TraveliGo with HIGH ON DREAMS at GILI-ISLANDS-บาหลี-กิลี-ทริปนี้-ไม่มีเธอ
บาหลีเป็นหนึ่งใน Bucket List อันดับต้นๆของเรามาตั้งแต่เด็ก
เคยฝันมานานแล้วว่าจะต้องมาให้ได้
ด้วยความชื่นชอบในทะเล แถมโดนบิ๊วด้วยภาพจากเนตมาเยอะ
ไหนๆ ก็อยู่ในช่วงว่างงานอยู่แล้ว เลยตัดสินใจมา
แถมมาคนเดียวด้วยนะ ชวนใครก็ไม่มีใครว่าง 555
ไม่เป็นไร ชินแล้ว…
แต่ทริปนี้ส่วนที่เน้นสุดของเราคงจะเป็น
การมาสัมผัสทะเลและชีวิตบนหาดทราย
เราอยากเห็นน้ำใส ๆ ทรายขาว ๆ ว่ายน้ำกับเต่า ดำดูปะการัง
ด้วยโจทย์ที่มี ก็เลยทำให้เราได้รู้จักกับหมู่เกาะนึง
จากปากของนักท่องเที่ยวที่เจอระหว่างทาง
มันไม่ใกล้ แต่ก็ไม่ไกลจากเกาะบาหลีนัก
สามารถนั่งเรือมาจากบาหลีได้เลย ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
เราไปปลีกวิเวกอยู่ที่นั่นซัก 4-5 วัน แล้วค่อยกลับมาเที่ยวบาหลีต่อ
เกาะนี้มีชื่อว่า “กิลี" เป็นเกาะเล็กๆ เล็กมากๆ ในประเทศอินโดนีเซีย
กิลี แบ่งเป็น 3 เกาะด้วยกันคือ GILI Trawangan , GILI Meno , GILI Air
เป็นหมู่เกาะที่เราชอบที่สุด และไกลบ้านที่สุดที่เราเคยไปมาเลยหละ
มาพูดถึงเรื่องการเดินทาง
จากกรุงเทพ มาบาหลีก่อนเลย มีหลายสายการบินทีเดียว
จะบินตรงหรือต่อเครื่อง แล้วแต่ความสะดวกและเงินในกระเป๋า
เรามีอีกทางเลือกนึงในการซื้อตั๋วเครื่องบินมาแนะนำ
คือ www.traveligo.com เป็นเว็บจองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก หรือเช่ารถ
เรียกได้ว่าเข้าเว็บเดียวก็วางแผนได้ทั้งการเดินทางเลย
และการจองผ่านตัวแทนแบบนี้ นอกจากจะไม่ต้องไปเสิร์ชเทียบราคาแต่ละสายการบิน
แต่ traveligo เค้ายังดีลราคาตั๋วเครื่องบินและโรงแรมมาให้เราได้ถูกกว่าจองเองอีกเด้อ
ถ้าขี้เกียจเสิร์ชเองก็โทรโลด 021871008 อิอิ
(เราได้ตั๋วไปกลับบาหลีราคาประมาณ 7xxx
ขาไปต่อเครื่องที่ กัวลาลัมเปอร์ - จาการ์ต้า - บาหลี
ขากลับจาก บาหลี - จาการ์ต้า - กรุงเทพ)
การมาบาหลีไม่ใช่เรื่องยากค่ะ
แต่อันต่อไปหนิ ยาก เพราะหาข้อมูลภาษาไทยไม่ค่อยได้
เลยอยากจะเขียนให้อ่านจากประสบการณ์ตรง
จากบาหลี ไปเกาะกิลี มีหลายวิธีค่ะ
แต่ละเรือจะผ่านทั้งสามกิลีเลย รวมถึงเกาะลอมบกด้วย
นั่งเครื่องไปลงลอมบกก็ได้ แต่ในที่นี้เราจะพูดถึงการเดินทางจากบาหลีนะ
เส้นทางการเดินเรือ
Padang Bai (ท่าเรือบาหลี) - Lombok - Gili Air - Gili Meno - Gili Trawangan
FAST BOAT
อันนี้วิธีเราเอง เราเน้นความสะดวกของตัวเองเป็นหลัก
คือเราจองจากที่พักที่รีเซฟชั่น และจะมีรถมารับหน้าที่พักเลย
แต่ละโรงแรมเนี่ยเค้าจะมีดีลกับทางบริษัทเรือกันอยู่แล้ว มันมีขายแน่นวลค่ะ
ส่วนใหญ่จะมีรอบเช้า และรอบบ่าย ต้องไปถามเวลากับร้านอีกทีนะ
ใช้เวลา 2 ชั่วโมง หรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
ราคา 200,000 - 300,000 รูเปีย แล้วแต่ต่อราคาได้
ถ้าซื้อทั้งขาไปและขากลับก็จะถูกลง
ถ้าอยากได้ถูกกว่านี้ ลองเดินไปร้านทัวร์ข้างถนนดู
แล้วเปรียบเทียบราคากัน แต่เราว่ามันก็ไม่ต่างกันมากหรอก
PUBLIC FERRY
วิธีนี้สำหรับคน LOW BUDGET อยากเข้าถึงวิถีโลคอล
นั่งเรือไม้ชาวบ้าน ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง ยังไม่รวมช่วงโหลดของนะ
ส่วนใหญ่แล้วชาวบาหลีและลอมบกก็ใช้เรือนี้แหละ แค่ 40,000 รูเปีย
หรือนักท่องเที่ยวบางคนอาจจะเหมาทั้งเรือเป็น Private Cabin เลยก็ได้
PRIVATE HELICOPTER
นั่งฮอข้ามไป นี่คงไม่ใช่วิถีคนอย่างเราค่ะ แต่จะบอกไว้ว่ามันมีนะ
ใช้เวลาแค่ 45 นาที นั่งได้ทีละ 5 คน ราคาไม่รู้ ลองเสิร์ชเอาได้ที่บริษัท Air Bali
GILI - BALI 002 เกริ่นมายาวไป๊ เข้าเรื่องเลยค่ะ
หลังจากรถตู้มารับที่โฮสเทล ตอน 10.30
ก็ต้องเดินทางไปยังท่าเรือ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จาก kuta beach
และรอเรือออกรอบ บ่ายโมงตรง
เราลงเรือที่เกาะ Gili Trawangan ในวันแรก
เพราะได้ยินมาว่า GIli T (ขอเรียกย่อนะ เค้าก็เรียกแบบนี้กัน)
เป็นเกาะที่ครบที่สุด หาที่พักง่ายสุด เดินทางสะดวกสุด และคนเยอะสุด
หลังจากก้าวเท้าลงจากเรือ ก็เอ๋อเลย
เหมือนไม่ได้อยู่ในเอเชีย เกือบทั้งหมดเป็นฝรั่งหัวทอง
หาเอเชียหัวดำยากมาก จนรู้สึกว่าเราอาจจะเป็นคนไทยคนเดียวบนเกาะนี้ก็ได้
GILI - BALI 003 รถม้า
สิ่งที่ทำเราตกใจที่สุดคือ บนเกาะนี้ไม่มีรถยนต์ ไม่มีมอเตอร์ไซค์ แต่มีรถม้ากับจักรยาน
เค้าใช้รถม้าสัญจรไปมากันจริงๆ ทางเดินนี่ก็ต้องหลบให้เค้าหละ ม้าเป็นใหญ่
แต่มันก็ดีที่ทำให้อากาศที่นี่ดี ไม่มีมลพิษ ไม่ต้องมีปั๊มน้ำมัน
ไม่มีทิ้งสารลงทะเล นี่คือจุดที่ทำให้น้ำทะเลของกิลี ยังรักษาความใสไว้ได้
ถึงแม้จะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเยอะแค่ไหนก็ตาม
เกาะนี้มีถนนเส้นหลักอยู่ตรงท่าเรือเลย ยาวประมาณกิโลนึงได้มั้ง
และมีถนนวิ่งรอบเกาะเลียบชายหาดเป็นวงกลม
แต่มันก็มีจุดนึงที่รถม้าไม่สามารถวิ่งรอบได้
ขนาดรถจักรยานยังต้องเข็นเอาเลย
GILI-BALI 004 โฮสเทล
ช่วงนี้เป็นช่วง High Season ของบาหลี ก็คือ กรกฎา-กันยา
เพราะเค้าบอกว่ามันไม่มีมรสุม ฝนตกน้อย(ไม่ใช่ไม่ตกนะ)
กลัวโฮสเทลเต็ม ก็เลยต้องจองไว้ก่อนมา
ชื่อโฮสเทลว่า “Gili La Boheme” คืนละ 536 บาท ถือว่าแพงอยู่นะ
เพราะห้องไม่มีแอร์ แถมประตูล็อคไม่ได้ (อันนี้เพิ่งมารู้หลังเช็คอิน)
แต่ก็มีความดีไซน์เก๋และความโซนโซเชี่ยลอยู่ประมาณนึง
GILI-BALI 005 เพื่อนใหม่
เพื่อนใหม่ในโฮสเทลหาได้ง่ายๆนะสำหรับเรา
เพราะทุกคนเค้าเลือกนอนโฮสเทลเพราะจะหาเพื่อนเที่ยวกันอยู่แล้ว
หลังจากเราได้ทำความรู้จักกับนิค รูมเมทที่เข้าเช็คอินพร้อมกัน
พวกเราก็ตัดสินใจเดินสำรวจเกาะด้วยกัน
นิคเป็นผู้ชายอะไรก็ได้จริงๆ
ลองได้ทุกอย่าง ชวนทำอะไรก็ไปหมด ชวนกินอะไรก็กินหมด
ยิ่งมาเจอเราเป็นสายลองของแปลกด้วยแล้ว ก็ดีเลยนะ มีเพื่อนช่วยลองกิน
GILI-BALI 006 อาหารวันแรก
เนื่องจากหิวมาก เลยชวนนิคเดินเล่นหาอะไรกิน
เริ่มจากเนื้อปิ้งคุณยาย ที่นั่งขายอยู่ข้างทาง
ต่อด้วย ก๋วยเตี๋ยวสูตรไม่คุ้นลิ้น ใส้แป้งก้อนแทนลูกชิ้น 5555
ต่อด้วยเครื่องดื่มชูกำลัง พลังตัวสามขา ที่หยิบมาจากตู้เพราะชอบโลโก้บนกะป๋อง
ทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่ากินอะไรลงไป 5555
และปิดท้ายเครื่องดื่มแบบสวยๆ ด้วย BINTAN
เบียร์ที่อร่อยที่สุดในอินโดนิเซีย (สำหรับเรานะ)
นอนกินเบียร์ริมทะเล ดูพระอาทิตย์ตกดิน คืออะไรที่ชิลที่สุดแล้ว
GIL-BALI 007 น้ำทะเล
ตั้งแต่ก้าวเท้าขึ้นมาบนเกาะ
Felicities ต่างๆที่เจอมันดึงดูดความสนใจจากทะเลไปเลย
แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันไม่สวยนะ น้ำที่นี่ใสมวากกกก
ถ้าให้เทียบกับประเทศไทยก็สีประมาณ เกาะเต่า เกาะพงัน แต่ที่นี่ใสกว่า
แต่แค่วันนี้มันครึ้มๆไปหน่อย
GILI-BALI 008 Scuba Diving
แผนของเราในวันที่ 2 คือ ไปดำน้ำลึก มิชชั่นที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่ไทยแล้ว
เพียงแต่ยังมีความกลัวอยู่ เพราะที่เรียนมาเป็นภาษาไทย ครูคนไทย
แต่พอมาต่างประเทศแล้วเนี่ย มันจะพูดคนละแบบเลยอะ
แล้วนี่ก็เป็นการลง Diving ครั้งที่ 6 เอง มันก็เลยตื่นเต้นมวากกก
ที่นี่มีร้านดำน้ำเยอะมาก แต่เราดำน้ำกับ Gili Divers ค่ะ
Dive Master เป็นฝรั่งทุกคนเด้อออออ
ส่วนนิคก็ลงเรียนดำน้ำใหม่ คอร์ส Open Water
บอกแล้วว่านางลองทุกอย่างจริงๆ
สิ่งพิเศษในการมาดำน้ำที่กิลีคือ
99% เห็นเต่าทะเลแน่ๆ และอาจจะเห็นจนเบื่อเลยหละ
ซึ่งมันก็เป็นอย่างงั้นจริงๆ
ใต้ทะเลมีทั้งเต่า ทั้งปลาหมึก ปลาไหลมอเรย์ อีกหลายๆตัว
แต่เสียดายที่ปะการังไม่ค่อยสวยอย่างที่คิด
GILI-BALI 009 BONFIRE
หลังจากกลับจากดำน้ำเสร็จแล้ว
วันนี้ที่โฮสเทลมี ปาร์ตี้ BONFIRE
มีคนอื่นๆจากที่อื่นก็มาแจมกันอย่างล้นหลามที่โฮสเทลเรา
แล้วรวมตัวเดินเป็นขบวนไปยังชายหาดลับ ประมาณ 1 กิโล
โดยแก๊งรีเซฟชั่นชาวอินโดเป็นคนจัดงาน และเซอร์วิสทุก ๆ อย่าง
กระทั่งขนถังน้ำแข็งแช่เบียร์ไปด้วย
ในระหว่างทาง แต่ละคนจะต้องช่วยกันถือไม้ไปเป็นฟืนสำหรับงานนี้
ก็เก็บกันสดๆจากข้างทางเลยนี่แหละ
พอถึงชายหาด งานก็เริ่มขึ้น
มีทีมก่อไฟ มีทีมเอนเตอร์เทน ทีมเตะตะกร้อ และทีมกินแต่เบียร์
เราเองอยู่ในทีมสุดท้ายค่ะ 5555
บรรยากาศตอนนี้คือเป็นอะไรที่ดีต่อใจมากๆ
พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน
ท้องฟ้าเป็นสีวานิลลา
คนแปลกหน้าเริ่มคุยกัน
แล้วฉันก็เริ่มจิบเบียร์เย็นๆ
แล้วปาร์ตี้ก็จบลงเพราะฝนตกลงมา 5555
GILI-BALI 010 SURROUNDING
วันที่ 3 บนเกาะ กิลีที
อีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาที่นี่คือ ปั่นจักรยานรอบเกาะ
แต่สำหรับใครที่ขี้เกียจก็นั่งรถม้ารอบเกาะก็ได้นะ
ในแต่ละทิศของเกาะ สีของน้ำทะเลก็แตกต่างกันไป
สีทรายก็ต่างกันอีก
บางที่เป็นทรายขาว บางที่เป็นทรายดำ และบางที่ก็ไม่มีทรายมีแต่หิน
แต่ที่มีเหมือนกันคือ ความชิลบนชายหาด
ทิศตะวันออกของเกาะเป็นหาดท่าเรือ
ตอนกลางวันน้ำจะใสมากกกกก ใสแบบฟ้าสุดๆ
ฝั่งทิศตะวันตกส่วนใหญ่เป็นหาดปะการัง ทรายไม่ค่อยขาว
แต่บรรยากาศชิลมวากกกกกก
GILI-BALI 011 LANMARK
สิ่งที่ถ่ายมาแล้วรู้เลยว่าอยู่กิลิก็คงจะเป็นสิ่งนี้หละ
ชิงช้าในน้ำยามพระอาทิตย์ตกดิน
มันจะอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะ
แต่เราดันมาตอนมันยังไม่ตกน่ะสิ
และที่สำคัญ วิวภูเขารินจานีที่ยิ่งใหญ่แห่งลอมบก
หลายคนก่อนที่จะมากิลี เขาก็ไปปีนเขารินจานีมาเหมือนกัน
รินจานีเป็นภูเขาไฟที่ดับแล้ว สูงติดอันดับภูเขาที่สูงที่สุดในอินโด
ตรงกลางภูเขาไฟกลายเป็นทะเลสาบ
นั่นแหละที่ทำให้มันเป็นจุดขายของภูเขาไฟแห่งนี้
GILI-BALI 012 SNORKEL
เรือส่วนใหญ่จะวิ่งจาก Gili Air ไป Gili Meno แล้วไป Gili Trawangan และยาวไปเกาะบาหลี
หากเราอยากย้ายเกาะจาก Gili T ไป Gili Air จะยากละ อาจจะต้องเหมาเรือไป(แพง)
การซื้อทริปสน็อกเกิ้ลรอบเกาะจึงเป็นอีกวิธีในการย้ายเกาะ
และเดย์ทริปสน็อกเกิ้ลที่นี่คือถูกมาก 100 รูเปีย หรือประมาณ 300 บาทเท่านั้น
ดำได้ถึง 3 เกาะ ที่ไทยไปเกาะเดียวยังไม่ถูกขนาดนี้เลย
ทีเด็ดของสน็อกเกิ้ล หรือดำน้ำแบบผิวน้ำ ไม่ใช่การดูปะการังนะ
แต่เป็นการดูเต่านี้แหละ!!
นี่ถ้ารู้ว่าแค่สน็อคเกิลก็เจอเต่าแล้ว จะไม่เสียตังไปสกูบ้าเลย 5555
สกูบาทีนึง สน็อกเกิ้ลได้ 6 วันเลยเด้ออออ
จุดดำน้ำเค้าจะจอดให้ลงประมาณ 3-4 จุดแล้วแต่สภาพอากาศและคลื่นลม
ซึ่งคนขับจะขับวนรอบทั้ง 3 เกาะ และจอดให้พักทานข้าวเที่ยงที่เกาะ กิลีแอร์
(เราแบกกระเป๋าเดินทางขึ้นเรือดำน้ำมาด้วย เพื่อดรอปลงอิลีแอร์)
GILI-BALI 013 GILI AIR
ย้ายมาทีเกาะกิลีแอร์กันบ้างค่ะ
เกาะนี้เรามีเวลาอยู่แค่วันเดียวเท่านั้น ก่อนจะกลับไปบาหลี
เดินทางมาโดยเรือสน็อกเกิ้ลทริป และขอลงกลางทางที่กิลิแอร์
Gili Air ค่อนข้างเงียบกว่า Gili T
Gili T เนี่ยจะเป็นสายปาร์ตี้ บาร์เยอะมาก
แต่ Air แต่มันก็ชิลกว่า เหมาะสำหรับการมาอยู่นานๆ
และเราควรจะอยู่นานกว่านี้ T_T เสียดายที่เวลาหมดแล้ว
ความพีคของกิลีแอร์อยู่ที่ ที่นี่มี ATM แค่ 2 จุดเท่านั้น และมันก็เสียทั้งสอง!!!!
จังหวะนั้นคือเงินเราหมดพอดี เงินไม่พอไปจ่ายค่าโฮสเทลที่จองไว้
กะไว้ว่าจะกดเงินที่กิลีทีก็ดันลืมกด เพราะตื่นเช้ารีบมาขึ้นเรือดำน้ำนี่แหละ
เรียกง่ายๆว่า หมาจนตรอก จะนั่งเรือกลับบ้านยังไม่ได้เลย
T_T
ทำไงดี ทำไงดี
แหกกระเป๋าตังดูก็เหลือเศษเงินรูเปียอีกไม่กี่บาท กับแบงค์ไทยอีก 1800
ทางเลือกสุดท้ายคือ ขอให้มีที่แลกเงิน จะเรทเท่าไหร่ก็ช่างแล้ว ขอให้มีก็พอ
เลยไปถามพี่คนขับรถม้า ว่าที่แลกเงินอยู่ตรงไหน
พี่แกก็จะให้ขึ้นรถม้าให้ได้ ก็เลยบอกตกลงไป ว่า
“ถ้าแลกไม่ได้ก็ไม่มีเงินจ่ายนะ”
จอดร้านแรกไม่รับแลกเงินไทย…
ต้นอ้อเริ่มใจแป้วค่ะ
แต่พี่รถม้ายันสู้ บอกว่ามีอีกร้านนึง (ทั้งเกาะมีไม่กี่ร้าน)
และแล้ว พี่แกก็หาร้านแลกได้อีกร้าน ร้านนี้รับเงินไทยว่ะ
แต่เกิดปัญหายกที่ 2 คือ แบงค์พันมีปัญหา เค้าบอกว่ามันเป็นแบงค์เก่า ไม่รับแลก
ต้องเป็นแบงค์ใหม่เท่านั้น
“เหี้ยละไง นี่ก็แบงค์ใหม่นะโว้ยยยยยย เนี่ย ไม่มีรอบขาดรอยยับ”
พี่แกเลยเปิดรูปแบงค์ใหม่ให้ดู (เสิร์ชกูเกิล) แล้วบอกว่ามันเพิ่งเปลี่ยน 1 เดือนที่แล้ว
อื้อหืออออออ เงิบแป๊ปปปป
เลยควักแบงค์ 500 ในกระเป๋าขึ้นมาอีกใบ โชคดีของต้นอ้อ ที่ใบนี้รอด
หยิบแบงค์ร้อยที่เหลือมาอีก 3 ใบ แต่แลกได้แค่ใบเดียว
สรุปว่าการแลกเงินในครั้งนี้ได้แค่ 600 บาท กับเรทแลกเงินที่แย่ที่สุดในชีวิต
แถมจ่ายอิพี่รถม้าไปอีก 100 บาท (พลาดกับอิรถม้านี่แหละ)
นึกแล้วก็สงสารตัวเอง เหลือ 500 บาทจ่ายค่าโฮสเทลก็จะหมดแล้ว (180,000 รูเปีย)
การได้จิบเบียร์ริมหาด ปิดท้ายทริปเกาะกิลีก็คงกลายเป็นแค่ฝันสินะ
อย่าว่าแต่เบียร์เลย เงินกินข้าวยังไม่รู้จะพอมั้ยเลยค่ะ
ได้แต่หวังว่าวันพรุ่งนี้ เอทีเอ็มจะใช้ได้
GILI-BALI 014 BEGADANG
โฮสเทลที่เราจองมานี่ก็ดีโฮสเทล เบกาแดง “Begadang Gili Air”
มีสระว่ายน้ำ มีแอร์ ในราคาถูกว่าโฮสเทลในGili T
โชคดีของต้นอ้อ ที่โฮสเทลนี้เพิ่งมีระบบการจ่ายตังแบบ รูด Credit Card
“รอดแล้วว๊อยยยยยยยยย”
มีเงินกินข้าว มีเงินกินเบียร์แล้วววววววววว
แถมมีตัวเลือกให้นักท่องเที่ยวที่อยากประหยัดกว่านั้นอีก
ด้วยห้องรวม Outdoor นอนบนเพิงมุงหลังคา
ตีเป็นเงินไทยก็คืนละ 60 บาทเองจ้าาาาา
โอ้ยยย อยากย้ายมาอยู่จริงๆ
GILI-BALI 015 SUNSET
เวลาที่เหลืออยู่ในวันนี้คือ การดูพระอาทิตย์ตกดิน
พร้อมเล่าเรื่องราวที่เจอมาให้กับเพื่อนใหม่อีกครั้ง และอีกครั้ง
พอเที่ยวนานๆ ก็เริ่มจะนับเพื่อนไม่ถ้วนแล้วล่ะ
นอกจากบางคนที่ถูกชะตาจริงๆ มันก็จะเป็นเพื่อนกันต่อไปได้นาน
เข้าใจคำนี้เลย บางคนผ่านมาเพื่อแค่ผ่านไปเท่านั้นเอง
GILI-BALI 016 GOOD BYE
จริงๆ ทริปนี้ก็ผ่านมาตั้งหลายเดือนแล้ว
กลัวว่าเวลาผ่านไปมันจะกลายเป็นความทรงจำที่เลือนลาง
ความสนุกแบบนี้จะรู้สึกแค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละมั้ง
ทริป 5 วันใน Gili
..
บางคนใช้ชีวิตทุกวันให้มันความสุข
แต่กับบางคนยอมใช้ชีวิตแบบทุกข์
เพื่อหวังว่าซักวันจะมีความสุข…
ไปละ
แล้วเจอกันระหว่างทางค่ะ