    บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม
ที่พัก      MY HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า 

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม  
นำท่านเดินทางสู่ ทะเลทรายวาดิรัม (Wadi Rum) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “หุบเขาแห่งพระจันทร์” (The Valley of The Moon) ว่ากันว่ามีมนุษย์อยู่อาศัยมาแล้วตั้งแต่ 8,000 ปีก่อนคริสตกาล มีจุดเด่นด้านทัศนียภาพที่งดงามของหุบผาขนาดใหญ่ตัดกับทะเลทรายสลับกัน นำท่าน นั่งรถจิ๊บชมความสวยงามทะเลทรายวาดิรัม ทะเลทรายแห่งนี้ได้ถูกกล่าวขานว่าเป็นทะเลทรายที่สวยงามที่สุดของโลกอีกแห่งหนึ่งด้วยเม็ดทรายที่ละเอียดสีชมพูอมส้มอมแดง ที่กว้างใหญ่ไพศาล (สีของเม็ดทรายปรับเปลี่ยนตามแสงของดวงอาทิตย์) และในอดีตยังใช้เป็นเส้นทางของกองคาราวานจากประเทศซาอุดิอาระเบียเดินทางไปยังประเทศซีเรียและปาเลสไตน์ในศึกสงครามอาหรับรีโวลท์ระหว่างปี ค.ศ. 1916–1918 และยังถูกใช้เป็นฐานบัญชาการในการรบของทีอี ลอว์เรนซ์ และเจ้าชายไฟซาล ต่อมาได้ถูกใช้เป็นสถานที่ในการถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง“Lawrence of Arabia” (รวมค่านั่งรถจิ๊บแล้ว)
นำท่านชม “น้ำพุแห่งลอว์เรนซ์” (Lawrence’s Spring หรือ Lawrence’s Fountain) ซึ่งเป็นสถานที่ที่อดีตนายทหาร ทีอี ลอว์เรนซ์ ทหารชาวอังกฤษใช้เป็นสถานที่พักและคิดแผนการต่อสู้กับออตโตมัน จากนั้นนำท่านท่องทะเลทรายต่อไปยังคาซารีแคนยอน ชมภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์ ที่เป็นภาพแกะสลักของชาวนาบาเทียน ที่แสดงถึงเรื่องราวในชีวิตประจำวัน และรูปภาพต่างๆ 
เที่ยง      บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร 
นำท่านเดินทางสู่ เมืองมาดาบา (Madaba) หรือเมืองแห่งโมเสส อดีตเส้นทางสำคัญสมัยโรมัน ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงอัมมาน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)
นำท่านชม โบสถ์เซนต์จอร์จ (Saint George Church) มีชื่อเสียงในเรื่องของพื้นโมเสกที่เป็นแผนที่สมัยโบราณ ทำจากกระเบื้องโมเสกสีสันสวยงามมากกว่า 2 ล้านชิ้น สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 6 หรือราวปี ค.ศ. 600 ในยุคไบเซนไทน์ แผนที่นี้แสดงให้เห็นถึงพื้นที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในอดีต โดยเฉพาะพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับพระคัมภีร์ 
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมาท์เนโบ (Mount Nebo) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของจอร์แดน ตั้งอยู่บนเขา และยังเชื่อกันว่าสถานที่แห่งนี้น่าจะเป็นบริเวณที่เสียชีวิตและเป็นสถานที่ฝังศพของโมเสส ผู้นำชาวยิวส์ที่เดินทางจากอิยิปต์มายังเยรูซาเล็ม อีกทั้งที่แห่งนี้ยังใช้เป็นที่จาริกแสวงบุญของชาวคริสต์โบราณ  
จากนั้นชม โบสถ์อนุสรณ์โมเสส (The Moes Memorial Church) ภายในโบสถ์ประกอบไปด้วย
ภาพโมเสกสีบนพื้นโบสถ์ ที่แสดงถึงภาพชีวิตที่สัมพันธ์กันระหว่างคน, สัตว์ และธรรมชาติฯลฯ และยังมี
แท่นพิธี ม้านั่ง ตามรูปแบบของศาสนาคริสต์ไว้ประกอบพิธีต่างๆ และยังอนุญาตให้ใช้จนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ โป๊ป จอห์น ปอล ที่ 2 ได้เสด็จมาแสวงบุญและได้ประกาศให้ที่นี่เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ในปี ค.ศ. 2000 
จากนั้นชม อนุสรณ์ไม้เท้าศักดิ์สิทธ์แห่งโมเสส (The Serpentine Cross sculpture) มีลักษณะเป็นไม้เท้าในรูปแบบไม้กางเขนสัญลักษณ์ของโมเสสและพระเยซู จากนั้นนำท่านถ่ายรูป ณ จุดชมวิวหากเป็นวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ท่านจะสามารถมองเห็น แม่น้ำจอร์แดน, ทะเลเดดซี, เมืองเมืองเจอริโกและประเทศอิสราเอล ได้จากจุดนี้อย่างชัดเจน
นำท่านเดินทางสู่เดดซี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที)
ค่ำ    บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม
ที่พัก      RAMADA DEAD SEA RESORT ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 
นำท่านแวะชม ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเดดซี เช่น โคลนพอกตัวพอกหน้า สบู่ ครีม และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย
นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบเดดซี หรือ ทะเลมรณะ (Dead Sea) ทะเลสาบน้ำเค็มขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างเขตแดนของจอร์แดนและอิสราเอล ถูกจัดให้เป็นจุดที่ต่ำที่สุดในโลก ซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลราว 800 เมตร ความเค็มของทะเลเดดซีในส่วนที่อยู่ลึกที่สุดมีมากถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ความเค็มของทะเลทั่วไปอย่างเช่นอ่าวไทย มีความเค็มเพียงแค่ 3 เปอร์เซ็นต์ เท่าน้ัน จึงทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆอาศัยอยู่ในท้องทะเลแห่งนี้ได้เลย อิสระให้ท่านเล่นน้ำทะเลตามอัธยาศัย ท่านสามารถลอยตัวได้ไม่จม (ข้อปฏิบัติและข้อระวังต่างๆในการลงเล่นน้ำทะเล ควรฟังคำแนะนำจากมัคคุเทศก์ท้องถิ่นและหัวหน้าทัวร์)
นำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงอัมมาน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)
เที่ยง       บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร  พิเศษ อาหารจีน
นำท่านชม ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน (Amman Citadel) ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดสังเกตเหตุบ้านการเมืองต่างๆโดยรอบ อิสระให้ท่านชมและถ่ายรูปกับป้อมปราการอันสวยงาม โดยมีฉากหลังเป็นโรงละครโรมันที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจอร์แดน สามารถจุผู้ชมได้ถึง 6,000 คน และตึกรามบ้านช่องที่สร้างบนภูเขาสูงสุดแสนแปลกตา ชมวิหารเฮอร์คิวลิสที่สันนิษฐานว่าถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ.161-180 ในสมัยของโรมัน 
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางเข้าสู่ สนามบินอัมมาน ควีน อาเลีย กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย
18.05 น.   นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินบาห์เรน ประเทศบาห์เรน โดยสายการบิน GULF AIR เที่ยวบินที่ GF963 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) 
20.30 น.   เดินทางถึง สนามบินบาห์เรน ประเทศบาห์เรน เพื่อรอต่อเครื่อง
22.45 น.   นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน GULF AIR เที่ยวบินที่ GF152 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) 

09.20 น.   เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจจากทีมงานเลทส์โกกรุ๊ป