เช็คราคาและจองทัวร์อาร์เจนตินา 2568 ราคาถูก แพ็กเกจเที่ยวอาร์เจนตินา

ทัวร์อาร์เจนติน่า ประเทศที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของอเมริกาใต้

อาร์เจนตินา เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ (ลาตินอเมริกา) ระหว่างเทือกเขาแอนดีสทางทิศตะวันตก และมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ทางทิศตะวันออกและทางทิศใต้ มีพรมแดนติดกับประเทศปารากวัยและประเทศโบลิเวียทางภาคเหนือ, ประเทศอุรุกวัยและประเทศบราซิลทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ประเทศชิลีทางภาคตะวันตกและภาคใต้ นอกจากนี้ อาร์เจนติน่าก็ยังเป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของทวีปอเมริกาใต้ รองจากบราซิล และด้วยขนาดพื้นที่ถึง 2,736,691 ตารางกิโลเมตร ยาวจากเหนือจรดใต้กว่า 3,900 กิโลเมตร จึงทำให้อาร์เจนติน่ามีความหลากหลายทางด้านภูมิศาสตร์สูงมาก โดยประกอบไปด้วยพื้นที่ราบลุ่มทางภาคกลาง แนวเทือกเขาแอนดีสทางด้านตะวันตก ที่ทอดยาวไปตามแนวความสูงของทั้งประเทศ

และเนื่องจากมีพื้นราบปามปัสที่กว้างใหญ่ อาร์เจนติน่าจึงเหมาะสมกับการทำเกษตรกรรมอย่างยิ่ง จนทำให้กลายมาเป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าการเกษตรรายใหญ่ของโลกในที่สุด ประกอบกับภูมิอากาศที่เหมาะสม การทำปศุสัตว์ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่อาร์เจนติน่าทำได้ดีเช่นกัน โดยเฉพาะสัตว์เศรฐกิจอย่างวัว และแกะ

สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในอาร์เจนติน่า

1. มาร์เดลปลาตา (Mar del Plata) ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองรีสอร์ทอันดับ 1 ของอาร์เจนติน่า ตั้งอยู่ทางชายฝั่งแอตแลนติก ด้วยความสวยงามและมีมนตร์เสน่ห์ของเมืองแห่งนี้ จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนมาร์เดลปลาตาจะมีความคึกคักเป็นพิเศษ

2. กอร์โดบา (Cordoba) เมืองที่มีขนาดเป็นอันดับ 2 ของอาร์เจนติน่าแห่งนี้ ถูกรายล้อมไปด้วยหุบเขาจำนวนมาก นอกจากนี้ ก็ยังมีอาคารบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยที่ยังตกเป็นอาณานิคมของเสปน จึงทำให้ภายในเมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น พระราชวัง โบสถ์ และอนุสาวรีย์ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่าง “เยซูอิตบล็อก” (Jesuit Block)

3. ซานคาร์ลอสเดอบาริโลเช (San Carlos de Bariloche) เมืองแห่งนี้มีชื่อเรียกสั้น ๆ ว่า บาริโลเช (Bariloche) เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยร้านช็อกโกแลตรสชาติดี พร้อมด้วยสถาปัตยกรรมสวิส ทะเลสาบมีความเก่าแก่ และเทือกเขาหิมะ จนดูเหมือนกับเป็นหมูบ้านที่ตั้งอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ไม่มีผิด นอกจากนี้ ก็ยังมีภูเขาเซอร์โรคาเทดรัล (Cerro Catedral) ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของสถานีเล่นสกีใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้ด้วย

4. อูซัวยา (Ushuaia) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดในโลก โดยตั้งอยู่ท่ามกลางช่องแคบบีเกิ้ล (Beagle Channel) ด้วยเหตุนี้ มันจึงกลายเป็นฐานเดินเรือสำราญ เพื่อล่องลงสู่ทะเลขั้วโลกใต้ยอดนิยม และนอกเหนือจากการล่องเรือแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินปีนเขาได้ที่กาเซียร์มาร์เชียล (Glacier Martial) และเซอร์โรคาสเตอร์ (Cerro Castor) หรือจะเดินชมชมสัตว์ป่าและสัตว์ทะเลก็ดีไม่แพ้กัน

5. อุทยานแห่งชาติติลอสกลาเซียเรส (Los Glaciares) อุทยานแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่สุด ที่ตั้งอยู่นอกพื้นที่กรีนแลนด์และทวีปแอนตาร์กติกา ซึ่งธารน้ำแข็งแห่งนี้ จะเกิดการแตกหักลงมาสู่ทะลสาบเป็นประจำ ทำให้เกิดเสียงดังราวกับฟ้าผ่า ส่วนทางตอนเหนือนั้น จะเป็นที่ตั้งของภูเขาฟิตซ์รอย (Mount Fitz Roy) ที่เหมาะกับกิจกรรมปีนเขา

6. น้ำตกอีกวาซู (Iguazu Falls) ถูกจัดอันดับให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ประกอบไปด้วยน้ำตกที่มีความอลังการไหลยาวเป็นทอด ๆ เสมือนเส้นแบ่งแขตแดนตามธรรมชาติระหว่างอาร์เจนตินาและบราซิล ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยป้าไม้เขียวขจีและสัตว์ป่านานาชนิด โดยนักท่องเที่ยวที่มาเยือนสามารถเลือกเดินป่า หรือนั่งเรือไปชมความยิ่งใหญ่อลังการของน้ำตกได้อย่างใกล้ชิด

เมนูอาหารอาร์เจนติน่า และต้องลองเมื่อได้เที่ยวทัวร์อาร์เจนติน่า

1. Humita ทำมาจากข้าวโพดสด นม หัวหอม และเครื่องเทศต่าง ๆ ในบางครั้งอาจมีการใส่ชีสแพะเพิ่มเข้าไปด้วย จากนั้นนำไปห่อในใบข้าวโพด ก่อนนำไปนึ่ง หรือต้ม

2. Empanadas แป้งทอดหรือแป้งอบ ที่ถูกยัดใส้ด้วยผักและเนื้อสัตว์ ซึ่งได้แก่ ไก่ ชีส แฮม ข้าวโพดหวาน

3. Milanesa เมนูนี้ส่วนใหญ่ทำมาจากเนื้อวัว หรืออกไก่ ที่นำมาทุบด้วยค้อนให้บาง จากนั้นนำไปอบ หรือทอด เสร็จแล้วโรยหน้าด้วยชีส ซอสมะเขือเทศ และไข่ทอด

4. Locro สตูว์เข้มข้น ซึ่งเป็นอาหารประจำชาติของอาร์เจนติน่าที่มักจะเสร์ฟกันในวันที่ 25 พฤษภาคม ซึ่งเมนูนี้ก็ประกอบหลักก็คือ ข้าวโพดสีขาว เนื้อวัว หรือเนื้อหมู และไส้กรอกเลือด

5. Llama หรือเรียกว่าเนื้อลามะนั่นเอง นิยมทานเป็นสเต็ก หรือจะนำมาประกอบเป็นเมนูอื่นก็ได้เช่นกัน เป็นที่นิยมของชาวอาร์เจนติน่ามากกว่าเนื้อวัวเสียอีก และด้วยระดับไขมันที่ตํ่า จึงทำให้มันเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพอย่างยิ่ง

เรื่องราวน่ารู้ก่อนเตรียมตัวไปเที่ยวทัวร์อาร์เจนติน่า

1. อาร์เจนตินามีกฎว่าห้ามนำอาหารสด เช่น เนื้อสัตว์ เมล็ดพืช และพันธุ์ไม้เข้าประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต
2. ชาวอาร์เจนตินามีลักษณะความเป็นอยู่แบบลาตินอเมริกัน แต่มีบุคลิกและนิสัยใจคอแตกต่างจากประเทศอเมริกาใต้อื่น ๆ เนื่องจากเชื้อชาติเป็นชาวยุโรปแท้มากกว่าคนที่มีเลือดผสมกับชาวพื้นเมือง แต่ก็ยังมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากชาวยุโรปที่อยู่อาศัยในประเทศอื่นเช่นกัน
3. การเต้นแบบ Tango ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกที่บัวโนสไอเรส ซึ่งเป็นเมืองหลวงของอาร์เจนติน่า โดยเป็นศิลปะการเต้นรำที่ได้รับอิทธิพลมาจากทางวัฒนธรรมฝั่งยุโรปและฝั่งแอฟริกา
4. อาร์เจนตินามีภาษาสเปนเป็นภาษาราชการ และสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้บ้าง
5. ชาวอาร์เจนตินา ร้อยละ 92 นับถือศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก และอีกร้อยละ 2 นับถือนิกายโปรแตสแตนท์ ส่วนอีกร้อยละ 2 เป็นยิว

ตรวจเช็คสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง ที่อาร์เจนติน่ามี 4 ฤดูกาลดังนี้

1. ฤดูร้อน (ธันวาคม-มีนาคม) มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 26-35 องศาเซลเซียส
2. ฤดูใบไม้ร่วง (เมษายน-พฤษภาคม) มีอุณหภูมิเฉลี่ย 10-25 องศาเซลเซียส
3. ฤดูหนาว (มิถุนายน-สิงหาคม) มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 0-20 องศาเซลเซียส
4. ฤดูใบไม้ผลิ (กันยายน-พฤศจิกายน) มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 12-25 องศาเซลเซียส
ทั้งนี้ ด้วยความที่อาร์เจนติน่ามีพื้นที่ขนาดใหญ่ จึงทำให้สภาพอากาศที่แตกต่างกันออกไปตามภูมิภาคด้วยเช่นกัน โดยภาคเหนือจะมีภูมิอากาศแบบกึ่งร้อนกึ่งอบอุ่น ภาคกลางมีภูมิอากาศแบบอบอุ่น และภาคใต้มีภูมิอากาศแบบกึ่งอบอุ่นกึ่งหนาวแบบขั้วโลกใต้ และทางพื้นที่ภูเขาสูงทางภาคใต้ก็จะมีหิมะปกคลุมตลอดปี

เมื่อมาเที่ยวทัวร์อาร์เจนติน่า ของฝากที่ควรซื้อจากอาร์เจนติน่า

1. มีด (Gaucho knife) มีดที่เป็นวัฒนธรรมพื้นฐานของกลุ่มประเทศในอเมริกาใต้ โดยคำว่า Gaucho ก็แปลได้ว่า พวกคาวบอย พวกนอกกฎหมาย หรือพวกเร่ร่อน
2. สินค้าจากหนังสัตว์ การขยายตัวของปศุสัตว์ในอาร์เจนติน่า ส่งผลให้ภายในประเทศมีสินค้าที่ทำจากเครื่องหนังเป็นจำนวนมาก และค่อนข้างมีความหลากหลาย เช่น กระเป๋า รองเท้า หรือเสื้อ
3. Mafalda Comic การ์ตูนชื่อดังที่มีต้นกำเนินจากอาร์เจนติน่า ด้วยฝีมือของ Quino นามปากกาชื่อดัง โดยการ์ตูนเรื่องนี้มีสายเส้นที่มีเอกลักษณ์ และมีเนื้อเรื่องที่สะท้อนให้เห็นถึงชนชั้นกลางของชาวอาร์เจนติน่าและเยาวชนหัวก้าวหน้าแต่ไร้เดียงสา ที่เป็นห่วงเรื่องมนุษยชาติและสันติภาพของโลก
4. Dulce de leche ทำจากนมที่เคี่ยวกับน้ำตาลจนเหนียว จนออกมาเป็นคาราเมลนมหอม หวาน ซึ่งเป็นสูตรดั่งเดิมมาจากประเทศอาร์เจนติน่า