ทัวร์พม่า 4 วัน 3 คืน เดินทางด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส บินตรงจากเชียงใหม่ พาชมเมืองมัณฑะเลย์ พระมหามัยมุนี พระราชวังมัณฑะเลย์ ล่องเรือแม่น้ำอิรวดี สะพานไม้อูเบ็ง พุกาม เจดีย์ชเวสิกอง ชมโชว์หุ่นกระบอกเมืองพุกาม นั่งรถม้าชมเมืองพุกาม ระฆังยักษ์มิงกุน



28 ส.ค. 2565 ถึง 31 ส.ค. 2565
- ราคาสุดท้ายไม่บวกเพิ่ม
- รับประกันราคาที่ดีที่สุด

02 187 1008
จันทร์ - เสาร์ 09:00 น. - 18:00 น.
วันที่ | กำหนดการ | อาหารเช้า | อาหารเที่ยง | อาหารเย็น | โรงแรม |
---|---|---|---|---|---|
![]() |
เชียงใหม่ (ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่) - มัณฑะเลย์ (ท่าอากาศยานนานาชาติมัณฑะเลย์) (PG725 : 16.30 - 17.30) - มัณฑะเลย์ | ![]() |
![]() |
![]() |
Victoria Palace Hotel or similar class |
![]() |
มัณฑะเลย์-อมรปุระ-สะพานไม้อูเบ็ง-ทะเลสาบคองตามัน-นั่งรถม้าชมเมืองเก่า - วัดอนันดา - วัดติโลมินโล - จุดชมวิวเนินNyaung Le Phat | ![]() |
![]() |
![]() |
Accommodation in Su Tine San Hotel or similar class |
![]() |
พุกาม-วัดสัพพัญญู -วิหารมนูหะ-วัดกุบยางกี-เจดีย์ชเวสิกอง-วิหารธรรมยังยี-มัณฑะเลย์-วัดกุโสดอ-เขามัณฑะเลย์ฮิลล์ | ![]() |
![]() |
![]() |
Victoria Palace Hotel or similar class |
![]() |
ร่วมพิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนี - ล่องเรือแม่น้ำอิรวดี - มิงกุน - ระฆังยักษ์มิงกุน - เจดีย์พญาเธียรดาน - พระราชวังมัณฑะเลย์ - พระตำหนักไม้สักชเวนันดอว์ - (ท่าอากาศยานนานาชาติมัณฑะเลย์) - เชียงใหม่ (ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่) (PG726 : 18.00 -19.55) | ![]() |
![]() |
![]() |
- |
-
เชียงใหม่ (ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่) - มัณฑะเลย์ (ท่าอากาศยานนานาชาติมัณฑะเลย์) (PG725 : 16.30 - 17.30) - มัณฑะเลย์14.00 น. พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น1 เคาน์เตอร์สายการบินบางกอกแอร์เวย์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับอำนวยความสะดวกจัดเตรียมเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน16.30 น. ออกเดินทางสู่ มัณฑะเลย์ โดยสายการบินกอกแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ PG725 (มีบริการอาหารและน้ำดื่มบนเครื่อง)17.30 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติมัณฑะเลย์ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่ เมืองมัณฑะเลย์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที (เวลาท้องถิ่นที่พม่าช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง)ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารที่พัก Victoria Palace Hotel หรือระดับเทียบเท่า
-
มัณฑะเลย์-อมรปุระ-สะพานไม้อูเบ็ง-ทะเลสาบคองตามัน-นั่งรถม้าชมเมืองเก่า - วัดอนันดา - วัดติโลมินโล - จุดชมวิวเนินNyaung Le Phatเช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรมนำท่านเดินทางสู่ เมืองอมรปุระ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที นำท่านชม สะพานไม้อูเบ็ง สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก เสาของสะพานใช้ไม้สักถึง 1,208 ต้น ซึ่งมีอายุกว่า 200 ปีทอดข้าม ทะเลสาบคองตามัน สะพานสร้างจากไม้สักที่เหลือจากการรื้อพระราชวังเก่ากรุงอังวะ เมื่อครั้งย้ายเมืองหลวงจากอังวะ มายังอมรปุระ ชื่ออูเบ็งนั้นเป็นชื่อของขุนนางที่มีนามว่า “อูเบียน” ซึ่งพระเจ้าปดุงโปรดฯให้มาทำหน้าที่เป็นแม่กองงานสร้าง สะพานถูกใช้เป็นทางผ่านสำคัญสำหรับคนในท้องถิ่นและเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมเป็นช่วงที่น้ำในทะเลสาบมีระดับสูงสุดกลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบ่าย ออกเดินทางสู่ เมืองพุกาม โดยรถบัส ใช้เวลาประมาณ 4ชั่วโมง ถึงเมืองพุกาม ดินแดนแห่งเจดีย์หมื่นองค์ ที่มีอายุกว่า 2,000 ปี ของกษัตริย์อนิรุทมหาราช แห่งอาณาจักรพุกาม สัมผัสแหล่งโบราณสถานและประวัติศาสตร์ของอาณาจักรพุกามชม วัดติโลมินโล นี้เป็นวัดที่สร้างแบบก่ออิฐถือปูน บนฐานกว้างด้านละ 43 เมตร องค์เจดีย์สูง 46 เมตร ภายในวิหารมีช่องบันได เดินขึ้นสู่ระเบียงชั้นบนได้ และวิหารแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นวิหารองค์สุดท้ายที่มีการสร้างในแบบสถาปัตยกรรมพุกามครับ ภายในวิหารมีพระพุทธรูป 4 องค์ที่ชั้นที่หนึ่งและชั้นที่สองของวิหาร ภายในมีช่องแสงที่เมื่อส่องกระทบพระพุทธรูปแล้วงดงามมากมาย ตัวพระพุทธรูปที่ประดิษฐานภายในนั้นมีความแตกต่างจากที่เห็นกันโดยทั่วไป เพราะช่วงนั้นเริ่มได้รับอิทธิพลมาจากจีนนำท่านชม วัดอนันดา เป็นวัดสีขาว มองเห็นได้ชัดเจน สร้างเสร็จเมื่อปี 1091 ซึ่งวิหารแห่งนี้นับได้ว่าเป็นวิหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพุกาม มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีมุขเด็จยื่นออกไปทั้ง 4 ด้าน แผนผังเหมือนไม้กางเขนแบบกรีก ซึ่งต่อมาเจดีย์แห่งนี้เป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมพม่าในยุคต้นของพุกาม และสิ่งที่น่าทึ่งของวิหารแห่งนี้ก็คือ ที่ช่องหลังคาเจาะเป็นช่องเล็กๆ ให้แสงสว่างส่องลงมาต้ององค์พระอย่างน่าอัศจรรย์นำท่านนั่งรถม้า สัมผัสแหล่งโบราณสถานและประวัติศาสตร์ของอาณาจักรพุกาม เมืองทะเลเจดีย์ที่สวยงาม และหมู่บ้านเก่าแก่ของเมืองพุกามที่ยังคงวิถีชีวิตที่เรียบง่าย จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่จุดชมวิว ให้ท่านได้ชมพระอาทิตย์อัสดงอันงดงามค่ำ รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารที่พัก Su Tine San Hotel หรือระดับเทียบเท่า
-
พุกาม-วัดสัพพัญญู -วิหารมนูหะ-วัดกุบยางกี-เจดีย์ชเวสิกอง-วิหารธรรมยังยี-มัณฑะเลย์-วัดกุโสดอ-เขามัณฑะเลย์ฮิลล์เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรมชมวัดสัพพัญญู เป็นเจดีย์ที่มีความสูงที่สุดในเมืองพุกามความสูงทั้งสิ้นประมาณ 61 เมตร สร้างขึ้นตามศิลปะแบบปาละของอินเดีย ก่อสร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ.1687 โดยกษัตริย์อลองสิตธู ซึ่งเป็นทั้งวิหารและเจดีย์ ถือเป็นเจตีวิหารสองชั้นแห่งแรกในศิลปะพุกาม โดยปรากฏกการซ้อนกันของเรือนธาตุชั้นล่างกับชั้นบน ชั้นล่างเป็นแกนกลางขนาดใหญ่รับน้ำหนักเจตียวิหารในผังแบบครรถคฤหะ-มณฑปด้านบน เจตียวิหารสองชั้นนี้จะได้รับความนิยมต่อมาในศิลปะพุกามตอนปลาย โดยเจดีย์สำคัญที่ใช้เจดีย์สัพพัญญูเป็นต้นแบบ ได้แก่เจดีย์สูลามณีและเจดีย์ติโลมินโลนำทุกท่านชม วิหารมนูหะ หรือวิหารพระอึดอัด สร้างขึ้นโดยพระเจ้ามนุหา กษัตริย์ของชาวมอญ เมื่อพระองค์ตกเป็นเชลยของพระเจ้าอโนรธา เมื่อครั้งที่เข้าตีเมืองสุธรรมวดี หรือเมืองสะเทิม แล้วกวาดต้อนผู้คนมาที่พุกาม พระเจ้ามนุหาและพระอัครมเหสีถูกคุมขังไว้ที่ มยินกาบา ทางใต้ของพุกามและ ณ ที่นั้น ในปี พ.ศ. 1602 พระเจ้าอโนรธาทรงมีพระราชานุญาติให้พระเจ้ามนุหา สร้างวัดมนุหาขึ้นเพื่อทรงใช้เป็นที่บำเพ็ญพระราชกุศล กษัตริย์มอญทรงระบายความรู้สึกอึดอัดคับแค้นใจในพระราชหฤทัยของพระองค์ ในระหว่างที่ทรงถูกคุมขังด้วยการให้สร้างพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดใหญ่โตมากจนคับวิหาร ขนาบข้างด้วยพุทธสาวก และถูกเรียกขานว่า "พระอึดอัด" มาจนถึงทุกวันนี้นำทุกท่านชมภาพจิตรกรรมฝาผนังที่โดเด่นและงดงามที่สุดในพุกาม ณ วัดกุบยางกี อายุราว 2,000 ปี สร้างโดยพระโอรสของพระเจ้าจันสิทธะกลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบ่าย สักการะ เจดีย์ชเวสิกอง มีความหมายว่า “เจดีย์ทองแห่งชัยชนะ” สร้างโดย พระเจ้าอโนรธา มหาราชองค์แรก ผู้รวบรวมชนชาติพม่าเป็นปึกแผ่น ทรงส่งราชสาส์นไปขอพระไตรปิฎก 30 คัมภีร์จากเมืองสะเทิมของพวกมอญ แต่พระเจ้ามอญพระนามว่ามนุหาไม่ทรงยินยอม เป็นเหตุให้พระเจ้าอโนรธายกกองทัพไปรบตีชนะเมืองมอญ ทรงอัญเชิญพระไตรปิฎกมายังเมืองพุกาม และได้กวาดต้อนชาวบ้านรวมทั้งกษัตริมอญให้มาเป็นเชลยศึกที่พุกาม เจดีย์ชเวสิกองสร้างแล้วเสร็จในรัชสมัยของพระเจ้าจันสิทธา เมื่อปี พ.ศ. 1656 ลักษณะของเจดีย์ เป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำแบบมอญ ประดับลายงดงามด้วยเฟื่องอุบะและแถบคาดรอบองค์ระฆังที่เรียกว่า “รัดอก” แซมลวดลายประดับทั้งขอบล่างและขอบบน องค์เจดีย์หุ้มด้วยแผ่นทองนำท่านชม วิหารธรรมยังยี สร้างโดยพระเจ้านะระตู่ และพระองค์ก็เชื่อว่าเป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดในเมืองพุกาม สร้างขึ้นเพื่อล้างบาป ด้วยทรงปริวิตกว่าผลกรรมจากการกระทำปิตุฆาตจะติดตามพระองค์ไปในชาติภพหน้า ตั้งโดดเด่นยิ่งใหญ่ตระหง่านดังตำนานที่โหดร้ายได้เล่าต่อกันมาจากนั้นเดินทาง สู่ เมืองมัณฑะเลย์ โดยรถบัส ใช้เวลาประมาณ 4ชั่วโมงเดินทางถึงมัณฑะเลย์ นำท่านชม วัดกุโสดอ พระเจ้ามินดงโปรดให้จัดการสังคายนาพระไตรปิฎกขึ้น ณ เมืองมัณฑะเลย์ ครั้งที่ 5 มีแผ่นศิลาจารึกพระไตรปิฎกทั้งหมด 84,000 พระธรรมขันธ์ หลังจากนั้นโปรดให้สลักพระไตรปิฎกลงบนแผ่นหินแล้วสร้างเจดีย์ทรงปราสาทสำหรับประดิษฐานแผ่นจารึกแต่ละแผ่น วัดกุโสดอจึงถือเป็นหนังสือเล่มใหญ่ที่สุดในโลก ลักษณะทางศิลปกรรม วัดกุโสดอ ประกอบด้วยเจดีย์ประธานซึ่งจำลองแบบมาจากเจดีย์ชเวสิกองเมืองพุกาม แวดล้อมไปด้วยเจดีย์ทรงปราสาทขนาดเล็กซึ่งประดิษฐานแผ่นจารึกพระไตรปิฎก เจดีย์เหล่านี้มีการแบ่งกลุ่มตามหมวดของพระไตรปิฎกตั้งแต่พระวินัย พระสูตรและพระอภิธรรมนำทุกท่านชมวิวของเมืองมัณฑะเลย์ ณ เขามัณฑะเลย์ฮิลล์ ตั้งอยู่ทาง ตะวันออกเฉียงเหนือของพระราชวัง เขาลูกนี้สูง 240 เมตร ซึ่งเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดของเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งอยู่บนยอดเขา สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองมัณฑะเลย์เกือบทั้งเมืองค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารที่พัก Victoria Palace Hotel หรือระดับเทียบเท่า
-
ร่วมพิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนี - ล่องเรือแม่น้ำอิรวดี - มิงกุน - ระฆังยักษ์มิงกุน - เจดีย์พญาเธียรดาน - พระราชวังมัณฑะเลย์ - พระตำหนักไม้สักชเวนันดอว์ - (ท่าอากาศยานนานาชาติมัณฑะเลย์) - เชียงใหม่ (ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่) (PG726 : 18.00 -19.55)เช้าตรู่ นำท่านร่วมพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ในพิธีกรรมล้าง พระพักตร์พระมหามัยมุนี ซึ่งถือเป็นต้นแบบพระพุทธรูปทองคำขนาด ใหญ่ทรงเครื่องกษัตริย์ที่ได้รับการขนานนามว่า “พระพุทธรูปทองคำเนื้อนิ่ม” ที่พระเจ้ากรุงยะไข่ทรงหล่อขึ้นที่เมืองธรรมวดี เมื่อปี พ.ศ. 689 ต่อมาในปี พ.ศ.2426 ชาวพม่าได้เรี่ยไรเงินเพื่อบูรณะวัดขึ้นใหม่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมโดยสายการออกแบบของช่างชาวอิตาลีจึงนับได้ว่าเป็นวัดที่สร้างใหม่ที่สุดแต่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ที่สุดในเมืองพม่าโดยรอบๆระเบียงเจดีย์ยังมีโบราณวัตถุที่นำไปจากกรุงศรีอยุธยาเมื่อครั้งกรุงแตกครั้งที่ 1เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรมออกเดินทางสู่ ท่าเรือริมแม่น้ำอิรวดี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที นำทุกท่านล่องเรือข้ามฟาก สู่ ราชธานีเก่าของพระเจ้าปดุง เมืองมิงกุน ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีจากนั้น ชมมหาเจดีย์ยักษ์ มิงกุน ถึงท่าเรือนั่งรถชมซากเจดีย์ขนาดใหญ่ ร่องรอยแห่งความทะเยอทยานของพระเจ้าปดุง ที่ใช้แรงงานทาส และนักโทษนับพันคนในการก่อสร้าง โดยตั้งพระทัยว่าจะสร้องให้สูงใหญ่กว่าพระปฐมเจดีย์แห่งสยาม และให้พระองค์สามารถทอดพระเนตร ได้จากเมืองอังวะที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำอิรวดี แต่ด้วยงบประมาณที่บานปลาย ประกอบกับปัญหาขาดแคลนแรงงาน จำทำให้การก่อสร้างล่าช้า และในที่สุดพระองค์ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน ในปี พ.ศ. 2363 หลังพ่ายแพ้ไทยในสงคราม 9 ทัพ เจดีย์องค์นี้ จึงสร้างได้แค่ฐาน หลังจากนั้นองค์เจดีย์ก็ถูกทิ้งร้างเรื่อยมา แต่เพียงฐานก็นับว่าใหญ่โตมาก หากสร้างเสร็จจะมีขนาดใหญ่และสูงที่สุดในโลกนำทุกท่านชม ระฆังยักษ์มิงกุน สร้างเมื่อ พ.ศ.2351 โดยพระเจ้าปดุง สร้างถวายแด่เจดีย์มิงกุน มีน้ำหนัก 90 ตัน สูง 4 เมตร ปากระฆังกว้าง 5 เมตร ในอดีตระฆังองค์นี้ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากระฆังแห่งพระราชวังแครมลิน ในกรุงมอวโก ประเทศรัสเซีย แต่ระฆังเครมลินแตกไปแล้ว ปัจจุบันระฆังหลังจากนั้นชมเจดีย์สีขาวบริสุทธิ์ ที่สร้างบนฐาน 7 ชั้น รูปเกลียวคลื่นงดงาม เจดีย์พญาเธียรดาน สร้างขึ้นเมืองปี พ.ศ. 2329 เพื่อให้เปรียบเสมืองเจดีย์จุฬามณี ที่ตั้งอยู่เหนือเขาพระสุเมรุ ตามความเชื่อในไตรภูมิพุทธศาสนาที่ว่า คือแกนกลางจักรวาล ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยสัตตบริพันธ์ และมหานทีสีทันดรทั้ง 7 ชั้น พระเจดีย์แห่งนี้ยังถุกสร้างให้เป็นสักขีพยานรักของราชนิกุลอังวะ โดยพระเจ้าบากะยีดอว์ เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักที่มีต่อพระมเหสีชินพิวเม ที่สิ้นพระชนม์ไปก่อนที่พระเจ้าบากะยีดอว์จะขึ้นครองราชย์ แม้จะไม่ใช่หินอ่นเหมือนทัชมาฮาล แต่ก็ได้รับสมญานามว่า ทัชมาฮาลแห่งลุ่มอิรวดีกลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารนำทุกท่านร่องเรือกลับ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาทีจากนั้นเดินทางกลับสู่ เมืองมัณฑะเลย์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาทีบ่าย จากนั้นนำท่านชม พระราชวังมัณฑะเลย์ พระราชวังที่ส่วนใหญ่ก่อสร้างด้วยไม้สักที่สวยงาม ที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย ในสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา หรือสงครามโลกครั้งที่ 2 วันที่ 20 มีนาคม 2488 เครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรโดยกองทัพอังกฤษ ได้ทิ้งระเบิดจำนวนมากมายถล่มพระราชวังมัณฑะเลย์ของพม่า ด้วยเหตุผลว่าพระราชวังนี้เป็นแหล่งซ่องสุมกำลังของกองทัพญี่ปุ่น พระราชวังมัณฑะเลย์ซึ่งเป็นพระราชวังไม้สักก็ถูกไฟไหม้ เผาราบเป็นหน้ากลอง หลงเหลือก็แต่ป้อมปราการและคูน้ำรอบพระราชวัง ที่ยังเป็นของดั่งเดิมอยู่ ปัจจุปันพระราชวังที่เห็นอยู่เป็นพระราชวังที่รัฐบาลพม่าได้จำลองรูปแบบของ พระราชวังของเก่าขึ้นมานำท่านชม พระตำหนักไม้สักชเวนันดอว์ พระตำหนักนี้สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง งดงามตามแบบศิลปะพม่าแท้ๆ วิจิตรตระการด้วยลวดลายแกะ สลักประณีตอ่อนช้อย ทั้งหลังคา,บานประตูและหน้าต่าง โดยเน้นรายละเอียดเกี่ยวกับพุทธประวัติ และทศชาติของพระพุทธเจ้า สร้างโดยพระเจ้ามินดงในปี พ.ศ. 2400 ซึ่งเป็นปีที่พระองค์ย้ายราชธานีจากอมรปุระมาอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์เพื่อ เป็นพระตำหนักยามแปรพระราชฐาน แต่หลังจากที่พระองค์สิ้นพระชนม์ พระเจ้าธีบอ หรือ สีป่อ พระโอรสก็ทรงยกพระตำหนักนี้ถวายเป็นวัด ถือได้ว่าเป็นงานฝีมือที่ประณีตของช่างหลวงชาว มัณฑะเลย์อย่างแท้จริงสมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติมัณฑะเลย์18.00 น. ออกเดินทางกลับ เชียงใหม่ โดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ PG726(มีบริการอาหารและน้ำดื่มบนเครื่อง)19.55 น. คณะเดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ
ชำระเงินเต็มจำนวน
-
ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ พร้อมกันทั้งคณะ
-
ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งที่มี
-
ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระท่านละไม่เกิน 20 ก.ก.
-
ค่ารถรับ-ส่ง และนำเที่ยวตามรายการ
-
ค่าที่พักตามที่ระบุในรายการ (พักห้องละ 2 ท่าน)
-
ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการ
-
ค่าอาหารตามมื้อที่ระบุในรายการ
-
ค่าจ้างมัคคุเทศก์บริการตลอดการเดินทาง
-
ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)
-
ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และเอกสารต่างด้าวต่างๆ (ทางรัฐบาลพม่าประกาศยกเลิกวีซ่าให้กับคนไทย ผู้ที่ประสงค์จะพำนักระยะสั้นในประเทศพม่าไม่เกิน 14 วัน ถ้ากรณีทางรัฐบาลพม่าประกาศให้กลับมาใช้วีซ่า ผู้เดินทางจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มในการขอวีซ่าตามที่สถานทูตกำหนด)
-
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่นอกเหนือที่ระบุ อาทิเช่น ค่าอาหาร-เครื่องดื่ม นอกเหนือจากรายการ ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ ค่ามินิบาร์ในห้องและค่าพาหนะต่างๆ ที่ไม่ได้ระบุในรายการ รวมทั้งค่าธรรมเนียมในกรณีกระเป๋าสัมภาระที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินนั้นๆ กำหนดหรือสัมภาระใหญ่เกินขนาดมาตรฐาน
-
ค่าภาษีน้ำมัน ที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่ม ภายหลังจากทางบริษัทฯ ได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ซึ่งลูกค้าต้องชำระส่วนต่างเพิ่ม
-
ค่าทิปมัคคุเทศก์และคนขับรถ รวม 500 บาท /ทริป/ท่าน ซึ่งต้องชำระ ณ วันเดินทางที่สนามบินต้นทาง สำหรับส่วนที่เพิ่มเติมแก่หัวหน้าทัวร์ที่ดูแลคณะจากเมืองไทย ตามแต่ท่านจะเห็นสมควรขึ้นอยู่กับความพึงพอใจในบริการ
-
ยกเลิก ไม่น้อยกว่า 30 วันก่อนเดินทาง (ไม่นับวันเดินทาง) คืนเงินร้อยละ 100 ของค่าบริการที่ชำระแล้ว
-
ยกเลิก ไม่น้อยกว่า 15-29 วันก่อนเดินทาง (ไม่นับวันเดินทาง) คืนเงินร้อยละ 50 ของค่าทัวร์ทั้งหมด
-
ยกเลิก น้อยกว่า 15 วันก่อนการเดินทาง ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ ไม่คืนเงินค่าทัวร์ทั้งหมด
-
การยกเลิกเดินทางกับกรุ๊ปที่ออกเดินทางช่วงเทศกาลวันหยุด เช่น ปีใหม่, สงกรานต์ เป็นต้น บางสายการบินมีการการันตีมัดจำที่นั่งกับสายการบินและค่ามัดจำที่พัก รวมถึงเที่ยวบินพิเศษ เช่น CHARTER FLIGHT จะไม่มีการคืนเงินมัดจำ หรือ ค่าทัวร์ทั้งหมดที่ชำระแล้ว ไม่ว่ายกเลิกด้วยกรณีใดๆ
-
การติดต่อใดๆ กับทางบริษัทเช่น แฟกซ์ อีเมลล์ หรือจดหมาย ต้องทำในวันเวลาทำการของทางบริษัท ดังนี้ วันจันทร์ ถึงศุกร์ เวลา 8.30 น. – 17.30 น. นอกจากวันเวลาดังกล่าวและวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่รัฐบาลประกาศในปีนั้นๆถือว่าเป็นวันหยุดทำการของทางบริษัท
-
กรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองทั้งกรุงเทพฯ และในต่างประเทศ ปฏิเสธมิให้เดินทางออก หรือ เข้าประเทศที่ระบุ ไว้ในรายการเดินทาง บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนค่าทัวร์ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
-
เมื่อท่านออกเดินทางไปกับคณะแล้ว ถ้าท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่ง หรือไม่เดินทางพร้อมคณะถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่อาจเรียกร้องค่าบริการและเงินมัดจำคืน ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
-
จำนวนผู้ เดินทางต้องมีขั้นต่ำ 10 ท่านขึ้นไปต่อกรุ๊ป มิฉะนั้น ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดออกเดินทางและเลื่อนการเดินทางไปในวันอื่นต่อไป โดยทางบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า นอกจากผู้เดินทางทุกท่านยินดีที่จะชำระค่าบริการเพิ่มเพื่อให้คณะเดินทางได้ ทางเรายินดีที่จะประสานงานในการเดินทางตามประสงค์ให้ท่านต่อไป
-
ขอสงวนสิทธิ์การเก็บค่าน้ำมันและภาษีสนามบินทุกแห่งเพิ่ม หากสายการบินมีการปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง
-
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนเที่ยวบิน โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอันเนื่องจากสาเหตุต่างๆ
-
บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดกรณีความล่าช้าจากสายการบิน, การประท้วง, การนัดหยุดงาน, การก่อการจลาจล, ภัยธรรมชาติ, โรคระบาด , การนำสิ่งของผิดกฎหมาย ซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของบริษัทฯ
-
บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดสิ่งของสูญหาย อันเนื่องเกิดจากความประมาทของท่านอันเกิดจากการโจรกรรมและ อุบัติเหตุจากความประมาทของนักท่องเที่ยวเอง
-
เมื่อท่านตกลงชำระเงินมัดจำหรือค่าทัวร์ทั้งหมดกับทางบริษัทฯ แล้ว ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆทั้งหมด
-
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการโดยมิต้องแจ้งล่วงหน้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศ การเมือง สายการบิน และราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนของเงินสกุล (เยน) โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
-
อัตราค่าบริการนี้คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ณ วันที่ทางบริษัทเสนอราคา ดังนั้น ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับราคาค่าบริการเพิ่มขึ้น ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าภาษีเชื้อเพลิงค่าประกันภัยสายการบิน การเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินฯลฯ
-
การบริการของรถบัสนำเที่ยวพม่า ตามกฏหมายประเทศพม่า สามารถให้บริการวันละ 8 ชั่วโมง โดยมัคคุเทศก์และคนขับจะเป็นผู้บริหารเวลาตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรในวันเดินทางนั้นๆ เป็นหลัก จึงขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนเวลาท่องเที่ยวตามสถานที่ในโปรแกรมการเดินทาง อีกทั้งโปรแกรมอาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของสภาพอากาศและฤดูกาลทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นสำคัญ
-
มัคคุเทศก์ พนักงาน หรือตัวแทนของทางบริษัท ไม่มีอำนาจในการให้คำสัญญาใดๆ แทนบริษัท เว้นแต่มีเอกสารลงนามโดยผู้มี อำนาจของบริษัทกำกับเท่านั้น