ล่าแสงเหนือ ขี่ม้าที่ฟาร์มเอด์เฮสตาร์ ชมน้ำแข็งคักลา ขับสโนว์โมบิล ล่องเรือชมวาฬ แช่น้ำร้อนธรรมชาติที่บลู ลากูน

ทัวร์พรีเมี่ยมไอซ์แลนด์ ตามล่าแสงเหนือ

บินตรง เที่ยวเต็มวัน ฟรีประกันการเดินทาง ฟรีน้ำหนักกระเป๋าตามที่สายการบินกำหนด รวมค่าเข้าสถานที่เที่ยว
รายละเอียด

ทัวร์พรีเมี่ยมไอซ์แลนด์ ตามล่าแสงเหนือ 12 วัน 9 คืน โดยสายการบินไทย (TG) เที่ยวเรคยาวิค (ไอซ์แลนด์) วงแหวนทองคำ อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ น้ำพุร้อนกีเซอร์ น้ำตกกูลฟอสส์ เซลฟอสส์ น้ำตกเซลยาลันส์ฟอส หาดทรายดำ เรนิสแดรงการ์ อาร์นาร์ดรังกูร์(หินนกอินทรีย์) น้ำตกสโกกาฟอสส์ วิค/เฮลล่า เรคยาวิค กรุนดาร์ฟยอร์ดูร์ ภูเขาเคิร์กจูเฟล แช่บ่อน้ำร้อนบลู ลากูน นำท่านล่าแสงเหนือ ล่องเรือชมปลาวาฬ ทุ่งลาวาเอลดราอุน ธารน้ำแข็งสกี ดาราโจกูล โจคูลซาลอน หาดไดมอนด์บีช เข้าชมถ้ำน้ำแข็งคัทลา ฟาร์มม้า ขี่ม้าชมวิวเซลฟอสส์ ธารน้ำแข็งลางโจกุล ขับรถสโนว์โมบิล ช้อปปิ้งในเมืองเก่าเรคยาวิค ชมวิวเมืองเรคยาวิค (อาคารพาลาน) เรคยาวิค ล่องเรือชมปลาวาฬ ชมเมืองกรุงโคเปนเฮเกน


รหัสทัวร์ : GOIS9771
 นอร์ทือร์ลันต์, ไอซ์แลนด์
สายการบินการบินไทย
ราคาเริ่มต้น
USD 8,006
ทำไมต้องจองทัวร์กับเรา
  • ราคาสุดท้ายไม่บวกเพิ่ม
  • รับประกันราคาที่ดีที่สุด
ติดต่อสอบถาม
02 001 5855
จันทร์ - เสาร์ 09:00 น. - 18:00 น.
ตารางการเดินทาง
  • วันที่
    1
    ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ – บรัสเซลส์ – เรคยาวิค

    20.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารต่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ H/J สายการบินไทยโดยมีเจ้าหน้าที่บริษัท คอยอำนวยความสะดวกก่อนเดินทาง

  • วันที่
    2
    สนามบินบรัสเซลส์ – เรคยาวิค(ไอซ์แลนด์)

    00.30 น. ออกเดินทางสู่สนามบินบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG934
    07.05 น. เดินทางถึงสนามบินกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม, นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเขตสหภาพยุโรป รอเปลี่ยนเครื่อง *** บริการชากาแฟและอาหารว่างภายในสนามบิน ***
    12.50 น. ออกเดินทางสู่เมืองเรคยาวิค (Reykjavik) โดยสายการบินฟินน์แอร์ (Finnair)  เที่ยวบินที่ AY 991 
    15.20 น. เดินทางถึงสนามบินเคฟลาวิก เมืองเรคยาวิค Reykjavik เมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์
    นำท่านเดินทางเข้าสู่กรุงเรคยาวิค / นำท่านชมโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja) โบสถ์นิกายลูเทอรัน ในกรุงเรคยาวิก มีความสูง 73 เมตร เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ เริ่มก่อสร้างในปี 1945 ใช้เวลาสร้างถึง 38 ปีจึงสำเร็จในปี 1986 นำท่านเก็บภาพอาคาร (Hofdi House) ที่ใช้ประชุมผู้นำระหว่างประธานาธิบดีเรแกน กับประธานาธิบดีกอบอชอฟ ในการประชุมสุดยอดเมืองเรคยาวิกปี 1986 ช่วงสมัยสงครามเย็น จากนั้นนำท่านเก็บภาพซัน โวยาเจอร์ (Sun Voyager) สัญลักษณ์ของเสรีภาพ เป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญของกรุงเรคยาวิค เก็บภาพอาคารฮาร์ป้า (Harpa Concert Hall) ที่ได้รับรางวัลจากการประกวดทางสถาปัตยกรรม ในปี 2013 
    ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร 
    พักที่: Grand Hotel Reykjavik / Natura-Berjaya Hotel หรือที่พักระดับใกล้เคียง

  • วันที่
    3
    เรคยาวิค –วงแหวนทองคำ – อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ - น้ำพุร้อนกีเซอร์ – น้ำตกกูลฟอสส์ – เซลฟอสส์

    เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
    จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เส้นทางวงแหวนทองคำ Golden Circle เส้นทางธรรมชาติ มรดกโลก เข้าสู่บริเวณอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir National Park) ทางองค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมในปี ค.ศ.2004 ชมจุดบริเวณที่เคยเป็นเป็นรัฐสภาหรือสถานที่แสดงความคิดเห็นและคัดเลือกผู้นำของชาวไอซ์แลนด์ มาตั้งแต่ปี ค.ศ.930 และเป็นพื้นที่ ที่ได้การยอมรับว่ามีธรรมชาติที่สวยงามของไอซ์แลนด์แห่งหนึ่ง เดินผ่านรอยแตกร้าวของของโลกที่มีความลึกลงสู่ใต้ดินถึง 14 เมตร ที่เกิดจากแผ่นดินไหว เมื่อปี ค.ศ. 1784 และทุกๆ ปีรอยแตกนี้ก็จะขยายออกไปอีกถึงปีละ 1 เซนติเมตร นำท่านชมทะเลสาบ Pingvallavatn ทะเลสาบธรรมชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ 
    เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
    บ่าย หลังอาหารเดินท่างสู่น้ำพุร้อนกีย์เซอร์ (Geysir Geothermal Park) ชมบ่อน้ำพุ “สโทรคูร์” (Strokkur) ซึ่งเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศ สโทรคูร์จะปะทุทุก 5-10 นาที โดย สูงจากพื้น 20-40 เมตร จากนั้นเดินทางสู่น้ำตกกูลฟอสส์ (GullFoss) หรือ ‘น้ำตกทองคำ’ ที่มีความสวยงามที่สุด และใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ น้ำตกอันงดงามไหลมาจาก “แม่น้ำฮวิตา” (Hvitá River) ไหลจากธารน้ำแข็ง‘ลางโจกุล’ (Langjökull) ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับสองของไอซ์แลนด์ ก่อนจะลดหลั่นลงมา 32 เมตร / นำท่านเดินทางสู่เมืองเซลฟอสส์  
    ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร 
    พักที่: South Coast Selfoss Hotel หรือที่พักระดับใกล้เคียง
    *** ท่านสามารถเดินเล่นชมความงามของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ การเกิดแสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดให้เห็นในเวลากลางคืนช่วงเดือน ก.ย. - มี.ค. ***

  • วันที่
    4
    น้ำตกเซลยาลันส์ฟอส – หาดทรายดำ – เรนิสแดรงการ์ - อาร์นาร์ดรังกูร์(หินนกอินทรีย์) – น้ำตกสโกกาฟอสส์ – วิค/เฮลล่า

    เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
    จากนั้นแวะชม “น้ำตกเซลยาลันส์ฟอส” (SeljalandsFoss) น้ำตกเซลยาลันส์ฟอสส์เป็นน้ำตกที่สูงตระหง่านถึง 62 เมตร นอกจากนี้ยังเป็นเอกลักษณ์และอาจอยู่ในรายชื่อ 10 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่มีการถ่ายภาพมากที่สุดในไอซ์แลนด์ ซึ่งไหลมาจากแม่น้ำสโกก้า ลักษณะเด่นที่สุดของเซลยาลันส์ฟอสส์ คือทางเดินที่ทอดยาวไปรอบๆ หน้าผาด้านหลังน้ำตกมีถ้ำกว้าง มีโขดหินและเส้นทางที่สามารถเดินชมได้เต็มที่ในฤดูร้อน นำท่านชมหาดทรายดำ ‘เรย์นิสฟายาร่า’ (Reynisfjara) หาดทรายสีดำที่ก่อตัวขึ้นเมื่อลาวาเย็นตัวลง จากภูเขาไฟคัทลาอันโด่งดังได้ปะทุขึ้นเมื่อหลายศตวรรษก่อน บริเวณชายหาดเรย์นิสฟยาร่าซึ่งเป็นที่ตั้งของกลุ่มหิน “เรนิสแดรงการ์” (Reynisdrangar) ซึ่งเป็นเสาหินหินบะซอลต์สูงตระหง่านออกมาจากมหาสมุทรสูง 66 เมตร ที่ปลายสุดของหาดทรายสีดำที่ทอดยาวสุดสายตา แฟนๆ ของซีรีย์ Game of Thrones อาจรู้จักเสาหินบะซอลต์ที่โดดเด่นและทรายสีดำใช้ที่นี่เป็นฉากของ 'North of the Wall' นอกจากนี้ยังปรากฏใน Vikings, A Star Wars : Rogue One
    เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
    จากนั้นเดินทางสู่ “น้ำตกสโกกาฟอสส์” (Skogafoss) ตั้งอยู่ใกล้หมู่บ้านเล็กๆ ของสโกการ์ ทางใต้ของภูเขาไฟธารน้ำแข็งเอยาฟยาลลาโจกุล น้ำตกสโกกาฟอสส์ มีความสูงถึง 60 เมตรและกว้าง 25 เมตร ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพราะน้ำตกนี้มาจากธารน้ำแข็งสองแห่งโดยตรง คือเอยาฟยาลลาโจกุลและไมร์ดาลสโจกุล ถือเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในไอซ์แลนด์ จากนั้นเดินทางสู่ “อาร์นาร์ดรังกูร์” (Arnardrangur) หรือ ‘Eagle Rock’ ในดีร์โฮเลย์ ที่เรียกหินนี้ว่า ‘Eagle Rock’ เพราะนกอินทรีเคยทำรังอยู่จำนวนมาก ชมวิวที่เลื่องชื่อด้านทัศนียภาพอันตระการตาของชายฝั่งคาบสมุทรดีร์โฮเลย์ และความอุดมสมบูรณ์ของนกนานาพันธุ์ ประทับใจกับทัศนียภาพของซุ้มประตูหินของดีร์โฮเลย์ ซุ้มหินขนาดใหญ่สูง 100 เมตร เป็นผลมาจากการกัดเซาะหลายศตวรรษ   
    ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร ณ โรงแรมที่พัก
    พักที่: HOTEL DYRHOLAEY / STRACTA HOTEL หรือที่พักระดับใกล้เคียง
    *** ท่านสามารถเดินเล่นชมความงามของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ การเกิดแสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดให้เห็นในเวลากลางคืนช่วงเดือน ก.ย. - มี.ค. ***

  • วันที่
    5
    วิค/เฮลล่า – ทุ่งลาวาเอลดราอุน - ธารน้ำแข็งสกี ดาราโจกูล – โจคูลซาลอน – หาดไดมอนด์บีช

    เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
    จากนั้นเดินทางสู่จุดชมวิว “ทุ่งลาวาเอลดราอุน” (Eldhraun Lava Field) หรือ “ทุ่งลาวาไฟ” ขึ้นชื่อว่าเป็นทุ่งลาวาที่ใหญ่ที่สุดในโลก เกิดจากปะทุที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งที่บันทึกไว้ นั่นคือการปะทุของภูเขาไฟลาไค (Laki) ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ช่วงเวลาสองปีระหว่างปี 1783-1784 ทุ่งลาวาไฟมีเนื้อที่ 565 ตารางกิโลเมตร จากนั้นเดินทางสู่จุดชมวิวธารน้ำแข็ง “สกีดาราโจกูล” ชมเศษซากของสะพานสกีดารา สะพานที่เคยเป็นช่วงที่ยาวที่สุดในไอซ์แลนด์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของถนนวงแหวน คานสะพานที่บิดเป็นเกลียวจากการถูกพัดพาไปโดยความร้อนจากภูเขาไฟและน้ำท่วมจากธารน้ำแข็ง มีฉากด้านหลังเป็นที่ราบสกีดาราซานดูร์ (Skeiðarársandur) ซึ่งเป็นที่ราบทรายภูเขาไฟสีดำที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมองเห็นธารน้ำแข็งสกีดาราราโจกุล (Skeiðarárjökull) และธารน้ำแข็ง สวินาเฟลล์สโจกุล (Svinafellsjökull) อย่างสวยงามใชัดเจน
    เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
    บ่าย หลังอาหารเดินทางสู่ “โจคูซาลอน” (Jökulsárlón Lake) ทะเลสาบธารน้ำแข็งที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้อย่างสะดวกโดยทางหลวงวงแหวนหมายเลข 1 ประมาณกึ่งกลางระหว่างเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell Nature Reserve) และเฮิฟน์ (Höfn) โจกุลซาลอนเป็นทะเลสาบที่เต็มไปด้วยน้ำที่ละลายจากธารน้ำแข็งทางออกจากธารน้ำแข็ง ‘เบรดาเมร์คูร์โจกุล’ (Breiðamerkurjökull) ซึ่งเป็นลิ้นน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปจากธารวาทนาโจกุล เมื่อภูเขาน้ำแข็งเคลื่อนตัวข้ามทะเลสาบในที่สุดลอยออกไปในทะเลและถูกซัดขึ้นฝั่ง จนกลายเนื่องจากความแวววาวบนหาดทรายสีดำของ ‘เบรดาเมร์คูร์ซานดูร์’ (Breiðamerkursandur) ทำให้บริเวณนี้ได้รับฉายาว่า 'หาดทรายเพชร' (Diamond Beach) สมควรแก่เวลา เดินทางกลับสู่ที่พัก
    ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร 
    พักที่: HOTEL DYRHOLAEY / STRACTA HOTEL หรือที่พักระดับใกล้เคียง
    *** ท่านสามารถเดินเล่นชมความงามของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ การเกิดแสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดให้เห็นในเวลากลางคืนช่วงเดือน ก.ย. - มี.ค. ***

  • วันที่
    6
    เข้าชมถ้ำน้ำแข็งคัทลา - ฟาร์มม้า – ขี่ม้าชมวิว - เซลฟอสส์

    เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
    หลังอาหารเดินทางสู่นำท่านเปลี่ยนการเดินทางเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD Super Jeep) เดินทางสู่ถ้ำน้ำแข็งคัทลา (Katla Ice Caves) ตั้งอยู่บริเวณภูเขาไฟคัทล่าที่ดับลงแล้วที่ใต้ธารน้ำแข็งไมดาลโจคูล ชมวิวทิวทัศน์ที่แปลกตาระหว่างทางของทุ่งลาวา เดินทางถึงจุดจอดรถ ไกด์ท้องถิ่นจะเตรียมรองเท้าตะข้อและหมวกกันน็อคให้กับทุกท่าน เพื่อการเดินท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย นำท่านเดินสู่บริเวณปาก'ถ้ำธารน้ำแข็ง' เข้าชมถ้ำน้ำแข็งคัทลา ที่มีอายุกว่า 800 ปี เป็นถ้ำน้ำแข็งธรรมชาติแห่งเดียวที่เข้าถึงได้ตลอดทั้งปีและอยู่ใกล้เมืองเรคยาวิกที่สุด วิวภายในถ้ำน้ำแข็งนั้นงดงามด้วยการผสมผสานของสีของน้ำแข็ง และมีโอกาสได้เห็นน้ำแข็งสีดำที่เกิด จากเถ้าถ่านสีดำจากการระเบิดของภูเขาไฟครั้งก่อน นำทางโดยไกด์ท้องถิ่นผู้ชำนาญเส้นทางเก็บภาพความงดงามอย่างจุใจ 
    เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
    บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ฟาร์มม้าเอด์เฮสตาร์ (Eldhestar)เป็นฟาร์มม้าที่ใหญ่และเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ ให้ท่านได้สัมผัสม้าสายพันธุ์นอร์ดิคอย่างใกล้ชิดโดยไกด์ท้องถิ่นที่คอยดูและและให้คำแนะนำในการบังคับม้า ให้ความรู้ทุกท่านเกี่ยวกับการเลี้ยงและเพาะพันธุ์ม้าพันธุ์พื้นเมืองที่หายาก เนื่องจากม้าที่ไอซ์แลนด์จะเป็นพันธุ์ดังเดิมของชาวนอร์ดที่ไม่มีการผสมข้ามสายพันธุ์(ไอซ์แลนด์ไม่อนุญาตให้นำม้าจากต่างชาติเข้ามาในประเทศ) จากนั้นนำท่านขี่ม้าเดินตามเส้นทางที่เตรียมไว้เพื่อชมความงดงามของธรรมชาติและทุ่งหิมะที่ขาวโพลน ท่านจะเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติและความน่ารักของม้าเหล่านี้ / นำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก 
    ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง พร้อมเครื่องดื่มร่วมฉลองปีใหม่ 2568 
    พักที่: HOTEL SOUTH COAST, SELFOSS / หรือที่พักระดับใกล้เคียง
    *** ท่านสามารถเดินเล่นชมความงามของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ การเกิดแสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดให้เห็นในเวลากลางคืนช่วงเดือน ก.ย. - มี.ค. ***

  • วันที่
    7
    เรคยาวิค – กรุนดาร์ฟยอร์ดูร์ – ภูเขาเคิร์กจูเฟล - แช่บ่อน้ำร้อนบลู ลากูน – นำท่านล่าแสงเหนือ

    เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
    หลังอาหารเดินทางสู่เมือง ‘กรุนดาร์ฟยอร์ดูร์’ (Grundarfjörður) ซึ่งเป็นเมืองประมงเล็กๆ ที่เจริญรุ่งเรืองทางตอนเหนือของคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส ตั้งอยู่ระหว่างทิวเขาสูงและทะเล ชม ภูเขาเคิร์กจูเฟล (Kirkjufell) หรือ 'Church Mountain' เป็นยอดเขาที่มีรูปร่างโดดเด่น ซึ่งพบได้บนชายฝั่งทางเหนือของคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสของไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของไอซ์แลนด์ (West Iceland) หนึ่งในสถานที่ถ่ายภาพทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไอซ์แลนด์ในมุมมองยอดเขารูปกรวยคว่ำ มีน้ำตกและธารน้ำรายรอบเป็นภาพสัญลักษณ์ของ ประเทศไอซ์แลนด์ก็ว่าได้ ภูเขาลูกนี้มีความสูงประมาณ 463 เมตร ยิ่งไปกว่านั้น สีสันของเคิร์กจูเฟลล์ จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลที่ผ่านไป ฤดูร้อนมองเห็นเป็นสีเขียวชอุ่ม เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ในขณะที่ฤดูหนาวก็ปกคลุมไปด้วยหิมะแน่นอนว่าภายใต้ดวงอาทิตย์เที่ยงคืนนั้นน่าประทับใจยิ่งกว่าในช่วงเดือนมิถุนายน และภายใต้แสงเหนือ ซึ่งเห็นได้ดีที่สุดระหว่างเดือนกันยายนถึงเมษายน
    เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
    บ่าย นำท่านเดินทางกลับกรุงเรคยาวิค /จากนั้นนำท่านเดินทางสู่บ่อน้ำร้อน บลู ลากูน Blue Lagoon  ซึ่งเป็นบ่อน้ำร้อนซึ่งเต็มไปด้วยแร่ธาตุมากมาย อาทิ ซิลิกา, พืชทะเล, โคลนซิลิกา, ฟลูออรีน, โซเดียม โปตัสเซียม, แคลเซี่ยม, ซัลเฟต, คลอรีน, คาร์บอนไดออกไซด์ เป็นต้น นอกจากนั้นภายในบ่อน้ำร้อนบูลลากูนยังมีเกลือแร่ซึ่งจะช่วยให้ท่านผ่อนคลายและรักษาโรคที่เกี่ยวกับผิวหนังได้ และยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งอีกด้วย ท่านจะได้สัมผัสกับความสบายตัว จากการลงแช่และอาบน้ำในบ่อน้ำร้อนบูล ลากูน (พิเศษ…ทาง บลู ลากูน ได้จัดเตรียมอุปกรณ์ในการเข้าใช้บริการไว้ให้เรียบรอยแล้ว อาทิ ครีมทาผิว, รองเท้าแตะ และผ้าขนหนู ให้ทางมีเวลาผ่อนคลายกับการแช่น้ำแร่อย่างจุใจ)
    ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร 
    พักที่: GRAND HOTEL REYKJAVIK / Natura-Berjaya Hotel หรือที่พักระดับใกล้เคียง
    21.00 น. นำท่านตามล่าหาแสงเหนือ (Northern lights) หรือ แสงออโรร่า (Aurora borealis) โดยรถโค้ช (มีฮีทเตอร์) คนขับรถผู้ชำนาญจะนำท่านไปยังจุดที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือมากที่สุดใช้เวลา ประมาณ 3 ชั่วโมง แสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่จะปรากฏในตอนกลางคืนยามที่ท้องฟ้าโปร่ง ในช่ วง  หน้าหนาวเท่านั้น ซึ่งแสงออโรร่า (Aurora borealis) จะปรากฎเป็นแสงสีเขียวที่พาดผานท้องฟ้ายามค่่าคืน
    *** การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทาง ธรรมชาติไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสัาคัญ และ โปรแกรมอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม ***

  • วันที่
    8
    เรคยาวิค – ธารน้ำแข็งลางโจกุล – ขับรถสโนว์โมบิล - ช้อปปิ้งในเมืองเก่าเรคยาวิค – ชมวิวเมืองเรคยาวิค (อาคารพาลาน)

    เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
    หลังอาหารนำท่านร่วมกิจกรรมขับสโนว์ โมบิล (Snow Mobile) โดยเดินทางไปยังธารน้ำแข็งลางโจกุลด้วยรถ Super Jeep แบบเศษซึ่งเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นสู่แคมป์ฐานธารน้ำแข็ง รับอุปกรณ์สำหรับสโนว์โมบิลที่จำเป็นทั้งหมด รวมถึงชุดสโนว์โมบิล ถุงมือ ไหมพรม และหมวกนิรภัยสำหรับการขี่สโนว์โมบิล ไกด์มืออาชีพที่นำขับสโนว์โมบิลจะแสดงวิธีบังคับสโนว์โมบิลอย่างปลอดภัยธารน้ำแข็งลางโจกุลเป็นที่ตั้งของหลุมอุกกาบาตภูเขาไฟที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งขนาดมหึมาหลายแห่ง ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาไฟตั้งตระหง่านและตั้งอยู่ในพื้นที่ภายในที่สวยงามของไอซ์แลนด์ มุมมองจากด้านข้างของลางโจกุลนั้นน่าทึ่งทีเดียวเพราะสามารถมองเห็นที่ตั้งของธารน้ำแข็ง Eiríksjökull ภูเขาที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ตะวันตก ธารน้ำแข็ง Hofsjökull รูปโดม และเทือกเขา Kerlingafjöll ได้ในระยะไกล
    *** หมายเหตุ: ธารน้ำแข็งหลายแห่งอาจจะเกิดการละลายเนื่องจากผลกระทบของภาวะโลกร้อน หรืออาจจะเกิดกรณีที่สภาพอากาศไม่อำนวย ซึ่งอาจจะทำให้ไม่ปลอดภัยในการขับรถสโนว์โมบิล บริษัทฯ จึงขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนเป็นกิจกรรมอื่นที่ปลอดภัยทดแทนในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เช่น การขับรถ ATV ลงไปตามแนวชายฝั่งคาบสมุทรดีร์โฮเลย์ ข้ามแม่ลำธารสายเล็กๆ ไปที่ซากเครื่องบิน DC3 ที่ถูกทิ้งร้างบนชายหาดสีดำที่ ‘โซลเฮมาซานดูร์’ (Sólheimasandur) ซึ่งเป็นจุดถ่ายรูปที่เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของประเทศไอซ์แลนด์ 
    เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
    บ่าย นำท่านขึ้นลิฟต์สู่ชั้นบนสุดของตึกพาลาน (Perlan) เป็นตึกสไตล์โมเดิร์น ที่มีภัตตาคารอยู่ด้านบนให้ท่านชมวิวทิวทัศน์ของกรุงเรคยาวิคอย่างเต็มที่แบบ 360 องศา จากนั้นอิสระเลือกซื้อหาสินค้าท้องถิ่นเป็นของที่ระลึก ชมย่านถนนคนเดินที่สองข้างทางเต็มไปด้วยอาคารสวยๆ เรียงรายไปด้วยสินค้าพื้นเมืองและแบรนด์ต่างๆ อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย ในย่านถนนคนเดิน หรือห้างสรรพสินค้าท้องถิ่น 
    ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร 
    พักที่: Grand Hotel Reykjavik / NATURA-BERJAYA HOTEL หรือที่พักระดับใกล้เคียง
    *** ท่านสามารถเดินเล่นชมความงามของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ การเกิดแสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดให้เห็นในเวลากลางคืนช่วงเดือน ก.ย. - มี.ค. ***

  • วันที่
    9
    เรคยาวิค – ล่องเรือชมปลาวาฬ – ชมเมือง

    เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
    นำท่านเดินทางสู่ท่าเรือ ล่องชมปลาวาฬ (Reykjavik Whale Watching) ซึ่งท่านจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ในการชมสัตว์ทางท้องทะเล ซึ่งท่านจะได้พบกับนกทะเลชนิดต่างๆ มากมาย รวมไปถึงปลาวาฬนานาพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ Killer Whale (Orca), Minke Whale Humpback Whale นอกจากนั้น ท่าจะมีโอกาสได้พบกับความน่ารักของปลาโลมา Dolphin ซึ่งจะมาว่ายน้ำหยอกล้อท่านอยู่ข้างเรืออย่างมากมาย ถือเป็นความน่ารักและความงดงามทางธรรมชาติซึ่งมีเฉพาะในดินแดนแถบนี้เท่านั้น (บนเรือมีชุดกันหนาวบริการ บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในกรณีที่เรือยกเลิกให้บริการอันเนื่องมาจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย) นำท่านเดินทางกลับเมืองเรคยาวิก 
    เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
    จากนั้นนำท่านสู่จุดชมวิว “กรอตตา’ (Grótta) เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติที่ปลายคาบสมุทรเซลต์ยาร์นาร์เนส  (Seltjarnarnes Peninsula) ทางตะวันตกเฉียงเหนือสุดของพื้นที่เกรเทอร์เรคยาวิก ชม ‘ประภาคารกรอตตา’ หนึ่งในประภาคารที่เก่าแก่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ปัจจุบัน กรอตตา เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุด ซึ่งดึงดูดทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดทั้งปี 
    ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร 
    พักที่: Park Inn by Radisson Keflavik / หรือที่พักระดับใกล้เคียง

  • วันที่
    10
    เรคยาวิค – กรุงโคเปนเฮเกน – ช้อปปิ้ง

    เช้า บริการอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม / อิสระทุกท่านตามอัธยาศัย
    สมควรแก่เวลา/จากนำท่านสู่สนามบินเคฟลาวิก (Keflavik International Airport) 
    ..... น. ออกเดินทางสู่สนามบินโคเปนเฮเกน โดยเที่ยวบิน .....
    ..... น. เดินทางถึงสนามบินโคเปนเฮเกน (เวลาที่ไอซ์แลนด์ ช้ากว่า เฮลซิงกิ 1 ชั่วโมง) 
    นำชม “ย่านเขตท่าเรือนูฮาว Nyhavn ที่มีอาคารบ้านเรือนตั้งแต่ยุคคริสต์ศตวรรษที่ 17 เรียงราย เป็นภาพที่งดงาม เหมาะสำหรับการเยือนเมืองนี้ ชมจตุรัสซิตี้ฮอลล์  อาคารเทศบาลเมืองเก่า จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ย่านสตรอย์เกต (Stroget) เป็นถนนช้อปปิ้งสายหลักของโคเปนเฮเกนและเป็นหนึ่งในถนนคนเดินที่ยาวที่สุดในยุโรป มีร้านค้ามากมายตั้งแต่ร้านแฟรนไชส์ราคาย่อมเยาไปจนถึงแบรนด์ที่แพงที่สุดในโลก อิสระกับการชมเมืองอันสวยงามหรือเลือกหาซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
    ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
    ที่พัก: Scandic Copenhagen Hotel หรือที่พักระดับใกล้เคียง

  • วันที่
    11
    สนามบินโคเปนเฮเกน – สนามบินสุวรรณภูมิ

    เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม / หลังอาหารเดินทางสู่สนามบินโคเปนเฮเก้น 
    13.50 น. สนามบินโดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG951

  • วันที่
    12
    สนามบินสุวรรณภูมิ

    06.20 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ / โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

มื้ออาหารและที่พัก
วันที่
อาหารเช้า
อาหารเที่ยง
อาหารเย็น
โรงแรม
1
-
2
Grand Hotel Reykjavik / Natura Hotel Berjaya or Equivalent
3
South Coast Selfoss Hotel or Equivalent
4
-
5
Hótel Dyrhólaey / Stracta Hotel or Equivalent
6
South Coast Selfoss Hotel or Equivalent
7
Grand Hotel Reykjavik / Natura Hotel Berjaya or Equivalent
8
Grand Hotel Reykjavik / Natura Hotel Berjaya or Equivalent
9
Park Inn by Radisson Keflavik or Equivalent
10
Scandic Copenhagen Hotel or Equivalent
11
-
12
-
ข้อตกลงและเงื่อนไข
  • การจองนี้ไม่ได้รับการยืนยัน (เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา) เราจะตรวจสอบและยืนยันการจองให้ลูกค้าทราบภายใน 24 ชม.

แพ็กเกจนี้รวม
  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-ยุโรป-เรคยาวิค//เรคยาวิค-ยุโรป-กรุงเทพฯ 

  • ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยวตามระบุไว้ในรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง กฎหมายในยุโรปไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12 ช.ม./วัน 

  • โรงแรมที่พักตามระบุหรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน ราคาโรงแรมจะปรับขึ้น 3-4 เท่าตัว หากวันเข้าพักตรงกับงานเทศกาลเทรดแฟร์หรือการประชุมต่างๆ อันเป็นผลที่ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนย้ายเมือง โดยคำนึงถึงความเหมาะสมเป็นหลัก 

  • ค่าอาหารที่ระบุในรายการ ให้ท่านได้เลิศรสกับอาหารท้องถิ่นในแต่ละประเทศ 

  • ค่าบริการนำทัวร์โดยหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์นำเที่ยวให้ความรู้  และคอยดูแลอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง 1 ท่าน 

  • ค่าประกันอุบัติเหตุและสุขภาพในการเดินทางวงเงินท่านล่ะ 2,000,000 บาท (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกรมธรรม์) 

  • ค่าธรรมเนียมในการยื่นวีซ่ายุโรปหรือกลุ่มเชงเก้นวีซ่า และค่าธรรมเนียมวีซ่า ทางสถานทูตไม่คืนให้ท่านไม่ว่าท่านจะผ่านการพิจารณาหรือไม่ก็ตาม 

  • น้ำดื่มบริการบนรถโค้ชตลอดการเดินทาง

  • ค่าทิปพนักงานขับรถและบริกรตลอดการเดินทาง

แพ็กเกจนี้ไม่รวม
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% 

  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าเครื่องดื่มและอาหารนอกเหนือจากที่ระบุในรายการ 

  • ค่าผกผันของภาษีน้ำมันที่ทางสายการบินแจ้งเปลี่ยนแปลงกะทันหัน

  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์วันล่ะ 100 บาท 12 วัน (1,200 บาท) *** หากท่านประทับใจในการบริการ

เงื่อนไขการยกเลิก
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 40 วัน - คืนค่าใช้จ่ายทั้งหมด ยกเว้นกรุ๊ปที่เดินทางช่วงวันหยุด หรือเงินค่ามัดจำที่ต้องการันตีที่นั่งกับสายการบิน หรือ กรุ๊ปที่มีการการันตีค่ามัดจำที่พักโดยตรงหรือโดยการผ่านตัวแทนในประเทศ หรือต่างประเทศและไม่อาจขอคืนเงินได้ (ค่าใช้จ่ายตามความเป็นจริง)

  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 15 – 29 วันขึ้นไป – เก็บค่าใช้จ่าย 50% ของราคาทัวร์ 

  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 1 – 15 วัน – เก็บค่าบริการทั้งหมด 100%

หมายเหตุ
  • บริษัทฯ จะทำการยื่นวีซ่าของท่านก็ต่อเมื่อในคณะมีผู้สำรองที่นั่งครบ 15 ท่าน และได้รับคิวการตอบรับจากทางสถานทูต เนื่องจากบริษัทฯ จะต้องใช้เอกสารต่างๆที่เป็นกรุ๊ปในการยื่นวีซ่า อาทิ ตั๋วเครี่องบิน ห้องพักที่คอนเฟิร์มมาจากทางยุโรป ประกันการเดินทาง ฯลฯ ทางท่านจะต้องรอให้คณะครบ 15 ท่าน จึงจะสามารถยื่นวีซ่าให้กับทางท่านได้อย่างถูกต้อง 

  • หากในช่วงที่ท่านเดินทางคิววีซ่ากรุ๊ปในการยื่นวีซ่าเต็ม ทางบริษัทต้องขอสงวนสิทธิ์ในการยื่นวีซ่าเดี่ยว ซึ่งทางท่านจะต้องเดินทางมายื่นวีซ่าด้วยตัวเอง ตามวัน และเวลานัดหมายจากทางสถานทูต โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยดูแล และอำนวยความสะดวก 

  • เอกสารต่างๆที่ใช้ในการยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป ทางสถานทูตเป็นผู้กำหนดออกมา มิใช่บริษัททัวร์เป็นผู้กำหนด ท่านที่มีความประสงค์จะยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป กรุณาจัดเตรียมเอกสารให้ถูกต้อง และครบถ้วนตามที่สถานทูตต้องการ เพราะจะมีผลต่อการพิจารณาวีซ่าของท่าน บริษัททัวร์เป็นแต่เพียงตัวกลาง และอำนวยความสะดวกในการยื่นวีซ่าเท่านั้น มิได้เป็นผู้พิจารณาว่าวีซ่าให้กับทางท่าน

  • กรณีวีซ่าที่ท่านยื่นไม่ผ่านการพิจารณา และคณะสามารถออกเดินทางได้ ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้

  • - ค่าธรรมเนียมการยื่นวีซ่าและค่าดำเนินการ ทางสถานทูตจะไม่คืนค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้นแม้ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านการพิจารณา

    - ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน หรือตั๋วเครื่องบินที่ออกมาจริง ณ วันยื่นวีซ่า ซึ่งตั๋วเป็นเอกสารที่สำคัญในการยื่นวีซ่า หากท่านไม่ผ่านการพิจารณา ตั๋วเครื่องบินถ้าออกตั๋วมาแล้วจะต้องทำการ REFUND โดยจะมีค่าธรรมเนียมที่ท่านต้องถูกหักบางส่วน และส่วนที่เหลือจะคืนให้ท่านภายใน 45-60 วัน (ตามกฎของแต่ละสายการบิน) ถ้ายังไม่ออกตั๋วท่านจะเสียแต่ค่ามัดจำตั๋วตามจริงเท่านั้น

    - ค่าห้องพักในทวีปยุโรป ถ้าคณะออกเดินทางได้ และท่านไม่ผ่านการพิจารณาวีซ่า ตามกฎท่านจะต้องโดนค่ามัดจำห้องของการเดินทางหากท่านไม่ปรากฏตัวตามวันที่เข้าพัก ทางโรงแรมจะต้องยึดค่าห้อง 100% ในทันที ทางบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ และมีเอกสารชี้แจงให้ท่านเข้าใจ

  • หากท่านผ่านการพิจารณาวีซ่า แล้วยกเลิกการเดินทางทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยึดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100%

  • ทางบริษัทเริ่มต้น และจบ การบริการ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรณีท่านเดินทางมาจากต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ และจะสำรองตั๋วเครื่องบิน หรือพาหนะอย่างหนึ่งอย่างใดที่ใช้ในการเดินทางมาสนามบิน ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากโปรแกรมการเดินทางของบริษัท ฉะนั้นท่านควรจะให้กรุ๊ป FINAL 100% ก่อนที่จะสำรองยานพาหนะ

  • กรณีท่านที่ประสงค์พักแบบห้องสามเตียง(Triple Room) หากทางโรงแรมที่พักไม่สามารถจัดห้องพักแบบสามเตียงได้ อาจต้องเป็นเตียงเสริมแทน หรือ อาจต้องแยกเป็นห้องสองเตียง 1 ห้องและห้องเตียงเดียว 1 ห้อง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสำหรับค่าห้องเดียวทั้งนี้ทางลูกค้าต้องเป็นผู้จ่ายค่าห้องเดียวเอง(ทางบริษัทฯ ขอแนะนำให้พักสองห้อง)

  • รูปภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น