เกาะมุก ทั้งโสดและสุข ในเวลาเดียวกัน

Tony Tyreeque



ว่ากันว่า  -ทะเล- เป็นจุดหมายปลายทางของคนโสด -ทะเล- จึงเป็นจุดหมายปลายทาง
destination unknown ของผมในครั้งนี้... ซึ่งผมจะไปเที่ยวแบบชิลๆ เหงาๆ เบาๆ โสดๆ คนเดียวบ้างสักครั้งในชีวิตครับ

 


#เกาะมุก
เป็นเกาะลึกลับ ที่ใครบางคนอาจจะยังไม่รู้จัก หรือไม่แน่ใจว่าอยู่จังหวัดไหนกันแน่ ซึ่งเราก็เป็นอีกคนหนึ่ง
ที่เคยได้ยินแต่ชื่อและไม่เคยได้ไปสัมผัสกับเกาะแห่งนี้เลยสักครั้ง...เราจึงปักหมุด กะจะไปสละโสดที่นี่ละกันครับ อุ๊ยย
..... ครั้งนี้ ผมได้มีโอกาสไปสัมผัสกับความสวยงามของเกาะมุก ในช่วงเดือนพฤศจิกายน และถึงแม้จะเป็นช่วงมรสุม
หรือ ช่วงเดือนที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยนิยมเที่ยวกันมากนัก แต่เราก็ได้เก็บภาพบรรยากาศสวยๆ มาฝากเพื่อนๆ ให้ได้ชมกันครับ..
(คนโสดไม่ต้องเซง เราเองก็เข้าใจ)

ผมเดินทางจากสนามบินตรัง...มุ่งสู่ท่าเรือควนตุ้งกู จ.ตรัง เพื่อนั่งเรือข้ามไปยังเกาะมุก โดยผมได้ราคาเหมาอยู่ที่ รอบละ 600฿
ซึ่งกว่าผมจะมาถึงท่าเรือก็เกือบจะ 6 โมงเย็นแล้ว  นั่งเรือชมวิวพระอาทิต์ตกดินแบบเหงาๆ ตามประสาคนโสดสิครับ T-T





ระหว่างทาง..เราสามารถมองเห็นเกาะมุกอยู่ไกลๆ สักพักก็มะโนว่ามาเที่ยวมัลดีฟส์กันเล่นๆ ^^
สำหรับการมาเยือนเกาะมุกในครั้งนี้ เราพักกันที่ เกาะมุกด์ เดอ ธารา บีชรีสอร์ท ซึ่งบรรยากาศโดยรวมสวยมากๆ
น่ามาติดเกาะชิลๆ กับคนรู้ใจเป็นที่สุด.. (*ประเด็นคือยังไม่มี) อิอิ



 



รีสอร์ทถูกออกแบบให้ดูกลมกลืนกับธรรมชาติ  มีการใช้วัสดุพื้นถิ่น อย่างทางมะพร้าว มาทำเป็นหลังคา
และวัสดุจากธรรมชาติอื่นๆ มาทำเป็นส่วนประกอบสำคัญต่างๆ ของอาคารอีกด้วย..*งามแบบธรรมชาติ
ด้วยความที่ตัวรีสอร์ทติดกับชายทะเล ทำให้ที่นี่มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปมากมาย บรรยากาศแนบชิดชายหาดและธรรมชาติแบบสุดๆ
สามารถเดินไปเล่นน้ำทะเล หรือจะมานั่งเหม่อ เพ้อถึงใคร เราก็ไม่ว่า ตามประสาคนโสด..ด... มองเรือ มองเกาะ (ลิบง) อยู่ริบๆ





 

 



บรรยากาศชิลๆ คูลๆ แบบนี้ ไปเดินลัดเลาะริมชายหาดกันบ้างดีกว่าครับ ฟ้าหลังฝน...เมฆก็เริ่มเปิด แสงแดดก็เริ่มทอแสง
ออกมาแล้วว  อากาศเย็นสบาย มีทั้งสายลมและเสียงคลื่น..... ถ้ามีคนข้างๆ มาด้วย คงจะดีมิใช่น้อยยย
ผมเดินจากที่พักของเรามาเรื่อยๆ จนถึงชายหาดแหลมๆ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ เกาะมุก สิวาลัยบีช รีสอร์ท
รีสอร์ทอีกแห่งที่มี โลเคชั่น หรือทำเลเป็นจุดเด่น + บรรยากาศและชายหาดที่สวยงาม
ตรงนี้...ถ้าหากเรามองมุมสูง สามารถมองเห็นได้ทั้ง 2 ชายฝั่ง ทั้งเขาและเธอ เอ้ยย...
ทั้งฝั่งท่าเรือ (ทิศเหนือ) และฝั่งทิศใต้ 55+ ที่เป็นที่ตั้งของรีสอร์ท ที่เราพักนั่นเองครับ



 

 



สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเกาะมุก นอกจากบริเวณชายหาดตรงนี้แล้ว ยังมี หาดฝรั่งและถ้ามรกต อีกด้วย
และเนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงมรสุมเราจึงไม่สามารถเก็บภาพบรรยากาศของถ้ำมรกต...มาให้ได้ชมกัน  เลยขอแก้ตัวด้วยบรรยากาศ
ของหาดฝรั่ง ซึ่งก็มีสวยงามไม่แพ้ถ้ำมรกตเลยละครับ (ปล.คิดถึงเธอทุกที ที่อยู่คนเดียวว)


 

 



สาเหตุที่เรียกว่า หาดฝรั่ง คงเป็นเพราะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมาก...
นิยมมาอาบแดด เล่นน้ำ หรือทำกิจกรรมบริเวณนี้อีกทั้งชายหาดยังมีลักษณะเป็นแนวราบ
หันหน้าสู่ท้องทะเลอันดามัน จึงทำให้สามารถชมพระอาทิตย์ตกในตอนเย็น ได้อย่างสวยงามครับ
กินลมชมหาดไปพลางๆ นั่งเหงา ปล่อยเบลอ คิดถึงเธอตลอดเวลาาา.. 55+ (ตกลงโสด หรือ อกหักกันแน่)



 

 



มองอะไรก็เป็นคู่ไปหม๊ดดด ขนาดน้องหอย น้องปู (เสฉวน) ยังอยู่กันเป็นคู่เลย เซง.... TT
กลับไปหาอะไรกินกันที่รีสอร์ท
ดีกว่า  เกาะมุกด์ เดอ ธารา บีชรีสอร์ท นอกจากจะมีบริการห้องพักแล้ว..ยังมีร้านอาหาร
พร้อมบาร์เครื่องดื่มคอยให้บริการ โดยราคาอาหารและเครื่องดื่มก็ไม่ได้สูงมาก สมน้ำสมเนื้อ แถมอาหารยังสดและอร่อยอีกด้วย


 

 



กินไป ชมวิวไป ก็ได้พักผ่อน พักกาย พักใจ กันไปแบบสุดๆ (เฮ้อ..อ... หายเหนื่อย หายเหงา สนุกไปอีกแบบ)
และนี่ก็คือเรื่องราวสั้นๆ บนเกาะมุก (เดือนพฤศจิกา) ตามประสาคนโสด (เอ๊ะ !!! หรือสันโดษดีครับ อิอิ) ที่ผมได้ไปสัมผัสมาครับ
เป็นการท่องเที่ยวทะเล แบบ lonely ในหน้ามรสุม ที่สวยที่สุดในชีวิต ถ้า Summer คงจะสวยไปอิ๊กกก
ไว้โอกาสหน้า ถ้าผมมีโอกาส จะเก็บภาพบรรยากาศอื่นๆ ของเกาะมุก
รวมถึงถ้ำมรกตมาให้ชมกันใหม่นะครับ *ครั้งหน้าไม่ขอโสดแล้วนะ 555+ เค้าเหงาาา...

 

 



ฝากเพจน้องใหม่ของเราด้วยนะครับ  https://www.facebook.com/1900miles-322512631445813

ขอบคุณที่รับชมครับ
1900miles