เช็คราคาและจองทัวร์นอร์เวย์ 2568 ราคาถูก แพ็กเกจเที่ยวนอร์เวย์

นอร์เวย์ ประเทศชมแสงเหนือ ทัวร์แสงเหนือ

นอร์ดแคปป์ ที่ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของนอเวย์ นับเป็นอีกจุดท่องเที่ยวที่หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อน เนื่องจากนอร์เวย์มีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง ซึ่งเป็นผลมาจากภูมิประเทศส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยที่ราบสูง เต็มไปด้วยเทือกเขาและธารน้ำแข็ง ธรรมชาติที่เป็นอกลักษณ์เฉพาะตัว ไปจนถึงวัฒนธรรมและงานศิลปะที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

สถานที่เที่ยวน่าสนใจ ในดินแดนนอร์เวย์

1. นอร์ท เคป (North Cape) จัดเป็นจุดที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและมีชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่งของนอร์เวย์ ตั้งอยู่บนเกาะมาเกโรยา (Mageroya island) มีลักษณะปลายแหลมที่ยื่นยาวอยู่บนหน้าผาในระดับความสูง 307 เมตรจากระดับน้ำทะเล เมื่อมองลงมาเบื้องล่างจะพบกับท้องทะเลแบเร็นตส์ (Barents Sea) อันกว้างใหญ่ไพศาล อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับที่นี่ ซึ่งนับเป็นความภูมิใจของคนไทยด้วยเช่นกัน เนื่องจากครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงไปเยือนนอร์ท เคป พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จึงมีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระองค์ไว้ให้ได้ชมกันอีกด้วย

2. เมืองทรอมโซ (Tromso) เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวทั่วไฝ่ฝันอยากมาเยือน เพื่อมาชมปรากฎการณ์แสงเหนือที่สวยสดงดงาม เนื่องจากเมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับเส้นอาร์กติกเซอร์เคล จึงทำให้ผู้มาเยือนสามารถรับชมแสงเหนือได้อย่างชัดเจน ถึงแม้เมืองทรอมโซได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่าที่สำคัญขอนอร์เวย์ก็ตาม แต่ที่นี่ก็ยังคงความเงียบสงบเอาไว้ได้ดี ผสมผสานกับวิถีชีวิตของผู้คนที่มีเอกลักษณ์ ทำให้เมืองแห่งนี้มีความน่าใจเป็นอย่างยิ่ง

3. เมืองออสโล (Oslo) เป็นเมืองหลวงของนอร์เวย์ ตั้งอยุ่ทางขอบด้านเหนือนไม่ไกลกับประเทศสวีเดน ซึ่งออสโลได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีอัตราเติบโตเร็วมากที่สุดแห่งหนึ่ง ทำให้ที่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางหลายอย่าง ทั้งเศรษฐกิจ การเงิน การศึกษา ไปจนแหล่งท่องเที่ยวที่สำมีความน่าใจ เนื่องจากเมืองออสโลเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ แกลลอรี่ และโรงละคร หลากหลายแห่ง ประกอบกับมีสถาปัตยกรรมแบบเก่าและใหม่ผสมผสานกันอยู่อย่างลงตัว จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวแวะมาเยี่ยมเยือนโดยตลอด

4. ท่าเรือเมืองบรีเก็น (Bryggen) เป็นทาเรือเก่าแก่ของเมืองแห่งนี้ มีเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างยิ่ง เป็นผลมาจากบ้านเรือนหลายหลังถูกทาด้วยสีสันสดใสที่ตัดกับวิวของภูมิประเทศได้อย่างลงตัว อีกทั้งสถาปัตยกรรมก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน เนื่องจากตัวบ้านที่ตั้งอยู่ราว 62 หลังคาเรือน ถูกสร้างขึ้นจากไม้ทั้งหมด

5. โทรลล์ทุงกา (Trolltunga) “โทรลล์ทุงกา” มีจุดชมวิวที่สวยงามโดดเด่นและน่าหวาดเสียวที่สุดในโลกตั้งอยู่ เนื่องจากมีลักษณะเป็นแผ่นหินยื่นออกไปกลางอากาศ ซึ่งมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 1,100 เมตร เมื่อมองลงไปจะพบกับทะเลสาบ Ringedalsvatnet สีฟ้าสดใสราวกับคริสตัล หากต้องการไปเยี่ยมชมต้องเดินทางไประหว่างเดือง มิถุนายน-กลางเดือนกันยายน โดยมีระยะทางเดินไปกลับรวม 23 กม.

6. มหาวิหารนิดารอส (Nidaros Cathedral) จัดเป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่สุดของนอร์เวย์ ทั้งยังติดอัน 2 โบสถ์ขนาดใหญ่ที่สุดของสแกนดิเนเวียด้วยเช่นกัน ซึ่งถูกก่อสร้างในสไตล์โกธิค ในปี ค.ส 1004 มีความโดดเด่นด้วยลาดลายแสนวิจิตร ที่สำคัญ พระมหากษัตริย์นอร์เวย์ทุกพระองค์ ต้องเสด็จพระราชดำเนินมาเยือนที่วิหารแห่งนี้ด้วย เพื่อประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามโบราณราชประเพณี

อาหารที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นของนอร์เวย์ เที่ยวทัวร์นอร์เวย์แล้วต้องลอง

1. ปลาแซลมอนรมควัน Røkt Laks นอร์เวย์เต็มไปด้วยแนวชายฝั่งทอดยาวและฟยอร์ด (อ่าวขนาดเล็กที่ถูกน้ำกัดเซาะมีลักษณะแคบลึกเข้าไปในแผ่นดิน) ประกอบกับมีอุณภูมิหนาวเย็น ปลาจึงสามารถหาทานได้ไม่ยาก โดยเฉพาะปลาแซลมอนที่ชาวนอร์เวย์นิยมทานกันมาก อย่าง Røkt Laks ถูกทำขึ้นด้วยการนำปลาแซลมอนไปผ่านกระบวนการรมควันจนแห้งสนิท ซึ่งสามารถทานเป็นของว่าง หรืออาหารมื้อหลักก็ได้
2. สตูว์แกะ Fårikål ด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็น จึงไม่มีอะไรดีไปกว่าอาหารร้อน ๆ ที่สามารถเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายได้ อย่างสตูว์แกะ เป็นเมนูอาหารที่มีวิธีทำไม่ยุ่งยาก ด้วยการนำเนื้อแกะ กำหล่ำปลี พริกไทย เกลือ บอกกับส่วนผสมอื่น ๆ ต้มลงไปในหม้อ เมื่อได้ที่แล้วก็นำมาเสิร์ฟคู่กับมันฝรั่ง ซึ่งอาหารจานนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก จนมีการจัดเลี้ยงเฉลิมฉลองเมนู Fårikål ในทุกวันสุดท้ายของเดือนกันยายนทุกปี
3. ลูกชิ้นเนื้อทอด Kjøttboller เป็นลูกชิ้นเนื้อที่ถูกปรุงแต่งด้วยขิงและลูกจันทน์เทศ ก่อนนำไปทอด ซึ่งเมนูจากนี้มักเสิร์ฟพร้อมกับมนฝรั่งบด พร้อมกับน้ำซอสครีมหรือน้ำเกรวี่ จัดเป็นเมนูเก่าแก่ที่ถูกคิดค้นขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 18
4. เนื้อแกะต้มเกลือตากแห้ง pinnekjøtt เนื้อแกะมักถูกใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารหลายอย่าง เมนูนี้ก็เช่นกัน โดยการนำเนื้อแกะมาต้มกับเกลือ ต่อจากนั้นนำไปตากให้แห้งด้วยอากาศที่หนาวเย็นทางนอร์เวย์ตอนเหนือ จากนั้นก็นำไปปรุงต่อ เมื่อเสร็จแล้วก็เสิร์ฟพร้อมกับไส้กรอกและมันฝรั่งบด
5. ควิคลั๊นซ์ Kvikk Lunsj เป็นช็อคโกแลตบิสกิต ที่เปิดตัวโดยผู้ผลิตขนม Freia ในปี 1937 ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก แต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างปี 1941 และ 1949 สายการผลิตก็ต้องหยุดลงไป เพราะขาดน้ำตาลและมีแป้งไม่เพียงพอ แต่เมื่อกลับมาผลิตได้อีกก็กลับมารับความนิยมภายในเวลาอันรวดเร็ว

เรื่องราวน่ารู้ เตรียมพร้อมก่อนไปเที่ยวทัวร์นอร์เวย์

1. เศรษฐกิจของนอร์เวย์ พึ่งพาการส่งออกสินค้าสำคัญเป็นหลัก ได้แก่ น้ำมัน เหล็ก เคมีภัณฑ์ เรือ และปลาทะเล
2. นอร์เวย์มีชาวต่างชาติอยู่อาศัยเยอะมาก เนื่องจากนโยบายให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศที่ประสบปัญหาต่าง ๆ เช่น สงคราม การเมือง ความอดอยาก
3. ค่าครองชีพที่ประเทศนอร์เวย์ค่อนข้างสูง เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับประเทศในแถบทางยุโรปด้วยกัน
4. ค่ารถแท็กซี่แพงมากค่ะ สังเกตุได้จากรถยนต์ระดับหรู เช่น Mercedes-Benz เป็นต้น ส่วนคนขับรถแท็กซี่ส่วนใหญ่เป็นชาวอัฟกานิสถาน หรือชาวต่างชาติที่เข้ามาหางานทำที่ประเทศนอเวย์ เลยเป็นเหตุให้ ชาวนอร์เวย์ส่วนใหญ่มีรถยนต์ไว้ใช้เป็นของตนเอง
5. ที่นอร์เวย์เคร่งครัดในเรื่องกฎจราจรมาก โดยเฉพาะกล้องตรวจจับความเร็วที่ถูกติดตั้งไว้เกือบทุกเส้นทาง ถ้าหากขับเร็วเกินกำหนดเมื่อไหร่ ก็เตรียมรอรับใบสั่งได้ทันทีที่บ้าน
6. เมื่อออกเดินทางไปไหนมาไหน ต้องเสียเงินค่าใช้ถนนด้วย เพราะถนนบางเส้นมีเรียกเก็บค่าผ่านทาง

ตรวจเช็คสภาพอากาศก่อนออกเดินทางเที่ยวทัวร์นอร์เวย์ ที่นอร์เวย์มี 4 ฤดูกาลดังนี้

1. ฤดูใบไม้ผลิ ช่วงเดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม มีอุณหภูมิอยู่ที่ 1 ถึง -6 องศาเซลเซียส
2. ฤดูร้อน ช่วงเดือนมิถุนายน - เดือนสิงหาคม มีอุณหภูมิอยู่ที่ 17 ถึง 28 องศาเซลเซียส
3. ฤดูใบไม้ร่วง ช่วงเดือนกันยายน - เดือนพฤศจิกายน มีอุณหภูมิอยู่ที่ 0 ถึง -18 องศาเซลเซียส
4. ฤดูหนาว ช่วงเดือนธันวาคม - เดือนกุมภาพันธ์ มีอุณหภูมิอยู่ที่ 0 ถึง -25 องศาเซลเซียส

ของฝากจากทัวร์นอร์เวย์ มีอะไรน่าสนใจบ้าง

1. ตุ๊กตาโทรล์ ถือเป็นหนึ่งในของฝากที่ขึ้นชื่อมาก ซึ่งตุ๊กตาโทรลนั้น ถูกสร้างขึ้นเลียนแบบยักษ์จากนิทานพื้นเมือง ถึงแม้รูปร่างหน้าตาอาจไม่น่ารักเท่ากับตุ๊กตาอื่น ๆ เพราะตุ๊กตาโทรลมีตาโต จมูกยาว แลดูน่ากลัว แต่ก็เปรียบเหมือนสัญลักษณ์ที่สำคัญของประเทศนอร์เวย์
2. ของที่ระลึกรูปชาวไวกิ้ง สมัยก่อนดินแดนทางตอนเหนือของนอร์เวย์มีผู้คนมาตั่งถิ่นฐานเป็นจำนวนมาก พร้อมกับทำอาชีพประมงเพื่อยังชีพตัวเอง แต่เมื่อเวลาผ่านไปประกรก็ได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องออกค้าขายทางเรือย แต่ก็มีการปล้นทางทะเลเกิด จนมีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในยุคนั้น โดยเฉพาะในเรื่องเรือ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นจุดกำเนิน “ชาวไวกิ้ง” อย่างแท้จริง ดังนั้น การซื้อของฝากที่มีความเกี่ยวพันธุ์กับตำนานในอดีต ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
3. บราวน์ชีส Brown Cheese เป็นชีสสีน้ำตาลที่ถูกทำขึ้นมาจากนมแพะ โดดเด่นด้วยรสชาติเข็มข้น หอมหวานคล้ายคาราเมล สีนวลตารับประทาน เมื่อทานคู่กับแครเกอร์หรือขนมปังก็ยิ่งชูรสชาติให้อร่อยขึ้นไปอีก จัดเป็นอาหารที่มีขายเฉพาะแประเทศแถบสแกนดิเนเวียเท่านั้น
4. ไส้กรอกกวางเรนเดียร์ ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดสำหรับของฝากชิ้นนี้ เพราะที่นอร์เวย์มีกวางเรนเดียร์อยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการควบคุมประชากร จึงต้องจับมันมาแปรรูปเป็นไส้กรอก จัดเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ หลายคนที่เคยทานมักบอกตรงกันว่า มีรสชาติอร่อยและมีกลิ่นที่เฉพาะตัวมาก
5. เสื้อไหมพรม นอร์เวย์มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี เนื่องจากเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากขั้วโลกเหนือ ดังนั้น วิธีป้องกันความหนาวเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพคือ เสื้อที่สามารถกักเก็บอุณภูมิความร้อนในร่างกายได้ อย่างเสื้อไหมพรม ซึ่งหาซื้อได้ทั่วไปในนอร์เวย์ แม้ราคาอาจสูงไปสักหน่อย แต่ก็ถูกทำขึ้นจากวัสดุคุณภาพ ประกอบกับเป็นงานถักด้วยมือ เมื่อซื้อไปใส่แล้วแม้ไม่ใช่ช่วยให้อุ่นใจ แต่ก็ช่วยสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายได้ดีมาก