ทัวร์ลิทัวเนีย ลัตเวีย เอสโตเนีย ฟินแลนด์ โบส์ถเซนต์ปีเตอร์ โปรโมชั่น 7 วัน 5 คืน เดินทางด้วยสายการบินฟินแอร์ เฮลซิงกิ วิลนีอุส ปราสาททราไก ซัวเล พระราชวังรันดาเล ริก้า ทาลลินน์ ล่องเรือเฟอร์รี่



06 มิ.ย. 2566 ถึง 12 มิ.ย. 2566
- ราคาสุดท้ายไม่บวกเพิ่ม
- รับประกันราคาที่ดีที่สุด

02 187 1008
จันทร์ - เสาร์ 09:00 น. - 18:00 น.
วันที่ | กำหนดการ | อาหารเช้า | อาหารเที่ยง | อาหารเย็น | โรงแรม |
---|---|---|---|---|---|
![]() |
สุวรรณภูมิ-เฮลซิงกิ (ฟินแลนด์)-วิลนีอุส (ลิทัวเนีย) | ![]() |
![]() |
![]() |
Green Park Vilnius or equivalent accommodation. |
![]() |
วิลนีอุส-ทราไก-วิลนีอุส (ลิทัวเนีย) | ![]() |
![]() |
![]() |
Green Park Vilnius accommodation or equivalent. |
![]() |
วิลนีอุส-ซัวเล (ลิทัวเนีย)-รันดาเล-ริก้า (ลัตเวีย) | ![]() |
![]() |
![]() |
Rixwell Elefant or equivalent accommodation. |
![]() |
ริก้า (ลัตเวีย)-แปร์นู-ทาลลินน์ (เอสโตเนีย) | ![]() |
![]() |
![]() |
Metropole Hotel Tallinn or an equivalent level. |
![]() |
ทาลลินน์ (เอสโทเนีย) - ล่องเรือเฟอร์รี่ - เฮลซิงกิ (ฟินแลนด์) | ![]() |
![]() |
![]() |
Scandic Helsinki Aviapolis or an equivalent level |
![]() |
เฮลซิงกิ (ฟินแลนด์) | ![]() |
![]() |
![]() |
- |
![]() |
สนามบินสุวรรณภูมิ | ![]() |
![]() |
![]() |
- |
-
สุวรรณภูมิ-เฮลซิงกิ (ฟินแลนด์)-วิลนีอุส (ลิทัวเนีย)06.00 น. นัดคณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางเข้าหมายเลข 8 เคาน์เตอร์ G สายการบินFinn Air เจ้าหน้าที่คอยให้ความสะดวกเรื่องเช็คบัตรโดยสารและสัมภาระ08.55 น. นำท่านออกเดินทางสู่กรุงวิลนีอุส ประเทศลิทัวเนีย โดยสายการบิน Finn Air เที่ยวบินที่ AY-14215.15 น. เดินทางถึงสนามบินกรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง16.15 น. ออกเดินทางโดยสายการบิน Finn Air เที่ยวบินที่ AY-110518.00 น. เดินทางถึงสนามบินกรุงวิลนีอุส (Vilnius) ประเทศลิทัวเนีย นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระ จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่เมืองในเมืองวิลนิอุสค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมืองจากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก Green Park Vilnius หรือระดับเทียบเท่า
-
วิลนีอุส-ทราไก-วิลนีอุส (ลิทัวเนีย)เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรมนำท่านเดินทางสู่ เมืองทราไก (Trakai) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) อดีตเมืองหลวงเก่าของประเทศลิทัวเนีย ที่มีประชากรหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ร่วมกัน โดยเมือง ทราไก เป็นเมืองตากอากาศที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เพราะตั้งอยู่ใกล้กับเมืองวีนีอุส เมืองหลวงในปัจจุบัน อีกทั้ง ทราไก ยังเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันงดงามมากมาย ตัวเมืองรายล้อมด้วยทะเลสาบหลายแห่ง นอกจากนี้ เมืองทราไก ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า ที่ทำให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ประวัติศาตร์ ความเป็นมาของชาติได้เป็นอย่างดี นำท่านเข้าชม ปราสาททราไก หรือปราสาทที่ใครหลายๆคนเรียกว่า Little Marienburg ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ ในทะเลสาบเกรฟ สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่14 เป็นปราสาทที่ท่านแกรนด์ดุ๊ก วีเทาทัส ที่ประสงค์ใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลาย ก่อนที่จะกลายเป็นคุกในช่วงศตวรรษที่ 17 โดยอีกด้านหนึ่งของปราสาท เป็นที่ตั้งของโบสถ์และสำนักสงฆ์ในนิกายเบเนดิกทีน ชมความงดงามทัศนีภาพโดยรอบทะเลสาบกับตัวปราสาทที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวในประวัติศาสตร์ได้เป็นอย่างดี จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองวิลนีอุสกลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมืองบ่าย นำท่านชม เมืองวิลนีอุส เมืองหลวงของประเทศลิทัวเนีย และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ ชมเมืองเก่ากรุงวิลนีอุส (Vilnius) ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำสองสาย เนริส (Neris) และ วิลเนเลเล (Vilnele) และล้อมรอบไปด้วยเนินเขาที่มีต้นไม้เขียวขจี เป็นเมืองที่สวยที่สุดในลิทัวเนีย สร้างขึ้นในปีค.ศ.1323 โดยเมืองวิลนีอุสมีชื่อเสียงทางด้านงานสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ จึงได้รับสมญานามว่าเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของยุโรปตั้งแต่ยุคโกธิค เรอแนสซองค์ บาร็อค และ คลาสสิค ตั้งอยู่ในผังเมืองแบบยุคกลาง ทำให้ยูเนสโก้ประกาศให้เมืองเก่าวิลเนียสเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1994 ชมความสวยงามของโบสถ์สวยๆ และวิหารต่างๆ ที่ตกแต่ง ในแบบบบาร็อคและโกธิค ภายในเมืองมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นผลงานสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่ามากมาย ถ่ายรูปกับคารต่างๆ อาทิเช่น โบสถ์เซนต์แอน ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่สวยที่สุดในวิลนีอุส ถ่ายรูปกับ Gate of Dawn หรือกำแพงเมืองจากศตวรรษที่ 16 ชมย่านเมืองเก่าที่ถือว่าเป็นเขตเมืองเก่าที่ใหญ่ที่สุดในเขตยุโรปกลาง และถ่ายรูปกับความงดงามของอาคารเก่าแก่เมื่อครั้งสมัยศตวรรษที่ 15-16 ถ่ายรูปกับกลุ่มอาคารเมืองเก่าและวิหารต่าง ๆ Orthodox Church of the Holy Spirit, Church of St.Anne, Church of St.Francis and Bernardine, Vilnius University และ Gediminas Tower, St.Peter and Paul Church เป็นต้นค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมืองจากนั้นนำท่านเข้าที่พัก Green Park Vilnius หรือระดับเทียบเท่า
-
วิลนีอุส-ซัวเล (ลิทัวเนีย)-รันดาเล-ริก้า (ลัตเวีย)เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรมนำท่านเดินทางสู่เมืองซัวเลย์หรือเซาเล Siauliai เมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศลิทัวเนียเมืองหลวงแห่งแคว้นเซาเลเคาตี้ และเมืองที่มีความเก่าแก่อีกเมืองหนึ่ง ในอดีตเคยถูกเผาในยุคสงครามถึง 7 ครั้งด้วยกันปัจจุบันทางการได้ฟื้นฟูจนกลายมาเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม และอุตสาหกรรมที่สำคัญเมืองหนึ่งของลิทัวเนีย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) นำท่านชมภายนอกของ สุสานไม้กางเขน Hill of Crosses สถานที่อันแสดงถึงความเชื่อของผู้คนที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งมีมายาวนานนับตั้งแต่ช่วงยุคสงคราม สถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนสุสานไม้กางเขนนับแสนชิ้น แม้กระทั่งปัจจุบันนี้ก็ยังมีคนนำมาทิ้งอย่างต่อเนื่อง ให้ท่านได้เดินเล่นถ่ายรูปและชมวิวแบบพาโนรามากลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมืองบ่าย นําท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ เมืองฟิลส์รันดาเล Pilsrundale ประเทศลัตเวีย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) นำท่านเข้าชม พระราชวังรันดาเล Rundale Palace หนึ่งในงานสถาปัตยกรรมสไตล์บาร็อคในประเทศลัตเวีย ซึ่งเคยเป็นสถานที่ประทับในช่วงฤดูร้อนของท่านดยุค Ernst Johann Biron และ Russian Empress Anna Ioannovna ซึ่งเป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดของลัตเวีย สร้างในศตวรรษที่ 18 โดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน ซึ่งเป็นคนเดียวกับผู้สร้างพระราชวังฤดูหนาวในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในรัสเซีย พระราชวังแห่งนี้สร้างในสไตล์บาร็อคและร็อคโคโค โดยให้เป็นพระราชวังฤดูร้อน แวดล้อมไปด้วยสวนสวยในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูร้อน ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา มีความงดงามตระการตา นอกจากนี้ท่านจะยังได้ชมสวนสไตล์ฝรั่งเศส ที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามเต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้นานาพันธุ์ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองริก้า Riga เมืองหลวงของประเทศลัตเวีย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีนจากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก Rixwell Elefant หรือระดับเทียบเท่า
-
ริก้า (ลัตเวีย)-แปร์นู-ทาลลินน์ (เอสโตเนีย)เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรมนำท่านชม ย่านเมืองเก่ากรุงริก้า ซึ่งอดีตเคยเป็นเมืองท่าและเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางรถไฟที่สำคัญของรัสเซีย ปัจจุบันได้บูรณะและฟื้นฟูให้มีความทันสมัย จนกลายมาเป็นศูนย์กลางการศึกษา วัฒนธรรม และอุตสาหกรรมที่ยังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เป็นเมืองที่มีส่วนผสมของอิทธิพลแบบ ลัตเวียน รัสเซียน และเยอรมันรวมกัน ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมอันงดงาม ผ่านชมร่องรอยกำแพงเมืองโบราณ อาคารแบบอาร์ตนูโว ที่สร้างในยุคกลาง อายุเก่าแก่กว่า 800 ปี ผ่านชมปราสาทริก้า ซึ่งปัจจุบันได้ใช้เป็นทำเนียบประธานาธิบดี นำท่านชมภายนอก โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ St. Peter Cathedral ที่งดงามเป็นโบสถ์กอธิคที่สำคัญ และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองริก้า ในอดีตโบสถ์แห่งนี้มีชื่อว่า “โบสถ์พ่อค้า” Merchants Church เนื่องจากเคยใช้เป็นสถานที่สำหรับจัดประชุมของเหล่าพ่อค้าในยุคนั้น ๆ โบสถ์เซนต์ปีเตอร์เป็นโบสถ์แบบกอธิคมาจนถึงปี ค.ศ.1523 กระทั่งถึงช่วงการเปลี่ยนนิกายจากคาทอลิกมาเป็นลูเธอรัน โบสถ์แห่งนี้จึงเปลี่ยนเป็นโบสถ์สไตล์แบบบาร็อคแทน ชม ป้อมดินปืน The Powder Tower เดิมเรียกว่า Sand Tower สันนิษฐานว่ามีการสร้างขึ้นตั้งแต่ ปี ค.ศ.17 โดยป้อมนี้เอาไว้เป็นที่เก็บดินปีนและมีการถูกทำลายและบูรณะซ่อมแซมหลายครั้ง จนถึง ปี ค.ศ.1999 และปัจจุบันได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเกี่ยวกับสงครามของลัตเวีย ชมอนุสาวรีย์อิสรภาพ ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมืองริก้า สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1935 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงเหล่าทหารกล้าผู้เสียสละชีพในสงครามเรียกร้องอิสรภาพของลัตเวียระหว่างปี ค.ศ.1918 ถึงปี 1940 โดยอนุสาวรีย์แห่งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการประกาศอิสรภาพ และเสรีภาพของลัตเวีย มีความสูงถึง 42 เมตรด้านบนประดับด้วยรูปปั้นของหญิงสาวถือดาว 3 ดวงเชื่อมติดกัน ซึ่งสื่อความหมายถึงการรวมกันของภูมิภาคทั้ง 3 ของประเทศลัตเวีย ชมโบสถ์เซนต์จาคอบ เป็นโบสถ์คาทอลิกที่โดดเด่นที่สุดในย่านเมืองเก่า ชม โบสถ์ประจำเมืองริก้า Riga Cathedral อยู่ริมจัตุรัส สร้างเมื่อปี 1211 โดยบาทหลวงอัลเบิร์ต ข้างในมี ออร์แกนขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป โบสถ์แห่งมีการซ่อมแซมและบูรณะหลายครั้ง สไตล์ของมหาวิหารผสมผสานกันระหว่างแบบโกธิคกับบาร็อค แล้วเสร็จตอนปี 1999 เพื่อให้ทันฉลองพร้อมกับรัสเซียที่ครบรอบก่อตั้งกรุงมอสโกมา 850 ปี ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองริก้าหรือของประเทศลัตเวียกลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีนบ่าย นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ กรุงทาลลินน์ Tallinn เมืองหลวงของประเทศเอสโทเนีย ซึ่งตั้งอยู่ทางชายฝั่งตอนใต้ของอ่าวฟินแลนด์ ห่างจากกรุงเฮลซิงกิ เมืองหลวงของฟินแลนด์ ประมาณ 70 กิโลเมตร โดยใช้เส้นทางผ่าน เมืองแปร์นู Parnu ประเทศเอสโตเนีย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เป็นเมืองพักผ่อนตากอากาศในช่วงฤดูร้อนทีมี่ชื่อเสียงที่สุดในฝั่งตะวันตกริมทะเลบอลติก ผ่านชมความสวยงามของเมืองท่านจะได้เห็นบ้านไม้แบบ Wooden House ซึ่งเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเอสโตเนีย ชมความสวยงามของ หาดแปร์นู Parnu Beach ที่อยู่ใกล้ตัวเมืองแปร์นูเพียง 15 นาทีเท่านั้น ในช่วงฤดูร้อนจะมีชาวเมืองมากมายมาพักผ่อนกันที่หาดแห่งนี้พร้อมกับชมทัศนียภาพอันงดงาม จนกระทั่งถึงเมืองทาลลินน์ Tallinn (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ถือเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงามในช่วงยุคกลาง รวมทั้งบริเวณเชิงเขาในเมืองยังคงมีกำแพงเมืองโบราณหลงเหลืออยู่ นอกจากนี้บริเวณโดยรอบเมืองยังเต็มไปด้วยสวนสาธารณะที่มีหญ้าเขียวขจี มีดอกไม้นานาพันธุ์ ที่ช่วยแต่งแต้มสีสันให้กับเมืองเล็กๆ แห่งนี้ให้ดูสดใส เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์อันน่าหลงใหลค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมืองนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Metropole Hotel Tallinn หรือระดับเทียบเท่า
-
ทาลลินน์ (เอสโทเนีย) - ล่องเรือเฟอร์รี่ - เฮลซิงกิ (ฟินแลนด์)เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรมนำท่านเที่ยวชมย่านเมืองเก่า Old Town ของเมืองทาลลินน์ที่โอบล้อมด้วยกำแพงเมืองและป้อมปราการในยุคกลางให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในยุคอัศวิน ชมเขตเมืองเก่าทูมเปีย ในเขตอัพเพอร์ทาวน์ ชมและถ่ายรูปภายนอกปราสาททูมเปีย ซึ่งปัจจุบันคือรัฐสภาแห่งเอสโตเนีย ชมวิวทิวทัศน์ของเมืองแบบพาโนรามา ที่มีสีสันสดใสราวกับภาพวาดที่มีโบสถ์เซนต์โอลาฟโดดเด่นเป็นสง่า นำท่านชมภายนอก โบสถ์อเล็กซานเดอร์เนฟสเก้ โบสถ์ใหญ่ที่มียอดโดมใหญ่ที่สุดในเมืองทาลลินน์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบรัสเซียนออร์โธด็อกซ์ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1900 ในช่วงที่เอสโตเนียเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิซาร์แห่งรัสเซีย สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเจ้าชายอเล็กซานเดอร์ ยาโรสลาวิทซ์ เนฟสกี้ มีเวลาให้ท่านเดินเล่นชมเมืองและถ่ายรูปกับอาคารสวยงามต่างๆ หรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกจากย่านนี้ เพื่อความสะดวกในการเดินชมและเลือกซื้อสินค้าอิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัยสมควรแก่เวลานำท่านสู่ท่าเรือเพื่อ ล่องเรือข้ามจากกรุงทาลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย สู่กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ท่องทะเลบอลติกที่งดงาม ให้ท่านเตรียมตัวการเช็คอินลงเรือ เมื่อเรือออกจากท่าเรือ ให้ท่านเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ 2 ฝั่ง ของเอสโตเนีย และฟินแลนด์ กรุงเฮลซิงกิเป็นเมืองหลวงใหญ่ของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศ ริมชายฝั่งอ่าวฟินแลนด์ เฮลซิงกิได้รับฉายาว่าเป็น “ธิดาแห่งทะเลบอลติก” (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) เนื่องจากความงดงามและโดดเด่นของวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมอันได้รับอิทธิพลจากทั้งทางฝั่งยุโรปและรัสเซีย เมืองเฮลซิงกิถูกสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1550 โดยกษัตริย์กุสตาฟ วาชา แห่งสวีเดน ต่อมาในสมัยที่ตกอยู่ภายใต้การปกครองของรัสเซีย เฮลซิงกิได้ถูกเปลี่ยนมาเป็นเมืองหลวงของฟินแลนด์แทนที่เมืองตรูกู เฮลซิงกิจึงมีความโดดเด่นท่ามกลางหมู่เกาะมากมายในทะเลบอลติกค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์บนเรือเมื่อเรือเทียบท่าเรือเมืองเฮลซิงกิ ใหท่านโดยสารรถโค้ชเพื่อนำท่านเข้าสู่ที่พัก Scandic Helsinki Aviapolis หรือระดับเทียบเท่า
-
เฮลซิงกิ (ฟินแลนด์)เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรมนำท่านชมเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง ท่านจะประทับใจไปกับสถาปัตยกรรมแบบรัสเซียที่จัตุรัสหน้าโบสถ์ อันเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ที่ชนะรางวัลออสการ์เรื่อง “เรดส์” โดยใช้ฉากมโหฬารของเฮลซิงกิแทนกรุงเลนินการ์ดในสหภาพโซเวียต ผ่านชมจัตุรัสซีเนท ใจกลางเมือง นำท่านเข้าชมโบสถ์หินเทมเปเลียวคิโอ Rock-Church ซึ่งสร้างในภูเขาหินแกรนิตขนาดมหึมา ถ่ายรูปกับมหาวิหารอุสเพนสกี Uspenski Cathedral ชมอนุสาวรีย์รูปทรงแปลกตาของซองน์ซิเบลิอุส The Sibelius Monument อนุสรณ์ของนักประพันธ์เพลงชาวฟินแลนด์ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก นำท่านเดินเล่นบริเวณตลาดริมท่าเรือ Market Square ที่มีทั้งส่วนของตลาดปลา ตลาดผลไม้ และสินค้าอีกมากมาย ท่านจะได้ชมวิถีชีวิตของชาวเมือง พร้อมเลือกซื้อหาสินค้าท้องถิ่น อาทิ ไข่ปลาคาร์เวีย ผลิตภัณฑ์ทำจากหนังกวางเรนเดียร์ และสินค้าที่ระลึกอีกมากมาย **เพื่อความสะดวกในการเดินเล่นถ่ายรูปชมเมืองและเลือกซื้อสินค้า อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย**13.30 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินเฮลซิงกิ เพื่อเตรียมตัวเช็คอินเดินทางกลับ17.30 น. นำท่านออกเดินทางจากเฮลซิงกิ บินตรงกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบิน Finn Air เที่ยวบินที่ AY-141
-
สนามบินสุวรรณภูมิ07.15 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ..
ชำระเงินเต็มจำนวน
-
ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับโดยสายการบิน Finn Air เส้นทาง กรุงเทพฯ-เฮลซิงกิ-วิลนีอุส // เฮลซิงกิ-กรุงเทพฯ ชั้นประหยัด
-
ค่าโรงแรมที่พักตามรายการที่ระบุ (2 ท่าน / 1 ห้อง)
-
ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ค่าอาหารและเครื่องดื่มตามรายการและค่ารถรับส่งระหว่างนำเที่ยวตามรายการที่ระบุ
-
ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งที่มี
-
ค่ามัคคุเทศก์ของบริษัทจากกรุงเทพฯ ที่คอยอำนวยความสะดวกแก่ท่านตลอดการเดินทางในต่างประเทศ
-
ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท สำหรับซึ่งเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี และผู้ใหญ่อายุเกิน 75 ปี วงเงินคุ้มครอง 500,000 บาท (เฉพาะค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น ไม่ได้รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ อันเกิดจากอุบัติเหตุ อาทิ ค่าตั๋วโดยสาร, ค่าที่พัก, ค่าอาหารหรืออื่นๆ ทั้งนี้เป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัทประกันฯ)
-
ค่าภาษีน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าประกันภัยการเดินทางที่มีการเรียกเก็บจากสายการบิน ซึ่งเป็นอัตราเรียกเก็บ ณ วันที่ 7 พ.ย.2562 หากมีเพิ่มเติมภายหลังหรืออัตราการผกผันค่าน้ำมันหรือภาษีใดๆ จะต้องมีการชำระเพิ่มตามกฏและเงื่อนไขของสายการบิน
-
ค่าน้ำหนักของกระเป๋าเดินทางในกรณีที่เกินกว่าสายการบินกำหนด (23 กิโลกรัมต่อท่านต่อชิ้น / ท่าน ท่านละ 1 ชิ้น)
-
ค่าธรรมเนียมการทำหนังสือเดินทาง
-
ค่าบริการพนักงานยกกระเป๋าทุกแห่ง
-
ค่าธรรมเนียมการยื่นวีซ่าเชงเก้นและค่านัดหมายและบริการด้านเอกสารและแปลเอกสาร (ชำระเพิ่มท่านละ 4,000 บาท พร้อมค่าทัวร์ส่วนที่เหลือชำระก่อนเดินทาง)
-
ค่าทิปพนักงานขับรถและค่าทิปไกด์ท้องถิ่นในพระราชวังและเขตเมืองเก่าและค่าทิปหัวหน้าทัวร์ (ชำระเพิ่มท่านละ 1,800 บาท พร้อมค่าทัวร์ส่วนที่เหลือชำระก่อนเดินทาง)
-
ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าเครื่องดื่มและค่าอาหารที่สั่งเพิ่มเองค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีดฯลฯ
-
ค่าอาหารที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
-
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่มิได้คาดคิด เช่น การปรับค่าน้ำมัน, ค่าธรรมเนียมวีซ่าที่มีการปรับเพิ่มหรือค่าบริการอื่นที่เกี่ยวกับวีซ่าหรือค่าแปลเอกสารหรืออื่นๆ ที่มิได้ระบุไว้ในรายการ
-
ค่าน้ำดื่มระหว่างทัวร์ (ไม่มีน้ำดื่มแจกระหว่างทัวร์)
-
ค่าทำใบอนุญาตที่กลับเข้าประเทศของคนต่างชาติ หรือ คนต่างด้าว
-
ค่าประกันอื่นๆ ที่ผู้เดินทางต้องการทำเพิ่มเติม อาทิ ภัยธรรมชาติรุนแรง หรือ ทรัพย์สิน หรือเที่ยวบินล่าช้าเป็นต้น
-
ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และหัก ณ ที่จ่าย 3%
-
หากมีการยกเลิกเกิน 60 วันทำการแต่ไม่เกิน 90 วันทำการ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินมัดจำค่าตั๋วโดยสารของท่านนั้นๆ (เงื่อนไขค่ามัดจำตามที่ทางสายการบินเรียกเก็บ)
-
หากมีการยกเลิกน้อยกว่า 60 วันทำการ บริษัทฯ จะขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินมัดจำทั้งหมด
-
หากมีการยกเลิกน้อยกว่า 21 วันทำการ บริษัทฯ จะขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินค่าทัวร์ทั้งหมด
-
รายการอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม เนื่องจากความล่าช้าของสายการบิน โรงแรมที่พักในต่างประเทศ เหตุการณ์ทางการเมืองและภัยธรรมชาติ ฯลฯ บริษัทฯจะคำนึงถึงความสะดวกของผู้เดินทางเป็นสำคัญ
-
กรณีที่มีการเกิดภัยธรรมชาติ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศที่ผู้เดินทางกำลังจะไป หากมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นและมีเหตุทำให้การเดินทางไม่สามารถออกเดินทางตามกำหนดได้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงิน จนกว่าจะได้รับการยืนยันจากสายการบิน โรงแรม หรือหน่วยงานจากต่างประเทศที่บริษัททัวร์ติดต่อว่าสามารถคืนเงินได้
-
บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบในกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองห้ามผู้เดินทาง เนื่องจากมีสิ่งผิดกฎหมายหรือสิ่งของห้ามนำเข้าประเทศ เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ ความประพฤติส่อไปในทางเสื่อมเสีย หรือด้วยเหตุผลใดๆก็ตามที่กองตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาแล้ว ทางบริษัทฯไม่อาจคืนเงินให้ท่านได้ ไม่ว่าจำนวนทั้งหมดหรือบางส่วน
-
บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบในกรณีที่สถานทูตงดออกวีซ่า อันสืบเนื่องมาจากตัวผู้โดยสารเอง
-
บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบในกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทยงดออกเอกสารเข้าเมืองให้กับชาวต่างชาติ หรือ คนต่างด้าวที่พำนักอยู่ในประเทศไทย
-
บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อกรณีเกิดการสูญเสีย, สูญหายของกระเป๋า และสัมภาระของผู้โดยสาร อันเกิดจากสายการบิน ทางสายการบินผู้ให้บริการจะเป็นผู้รับผิดชอบตามกฎของกรมการบินพาณิชย์ ซึ่งจะรับผิดชอบต่อการสูญหายหรือเสียหายของสัมภาระใบใหญ่ในวงเงินตามที่สายการบินกำหนด รวมถึงไม่รับผิดชอบกรณีเที่ยวบินล่าช้าหรือยกเลิกเที่ยวบิน