ทัวร์จีน ตุนหวง ซีหนิง เส้นทางสายไหม มรดกโลกสองมณฑล 8 วัน 7 คืน นำท่านเดินทางโดยการบินไทยเวียตเจ๊ต (VZ)

ทัวร์จีน ตุนหวง ซีหนิง เส้นทางสายไหม มรดกโลกสองมณฑล (บินตรง ไม่ลงร้าน)

บินตรง ไม่เข้าร้านรัฐบาล มีวันเที่ยวอิสระ เที่ยวเต็มวัน ฟรีประกันการเดินทาง ฟรีน้ำหนักกระเป๋าตามที่สายการบินกำหนด ฟรีวีซ่า รวมค่าเข้าสถานที่เที่ยว
รายละเอียด

ทัวร์จีน ตุนหวง ซีหนิง เส้นทางสายไหม มรดกโลกสองมณฑล 8 วัน 7 คืน นำท่านเดินทางโดยการบินไทยเวียตเจ๊ต (VZ) ชมความสวยงามของสระน้ำวงพระจันทร์ ถ้ำพุทธศิลป์ม่อเกาคู ประติมากรรมทารกแห่งแผ่นดิน พระพักตร์จักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ เจียยี่กวน กำแพงเมืองจีนด่านเจียยวี่กวน ทุ่งหญ้าฉีเหลียนซาน ทะเลสาบชิงไห่หู ทะเลสาบเกลือฉาข่า ช้อปปิ้งจุใจกันที่ ตลาดกลางคืนซาโจว,ถนนมั่วเจีย,ตลาดกลางคืนซีหนิง และ ถนนคนเดินหลี่เหมิง


รหัสทัวร์ : GOCN9877
 กานซู, จีน
สายการบินไทยเวียดเจ็ทแอร์
ราคาเริ่มต้น
THB 32,900
ทำไมต้องจองทัวร์กับเรา
  • ราคาสุดท้ายไม่บวกเพิ่ม
  • รับประกันราคาที่ดีที่สุด
ติดต่อสอบถาม
02 001 5855
จันทร์ - เสาร์ 09:00 น. - 18:00 น.
ตารางการเดินทาง
  • วันที่
    1
    กรุงเทพฯ – ตุนหวง

    14.00 น.พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 10 เคาน์เตอร์สายการบิน ไทย เวียตเจ๊ต (VZ) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทคอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกตรวจเช็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน
    17.40 น.ออกเดินทางจาก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สู่ สนามบินตุนหวง โดย สายการบิน ไทยเวียตเจ๊ต เที่ยวบินที่ VZ3690 (เที่ยวบินเช่าเหมาลำและไม่มีอาหารบนเครื่อง)
    22.40 น.เดินทางถึง สนามบินตุนหวงม่อเกา ตุนหวง หรือที่รู้จักในชื่อ "ซาโจว" ตั้งอยู่ปลายทางด้านตะวันตกของเส้นทางสายไหมในมณฑลกานซู ประเทศจีน เมืองแห่งนี้เป็นที่ตั้งของศิลปะและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองมากว่า 2,000 ปี ตุนหวงมีภูมิศาสตร์ที่โดดเด่น ด้วยลักษณะ "แอ่งตุนหวง" ซึ่งพื้นที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและทะเลทราย ทำให้เกิดภูมิทัศน์ที่สวยงามและลึกลับไม่เหมือนใคร ตุนหวงถือกำเนิดขึ้นในยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันตก (ก่อนคริสต์ศักราช 111 ปี) และกลายเป็นจุดศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างโลกตะวันออกและตะวันตก วัฒนธรรมที่หลอมรวมกันผ่านเส้นทางสายไหมทำให้ที่นี่เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่เปี่ยมด้วยความหมาย จากนั้นนำท่านผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาร ะสมควรแก่เวลานำท่านเข้าสู่ที่พัก
    ที่พัก DUNHUANG FUHUA HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)

  • วันที่
    2
    : Dunhuang - Wailing Sand Dunes (including shoe covers + 1-way park vehicle) - Moon Pond - White Horse Pagoda - Shazhou Night Market

    วันที่สอง ตุนหวง - เนินทรายครวญ (รวมผ้าหุ้มรองเท้า + รถอุทยาน 1 ขา) – สระน้ำวงพระจันทร์ – เจดีย์ม้าขาว - ตลาดกลางคืนซาโจว
    เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 
    นำท่าน สัมผัสสุนทรียะแห่งสันทรายมีชีวิต ณ ใจกลางเส้นทางสายไหมในเมืองตุนหวง มีสถานที่มหัศจรรย์ที่ธรรมชาติได้บรรเลงบทเพลงแห่งกาลเวลาผ่านเม็ดทราย นั่นคือ เนินทรายครวญ หมิงซาซาน เนินทรายสีทองอร่ามขนาดมหึมาที่สามารถส่งเสียงได้ กล่าวกันว่าเมื่อลมพัดแรง จะเกิดเสียงคำรามกึกก้องคล้ายเสียงกลองรบ แต่ในยามลมสงบ จะเกิดเป็นเสียงดนตรีแผ่วเบาราวกับเครื่องสายโบราณ
    *** หมายเหตุ กิจกรรมขี่อูฐชมทะเลทราย มีข้อจำกัดด้านอายุและสุขภาพ โดยทางอุทยาน ไม่อนุญาตให้ผู้เดินทางที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปหรือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับ กระดูกหลัง หรือคอ เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ดังนั้น โปรแกรมนี้จึง ไม่ได้รวมกิจกรรมขี่อูฐไว้ในรายการทัวร์
    *** เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับท่านที่ต้องการขี่อูฐ ทางบริษัทได้รวมค่ารถอุทยานไว้แล้ว 1 ขา (สำหรับท่านที่ต้องการขี่อูฐ จะใช้การขี่อูฐเข้าและนั่งรถในขากลับออกจากอุทยาน และ ท่านที่ไม่ได้ขี่อูฐจะใช้การเดินเข้าและนั่งรถอุทยานในขากลับเช่นกัน)
    ท่ามกลางเนินทรายสีทองสุดลูกหูลูกตาของ "หมิงซาซาน" หรือ "เนินทรายครวญ" ที่เมืองตุนหวง ยังมีสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติซ่อนอยู่ นั่นคือ สระน้ำวงพระจันทร์ โอเอซิสรูปพระจันทร์เสี้ยวที่มีอายุกว่า 2,000 ปี น้ำในสระนั้นใสราวกับมรกต สะท้อนภาพเนินทรายและท้องฟ้าอย่างงดงาม ความน่าอัศจรรย์คือ แม้จะถูกโอบล้อมด้วยทะเลทรายและลมพายุที่พัดโหมกระหน่ำ สระน้ำแห่งนี้กลับไม่เคยถูกทรายกลบฝัง และยังคงมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่เสมอ กลายเป็นภาพความแตกต่างที่ลงตัวระหว่างความแห้งแล้งของทะเลทรายและความชุ่มชื้นของแหล่งน้ำ สร้างความประทับใจให้ผู้มาเยือนไม่รู้ลืม
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร 
    บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เจดีย์ม้าขาว ณ ชานเมืองตุนหวางอันเงียบสงบ ห่างไกลจากความวุ่นวาย มีเจดีย์สีขาวนวลตั้งตระหง่านอยู่เป็นอนุสรณ์แห่งความภักดี เรื่องราวของเจดีย์ม้าขาว ที่ไม่ใช่เพียงแค่สถูปธรรมดา แต่เป็นตำนานที่ผูกพันกับการเดินทางของพระพุทธศาสนาบนเส้นทางสายไหม ว่ากันว่าเจดีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึง "เทียนหลิว" ม้าขาวคู่ใจของพระกุมารชีพ ซึ่งเดินทางรอนแรมข้ามทะเลทรายอันโหดร้ายเพื่อนำพระไตรปิฎกมาเผยแผ่ในประเทศจีนราวปี ค.ศ. 384 แต่เมื่อถึงเมืองตุนหวง ม้าขาวผู้ซื่อสัตย์ได้ล้มป่วยและจากไป ด้วยความอาลัยรัก พระกุมารชีพจึงสร้างเจดีย์แห่งนี้ขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงคุณงามความดีของม้าตัวนี้นั่นเอง
    นำท่านอิสระช็อปปิ้ง ตลาดกลางคืนซาโจว สีสันยามราตรีแห่งเส้นทางสายไหม เมื่อแสงตะวันลับขอบฟ้าที่เมืองโอเอซิสตุนหวง ชีวิตชีวาของเส้นทางสายไหมในอดีตไม่ได้หลับใหลตามไปด้วย แต่กลับถูกปลุกให้ตื่นขึ้นอีกครั้งที่ ตลาดที่เปรียบเสมือนภาพวาดมีชีวิตยามค่ำคืนของตุนหวง ที่นี่คือศูนย์รวมของวัฒนธรรม อาหาร และวิถีชีวิตท้องถิ่นที่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวและชาวเมือง สองข้างทางประดับด้วยโคมไฟสว่างไสว ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของเนื้อแกะย่างและเครื่องเทศ พร้อมเสียงต่อรองราคาและเสียงดนตรีพื้นเมืองที่สร้างบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์
    OPTIONAL TOUR : ขี่อูฐ 180 หยวนต่อท่าน
    OPTIONAL SHOW : หวนคืนสู่ตุนหวง 400 หยวนต่อท่าน
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร 
    สมควรแก่เวลานำท่านเข้าสู่ที่พัก
    ที่พัก DUNHUANG FUHUA HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)

  • วันที่
    3
    ตุนหวง - ถ้ำพุทธศิลป์ม่อเกาคู (รวมรถอุทยาน) - ประติมากรรมทารกแห่งแผ่นดิน + พระพักตร์จักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ - เจียยี่กวน

    เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
    นำท่านเดินทางสู่ ถ้ำพุทธศิลป์ม่อเกาคู (รวมรถอุทยาน) ขุมทรัพย์พุทธศิลป์แห่งเส้นทางสายไหม ก้าวเข้าสู่ถ้ำมอเกาคู มรดกโลก UNESCO ที่ยิ่งใหญ่และน่าทึ่งที่สุดแห่งหนึ่งของจีน ที่นี่คือหอศิลป์และคลังประวัติศาสตร์ที่ซ่อนตัวอยู่ในหน้าผาของภูเขาหมิงซามานานกว่าหนึ่งพันปี ท่านจะได้พบกับงานพุทธศิลป์อันประเมินค่าไม่ได้ ทั้งภาพจิตรกรรมฝาผนังสีสันสดใสที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 45,000 ตารางเมตร และประติมากรรมดินปั้นกว่า 2,415 ชิ้น ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวพุทธศาสนา ประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตผู้คนบนเส้นทางสายไหมได้อย่างมีชีวิตชีวา การมาเยือนที่นี่เปรียบเสมือนการเดินทางข้ามเวลา กลับไปสู่ยุครุ่งเรืองของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกและตะวันตก
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร 
    บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองจิ่วฉวน (ระยะทาง 369 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ บริเวณจุดเชื่อมต่อระหว่างมณฑลกานซู่ ซินเจียง ชิงไห่ และมองโกเลีย ทำให้เป็นศูนย์กลางของทางเดินเศรษฐกิจในภูมิภาค "ระเบียงเหอซี" เมืองนี้มีภูมิอากาศแบบแห้งแล้งในเขตหนาวเย็น โดยมีอุณหภูมิแตกต่างกันมากระหว่างกลางวันและกลางคืน มีปริมาณน้ำฝนน้อย แต่มีแสงแดดส่องถึงยาวนาน เมืองจิ่วฉวนมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ โดยในยุคหินเก่า พื้นที่นี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์โบราณ และในยุคโบราณเป็นที่ตั้งของชนเผ่าเกี๋ยงและเผ่าหรง ในสมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 121 ก่อนคริสต์ศักราช) เมืองนี้ได้รับการตั้งชื่อว่า "จิ่วเฉวียน" ซึ่งหมายถึง "น้ำพุแห่งสุรา" ตามตำนานที่เล่าขานว่าแม่ทัพฮั่วชวี่ปิ้งได้ใช้ไวน์ฉลองชัยชนะและเทลงในน้ำพุเพื่อแบ่งปันกับทหาร ระหว่างทางนำท่านแวะถ่ายรูปกับ ประติมากรรมทารกแห่งแผ่นดิน ศิลปะกลางทะเลทรายที่สะท้อนถึงพลังแห่งธรรมชาติ ผลงานประติมากรรมที่ตั้งอยู่บนทะเลทรายโกบี ถูกออกแบบขึ้นเพื่อสะท้อนถึงความเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ ประติมากรรมนี้แสดงถึงพลังของผืนดินที่หล่อหลอมชีวิตและจิตวิญญาณของมนุษย์ โดยตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลทรายโกบีที่กว้างใหญ่และเงียบสงบ ทำให้ผู้มาเยือนสามารถสัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับโลกใบนี้ ประติมากรรมชิ้นนี้สร้างขึ้นโดย ศาสตราจารย์ตงซูปิง ผู้เชี่ยวชาญด้านประติมากรรมจากมหาวิทยาลัยศิลปะชิงหัว และรองเลขาธิการสมาคมประติมากรรมแห่งประเทศจีน การสร้างประติมากรรมนี้ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยเริ่มจากการสแกนสามมิติเพื่อสร้างแบบจำลอง จากนั้นจึงแบ่งออกเป็นส่วนย่อยๆ เพื่อแกะสลักด้วยเครื่องจักร 3 มิติ ก่อนจะนำมาประกอบเข้าด้วยกันจนกลายเป็นผลงานที่สมบูรณ์ จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ ประติมากรรมพระพักตร์แห่งจักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ งานประติมากรรมกลางแจ้งขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นโดย จางว่านซิน ศิลปินประติมากรรุ่นใหม่ผู้มากความสามารถ ได้รับแรงบันดาลใจจากอารยธรรมเส้นทางสายไหมและบทบาทสำคัญของจักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ในประวัติศาสตร์จีน ประติมากรรมนี้มีความสูงถึง 12.5 เมตร สร้างขึ้นจากหินทรายสีแดงที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งและความยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเปิดเส้นทางสายไหม และขยายอิทธิพลของจีนสู่โลกภายนอก
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
    ที่พัก JIAYUGUAN JIUGANG HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)

  • วันที่
    4
    เจียยี่กวน - กำแพงเมืองจีนด่านเจียยวี่กวน(รวมรถอุทยาน) - หุบเขาสายรุ้ง (รวมรถอุทยาน) – หมู่บ้านตันเซี่ยโข่ว

    เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
    นำท่านชม กำแพงเมืองจีน ด่านเจียยวี่กวน (รวมรถอุทยาน) ณ จุดบรรจบแห่งประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ ป้อมเจียยวี่กวนตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเจียยวี่กวน ได้รับการขนานนามว่า "ปราการหน้าด่านที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใต้หล้า" ด่านแห่งนี้ตั้งอยู่ในหุบเขาที่แคบที่สุดของระเบียงเหอซี และเป็นจุดสิ้นสุดทางตะวันตกของกำแพงเมืองจีนในสมัยราชวงศ์หมิง ด้วยภูมิประเทศที่เป็นธรรมชาติและการก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ ด่านเจียยวี้กวนจึงเป็นหนึ่งในสามสิ่งมหัศจรรย์ของกำแพงเมืองจีน (ร่วมกับด่านซานไห่กวนทางตะวันออก และด่านเจิ้นเป่ยไถทางตอนกลาง) ป้อมปราการแห่งนี้มีการออกแบบที่ซับซ้อนและแข็งแกร่ง ประกอบด้วยกำแพงเมืองชั้นใน ชั้นนอก และกำแพงล้อมรอบ รวมถึงป้อมปราการและหอคอยต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับกำแพงเมืองจีน ด้วยความยาวประมาณ 60 กิโลเมตร
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร 
    บ่าย นำท่านเดินทางสู่ หุบเขาสายรุ้งจางเย่ (รวมรถอุทยานและถุงเท้าทราย) (ระยะทาง 213 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.5 ชั่วโมง) จานสีของธรรมชาติที่ปลายขอบฟ้า เทือกเขาที่ไม่ได้เป็นเพียงสีเขียวหรือสีน้ำตาล แต่กลับแต่งแต้มไปด้วยริ้วสีแดง ส้ม เหลือง และฟ้าคราม ราวกับจิตรกรเอกบรรจงวาดภาพทิวทัศน์ขนาดมหึมา หนึ่งในภูมิทัศน์ที่น่าทึ่งที่สุดของประเทศจีน สีสันอันน่าอัศจรรย์นี้ไม่ได้เกิดจากฝีมือมนุษย์ แต่เป็นผลงานของธรรมชาติที่ใช้เวลากว่า 24 ล้านปีในการสร้างสรรค์ ผ่านการสะสมตัวของหินทรายและแร่ธาตุต่างๆ ก่อนจะถูกพลังแห่งเปลือกโลกดันขึ้นมา และถูกกัดเซาะโดยลมและฝนจนเกิดเป็นลวดลายคลื่นสีที่งดงามเกินจินตนาการ ความงามของที่นี่ได้รับการยอมรับในระดับโลก โดยถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน "10 สุดยอดสิ่งมหัศจรรย์ทางภูมิศาสตร์ของโลก" และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ในปี 2010 ที่นี่จึงไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ยังเป็นห้องเรียนธรณีวิทยาขนาดใหญ่ที่เปิดให้ทุกคนได้เข้ามาสัมผัสความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติด้วยตาตนเอง
    จากนั้นนำท่านอิสระช็อปปิ้ง ณ เมืองจำลองตันเซี่ยโข่ว ประตูสู่เส้นทางสายไหมที่มีชีวิตชีวา ย้อนเวลาสู่ความรุ่งเรืองของเส้นทางสายไหมโบราณ. เมืองจำลองที่งดงามแห่งนี้ตั้งอยู่ ณ ประตูทางเข้าอุทยานธรณีแห่งชาติจางเย่ตันเสีย หรือ "ภูเขาสีรุ้ง" อันโด่งดัง แหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ ที่ซึ่งสถาปัตยกรรมโบราณ ร้านค้าคึกคัก และสายน้ำไหลริน มาบรรจบกับการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านที่มีชีวิตชีวา ที่นี่คือที่ที่คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศการค้าขายในอดีต ลิ้มลองอาหารพื้นเมืองเหอซี และดื่มด่ำกับวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างเต็มอิ่ม หลังการไปเยือนความมหัศจรรย์ของภูเขาสีรุ้ง
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
    สมควรแก่เวลานำท่านเข้าสู่ที่พัก
    ที่พัก SILKROAD YUEGANG HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)

  • วันที่
    5
    จางเย่ – ทุ่งหญ้าฉีเหลียนซาน – ฟาร์มอี้เป่า (ใส่ชุดทิเบต + ยิงธนู) - ซีหนิง ไนท์มาร์เก็ต

    เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 
    นำท่านชม ทุ่งหญ้าฉีเหลียนซาน (ระยะทาง 135 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) ณ เส้นรอยต่อระหว่างมณฑลชิงไห่และกานซู่ ที่ซึ่งเทือกเขาฉีเหลียนทอดตัวยาวเหยียดราวกับกำแพงธรรมชาติ โอบล้อมหนึ่งในทุ่งหญ้าที่งดงามที่สุดของจีนไว้ ภาพฝันของทุ่งหญ้าอัลไพน์ที่เขียวขจีสุดลูกหูลูกตา ภายใต้ผืนฟ้าสีครามสดใส และมีฉากหลังเป็นยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนตลอดทั้งปี ไม่เพียงแต่เป็นสวรรค์ของนักเดินทาง แต่ยังเป็นบ้านของฝูงม้า แกะ และจามรีที่เล็มหญ้าอย่างอิสระ เป็นภาพชีวิตอันเรียบง่ายและงดงามที่เชื่อมโยงกับวิถีชนเผ่าเร่ร่อนมาแต่โบราณ การมาเยือนทุ่งหญ้าฉีเหลียนมักจะควบคู่ไปกับประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่ ฟาร์มปศุสัตว์อี้เป่า ที่ซึ่งท่านจะได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวทิเบตอย่างใกล้ชิด ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การลองสวมชุดพื้นเมืองสีสันสดใส การขี่ม้าชมทิวทัศน์ และการยิงธนู ซึ่งล้วนเป็นกิจกรรมที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณอิสระของดินแดนแห่งนี้ (รายการทัวร์รวมค่าชุดพื้นเมืองทิเบตและค่ายิงธนูแล้ว ไม่รวมค่าขี่ม้า)
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร 
    บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองซีหนิง(ระยะทาง 207 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) ที่นี่คือจุดบรรจบที่หลากหลายทางวัฒนธรรมและเป็นเมืองใหญ่ที่สุดบนที่ราบสูงอันกว้างใหญ่ไพศาล ด้วยประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,100 ปี ซีหนิงเคยเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญบนเส้นทางสายไหมโบราณ และเป็นเมืองหน้าด่านที่เชื่อมต่ออารยธรรมจีนฮั่นเข้ากับดินแดนทิเบตอันลี้ลับ เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของซีหนิงอยู่ที่การหลอมรวมผู้คนจากหลากหลายเชื้อชาติและศาสนาเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน ที่นี่เป็นบ้านของชาวฮั่น หุย ทิเบต มองโกล และอีกกว่า 34 ชนเผ่า การเดินไปตามท้องถนนของซีหนิงจึงเปรียบเสมือนการเดินทางผ่านวัฒนธรรมที่แตกต่างแต่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข นำท่านอิสระแวะชิมแวะชม ณ ห้องครัวฉบับมีชีวิตแห่งซีหนิง ณ ถนนมั่วเจีย เส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตและจิตวิญญาณของเมืองมานานกว่า 600 ปี เมื่ออาทิตย์ลับขอบฟ้า ถนนสายนี้จะแปลงร่างเป็นสวรรค์ของนักชิมที่เปี่ยมไปด้วยสีสันและพลังงาน ควันหอมกรุ่นจากเตาถ่านที่ย่างเนื้อแกะสลับมันลอยอวลไปในอากาศ เสียงตะหลิวกระทบกระทะดังขึ้นเป็นจังหวะ และแสงไฟนีออนสาดส่องลงบนอาหารพื้นเมืองนานาชนิดที่วางเรียงรายยั่วน้ำลาย นี่คือจุดหมายที่นักเดินทางต้องมาเยือน เพื่อสัมผัสรสชาติที่แท้จริงของซีหนิง
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
    ที่พัก XINING SHANGYUE INTERNATIONAL HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)

  • วันที่
    6
    ซีหนิง– ทะเลสาบชิงไห่หู - ฉาข่า

    เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 
    หลังอาหารเช้านำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบชิงไห่หู (ระยะทาง 161 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) ทะเลสาบชิงไห่ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบต ทะเลสาบแห่งนี้เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดในจีน และเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่ตั้งอยู่บนพื้นที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 3,196 เมตร ทะเลสาบชิงไห่เป็นแหล่งน้ำสำคัญที่ช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศในภูมิภาคตะวันตกของจีน โดยทำหน้าที่เป็น "เครื่องปรับอากาศธรรมชาติ" และ "เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ" ของที่ราบสูงชิงไห่ ผืนน้ำของทะเลสาบมีสีฟ้าครามที่สดใส ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามแสงของดวงอาทิตย์ในแต่ละช่วงเวลา ทั้งยังถูกล้อมรอบด้วยภูเขาสูงที่งดงาม ภูเขาเหล่านี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความงดงามให้กับภูมิทัศน์ แต่ยังสร้างบรรยากาศที่สงบเงียบและเป็นธรรมชาติ บริเวณทะเลสาบมีเกาะเล็กๆ หลายแห่ง เช่น เกาะนก ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของนกน้ำหลากหลายชนิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูอพยพ นกนับพันตัวจะมารวมตัวกันที่นี่ สร้างภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติ และในช่วงฤดูร้อน ทุ่งหญ้ารอบทะเลสาบจะเต็มไปด้วยดอกไม้ป่าหลากสีสัน เช่น ดอกเรพซีด ที่เปลี่ยนพื้นที่รอบทะเลสาบให้กลายเป็นพรมสีเหลืองสดใส ตัดกับสีฟ้าของน้ำและท้องฟ้าคราม **ราคาทัวร์ไม่รวมค่าล่องเรือ และค่าขึ้นเกาะนก (ทั้งนี้ราคาในแต่ละช่วงเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามนโยบายของหน่วยงานการท่องเที่ยว) **
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร 
    บ่าย หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองฉาข่า (ระยะทาง 108 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) ประตูสู่กระจกแห่งท้องฟ้า ณ ใจกลางที่ราบสูงอันกว้างใหญ่ของมณฑลชิงไห่ ในเขตปกครองตนเองไห่ซีของชาวมองโกลและทิเบต มีเมืองเล็กๆ นามว่า "ฉาข่า" ตั้งอยู่อย่างสงบท่ามกลางขุนเขาและทุ่งหญ้า ประวัติศาสตร์นั้นผูกพันกับเกลืออย่างไม่อาจแยกจากกันได้ ชื่อ "ฉาข่า" ในภาษาทิเบตมีความหมายตรงตัวว่า "ทะเลสาบเกลือ" เมืองนี้จึงเปรียบเสมือนผู้พิทักษ์ตำนานแห่งการทำเกลือที่มีมายาวนานกว่า 3,000 ปี. ในอดีต ที่นี่คือจุดยุทธศาสตร์สำคัญบนเส้นทางสายไหมโบราณ. เกลือสีขาวบริสุทธิ์ที่ผลิตจากทะเลสาบแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องปรุงรส แต่ยังเป็นสินค้าล้ำค่าที่เดินทางไปทั่วแผ่นดินจีน สะท้อนถึงความมั่งคั่งและความสำคัญของดินแดนห่างไกลแห่งนี้
    OPTIONAL TOUR : ล่องเรือทะเลสาบชิงไห่ 300 หยวนต่อท่าน // รถไฟเล็กชมวิว 300 หยวนต่อท่าน
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร 
    ที่พัก CHAKA JINHEJI HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)

  • วันที่
    7
    ฉาข่า – ทะเลสาบเกลือฉาข่า (รวมผ้าหุ้มรองเท้า + รถไฟชมวิว 1 ขา) – ตลาดกลางคืนซีหนิง

    เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 
    นำท่านชม ทะเลสาบเกลือฉาข่า (รวมรถราง 1 ขา และถุงหุ้มรองเท้า) ทะเลสาบเกลือฉาข่า หรือที่รู้จักกันในนาม "กระจกเงาแห่งท้องฟ้า" คือหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของมณฑลชิงไห่ ประเทศจีน ที่นี่คือดินแดนที่ผืนน้ำและแผ่นฟ้าบรรจบกันจนแยกไม่ออก ภาพของท้องฟ้า ก้อนเมฆ และเทือกเขาที่สะท้อนบนผิวทะเลสาบที่ขาวโพลนราวกับหิมะและเรียบสนิทดุจกระจกเงา ได้สร้างทัศนียภาพอันน่าทึ่ง จนได้รับการขนานนามจากนิตยสาร National Tourism Geographic ว่าเป็นหนึ่งใน "55 สถานที่ที่ต้องไปเยือนในชั่วชีวิต" นอกจากความงามที่สะกดทุกสายตาแล้ว ทะเลสาบแห่งนี้ยังมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 3,000 ปีในฐานะแหล่งผลิตเกลือที่สำคัญบนเส้นทางสายไหมโบราณอีกด้วย (เนื่องจากเส้นทางภายในอุทยานมีระยะทางค่อนข้างยาว และกิจกรรมเดินชมทะเลสาบมีพื้นที่กว้างทางบริษัทจึงได้จัดรวมบริการ รถไฟชมวิวภายในอุทยาน 1 ขา (ขาเข้า) เพื่อให้ทุกท่านได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพได้อย่างเต็มที่โดยไม่เหนื่อยล้า
    สำหรับท่านที่ ไม่ต้องการเดินกลับ สามารถซื้อตั๋วรถไฟสำหรับ ขาออกเพิ่มเติมได้โดยตรงที่หน้างานในราคา 60 หยวน ** อาจมีการเปลี่ยนแปลงราคาโดยจะขึ้นอยู่กับประกาศของอุทยานในวันเดินทาง**
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
    บ่าย นำท่านเดินทางสู่ ซีหนิง (ระยะทาง 207 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.5 ชั่วโมง)
    นำท่านเดินทางสู่ ตลาดกลางคืนซีหนิง แหล่งรวมอาหารท้องถิ่นที่หลากหลาย แต่ยังสะท้อนถึงการผสมผสานวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวชิงไห่ ทิเบต มองโกเลีย และเส้นทางสายไหม เป็นที่รู้จักในฐานะ "สวรรค์ของนักชิม" ด้วยร้านอาหารและแผงลอยกว่า 35 แห่งที่นำเสนออาหารท้องถิ่นและอาหารที่ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมหลากหลาย ท่านจะได้พบกับเมนูที่หลากหลาย ตั้งแต่รสชาติแบบดั้งเดิมไปจนถึงอาหารที่ผสมผสานความทันสมัย อาหารที่นี่ไม่เพียงแต่มีรสชาติที่หลากหลาย แต่ยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของผู้คนในพื้นที่ที่หลากหลายของชาวชิงไห่และภูมิภาคใกล้เคียง
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
    ที่พัก XINING SHANGYUE INTERNATIONAL HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)

  • วันที่
    8
    ซีหนิง – วัดถ่าเอ๋อร์ – ถนนคนเดินเซี่ยหนานกวน -ซีหนิง - กรุงเทพฯ

    เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม 
    นำท่านชมณ สถานที่ซึ่งเลือดหยดแรกของมหาคุรุผู้ยิ่งใหญ่ได้หยั่งรากลึกลงสู่ผืนดิน บังเกิดต้นไม้จันทน์ขาวศักดิ์สิทธิ์ที่มีพระพุทธรูปปรากฏบนใบกว่าแสนใบ และนี่คือจุดเริ่มต้นแห่งตำนานของ วัดถ่าเอ่อร์ซื่อ หนึ่งในหกสุดยอดอารามหลวงแห่งนิกายเกลุก (นิกายหมวกเหลือง) ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ความศักดิ์สิทธิ์ของอารามแห่งนี้ถือกำเนิดขึ้นจากการเป็น สถานที่ประสูติของพระอาจารย์จงคาปา มหาคุรุผู้ปฏิรูปและก่อตั้งนิกายเกลุกที่ชาวทิเบตให้ความเคารพสูงสุด ท่านจะได้พบกับ "สามสิ่งมหัศจรรย์แห่งวัดถ่าเอ่อร์ซื่อ" ซึ่งเป็นศิลปะชั้นสูงอันเป็นเอกลักษณ์ เจดีย์เนย ตื่นตากับงานประติมากรรมอันวิจิตรตระการตาที่สร้างขึ้นจาก "เนยจามรี" บอกเล่าเรื่องราวทางพุทธศาสนาได้อย่างมีชีวิตชีวาราวกับภาพจริง ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ชื่นชมภาพวาดฝาผนังสีสันสดใสที่สะท้อนถึงศรัทธาและเรื่องราวในพระคัมภีร์ที่ถูกวาดขึ้นอย่างประณีตงดงาม ภาพปักดุน ทึ่งไปกับงานศิลปะผ้าปักสามมิติอันเป็นเอกลักษณ์ ที่สร้างสรรค์จากผ้าไหมหลากสีสัน บอกเล่าพุทธประวัติได้อย่างลึกซึ้ง ท่ามกลางหมู่สถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างศิลปะแบบจีนฮั่นและทิเบตได้อย่างลงตัวนั้น ยังมี มหาวิหารหลังคาทองคำ ที่สร้างครอบเจดีย์เงินองค์ดั้งเดิมซึ่งเป็นหัวใจของวัด ส่องประกายสีทองอร่ามจับตา
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร 
    บ่าย นำท่านแวะชม ถนนคนเดินหลี่เหมิง ใจกลางวัฒนธรรมและการช้อปปิ้งแห่งเมืองซีหนิง เมื่อก้าวเข้าสู่ ถนนคนเดินหลี่เหมิงแล้ว ท่านจะพบว่าที่นี่ไม่ใช่แค่ย่านการค้าธรรมดา แต่เป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณของเมืองซีหนิง ที่ซึ่งสถาปัตยกรรมโบราณผสานเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว ถนนสายนี้เปรียบเสมือนหัวใจที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และแหล่งบันเทิงมากมาย ที่นี่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน "ถนนการค้าชื่อดังของจีน" และเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ของประเทศ ที่นี่คือจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่น ชิมอาหารเลิศรส และเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งอย่างครบวงจร
    ค่ำ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
    23.40 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดย สายการบิน ไทยเวียตเจ๊ต เที่ยวบินที่ VZ3691 (เที่ยวบินเช่าเหมาลำและไม่มีอาหารบนเครื่อง)
    02.45 น.+1 เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

มื้ออาหารและที่พัก
วันที่
อาหารเช้า
อาหารเที่ยง
อาหารเย็น
โรงแรม
1
DUNHUANG FUHUA HOTEL or equivalent 4-star (Chinese standard)
2
DUNHUANG FUHUA HOTEL or equivalent 4-star (Chinese standard)
3
JIAYUGUAN JIUGANG HOTEL or equivalent, 4-star (Chinese standard).
4
SILKROAD YUEGANG HOTEL or equivalent (4-star standard Chinese hotel).
5
​​​​​​​XINING SHANGYUE INTERNATIONAL HOTEL or equivalent (4-star standard Chinese standard).
6
CHAKA JINHEJI HOTEL or equivalent 4-star (Chinese standard).
7
XINING SHANGYUE INTERNATIONAL HOTEL or equivalent, a 4-star hotel (Chinese standard).
8
-
ข้อตกลงและเงื่อนไข
  • การจองนี้ยังไม่ใช่การยืนยันที่นั่ง (เนื่องจากที่ว่างมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา)

  • เจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการเช็คที่นั่งว่างและแจ้งกลับลูกค้าอีกครั้ง ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง

แพ็กเกจนี้รวม
  • ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินไป-กลับ ชั้นประหยัด พร้อมค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการทัวร์ ข้างต้น

  • เจ้าหน้าที่บริษัท ฯ คอยอำนวยความสะดวก ทุกท่านตลอดการเดินทาง

  • ค่าประกันวินาศภัยเครื่องบินตามเงื่อนไข ของแต่ละสายการบิน

  • ค่าอาหาร ค่าเข้าชม และ ค่ายานพาหนะทุกชนิด ตามที่ระบุไว้ในรายการทัวร์ข้างต้น

  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าเดินทางในกรณีที่เกินกว่าสายการบินกำหนด 20 กิโลกรัม / ท่าน / ใบ

  • คุ้มครองการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสูงสุด 2,000,000 บาท คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุสูงสุด 500,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)เงื่อนไขประกันการเดินทาง ค่าประกัน

  • อุบัติเหตุและค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองเฉพาะกรณีที่ได้รับ อุบัติเหตุระหว่างการเดินทางไม่คุ้มครองถึงการสูญเสีย ทรัพย์สินส่วนตัวและไม่คุ้มครองโรคประจำตัวของผู้เดินทางและคุ้มครองเฉพาะผู้เดินทางไปกลับพร้อมกรุ๊ปเท่านั้น

แพ็กเกจนี้ไม่รวม
  • ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และเอกสารต่างด้าว

  • ค่าภาษีน้ำมัน ที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่มภายหลังจากทางบริษัทฯ ได้ออกตั๋วเครื่อง บินไปแล้ว ซึ่งลูกค้าต้องชำระส่วนต่างเพิ่ม

  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และหัก ณ ที่จ่าย 3%

  • ค่าทิปมัคคุเทศก์ท้องถิ่นและคนขับรถ รวม2,500 บาท/ท่าน/ทริป (เด็กชำระทิป เท่ากับผู้ใหญ่) ชำระที่สนามบิน

  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าเดินทางในกรณีที่เกินกว่าสาย การบินกำหนด

  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการ เช่น ค่าเครื่องดื่ม, ค่าอาหารที่สั่งเพิ่ม, ค่าโทรศัพท์ ฯลฯ สำหรับท่านที่รับประทานอาหารพิเศษ อาหารเจ หรือไม่ทานเนื้อสัตว์ ไม่ทานหมู ไม่ทานไก่ และมีความจำเป็นให้ทางบริษัท จัดเตรียมอาหารไว้ให้ท่านเป็นพิเศษนอกเหนือจากที่จัดไว้ในรายการ ขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตาม จริงหน้างาน

  • ค่าธรรมเนียมเอกสารเข้าเมืองสำหรับผู้ถือพาสปอร์ตต่างประเทศ (ทางรัฐบาลจีนประกาศยกเลิกวีซ่าให้กับคนไทย ผู้ที่ประสงค์ จะพำนักระยะสั้นในประเทศจีน ในรอบ 6 เดือน ไม่เกิน 90 วัน ** ถ้ากรณีทางรัฐบาลจีนประกาศให้กลับมาใช้วีซ่า ผู้เดินทางจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มในการขอวีซ่าตามที่สถานทูตกำหนด)

เงื่อนไขการยกเลิก
  • ยกเลิก ไม่น้อยกว่า 30 วันก่อนการเดินทาง (ไม่นับวันเดินทาง) คืนเงินค่าทัวร์เต็มจำนวน ยกเว้น ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงเพื่อการเตรียมการนำเที่ยว ทั้งหมด เช่น คำามัดจำ ตั๋วเครื่อง ค่าบริการแลนด์ ต่างประเทศ เป็นต้น

  • ยกเลิก ไม่น้อยกว่า 15-29 วันก่อนเดินทาง(ไม่นับวันเดินทาง) คืนเงิน 50% ของค่าทัวร์ทั้งหมด ยกเว้น ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงเพื่อการ
    เตรียมการนำเที่ยวทั้งหมด เช่น ค่ามัดจำตั๋วเครื่อง ค่าบริการแลนด์ ต่างประเทศ เป็นต้น

  • การยกเลิกเดินทางกับกรุ๊ปที่ออกเดินทางช่วงเทศกาลวันหยุด เช่น ปีใหม่, สงกรานต์ เป็นต้น บางสายการบินมีการการันตีมัดจำที่นั่งกับสายการบินและค่ามัดจำที่พัก รวมถึงเที่ยวบินพิเศษ เช่น CHARTER FLIGHT จะไม่มีการคืนเงินมัดจำ หรือ ค่าทัวร์ทั้งหมดที่ชำระแล้ว ไม่ว่ายกเลิกด้วยกรณีใดๆ

  • ยกเลิก น้อยกว่า 15 วันก่อนการเดินทางทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ ไม่คืนเงินค่าทัวร์ทั้งหมดการจ่ายเงินคืนแก่นักท่องเที่ยวตามข้อกำหนดด้านบนซึ่งมีการหักเงินในบางส่วนนั้น เนื่องจากทางบริษัทมีค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายจริงเพื่อการเตรียมการจัดนำเที่ยวไปแล้ว เช่น การมัดจำที่นั่งบัตรโดยสารเครื่องบินการจองที่พัก และ ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆ เป็นต้น

  • หากท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่งหรือไม่เดินทางพร้อมคณะทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่อาจเรียกร้องคำบริการและเงินมัดจำคืน ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น

  • กรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองในกรุงเทพฯ และต่างประเทศปฏิเสธการเดินทางออกหรือเข้าประเทศที่ระบุบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนค่าทัวร์ ไม่ว่ากรณีใดๆ*สำคัญ !! บริษัททำธุรกิจเพื่อการท่องเที่ยวเท่านั้น ไม่สนับสนุนการเดินทางเข้าญี่ปุ่นโดยผิดกฎหมาย ลูกค้าต้องผ่านการตรวจคนเข้าเมืองด้วยตัวของท่านเอง โดยมัคคุเทศก์ไม่สามารถช่วยเหลือใดๆได้ทั้งสิ้น *

หมายเหตุ
  • โปรดตรวจสอบ PASSPORT : กรุณานำพาสปอร์ตติดตัวมาในวันเดินทาง พาสปอร์ตต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน หรือ
    180 วัน ขึ้นไปก่อนการเดินทาง และต้องมีหน้ากระดาษอย่างต่ำ 6 หน้า หมายเหตุ : สำหรับผู้เดินทางที่อายุไม่ถึง 18 ปี และไม่ได้เดินทางกับบิดา มารดา ต้องมีจดหมายยินยอมให้บุตรเดินทาง ไปต่างประเทศจากบิดาหรือมารดาแนบมาด้วย

  • เงื่อนไขและข้อควรทราบอื่นๆ ทั่วไปที่ท่านควรทราบ รายการทัวร์อาจมีการปรับเปลี่ยนหรือยกเลิกตามสภาพอากาศและความเหมาะสม
    โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นหลัก โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ ทราบล่วงหน้า