ขอพรเทพเจ้าแห่งความรักพร้อมชมซากุระศาลเจ้าอิซุโมะไทชะ ชมซากุระรอบปราสาทฮิเมจิ และสวนทาเคเบโนโมริ

20.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประตูหมายเลข 10 เคาน์เตอร์ U สายการบินไทย เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระ
23.59 น. ออกเดินทางสู่สนามบินคันไซ ประเทศญี่ปุ่น โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG622 (สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

07.20 น. เดินทางถึง สนามบินคันไซ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว
[สำคัญมากไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้]
เดินทางสู่ เมืองฮิเมจิ (Himeji) ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดเฮียวโกะ เมืองนี้เต็มไปด้วยวัฒนธรรมเก่าแก่ของญี่ปุ่นและขึ้นชื่อเรื่องมรดกโลกอย่างปราสาทฮิเมจิ ศิลปหัตถกรรมดั้งเดิมที่สวยงาม นำท่านชมซากุระรอบๆ ปราสาทฮิเมจิ (ด้านนอก) ด้วยลักษณะของตัวปราสาทที่มีสีขาวราวกับหิมะในฤดูหนาวจึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ปราสาทนกกระยางขาว” หรือ “ปราสาทนกกระสา” ถือเป็นปราสาทที่ใหญ่โตที่สุดในบรรดาปราสาทที่หลงเหลือมาจากยุคกลางของญี่ปุ่นและถึงแม้ตัวเมืองจะถูกทิ้งระเบิดอย่างหนักในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ตัวปราสาทกลับไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด และได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคม ปี 1993 เป็นที่รู้จักกันดีในตำนานพื้นบ้านเกี่ยวกับผีที่ขึ้นชื่อ เรื่อง "ผีนับจาน" หรือซารายาชิกิ คือ เรื่องราวของโอกิกุ สาวใช้ของซามูไรผู้หนึ่งที่ทำจานล้ำค่าของตระกูลซามูไรแตก จึงถูกลงโทษด้วยการโยนร่างลงในบ่อน้ำ โดยในเวลาค่ำคืนจะมีผู้ได้ยินเสียงผู้หญิงโหยหวนดังมาจากบ่อน้ำเป็นเสียงนับจานช้า ๆ จนครบเก้าใบ ซึ่งบ่อน้ำนี้ยังปรากฏมาจนถึงทุกวันนี้ (ซากุระขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 1)
นำท่านเดินทางสู่ สวนสาธารณะทาเคเบะโนะโมริ เป็นสวนสาธารณะที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ไปพร้อมๆ กับการรู้สึกถึงฤดูกาลต่างๆ เช่น ในฤดูใบไม้ผลิ คุณสามารถเพลิดเพลินกับดอกซากุระหลากหลายชนิดที่บานได้ที่นี่ อุโมงค์ดอกซากุระบานสะพรั่งและกุหลาบพันปี ในฤดูใบไม้ผลิ ดอกไฮเดรนเยีย (ถนนไฮเดรนเยีย) ในช่วงต้นฤดูร้อน สระว่ายน้ำพักผ่อน (สระนามิ) และการตั้งแคมป์อัตโนมัติในฤดูร้อน (ซากุระขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม หรือร้านอาหาร (มื้อที่ 2)
ที่พัก OKAYAMA HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 3)
เดินทางสู่ตลาดปลานะคะอุระไทเรียว (Nakaura Tairyo Fish Market) ซึ่งเป็นตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดโทตโตะริ และยังมีรูปปั้นแกะสลักรูป คิทาโร่ ขนาด 7.7 เมตร ตั้งอยู่หน้าทางเข้า เพื่อใช้เป็นแหล่งจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากท้องทะเลทั้งปลาสดและผลิตภัณฑ์แปรรูปต่าง ๆ ให้ประชาชนในราคายุติธรรม ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับอาหารทะเลสด ๆ ในราคาย่อมเยาว์และถ่ายรูปตามอัธยาศัย ถนนมิซูกิ ชิเงรุ (Mizuki Shigeru Road) ซึ่งเป็นถนนที่สร้างขึ้นโดยมีรูปปั้นของสัตว์ประหลาดจากการ์ตูนญี่ปุ่น “เกะเกะเกะ โนะ คิทาโร่” เป็นเรื่องราวของปีศาจเด็กผู้ชายตนนึงที่ชื่อ "คิทาโร่" ที่มีพ่อเป็นปีศาจลูกกะตาเดียวชอบนอนแช่น้ำในชามกับผองเพื่อนเหล่า "โยไก" หรือผีปีศาจนั่นเองอาศัยอยู่ในป่าชื่อ เกะเกะเกะ, คิทาโร่ มีหน้าที่คอยปราบปรามเหล่าโยไกที่นิสัยไม่ดี ชอบหลอกชอบหลอน สร้างความรังควาญให้มนุษย์ การ์ตูนเรื่องนี้เขียนโดยนาย “ชิเงรุ มิซูกิ” นักเขียนที่มีบ้านเกิดในจังหวัดทตโตะริและถือเป็นบุคคลสำคัญของจังหวัดให้ท่านเดินเล่นถ่ายรูปตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 4)
นำท่านชมซากุระรอบ ปราสาทมัตสึเอะ (Matsue Castle) ตั้งอยู่ที่เมืองมัตสึเอะ (Matsue) จังหวัดชิมาเนะ (Shimane) ในภูมิภาคชูโกะคุ ปราสาทชื่อดังที่เป็นสมบัติของญี่ปุ่นเพราะยังมีตัวปราสาทอยู่ในปัจจุบันและเป็นจุดชมซากุระชื่อดังที่ได้รับความนิยมด้วย ปราสาทมัตสึเอะ ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1607 และเสร็จสิ้นลงในปี ค.ศ. 1611 ตัวปราสาทมีจุดเด่นที่หลังคาทรงอิริยะโมฮาฟุ ซึ่งมีรูปทรงเหมือนนกจิโดริที่กำลังกางปีกออก จึงถูกเรียกว่า “ปราสาทนกจิโดริ” หรืออีกชื่อว่า “ปราสาทดำ” ถ้ามองจากหอคอยด้านบน จะได้ชมทิวทัศน์ของเมืองมัตสึเอะแบบ 360 องศา และที่นี่ยังถูกจดทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติ ในเดือนกรกฎาคม ปี 2015 อีกด้วย ทางเดินบริเวณรอบๆก็ถูกปรับปรุงใหม่ ให้ผู้คนได้มาชมดอกกุหลาบพันปี และดอกคาเมเลีย รวมถึงวิวอันงดงามตลอดสี่ฤดู โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิจะมีเทศกาล “โอะโจมัตสึริ” ที่มักจะครื้นเครงไปด้วยนักท่องเที่ยว ที่มาชมดอกซากุระ (ซากุระขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม หรือร้านอาหาร (มื้อที่ 5)
ที่พัก MATSUMAE ONSEN OR SHIMANE ONSEN HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว 
(ที่นอนอาจเป็นแบบ เบาะฟุตง หรือ เตียง ขึ้นอยู่กับการจัดการของทางโรงแรม) หลังจากทานอาหารค่ำ ให้ท่านผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไลต์ญี่ปุ่น

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 6)
นำท่านชม ศาลเจ้าอิซุโมะไทชะ (Izumo Taisha Grand Shrine) เชื่อกันว่าจะมีเทพเจ้ามารวมตัวกันในเดือนตุลาคมของทุกปี และยังมีชื่อเสียงว่าเป็นสถานที่ที่ช่วยเสริมดวงชะตาด้านความรัก ส่วนเครื่องรางก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและว่ากันว่าให้โชคด้านความรัก นอกจากนี้มักจะถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับพิธีแต่งงานอีกด้วย หากโชคดีก็อาจจะมีโอกาสได้เห็นพิธีแต่งงานแบบญี่ปุ่นที่มีเสน่ห์น่าหลงใหล บริเวณรอบๆศาลเจ้ายังเป็นจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น มีดอกซากุระประมาณ 200 ต้นจาก 15 สายพันธุ์ที่แตกต่างกันบานสะพรั่งกันในบริเวณนี้ เริ่มตั้งแต่ดอกซากุระในฤดูหนาวในเดือนกุมภาพันธ์ เพลิดเพลินกับการชมดอกซากุระได้ตลอดเส้นทาง ไปยังศาลเจ้าหลักและตามสระน้ำของศาลเจ้า ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมดอกซากุระคือช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน (ซากุระขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) ผ่านชมสะพานอิชิมะ โอฮาชิ (Eshima Ohashi Bridge) สะพานสุดชันแห่งประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดชิมาเนะ และจังหวัดทตโตริ สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 2004 มีความยาว 1.7 กิโลเมตร เมื่อมองจากฝั่งชิมาเนะ สะพานแห่งนี้จะดูสูงชันมากจนไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ตามจริงแล้วสะพานฝั่งชิมาเนะมีความชันเพียง 6.1% ส่วนฝั่งทตโตริมีความชันอยู่ที่ 5.1% เท่านั้น สะพานแห่งนี้เป็นสะพานโครงข้อแข็งที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของโลก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 7)
เดินทางสู่ เมืองทตโตริ นำท่านชม โคนันทาวน์ (Conan Town) หรือหมู่บ้าน Hokuei เป็นชนบทเล็ก ๆ ของจังหวัดทตโตริ (Tottori) แต่เดิมหมู่บ้านนี้เป็นเพียงพื้นที่ห่างไกล แต่หลังจากการ์ตูนโคนันมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นพลุแตก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของอาจารย์โกโชผู้เขียนการ์ตูนโคนัน มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ของหมู่บ้านให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ตลอดสองข้างทางมีหุ่นปั้นโคนันและสถานีรถไฟ รวมถึงพิพิธภัณฑ์ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน Gosho Aoyama Manga Factory ขึ้นมาในปี พ.ศ. 2550 จึงเป็นที่นิยมทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวกันอย่างต่อเนื่อง ให้ท่านได้เดินเล่นถ่ายรูปตามอัธยาศัย นำท่านชม โกดังกำแพงขาวคุราโยชิ (Kurayoshi White Wall Warehouses) ซึ่งอยู่ในเมืองคุราโยชิ (Kurayoshi) ในอดีตเคยเป็นเมืองปราสาทที่มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันก็ยังคงหลงเหลือย่านที่มีภูมิทัศน์สวยงามและเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศย้อนยุค หนึ่งในนั้นคือย่านโกดังกำแพงขาวคุราโยชิที่มีอายุราว 250 ปี ที่พำนักของเหล่าข้าราชการและซามูไรที่คอยคุ้มกันปราสาทอุตสึบุกิ (Utsubuki Castle) ในวันวาน ปัจจุบันกลายเป็นร้านรวงและบ้านเรือนของชาวเมืองคุราโยชิ แต่ยังคงเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมเก่าแก่อันโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นกำแพงสีขาวสะอาดตา และกระเบื้องสีแดงอิฐที่เห็นกี่ครั้งก็รู้สึกอุ่นใจ นอกจากกำแพงสีขาว แน่นอนว่ายังมีทั้งบ้านเรือน ร้านค้าที่มีกลิ่นอายแบบย้อนยุค รวมถึงศาลเจ้าที่มีเสาไฟสีแดงสองข้างทาง ทำให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนไปในสมัยมุโรมาจิเมื่อราว 500 ปีที่แล้ว ชมสวนอุซึบุกิ (Utsubuki Park) เปิดขึ้นในช่วงที่จักรพรรดิไทโช เสด็จเยี่ยมจังหวัดทตโตะริ (ประมาณ ปี ค.ศ. 1868 - 1912) สวนอุซึบุกิถือเป็นหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองคุระโยชิ สวนอุทสึบุกิเป็นสวนที่ได้รับเลือกให้เป็นสวนหนึ่งในร้อยที่มีจุดชมดอกซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ สวนแห่งนี้จะถูกย้อมด้วยสีชมพูอ่อนทั้งสวน จึงถือเป็นหนึ่งในสวนในเมืองที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นจุดชมดอกไม้ที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคซันอินที่กินอาณาบริเวณจังหวัดทตโตริ (ซากุระขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก TOTTORI HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 8)
นำท่านชมเนินทรายทตโตริ (Tottori Sand Dunes) ชมสิ่งมหัศจรรย์ที่มีมานานกว่า 30,000 ปี ซึ่งเป็นทะเลทรายที่มีความยาวตั้งแต่ด้านตะวันออกจรดด้านตะวันตกของพื้นที่ยาวกว่า 16 กิโลเมตร ความสวยงามที่ธรรมชาติได้บรรจงสร้างแนวคลื่นทรายที่เกิดจากแรงลมทะเล เป็นอีกหนึ่งทิวทัศน์ที่ไม่ควรพลาด นำท่านเข้าสู่อิซุชิ (Izushi) เมืองโทโยโอกะ (Toyooka) แต่เดิมเป็นเมืองค้าขายรอบปราสาทอันคึกคัก ปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมจากเสาโทริอิที่ทอดยาวสู่ศาลเจ้าอินาริและถนนที่เรียงรายด้วยบ้านเรือนเก่าในบรรยากาศยุคเอโดะ พอได้เดินเล่นอยู่ในเมืองก็รู้สึกเหมือนได้หลุดเข้ายังญี่ปุ่นสมัยก่อน ปราสาทอิซุชิ (Izushi Castle) ตั้งอยู่ตรงเชิงเขา ที่นี่เคยเป็นตำหนักของไดเมียว ก่อนที่จะถูกพังทลายในช่วงต้นยุคเมจิ ปัจจุบันหอคอยของปราสาท สะพานและประตูได้รับการบูรณะอย่างงดงาม พอเดินเข้ามาในบริเวณเมืองปราสาทอิซุชิ ก็จะเห็นหอนาฬิกาสีดำคลาสสิกตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม หอนาฬิกานี้มีชื่อว่า “ชินโคโระ (Shinkorou)”จุดนี้ถือเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของเมืองปราสาทอิซุชิเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นหอนาฬิกาที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับสองในญี่ปุ่น พอเดินเขาผ่านเส้นทางธรรมชาติมาถึงศาลเจ้าอินาริที่มีเสาโทริอิเรียงรายก็จะมองเห็นวิวเมืองอิซุชิทั้งเมืองเลย เป็นจุดชมวิวยอดนิยมที่ห้ามพลาด (ซากุระขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 9)
เดินทางสู่ เมืองเกียวโต (Kyoto) ซึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น และยาวนานที่สุด คือตั้งแต่ปี ค.ศ. 794 จนถึง 1868 ร่วม ๆ 1,100 ปีเลยทีเดียว เมืองเกียวโตจึงเป็นเมืองที่มีสถานที่สำคัญ ๆ ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมดังเดิมของญี่ปุ่น นำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟเกียวโต (JR KYOTO STATION) เป็นสถานีรถไฟสายหลักของเกียวโต และเป็นหนึ่งในสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น มีการออกแบบอาคารให้ดูสมัยใหม่ และยังเป็นแหล่งศูนย์รวมร้านค้า ร้านอาหารมากมายตั้งอยู่เรียงรายทั้งด้านในและด้านนอกสถานี แถมที่นี้ยังมีศูนย์การค้า Porta ขนาดใหญ่ให้ได้ช้อปปิ้งกันอีกด้วย
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก KYOTO HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 10)
นำท่านร่วมทำ กิจกรรมชงชา โดยการชงชาตามแบบญี่ปุ่นนั้น มีขั้นตอนมากมาย เริ่มตั้งแต่การชงชา การจับถ้วยชา และการดื่มชา ทุกขั้นตอนนั้นล้วนมีขั้นตอนที่มีรายละเอียดที่ประณีตและสวยงามเป็นอย่างมาก และท่านยังมีโอกาสได้ลองชงชาด้วยตัวท่านเองอีกด้วย ซึ่งก่อนกลับให้ท่านอิสระเลือกซื้อของที่ฝากของที่ระลึกตามอัธยาศัย เดินทางสู่โอซาก้า (Osaka) เมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอับดับสอง และมีประชากรมากเป็นอันดับสามของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันไซบนเกาะฮนซู ในเขตจังหวัดโอซากะ
กลางวัน อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
ช้อปปิ้งอิออน มอลล์ ริงกุ เซ็นนัน ห้างสรรพสินค้าที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น มีร้านค้าที่หลากหลายมากกว่า 150 ร้าน เช่น MUJI, 100 yen shop, Sanrio store, Capcom games arcade, ร้านขายอุปกรณ์กีฬา และซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ ให้ท่านได้เก็บจัดการลิสต์ของฝากมาจากคนที่บ้านได้อย่างครบครันเต็มที่ สมควรแก่เวลาเดินทางนำท่านเดินทางสู่ สนามบินคันไซ นำทุกท่านทำการ CHECK IN และโหลดสัมภาระ เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
17.35 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG673 (สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
21.25 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ