เที่ยวสบายๆ ไม่เสียเวลากับการเดินทาง อานซี เวนิสแห่งเทือกเขาแอลป์ เกาะบูราโน่ เกาะสีลูกกวาด และมีเสน่ห์ ยอดเขามองบลังค์ สูงที่สุดในยุโรปnd France Jungfrau Mont Blanc 11 Days 8 Nights GOFR9714

21.00 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินไทย โดยทีมงานบริษัทฯ คอยดูแลอำนวยความสะดวกเอกสารและสัมภาระก่อนการเดินทาง

00.40 น. เหิรฟ้าสู่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG940
07.35 น. เดินทางถึงสนามบินมิลาน หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองแล้ว 
เดินทางสู่เมืองมิลาน (Milan) ชม “ปราสาทสฟอร์เซสโก้” ปราสาทสวยงามหลังนี้ได้เคยเป็นป้อมปราการของพวกตระกูลวิสคอนติ ต่อมาเป็นที่พำนักของผู้นำเผด็จการในช่วงศตวรรษที่ 15 คือ ตระกูลสฟอร์ซา  มีเวลาให้ท่านได้ถ่ายภาพกับมุมสวยๆ ของน้ำพุที่โพยพุ่งบริเวณด้านหน้าปราสาทสฟอร์เซสโก้ จากนั้นเข้าสู่จัตุรัส “ปิอัซซ่าเดลดูโอโม” (Piazza del Duomo) เก็บภาพความสวยงามภายนอกของ “มหาวิหารแห่งมิลาน หรือดูโอโม” สัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมือง สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสีขาวในศิลปะแบบโกธิค ใช้เวลาสร้างนานกว่า 500 ปี ปัจจุบันเป็น “โบสถ์แคธอลิกที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก” จากนั้นเดินทางสู่เมือง ‘ซีร์มิโอเน่’ Sirmione (133 กม.) 
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย หลังอาหารนำท่านชมเมืองอันเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 2,000 ปี มีลักษณะภูมมิประเทศเป็นแหลมที่ยื่นออกไป ในทะเลสาบการ์ด้า ซึ่งมีความยาวกว่า 55กิโลเมตรเมืองนี้จึงถูกขนาบข้างด้วยทะเลสาบ มีร้านค้าและร้านขนมอยู่มากมาย เก็บภาพป้อมปราการประจำเมือง ที่เป็นจุดสัญลักษณ์ตั้งแต่สมัยยุคโรมัน ‘ล่องเรือชมความงามของทะเลสาบเกรดา’ บรรยากาศของทะเลสาบที่ตัดกับแนวหน้าผาของทิวเขาเซาท์เทิร์นแอล์ฟ นำคณะเดินทางสู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอิตาลีไปยัง “เมืองเวนิส เมสเตร้” (145 กม.) เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: Four Points by Sheraton, NH Venezia Laguna Palace / หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเดินทางเข้าสู่ท่าเรือ ตรอนเชโต้ ล่องเรือสู่ “เมืองเวนิส” เข้าสู่บริเวณ “จตุรัสซานมาโค” ชมอนุสาวรีย์ของพระเจ้าวิคเตอร์เอมานูเอลที่ 2 บิดาของชาวอิตาเลียน ถ่ายภาพคู่กับ “สะพานถอนหายใจ” สะพานแห่งสัญลักษณ์ที่เชื่อมต่อกับพระราชวังดอร์จ ที่ประทับของเจ้าเมืองเวนิสในยุคที่ยังเป็นรัฐอิสระ ชม “โบสถ์เซนต์มาร์ค” ซึ่งเป็นโบสถ์แบบไบเซ็นไทน์ที่ “ใหญ่ที่สุด” ในยุโรปตะวันตก    
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย หลังอาหารล่องเรือสู่เกาะบูราโน่ (Burano) เดินเล่นชมเกาะแห่งสีสันสวยงามที่สุดในอิตาลี เกาะบูราโน่ เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมง ห่างจากเกาะเวนิสไป 11 กม. เป็นอีกสถานที่ยอดนิยม เมื่อนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเวนิส ต้องแวะมาที่นี่ ด้วยความโดดเด่นของสีสันสะดุดตา และได้รับการอนุรักษ์มาหลายทศวรรษ บูราโน่ยังมีชื่อเสียงในงานถักทอผ้าลูกไม้ เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ปี 1500 สมควรแก่เวลาเดินทางกลับสู่ท่าเรือตรอนเชโต้ จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองโคโม่
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: HILTON LAKE COMO, HOTEL METROPOLE หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารนำท่านล่องเรือชมความงดงามของทะเลสาบโคโม่ (Como Lake Cruise) และหมู่บ้านริมทะเลสาบ เมืองโคโมนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะด้วยสภาพภูมิอากาศที่ไม่รุนแรงและภูมิทัศน์อันน่าทึ่งที่มีเฉดสีหลายพันเฉด ไม่ว่าจะเป็นสีฟ้าของน้ำทะเลที่ใสสะอาด สีเขียวของป่าไม้และสวนสาธารณะอันเขียวชอุ่ม สีเทาของภาพนูนต่ำนูนสูงของหิน และหมู่บ้านหินที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบและภูเขา อุดมไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ชมวิวที่สวยงามริมฝั่งทะเลสาบโคโม ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดในอิตาลีแล้วยังเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสามของอิตาลีอีกด้วย
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย หลังอาหารเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น เมืองที่ได้ชื่อว่ามีนักท่องเที่ยวบันทึกภาพไว้มากที่สุดในสวิสฯ นำคณะถ่ายภาพคู่กับ “อนุสาวรีย์สิงโต” อนุสรณ์รำลึกถึงการเสียชีวิตของทหารสวิสฯผู้ถวายการอารักขาแด่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ในสงครามปฏิวัติใหญ่ฝรั่งเศส นำท่านเดินชมเมืองเก่าเดินข้าม “สะพานไม้คาเปล” ที่มีชื่อเสียงที่สุดของลูเซิร์น ซึ่งเป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาคลุมตลอดทอดตัวข้าม “แม่น้ำรุซซ์” (Reuss) ซึ่งสร้างมากว่า 660 ปี เพื่อเชื่อมเขตเมืองใหม่ในฝั่งใต้และเขตเมืองเก่าในฝั่งเหนือ สะพานแห่งนี้เคยถูกไฟไหม้เมื่อปี 1993 แต่ก็ได้บูรณะใหม่จนมีสภาพใกล้เคียงของเดิม
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: Astoria Hotel, Radisson Blu Hotel Lucerne,หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าสู่ “หมู่บ้านเลาเทอร์บรุนเนน”  จากนั้นนั่ง รถไฟฟันเฟือง สู่ “ยอดเขาจุงเฟรา” พื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป เปลี่ยนขบวนรถไฟ (Cog Wheel) ณ “สถานีไคลน์ไชเด็ค” ขึ้นสู่ความสูงถึง 3,464 เมตร จนถึง “สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป” ชม “ถ้ำน้ำแข็ง 1,000 ปี” ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี ชมงานแกะสลักน้ำแข็งที่สวยงามอยู่ใต้ธารน้ำแข็ง 30 เมตร ชมความสวยงามและยิ่งใหญ่ของของธารน้ำแข็ง Aletsch ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ สนุกสนานบนลานหิมะอย่างเต็มอิ่ม ท่านสามารถส่งโปรการ์ดถึงคนพิเศษเพื่อเป็นที่ระลึกจากยอดเขาแห่งนี้   
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นโดยสารกระเช้าชมวิวเทือกเขาแอล์ป (THE V-CABLEWAY) ลงสู่สถานีเทอร์มินัล กรินเดลวาล์ด ซึ่งใช้เวลาเพียง 12 นาทีเท่านั้นชมวิวทิวทัศน์ที่สวยหลักล้าน รายล้อมไปด้วยทิวทัศน์สุดอลังการของเทือกเขาอันยิ่งใหญ่ ทิวสน, ทุ่งหญ้าสีเขียวขจีและบ้านเรือนในสไตล์สวิสฯชาเล่ต์ เดินทางต่อสู่ “เมืองอินเทอร์ลาเก้น” เมืองหลวงของแบร์นเนอร์โอเบอร์ลันด์ เมืองตากอากาศ สวยงามพร้อมทะเลสาบ 2 แห่งกลางเมือง ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสองแห่งคือ Thunersee และ Brienzersee ท่ามกลางเทือกเขาน้อยใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านจะได้เห็นเขาจุงเฟราอันสวยงาม อิสระกับการเดินเล่น ชมเมือง หรือช้อปปิ้งสินคาพื้นเมือง หรือนาฬิกาสวิสตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลาเดินทางสู่กรุงเบิร์น (56 กม.) เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: SWISSHOTEL KURSAAL BERN หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเข้าสู่ย่านเมืองเก่า “กรุงเบิร์น” นครหลวงอันเก่าแก่ของสวิตเซอร์แลนด์ เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงสวยงามเป็นอย่างยิ่งจนได้รับการอนุรักษ์ และประกาศให้เป็น “มรดกโลกจาก Unesco ชม “เบเร็นกราเบ็นหรือบ่อหมี” สัญลักษณ์ของเมือง จากนั้นเข้าสู่ย่านเมืองเก่าถนน “ถนนครัมกาสเซ” เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านบูทีค ร้านขายของที่ระลึก และเป็นเมืองเดียวในสวิสที่ทางเดินช้อปปิ้งมีหลังคาคลุมแถมบางร้านยังอยู่ชั้นใต้ดินอีกด้วย นำชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี ชม “นาฬิกาไซ้ท์ กล็อคเค่น” อายุกว่า 800 ปี สมควรแก่เวลาเดินทางสู่เมืองมองเทรอซ์(Montreux) เมืองพักผ่อนตากอากาศที่มีชื่อเสียงทั้งในฤดูร้อน และหนาวริมทะเลสาบเจนีวา ซึ่งได้รับสมญานามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิสฯ”  คฤหาสน์ และโรงแรมหรูของเมืองนี้เรียงรายริมถนนเรียบทะเลสาบที่ยาวถึง 7  กิโลเมตร แวะเก็บภาพปราสาทชิลยอง (Castle of Chillon)(ถ่ายภาพภายนอก) ซึ่งตั้งอยู่ ณ เมืองมองเทรอซ์ ทางด้านตะวันออกของทะเลสาบลัค เลอ มัง ปราสาทชิลยอง นับว่าเป็นปราสาทยุคกลางที่มีความเก่าแก่กว่า 1,000 ปี โดยปราสาทถูกสร้างขึ้นในช่วงสมัยของโดยราชวงศ์ซาวอย ซึ่งถือได้ว่าเป็นอัญมณีทางประวัติศาสตร์ของสวิตเซอร์แลนด์
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร   
บ่าย เดินทางสู่เมืองอีวัวร์ (Yvoire) (63 กม.) หมู่บ้านยุคกลางที่ตั้งอยู่ติดทะเลสาบเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ ชมบ้านเมืองโบราณยุคกลางที่เก่าแก่ของฝรั่งเศสซึ่งมีอายุกว่า 700 ปี แต่ยังคงรักษาสภาพสิ่งก่อสร้างต่างๆ รวมถึงประตูเมืองและกำแพงอันเก่าแก่ไว้ได้อย่างดี เดินทางสู่เมือง “อานซี” (Anncey) (70 กม.) เมืองเล็กๆ น่ารัก ตามแบบชนบทฝรั่งเศส ตั้งอยู่ในเขต อับปอร์ซาวอยอยู่ทางตอนเหนือของทะเลสาบอันซี และเห็นวิวเทือกเขาแอล์ปในสวิตเซอร์แลนด์ ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับต้นๆ และยังได้รับสมญานามว่า "เวนิสแห่งเทือกเขาแอลป์" ใจกลางเมืองยังมี Palais de L’Isle เป็นปราสาทรูปหัวเรือโบราณ ปราสาทหลังนี้ตั้งอยู่กลางน้ำ และยังเป็นสัญลักษณ์ของอานน์ซี อีกด้วย ฝรั่งเศส อิสระให้ท่านเดินเล่นในตัวเมืองริมทะเลสาบตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: Rivage Hôtel & Spa, Mercure Hotel Annecy Centre หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่เมืองชาโมนิกซ์ (Chamonix) (100 กม.) เมืองที่ล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอล์ป ที่เป็นเมืองตากอากาศของชาวฝรั่งเศส มีการตกแต่งบ้านเรือนไว้อย่างสวยงาม นําท่านนั่งเคเบิ้ลไฟฟ้าขึ้นสู่สถานี ไอกุย ดู มิดิ  (Aiguille du Midi)  ด้วยความสูงระดับ 3,842 เมตร เป็นกระเช้าที่สูงที่สุดในโลก ถูกสร้างขึ้นเมือปี ค.ศ.1955 ใช้ เวลานั่งกระเช้าประมาณ 45 นาที จนถึงสถานีไอกุย ดู มิดิ จากสถานีนี้ท่านจะสามารถมองเห็นยอดเขามองบลองค์ ยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรป และสูงเป็นอันดับที่ 11 ของโลก ที่มีความสูง 4,807 เมตร ในท่านอิสระเล่นหิมะหรือถ่ายรูปตามอัธยาศัย ท่านสามารถลองพิสูจน์ความกล้า โดยการยืนอยู่บนกล้องกระจก (Step into the Void) เปิดครังแรกในปี 2013 โคลงสร้างทั้งหมดเป็นแก้วชนิดพิเศษ มีพื้นเป็นแก้วใสสามารถมองเห็นหุบเหวด้านล่างได้อย่างชัดเจน
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตคาคาร
บ่าย หลังอาหารเดินทางสู่เมือง ‘ลียง’ (225 กม.) เมืองหลวงของแคว้นโอแวร์ญ-โรน-แอลป์ ตั้งอยู่บนเนินเขาที่จุดบรรจบกันของแม่น้ำ แม่น้ำสองสายคือแม่น้ำโรห์น (Rhone rivers) และแม่น้ำโซน (Saone River) และถือเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามในฝรั่งเศส รองจากปารีสและมาร์เซย์ ลียงเต็มไปด้วยวัฒนธรรม ศิลปะ และประวัติศาสตร์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 43 ปีก่อนคริสตกาล ศูนย์กลางเมืองเก่าของลียง ซึ่งเป็นอาคารยุคเรอเนสซองส์ รู้จักกันในชื่อ “Vieux-Lyon” เป็นย่านเมืองเก่าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในฝรั่งเศสเมืองเก่าลิยงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก เมื่อปี 1998
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: RADISSON BLU HOTEL, LYON หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร
หลังอาการนำท่านออกเดินทางเข้าสู่ “มหานครปารีส” เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส โดยรถไฟด่วน TGV หรือ Train A Grande Vitesse ด้วยความเร็วกว่า 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ท่านจะได้ชมวิวสวยงามระหว่างทางและเปลี่ยนบรรยากาศ การเดินทางด้วยรถไฟถึงมหานครปารีส ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลกและด้วยอิทธิพลของการเมืองการศึกษาบันเทิงสื่อ แฟชั่นวิทยาศาสตร์และศิลปะทำให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นำท่านชมวิวที่สวยงามบริเวณถนนถนนช็อง เอลีเซ เป็นถนนที่สวยที่สุดของมหานครปารีส เป็นย่านการค้า มีร้านค้า โรงละคร ร้านกาแฟ ฯลฯ สองข้างทางมีต้นเกาลัดที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม นำท่าน “ล่องเรือชมแม่น้ำแซนน์” พร้อมชมชมสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองสองฝั่งของแม่น้ำแซนน์ โบราณสถานและอาคารที่เก่าแก่สร้างด้วยศิลปะแบบเรอเนสซองส์ ควรค่าแก่การอนุรักษ์และสร้างภาพให้ปารีสโดดเด่นเป็นมหานครที่งดงามแห่งหนึ่งของโลก อาทิเช่น หอไอเฟล, พิพิธภัณฑ์ลูฟร์, ศาลาว่าการ โอเต็ล เดอ วิลส์, เกาะเซนต์ หลุยส์, โบสถ์นอร์ทเตรอดาม, พิพิธภัณฑ์ออร์เซย์, แซงวาลี้ด, พระราชวังบูร์บ็อง, สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 ฯลฯ 
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านถ่ายภาพคู่กับ “หอไอเฟล” สัญลักษณ์อันโดดเด่นของมหานครปารีส บริเวณ“จัตุรัสทรอคาเดโร” ชมถนนแห่งแฟชั่น “ชองเอลิเซ่” (Champs-Elysees) ที่มี ความยาวกว่า 2 กิโลเมตรที่ร่มรื่นไปด้วยต้นเมเปิ้ลตลอดสองข้างทางและถือว่าเป็นถนนที่ติด อันดับสวยที่สุดในโลก จากนั้นนำท่านถ่ายภาพคู่กับ “ประตูชัย”  Arc de Triomphe สัญลักษณ์แห่งชัยชนะที่จักรพรรดินโปเลียนให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1805  นำท่านเข้าชมภายใน “พิพิธภัณฑ์ลูฟร์” (ไกด์ประจำพิพิธภัณฑ์ คอยบรรยายตามจุดต่างที่สำคัญๆของพิพิธภัณฑ์) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเป็นสถานที่ตั้ง แสดงศิลปวัตถุนับชิ้นไม่ถ้วน ภายในจัดแสดงศิลปวัตถุชิ้นสำคัญอาทิ ภาพวาด โมนาลิซ่า ของลีโอนาร์โด ดาวินชี, รูปปั้นวีนัส เดอมิโล, รูปแกะสลักทาสของไมเคิล แองเจโล ฯลฯ
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
* มื้อพิเศษหอยเอสคาโก้ (Escargots au beurre persillé), สเต๊กฝรั่งเศสให้ท่านเลือก(เนื้อวัว,เป็ด, ปลา) เสริฟพร้อมไวน์แดงฝรั่งเศส
ที่พัก: Pullman La Defense, Pullman Montparnasse / หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร
หลังอาหารนำท่านเข้าชมความสวยงามภายใน “พระราชวังแวร์ซายย์” (ไกด์ประจำพระราชวังคอยบรรยายตามจุดต่างที่สำคัญๆของพระราชวัง) จัดเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบัน เพราะความสวยงามใหญ่โตของตัวปราสาท และสวนดอกไม้ที่มีการตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ผู้ที่ก่อสร้างพระราชวังแวร์ซายส์ ที่งดงามแห่งนี้ คือพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ของฝรั่งเศส นำท่านชมห้องต่างๆ ที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงตามชื่อเทพเจ้าต่างๆ อาทิเช่น ห้องเฮอคิวลีส, ห้องวีนัส, ห้องนโปเลียน, ห้องอพอลโล, ฮอลล์ออฟมิเรอร์ Hall of Mirrors
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีที่ Duty Free อิสระกับการ ช้อปปิ้งสินค้าตามรสนิยมแบรนด์ชื่อดังนานาชนิด อาทิ น้ำหอม เสื้อผ้า กระเป๋า กระเป๋าเดินทาง เครื่องสำอาง จากนั้นสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังที่ห้างสรรพสินค้า แกลลารี-ลาฟาแยตต์ Galerie Lafayette
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: Pullman La Defense, Pullman Montparnasse / หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 
พร้อมกัน ณ จุดนัดหมายเพื่อออกเดินทางสู่สนามบิน (กรุณาตรงต่อเวลานัดหมาย) เพื่อให้ท่านได้มีเวลาทำ TAX REFUND คืนภาษีก่อนการเช็คอิน อาหารกลางวันอิสระตามอัธยาศัย
13.00 น. ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG931

06.00 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ / โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ