ทัวร์ยุโรป เยอรมนี ออสเตรีย อิตาลี ฮัลล์สตัทท์ โดโลไมท์ เวนิส ฟลอเรนซ์ ปิซ่า 10 วัน 7 คืน โดยสายการบิน ซาอุเดีย แอร์ไลน์

ทัวร์ยุโรป เยอรมนี ออสเตรีย อิตาลี ฮัลล์สตัทท์ โดโลไมท์ เวนิส ฟลอเรนซ์ ปิซ่า

ไม่เข้าร้านรัฐบาล เที่ยวเต็มวัน ฟรีประกันการเดินทาง ฟรีน้ำหนักกระเป๋าตามที่สายการบินกำหนด รวมค่าเข้าสถานที่เที่ยว
รายละเอียด

ทัวร์ยุโรป เยอรมนี ออสเตรีย อิตาลี ฮัลล์สตัทท์ โดโลไมท์ เวนิส ฟลอเรนซ์ ปิซ่า 10 วัน 7 คืน โดยสายการบิน ซาอุเดีย แอร์ไลน์ พาเที่ยว มิวนิค - จตุรัสมาเรียนพลัทซ์ - ฮัลล์สตัทท์ หมู่บ้านริมทะเลสาบ - ซาลส์บวร์ก - สวนมิราเบิล - บ้านเกิดโมสาร์ท - ถนนเกรไทเดร้ - อินส์บรุค - หลังคาทองคำ - แม่น้ำอินส์ - ซานต้ามาดดาเลน่า ทะเลสาบบรายเอียซ - ทะเลสาบมิซูริน่า - คอร์ติน่า ดัมเปซโซ่ - เวนิส เมสเตร้ - สะพานถอนหายใจ - มหาวิหารซานมาร์โก - จัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โก - หอนาฬิกาเซนต์มาร์ค - ปราโต - ฟลอเรนซ์ - ปิซ่า - หอเอนปิซ่า - เจนัว - จตุรัส Piazza De Ferrari – บ้านโคลัมบัส - มิลาน - มหาวิหารดูโอโม มิลาน - ห้างสรรพสินค้ากลางเมืองมิลาน - โคโม่ - ทะเลสาบโคโม่ - มหาวิหาร Santa Maria Assunta


รหัสทัวร์ : GOIT9097
 บาวาเรีย, เยอรมัน
สายการบินซาอุดิอาระเบียแอร์ไลน์
วันที่เดินทาง :
19 มี.ค. 2568 ถึง 28 มี.ค. 2568 ช่วงเวลาอื่น
ราคาเริ่มต้น
USD 2,906
ทำไมต้องจองทัวร์กับเรา
  • ราคาสุดท้ายไม่บวกเพิ่ม
  • รับประกันราคาที่ดีที่สุด
ติดต่อสอบถาม
02 001 5855
จันทร์ - เสาร์ 09:00 น. - 18:00 น.
ตารางการเดินทาง
  • วันที่
    1
    สนามบินสุวรรณภูมิ

    22.00 น.คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินซาอุเดีย (SV) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง
    *** เที่ยวบินหรือเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายการบินเป็นผู้กำหนด ***
    ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่องบินเนื่องจากเป็นตั๋วกรุ๊ป การจัดที่นั่งจะเป็นระบบ RANDOM ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกัน ทางบริษัทไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของสายการบิน

  • วันที่
    2
    สนามบินเจดดาห์ - สนามบินมิวนิค - มิวนิค (เยอรมนี) - จตุรัสมาเรียนพลัทซ์

    01.15 น.ออกเดินทางสู่ สนามบินเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยสายการบินซาอุเดีย เที่ยวบินที่ SV849 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 9.10 ชั่วโมง) (เวลาประเทศซาอุดิอาระเบีย ช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง)
    06.25 น.เดินทางถึง สนามบินเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย (เวลาท้องถิ่น) นำท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางสู่ประเทศเยอรมนี (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 3.15 ชั่วโมง)
    10.15 น.ออกเดินทางสู่ สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมนี โดยสายการบินซาอุเดีย เที่ยวบินที่ SV175 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 5.50 ชั่วโมง) 
    14.55 น.ถึง สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมนี (เวลาประเทศเยอรมนี ช้ากว่าไทยประมาณ 5-6 ชั่วโมง กรุณาปรับเวลาให้ตรงตามเวลาท้องถิ่น เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย) ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนเมษายน จะช้ากว่าไทย 6 ชั่วโมง และในช่วงเดือนเมษายน-เดือนตุลาคม จะช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมง ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้ว
    นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองมิวนิค (Munich) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที)  เมืองหลวงที่มีเสน่ห์แห่งแคว้นบาวาเรีย มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สามของประเทศ ตั้งอยู่บนแม่น้ำอีซาร์เหนือเทือกเขาแอลป์ บนที่ราบสูงบาวาเรีย เป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจเข้มแข็งที่สุดในประเทศเยอรมนี เต็มไปด้วยสถานที่ทางวัฒนธรรมและศาสนา และยังเมืองที่เคยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในเยอรมัน นำท่านชม มาเรียนพลัทซ์ (Marienplatz) ในเขตเมืองเก่าที่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของการทำความรู้จักกับมิวนิค ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่สำหรับงานพิธีต่างๆ ที่สำคัญของเมือง ที่บริเวณจัตุรัสมาเรียนพลัสซ์นี้เราจะได้เห็น ศาลาว่าการใหม่ (New Town Hall) ที่ได้ใช้ทำการแทนศาลาว่าการเก่าตั้งแต่ปี 1874 เห็นได้ง่ายด้วยหอคอยแหลมสูงและการออกแบบและตกแต่งอย่างประณีตไม่แพ้ปราสาทหรือพระราชวัง สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค และนาฬิกา Glockenspiel หอนาฬิกาที่มีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำ  บริเวณใกล้กันนั้นเป็น ศาลาว่าการเก่า (Old Town Hall) อาคารสีขาวสะอาดหลังนี้เป็นศาลาว่าการของเมืองมิวนิคมาตั้งแต่ปี 1310 แม้จะผ่านมากว่า 700 ปี ใกล้กันนั้นจะเห็น โบสถ์พระแม่มารี (Frauenkirche-Church of Our Lady) เป็นโบสถ์ทรงหัวหอมคู่ที่สร้างด้วยอิฐแดงสูง 99 เมตร ซึ่งนับได้ว่าเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองมิวนิคเช่นกัน จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเล่น หรือช้อปปิ้งตามอัธยาศัย 
    เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
    แนะนำ ร้าน HOFBRAUHAUS โรงเบียร์อันขึ้นชื่อแห่งเมืองมิวนิค ที่ท่านต้องไม่พลาดไปดื่มด่ำสักครั้ง โรงเบียร์ในตำนานที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1589 บรรยากาศภายในร้านที่ถูกตกแต่งแบบพื้นเมืองดั้งเดิม ลักษณะเป็นห้องโถงใหญ่ประกอบไปด้วยโต๊ะอาหารทั้งในและนอกร้าน นอกจากนี้ยังมีวงดนตรีคอยบรรเลงเพิ่มอรรถรสในการดื่มด่ำ และสัมผัสกับรสชาติของเบียร์ที่นี่ได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว 
    ที่พัก โรงแรมมาตรฐานยุโรป 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    3
    ฮัลล์สตัทท์ หมู่บ้านริมทะเลสาบ (ออสเตรีย) - ซาลส์บวร์ก - สวนมิราเบิล - บ้านเกิดโมสาร์ท – ถนนเกรไทเดร้

     เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
    จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกอันแสนโรแมนติก เป็นหนึ่งในหมู่บ้านริมทะเลสาบสวยที่สุดในโลก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์แห่งนี้ตั้งอยู่ในเมือง Salzkammergut ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสถานที่พักตากอากาศที่ดีที่สุดในออสเตรีย มีอายุกว่า 4,500 ปี ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาสวยงามราวกับภาพวาด ว่ากันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่ง ออสเตรียได้ให้ฉายาเมืองนี้ว่า “ไข่มุกแห่งออสเตรีย” และ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก เมื่อปี 1997 ตรงกลางหมู่บ้านฮัลล์สตัทท์จะมี Town Square เล็ก ๆ  หมู่บ้านมีเสาหิน Holy Trinity อยู่ตรงกลางรายล้อมด้วยอาคารบ้านเรือนสีหวานที่เปิดเป็นร้านค้าริมถนนเรียงรายไปด้วยร้านขายของฝากที่ระลึก ร้านอาหารและโรงแรมที่พัก ใกล้จัตุรัสจะมีม้านั่งให้นักท่องเที่ยวได้นั่งชมความงดงามของจัตุรัสและวัฒนธรรมพื้นที่โดยรอบแห่งนี้
    เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (เมนูปลาเทราซ์ ย่าง)
    จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เมืองสวยแสนโรแมนติกที่สุดเมืองหนึ่งของทวีปยุโรป ได้รับการอนุรักษ์เป็นมรดกโลกเมื่อปี 1996 อีกทั้งยังเป็นบ้านเกิดของคีตกวีผู้ยิ่งใหญ่ของโลกนามว่า วูล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart) และเป็นสถานที่ในการถ่ายทำภาพยนตร์อมตะ เรื่อง The Sound of Music ซึ่งทำให้เมืองนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยเมืองนี้มีอดีตที่เติบโตมาจากการผลิตเกลือและการค้าเกลือซึ่งในยุคนั้นมีค่าประดุจทองคำขาว เกลือจึงเป็นที่มาของทั้งชื่อแคว้นและเมืองแห่งนี้ 
    นำท่านชม สวนมิราเบล (Mirabell Garden) สวนสาธารณะสไตล์บาโรกที่สวยที่สวยที่สุดในเมือง เดิมเป็นสวนของ พระราชวังมิราเบล (Mirabell Palace) ซึ่งพระราชวังแห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่โมสาร์ทเคยมาจัดการแสดง แถมยังเป็นสถานที่ถ่ายทำของ The Sound of Music ด้วย จึงไม่แปลกใจเลยหากที่พระราชวังแห่งนี้จะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก 
    เดินข้ามสะพานมายัง บ้านเกิดโมสาร์ท (Mozart Geburtshaus) (ชมบริเวณภายนอก) เป็นอาคารสีเหลืองหมายเลข 9 อาคารแห่งนี้เป็นสถานที่เกิดของโมสาร์ท และเติบโตมาตลอด 20 ปี ก่อนจะย้ายไปอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งข้างๆ กัน ซึ่งปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเครื่องดนตรีที่โมสาร์ทเคยใช้ เช่น ไวโอลิน และ เปียโน รวมถึงชีวประวัติและจดหมายที่โมสาร์ทเคยเขียนอีกด้วย (ไม่รวมค่าเข้าพิพิธภัณฑ์) 
    จากนั้นอิสระให้ท่านช้อปปิ้งที่ถนน Getreidegasse (เกรไทเดร้)
    ที่รวมร้านค้าแบรนด์เนมให้ท่านเลือกมากมาย ทั้งเครื่องประดับ, เครื่องแต่งกายพื้นบ้าน, รวมถึงร้านอาหารนั่งดื่มชิล ๆ จุดเด่นของถนนสายนี้คือป้ายชื่อร้านที่อยู่ด้านหน้าอาคารทำให้เหล่านักท่องเที่ยวได้แหงนมอง
    เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
    ที่พัก โรงแรมมาตรฐานยุโรป 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    4
    อินส์บรุค - หลังคาทองคำ - แม่น้ำอินส์ - ซานต้ามาดดาเลน่า (อิตาลี)

    เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
    นำท่านเดินทางสู่ เมืองอินส์บรุค (Innsbruck) ประเทศออสเตรีย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชั่วโมง) หัวใจแห่งเทือกเขาแอลป์ ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มอินน์ (Inn Valley) ทางตะวันตกของประเทศ เป็นเมืองเล็กๆ ที่โอบล้อมด้วยภูเขาหิมะขนาดใหญ่ยักษ์ประกบอยู่ทางทิศเหนือ และทิศใต้ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และสถาปัตยกรรมสวยงามที่สามารถเที่ยวชมได้ทั้งเมือง 
    อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองอินส์บรุค (Innsbruck) บริเวณแลนด์มาร์คของเมือง นั่นคือ "หลังคาทองคำ" สัญลักษณ์สำคัญของเมืองตั้งอยู่ในเขต Old Town ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ส่วนของหลังคาที่ยื่นออกมาจากระเบียงตกแต่งด้วยทองคำแท้ จำนวน 2,738 แผ่น ในการมุงหลังคากว้าง 16 เมตร เพื่อพยายามลบข่าวลือว่าสถานภาพทางการเงินที่ไม่ดีในช่วงนั้น ตกแต่งสวยงามแปลกตา และมีมูลค่าสูงจนไม่สามารถประเมินค่าได้ อาคารสไตล์โกธิคผสมบาโรกนี้ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 เพื่อเฉลิมฉลองการอภิเษกสมรสครั้งที่ 2 ของจักรพรรดิแมกมิเลียนที่ 1 ในอดีตจะทรงประทับที่ระเบียง เพื่อทอดพระเนตรกิจกรรม และเทศกาลต่างๆ ที่จัดขึ้นบริเวณจัตุรัสด้านล่าง ใกล้ๆกันท่านจะเห็น City Tower หอคอยเก่าแก่อายุมากกว่า 450 ปี ตั้งอยู่ใจกลางเมือง Innsbruck มีความสูง 31 เมตร เป็นอาคารที่มีความสูงที่สุดในเมือง โดดเด่นจนสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล เดินถัดมาอีกไม่ไกลท่านจะได้สัมผัสความงดงามของ แม่น้ำอินส์ (Inn River) แม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านอาคารตึกเก่าหลากสี แวะถ่ายรูป Candy House บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำอินน์ กลุ่มอาคารเก่าสีพาสเทลที่ตั้งอยู่เรียงกันริมแม่น้ำ มีวิวภูเขาแอลป์เป็นฉากตระการตา เป็นจุดแลนด์มาร์คห้ามพลาดเช็คอินอีกแห่งหนึ่งของอินส์บรุค
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
    จากนั้นนำท่านเก็บภาพความประทับใจกับวิวไฮไลท์ ของเทือกเขา Dolomites ณ Santa Magdalena (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) ถ่ายรูปกับหนึ่งจุดไฮไลต์ด้วยวิวยอดเขาแปลกตาอีกแห่งหนึ่งในโดโลไมท์ ณ โบสถ์ Santa Maddalena โบสถ์ที่ถือเป็นสถานที่ไฮไลต์ทที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุด ในอุทยานโดโลไมท์ มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมีฉากหลังเป็นเทือกเขา Odles 
    จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)
    อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
    ที่พัก โรงแรมมาตรฐานยุโรป 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    5
    ทะเลสาบบรายเอียซ - ทะเลสาบมิซูริน่า - คอร์ติน่า ดัมเปซโซ่ - เวนิส เมสเตร้

    เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
    จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบบรายเอียซ (Lake Braies) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Fanes Sennes Braies เขตป่าสงวนที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเทือกเขาโดโลไมท์ เพื่อชมความงามของทะเลสาบ ตั้งอยู่ริมขอบทางทิศเหนือของอุทยานมีทางเดินอย่างดีเป็นวงกลมรอบทะเลสาบ อิสระให้ท่านเก็บภาพความประทับใจ 
    นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบมิซูริน่า (Lake Misurina) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) ทะเลสาบที่หลบซ่อนตัวในหุบเขาที่ถือเป็นสถานที่ ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งใดในโดโลไมท์ อิสระให้ท่านเดินเล่นชมวิวทะเลสาบเก็บภาพสุดแสนประทับใจ 
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
    จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคอร์ตินา ดัม เปซโซ่ (Cortina D’ Ampezzo) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) เมืองนี้เป็นเมืองสกีรีสอร์ท Best of  The Alps ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเทือกเขาโดโลไมท์ (Dolomites) หรือ โดโลมิติ ตามการเรียกขานของชาวอิตาลี เพียงแห่งเดียวในอิตาลีที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 ของสกีรีสอร์ทที่ดีที่สุดในโลก ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไข่มุกแห่งโดโลไมท์ ให้อิสระท่านเดินเล่น เก็บภาพบรรยากาศ ซึมซับกับทัศนียภาพที่สวยงาม และอากาศบริสุทธิ์  
    เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
    นำท่านเดินทางสู่ เมืองเมสเตร้ (Mestre) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) เมืองแผ่นดินใหญ่ทางภาคตะวันออกของประเทศ ถือเป็นเมืองหน้าด่านก่อนเข้าสู่เกาะเวนิส เข้าสู่ที่พัก
    ที่พัก โรงแรมมาตรฐานยุโรป 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    6
    เวนิส - สะพานถอนหายใจ - มหาวิหารซานมาร์โก (บริเวณภายนอก) - จัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โก - หอนาฬิกาเซนต์มาร์ค - ปราโต

    เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
    นำท่านเดินทางสู่ เวนิส (Venice) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที) เมืองหลวงแห่งภูมิภาค Veneto ของ ประเทศอิตาลี มีลักษณะเป็นเกาะเล็กเกาะน้อยรวมกันกว่า 100 เกาะ เกิดเป็นลากูน บนทะเลเอเดรียติก (Adriatic Sea) ผืนน้ำที่คั่นระหว่างเกาะต่างๆ จะมีสะพานเชื่อมถึงกัน พื้นดินทั้งหลายนั้นแท้จริงแล้วเป็นเกาะใหญ่น้อยมาร้อยรวมกันเสมือนผ้าผืนใหญ่ที่อยู่กลางน้ำ สัญลักษณ์ของเวนิส หลายๆ คนคงคุ้นเคยกับ เรือกอนโดลา (Gondola) กันดี เป็นเรือที่มีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะบริเวณหัวเรือกับท้ายเรือที่มีลักษณะปลายแหลม ความยาวอยู่ที่ 4-5 เมตร กว้างประมาณ 1.2 เมตร และสามารถจุผู้โดยสารได้ 5-6 คน เดิมเป็นเรือที่ใช้ในการอพยพผู้คนที่หนีภัยสงครามในสมัยอาณาจักรโรมัน และมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่เวนิส ด้วยความพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองเป็นคูคลอง และทะเล เรือจึงเป็นยานพาหนะสำคัญในการเดินทางสันจร และการขนส่งของเมือง
    นำท่านนั่งเรือโดยสารข้ามไปยังเกาะเวนิส ท่านจะได้เห็น สะพานถอนหายใจ (Ponte dei Sospiri หรือ Bridge of Sighs) ในอดีต ชั้นใต้ดินของพระราชวังดูคาเล่ มีคุกขังนักโทษ ที่จะถูกเชื่อมด้วยทางเดินแคบๆ ไปยังสะพานข้ามคลองสู่แดนคุมขัง สะพานแห่งนี้มีชื่อเรียกว่า สะพานถอนหายใจ (Ponte dei Sospiri หรือ Bridge of Sighs) ตามอาการของนักโทษที่เดินข้ามสะพานและกำลังจะหมดอิสรภาพนั่นเอง ปัจจุบันคุกใต้ดินไม่ได้ใช้งานแล้ว และสะพานถอนหายใจแห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของการนั่งเรือกอนโดลาชมเมือง
    เดินถัดมาไม่ไกลมากนัก ท่านจะพบกับ หอระฆังซานมาร์โก (San Marco Campile) เป็นหอระฆังสูงถึง 98 เมตร ที่ตั้งอยู่ด้านหน้ามหาวิหารซานมาร์โก เรียกว่าเป็นจุดเด่นที่ตั้งอยู่ท่ามกลาง จัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โค (Piazza San Marco) เลยทีเดียว ที่นี่เป็นอีกแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพ และบริเวณมุมหนึ่งของจัตุรัส เราจะพบกับ หอนาฬิกาเซนต์มาร์ค (Torre dell'Orologio) อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเวนิสที่สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 15 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบเวเนเชียนเรอเนสซองส์ หน้าปัดนาฬิกาเป็นสีน้ำเงิน ตกแต่งด้วยลวดลายสีทองของ 12 ราศี ส่วนด้านบนเป็นลวดลายโมเซคสีน้ำเงินสลับทองด้วยเช่นกัน เป็นการแต่งเติมเมื่อปี ค.ศ. 1755 โดย Giorgio Massari สถาปนิกชาวเวนิสสมัยบาโรก
    เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
    สมควรแก่เวลา จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองปราโต (Prato) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.45 ชั่วโมง) ซึ่งอยู่ในแคว้นทอสคานา เมืองหลักของจังหวัดปราโต ประเทศอิตาลี ประชากรมีมากกว่า 193,000 คน ปราโตเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 2 ของแคว้นตอสคานา และเป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของอิตาลีกลาง เป็นรองกรุงโรมและฟลอเรนซ์
    เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
    ที่พัก โรงแรมมาตรฐานยุโรป 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    7
    ฟลอเรนซ์ - ปิซ่า - หอเอนปิซ่า

    เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
    จากนั้นนำทุกท่านเดินทางไปยัง สถานีรถไฟ Sesto Fiorentino (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที) เพื่อเดินทางเข้าสู่ เมือง ฟลอเรนซ์ (Florence) เมืองที่ได้รับขนานนามว่าเป็นเมืองศูนย์กลางแห่งศิลปะในยุคเรอเนสซองส์ ซึ่งล้วนแล้วแต่มี โบราณสถานสําคัญ และมีทิวทัศน์ตามธรรมชาติที่สวยงามจนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกจาก องค์กรยูเนสโก้เมื่อ ปี ค.ศ.1982 ทําให้ทัสคานีมีชื่อเสียงในฐานะดินแดนท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลก อิตาลี ท่านจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ และอลังการของ มหาวิหารซานตา มาเรีย เดล ฟิโอเร (Santa Maria Dell Fiore) วิหารของเมือง
    ฟลอเรนซ์ ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4ของทวีปยุโรป ซึ่งโดด เด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ใช้หินอ่อนหลายสีตกแต่งผสมผสานกันได้อย่างงดงาม และไม่ไกลจากกันนัก ท่านสามารถมองเห็นจอตโต แคมพานีลี (Giotto’s CampanileI) หรือจอตโต เบล ทาวเวอร์ (Giotto’s Bell Tower) หอระฆังที่เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิหารฟลอเรนซ์ ถูกสร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมโกธิค ด้วยความสูงประมาณ 84.7 เมตร (277.9 ฟุต) ตัวหอคอยถูกตกแต่งด้วยรูปปั้น รูปแกะสลักอย่างงดงาม นําชม จัตุรัสเดลลา ซิญญอเรีย (Piazza Della Signoria) ซึ่งรายล้อมไปด้วยรูปปั้น อาทิ เช่น รูปปั้นเทพเจ้าเนปจูน (Fountain Of Neptune), วีรบุรุษเปอร์ซิอุสถือหัวเมดูซ่า (Perseus With The Head Of Medusa), รูปปั้นเดวิด ผลงานที่มีชื่อเสียงของ ไมเคิล แองเจโล่ จากนั้นเดินไปไม่ไกล ริมฝั่งแม่น้ำอาร์โน ท่านจะพบกับ สะพานเวคคิโอ (Vecchio) สะพานเก่าแก่ที่มีมีร้านขายทอง และอัญมณีอยู่ทั้งสองข้างสะพาน ให้เวลาท่านอิสระเลือกซื้อสินค้าทั้งของฝาก ของที่ระลึก รวมทั้งสินค้าแฟชั่นนําสมัย
    เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
    นำท่านเดินทางสู่ เมืองปิซ่า (Pisa) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.10 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในแคว้นทอสคานา ประเทศอิตาลี บริเวณจัตุรัสดูโอโมแห่งปิซ่าหรือ จัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี (Compo Dei Miracoli) ที่ประกอบด้วยกลุ่มอาคาร สถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ โดยเริ่มจากหอพิธีเจิมน้ำมนต์ (Baptistery of St. John) ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี พาท่านชม หอเอนเมืองปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่ใช้เวลาในการก่อสร้างกว่า 200 ปี โดยแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ช่วงแรกเป็นเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ.1173 ไม่ปรากฏชัดเจนว่าใครเป็นคนออกแบบ เมื่อสร้างไปได้ 3 ชั้น การก่อสร้างก็มีอันต้องยุติลง เพราะเมืองปิซ่าเข้าสู่ภาวะสงคราม ระหว่างการก่อสร้างช่วงแรก เพียงแค่ 5 ปี หลังจากเริ่มทำการก่อสร้างก็พบว่า หอคอยแห่งนี้ก็เริ่มเอนลงไปทางเหนือแล้ว โดยครั้งแรกที่สามารถสังเกตเห็นความผิดปกติของหอคอยแห่งนี้ก็ในช่วงที่มีการก่อสร้างเพิ่มเติมช่วงที่สอง แต่ทว่าสถาปนิก จิโอวานนี ดิ ซิโมเน ก็ยังคงเดินหน้าสร้างต่อ โดยปัจจุบันนี้ หอเอนเมืองปิซ่า ลาดเอียงลงมาประมาณ 13 องศาแล้ว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่า หอเอนมีโอกาสพังถล่มลงมาแน่นอน โดยทุกๆ 20 ปี หอคอยแห่งนี้จะเอนลง 1 นิ้ว และมีคนทำนายว่า หอคอยแห่งนี้จะพังถล่มลงมาในปี 2200 หากยังไม่มีใครหาทางป้องกันได้
    เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
    ที่พัก โรงแรมมาตรฐานยุโรป 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    8
    เจนัว - จตุรัส Piazza De Ferrari – บ้านโคลัมบัส - มิลาน - มหาวิหารดูโอโม มิลาน - ห้างสรรพสินค้ากลางเมืองมิลาน (Galleria Vittorio Emanuele II)

    เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
    เดินทางสู่เมือง เมืองเจนัว (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) ชม จัตุรัส Piazza De Ferrari ศูนย์กลางของเมือง Genoa มีน้ำพุขนาดใหญ่อยู่กลางจัตุรัส และโดยรอบก็จะเป็นอาคารสำคัญต่างๆ ของเมือง เช่น ธนาคาร, สำนักงานของรัฐบาล, Palazzo Ducale วังเก่าที่ปัจจุบันทำเป็นสถานที่แสดงงานศิลปะ และ Teatro Carlo Felice (Theatre Carlo Felice) โรงโอเปราที่มีรูปปั้นของคีตกวี นักไวโอลินระดับโลก Niccolo Paganini อนุสาวรีย์ Monumento A Garibaldi 
    ใกล้กันนั้น นำท่านชม บ้านคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (ด้านนอก) ในเมืองเจนัว ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นบ้านที่สร้างขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ 18 ซึ่งเป็นบ้านที่โคล้มบัสเติบโตขึ้นมา โครงเดิมน่าจะถูกทำลายระหว่างการทิ้งระเบิดที่เมืองเจนัวในปี ค.ศ. 1684
    เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
    จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองมิลาน (Milan) หรือที่คนอิตาเลียนเรียกว่า “ มิลาโน่ (Milano) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) มิลานเป็นเมืองหลักของแคว้นลอมบาร์เดีย เป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือใหญ่อันดับ 2 ของประเทศอิตาลี มีประวัติศาสตร์ศิลปะและวัฒนธรรมที่หลากหลายผ่านสถานที่สำคัญมากมาย เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองผู้นำแฟชั่นระดับแนวหน้าของโลก มีชื่อเสียงในการเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจการค้าแฟชั่นโมเดิร์นที่มีความทันสมัย  เช่นเดียวกับ ปารีส และ นิวยอร์ค อีกทั้งมิลานยังเป็นหัวใจด้านเศรษฐกิจของอิตาลีเพราะเป็นศูนย์กลางการ
    คมนาคมเขตอุสาหกรรมที่หนาแน่นที่สุดของประเทศและเป็นศูนย์กลางการเดินทางเข้าอิตาลี โดยเฉพาะรถไฟมาจากประเทศอื่นๆในยุโรป มีสถาปัตยกรรมที่เป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองมิลานที่สุดก็คือ “มหาวิหารดูโอโม่” (Duomo di Milano) 
    ชม มหาวิหารดูโอโม่ (Duomo di Milano) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมิลาน วิหารโอ่อ่าใหญ่โตอลังการ สถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคสีขาวเด่นสวยงาม เป็นอันดับ 3 ของโลก เริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1386  แต่ระหว่างการก่อสร้างก็พบกับปัญหา และอุปสรรคมากมาย ทั้งปัญหาการเมือง และการเงิน กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ก็ใช้เวลาไปถึง 579 ปี เปลี่ยนคนก่อสร้างไปหลายชั่วอายุคน แต่มีสถาปนิกที่คุมการก่อสร้าง ที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้นั่นก็คือ ลีโอนาโด นาวินชี ศิลปินชื่อก้องโลก วิหารนั้นมีการประดับประดาไปด้วยรูปปั้นกว่า 3,200 รูปที่สวยงาม และมียอดรวม 135 ยอด จนได้รับฉายาว่า “วิหารเม่น” บริเวณใกล้กันจะเป็น ห้างสรรพสินค้ากลางเมืองมิลาน (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่นี่เป็นห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ที่สุดในอิตาลี และเรียกได้ว่า เก่าแก่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมิลาน ศูนย์การค้าสุดหรูของผู้หลงใหลแฟชั่นและอาหารชั้นเลิศแห่งนี้
    Galleria Vittorio manuele II ตั้งอยู่ใกล้ๆกับ The Duomo 
    เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
    ที่พัก โรงแรมมาตรฐานยุโรป 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

  • วันที่
    9
    โคโม่ - ทะเลสาบโคโม่ - มหาวิหาร Santa Maria Assunta - สนามบินมิลาน

    เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
    จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ชมวิวที่สวยงามริมฝั่งทะเลสาบโคโมทะเลสาบแสนสวยของประเทศอิตาลี เป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สาม ของอิตาลี แต่มีชื่อเสียงด้านความสวยงามมาเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งรอบๆทะเลสาบจะมีเมืองตากอากาศกระจายตัวอยู่หลายแห่ง  เป็นทะเลสาบที่มีต้นกำเนิดจากธารน้ำแข็งในแคว้นลอมบาร์เดีย อิสระให้ท่านได้เดินเล่นชมเมือง และเก็บภาพบรรยากาศ 
    นำท่านชม มหาวิหาร Santa Maria Assunta หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Duomo di Como เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจหลักของเมือง โคโม อาสนวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับการเสด็จขึ้นสวรรค์ของพระแม่มารี และสร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 14 ถึง 18 ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในอาคารทางศาสนาที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของอิตาลีตอนเหนือ มหาวิหารโคโมตั้งอยู่ใกล้  ทะเลสาบโคโมภายในบริเวณที่งดงามของ Piazza Duomo แม้ว่าลักษณะสถาปัตยกรรมแบบโกธิกจะเป็นลักษณะเด่นแต่ในขณะเดียวกันมหาวิหารแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยองค์ประกอบแบบโรมัน เรเนซองส์ และบาร็อคอีกมากมาย
    ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบินมิลาน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)
    15.40 น.ออกเดินทางสู่ สนามบินเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยสายการบินซาอุเดีย เที่ยวบินที่ SV210 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 5.15 ชั่วโมง) (เวลาประเทศซาอุดิอาระเบีย ช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง)
    22.50 น.เดินทางถึง สนามบินเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย (เวลาท้องถิ่น) นำท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางสู่ประเทศไทย (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 3.10 ชั่วโมง)

  • วันที่
    10
    สนามบินเจดดาห์ - สนามบินสุวรรณภูมิ

    02.00 น.ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบินซาอุเดีย เที่ยวบินที่ SV844 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 8.15 ชั่วโมง)
    13.40 น.เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ

มื้ออาหารและที่พัก
วันที่
อาหารเช้า
อาหารเที่ยง
อาหารเย็น
โรงแรม
1
-
2
3-4 star European standard hotel or equivalent
3
3-4 star European standard hotels or equivalent
4
3-4 star European standard hotel or equivalent
5
3-4 star European standard hotel or equivalent
6
3-4 star European standard hotel or equivalent
7
3-4 star European standard hotel or equivalent
8
3-4 star European standard hotel or equivalent
9
-
10
-
ข้อตกลงและเงื่อนไข
  • ชำระเงินเต็มจำนวน

  • การจองนี้ยังไม่ใช่การยืนยันที่นั่ง  (เนื่องจากที่ว่างมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา) เจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการเช็คที่นั่งว่างและแจ้งกลับลูกค้าอีกครั้ง ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง

แพ็กเกจนี้รวม
  • ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ ชั้นประหยัด พร้อมคณะ รวมค่าภาษีสนามบิน และค่าภาษีน้ำมัน 
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระท่านละ ไม่เกิน 23 กิโลกรัม จำนวน 2 ใบ และถือขึ้นเครื่องไม่เกิน 7 กิโลกรัม
  • ค่ารถนำเที่ยวตามเส้นทางที่ระบุไว้ในโปรแกรมทัวร์ พร้อมคนขับรถ (กฎหมายไม่อนุญาตให้ขับรถเกิน 12 ช.ม./วัน)
  • โรงแรมที่พักตามระบุในรายการ หรือ เทียบเท่าในระดับเดียวกัน (ห้องละ 2 ท่าน) 
  • ค่าอาหารและค่าเข้าชม ตามที่ระบุในรายการ            
  • ค่ามัคคุเทศก์ผู้มีประสบการณ์นำเที่ยวคอยบริการและอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  • ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)
แพ็กเกจนี้ไม่รวม
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่ายุโรปหรือกลุ่มเชงเก้นวีซ่าและค่าบริการของศูนย์ยื่นวีซ่า โดยประมาณ 4,500-6,000 บาท ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนที่ทางสถานทูตกำหนด และไม่รวมค่าบริการยื่นวีซ่าของเจ้าหน้าที่ท่านละ 500 บาท *ชำระกับเจ้าหน้าที่วีซ่า ณ วันยื่น* ทั้งนี้ไม่รวมค่าธรรมเนียมวีซ่าคิวพิเศษอื่นๆ (การชำระค่าวีซ่าตามจริง เป็นวิธีประหยัดและคุ้มค่าที่สุด เราได้เลือกสรรค์สิ่งที่คุ้มค่าที่สุดให้ท่านแล้ว)
  • กรณีลูกค้าไม่สะดวกไปตามวันยื่นวีซ่าที่บริษัทกำหนด และต้องทำคิววีซ่าแยก ลูกค้าต้องชำระเงินในส่วนค่าบริการของศูนย์ยื่นวีซ่าก่อน เนื่องจากทางศูนย์ยื่นวีซ่าออกกฎใหม่ ต้องชำระค่าบริการทันทีในวันที่ทำการจองคิว ทั้งนี้หากจองแล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนวัน เปลี่ยนเวลา และไม่สามารถเรียกคืนค่าบริการได้
  • ค่าธรรมเนียมน้ำมัน และภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้น 
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าทำหนังสือเดินทาง , ค่าโทรศัพท์ , ค่าอินเตอร์เน็ต , ค่าซักรีด , มินิบาร์ในห้องพัก , ค่ากระเป๋าเดินทางหากเกิดการชำรุดหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง , ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว รวมถึงค่าอาหารพิเศษนอกเหนือจากที่ทางทัวร์กำหนด หรือการรีเควสอาหารพิเศษต่างๆ  เช่น อาหารเจ อาหารมังสวิรัติ อาหารอิสลาม อาหารทะเล เป็นต้น 
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าส่วนเกินจากที่ทางสายการบินกำหนด
  • ค่าจ้างของคนขับรถท้องถิ่น ท่านละ 3,500 บาท ชำระที่สนามบิน ณ วันเดินทาง 
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ (ตามมาตรฐานการให้ทิปวันละ 100 บาท/ท่าน/วัน) 
  • **ทั้งนี้ไม่ได้เป็นการบังคับ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของท่าน ในการบริการของหัวหน้าทัวร์**
  • ค่าพนักงานยกกระเป๋า ณ โรงแรมที่พัก (ทางบริษัทฯ ไม่ได้จัดให้แก่ท่านเนื่องจากป้องกันการสูญหายจากมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาในโรงแรมที่พักและเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้าห้องพักสำหรับทุกท่าน)
  • ค่าตรวจ RT-PCR TEST (ถ้ามี)
เงื่อนไขการยกเลิก
  • กรณีผู้เดินทางขอยกเลิกการเดินทาง
  • ยกเลิกการเดินทางมากกว่า 31 วันก่อนเดินทางทุกกรณี เก็บค่าบริการ 8,000 บาท และค่าใช้จ่ายตามจริงที่เกิดขึ้น เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าโรงแรมที่พัก เป็นต้น
  • ยกเลิกการเดินทางน้อยกว่า 30 วันก่อนเดินทางทุกกรณี เก็บค่าบริการทัวร์เต็มจำนวน
  • กรณีผู้เดินทางถูกปฏิเสธวีซ่าจากสถานทูต (วีซ่าไม่ผ่าน) และ กรณีผู้เดินทางเจ็บป่วย เป็นเหตุทำให้ไม่สามารถเดินทางได้
  • จะต้องมีใบรับรองแพทย์ (กรณีเจ็บป่วย) เพื่อยืนยันกับสายการบินและตัวแทนบริษัทที่ต่างประเทศ (ขึ้นอยู่กับดุลพินิจ) 
  • ค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถเรียกคืนได้ เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าธรรมเนียมวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่า (กรณีที่ท่านยื่นวีซ่าแล้ว) ค่าโรงแรมที่พัก ค่าอาหาร ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ เป็นต้น
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่า ทางสถานทูตไม่คืนค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น แม้ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านการพิจารณา
  • ค่าตั๋วเครื่องบิน ซึ่งตั๋วเป็นเอกสารที่สำคัญในการยื่นวีซ่า หากท่านไม่ผ่านการพิจารณา จะต้องชำระค่าตั๋วเครื่องบินตามจริง
  • ค่าโรงแรมที่พัก, ค่าอาหาร, ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ เนื่องด้วยบริษัทฯ ได้มีการชำระค่าใช้จ่ายให้ตัวแทนต่างประเทศแบบเหมาขาดก่อนออกเดินทางแล้ว ไม่สามารถคืนเงินได้
  • หากท่านผ่านการพิจารณาวีซ่าแล้ว และขอยกเลิกการเดินทาง ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยึดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100%
  • กรณีผู้เดินทางถูกปฏิเสธการเข้า-ออกประเทศ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงินค่าทัวร์ทั้งหมด
  • เมื่อออกเดินทางแล้ว หากท่านไม่ใช้บริการรายการใดรายการหนึ่ง หรือไม่เดินทางพร้อมคณะ ถือว่าท่านสละสิทธิ์ไม่อาจเรียกร้องค่าบริการหรือเงินค่าทัวร์คืนได้ 
  • หากท่านยกเลิกไม่ว่ากรณีใดๆ จะต้องชำระค่าส่วนต่างกรณีที่กรุ๊ปออกเดินทางไม่ครบตามจำนวน (กรุณาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม)
  • กรณีจองทัวร์เดินทางช่วง วันหยุดเทศกาล, วันหยุดนักขัตฤกษ์, วันหยุดยาวต่อเนื่อง หากท่านมีการยกเลิก ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เก็บค่าทัวร์ทั้งหมด โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น
หมายเหตุ

หมายเหตุ : กรุณาอ่านศึกษารายละเอียดทั้งหมดก่อนทำการจอง เพื่อความถูกต้องและความเข้าใจตรงกันระหว่างลูกค้าและบริษัทฯ  เมื่อท่านตกลงชำระเงินมัดจำหรือค่าทัวร์ทั้งหมดกับทางบริษัทฯแล้ว ทางบริษัทฯจะถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ทั้งหมด

  • บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเลื่อน, ยกเลิกการเดินทาง หรือปรับราคาค่าบริการขึ้น ในกรณีที่มีผู้เดินทางน้อยกว่า 15 ท่าน 
  • เมื่อท่านตกลงชำระเงินมัดจำหรือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านตัวแทนของบริษัทฯ หรือชำระโดยตรงกับทางบริษัทฯ ทางบริษัทฯ จะขอถือว่าท่านรับทราบและยอมรับในเงื่อนไขต่างๆที่บริษัทฯได้ระบุไว้ทั้งหมด
  • เนื่องจากตั๋วเครื่องบินเป็นตั๋วกรุ๊ปราคาพิเศษ ในกรณีที่ท่านไม่สามารถเดินทางพร้อมคณะไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ตั๋วเครื่องบินไม่สามารถ เลื่อนวันเดินทาง, เปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน หรือคืนเงินได้ 
  • หากสายการบินมีการปรับขึ้นของค่าภาษีสนามบิน หรือภาษีน้ำมัน ทางบริษัทจะเรียกเก็บเพิ่มตามจริง
  • หนังสือเดินทางต้องมีอายุเหลือการใช้งานมากกว่า 6 เดือน (นับจากวันเดินทางกลับ) และบริษัทฯ รับเฉพาะผู้มีจุดประสงค์เดินทางเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น
  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดทัวร์บางประการเมื่อเกิดเหตุสุดวิสัย อาทิเช่น เที่ยวบิน รายการท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม 
  • บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดกรณีความล่าช้าจากสายการบิน, สายการบินยกเลิกเที่ยวบิน, การประท้วง, การนัดหยุดงาน, การก่อจลาจล, โรคระบาด, ภัยธรรมชาติ, อุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัท 
  •  บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดสิ่งของสูญหาย อันเนื่องมาจากความประมาทของท่าน, เกิดจากการโจรกรรม และ อุบัติเหตุจากความประมาทของนักท่องเที่ยวเอง  
  • บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น และไม่สามารถคืนค่าใช้จ่ายต่างๆ ในกรณีที่ผู้เดินทางไม่ผ่านการพิจารณาในการตรวจคนเข้าเมือง-ออกเมือง ไม่ว่าจะเป็นกองตรวจคนเข้าเมืองหรือกรมแรงงานของทุกประเทศในรายการท่องเที่ยว อันเนื่องมาจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย การหลบหนีเข้าออกเมือง เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆ
  • บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านใช้บริการของทางบริษัทฯไม่ครบ อาทิ ไม่เที่ยวบางรายการ, ไม่ทานอาหารบางมื้อ เนื่องด้วยค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ทางบริษัทฯได้มีการชำระค่าใช้จ่ายให้ตัวแทนต่างประเทศแบบเหมาขาดก่อนออกเดินทางแล้ว
  • รายการนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทฯ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้สำรองโรงแรมที่พักในต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว โดยโรงแรมจัดในระดับใกล้เคียงกัน ซึ่งอาจจะปรับเปลี่ยนตามที่ระบุในโปรแกรม
  • การจัดการเรื่องห้องพัก เป็นสิทธิ์ของโรงแรมในการจัดห้องให้กับกรุ๊ปที่เข้าพัก โดยมีห้องพักสำหรับผู้สูบบุหรี่/ปลอดบุหรี่ โดยอาจจะขอเปลี่ยนห้องได้ตามความประสงค์ของผู้ที่พัก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมให้บริการของโรงแรม ไม่สามารถยืนยันได้  
  • กรณีมีผู้ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ นั่งรถเข็น (WHEELCHAIR), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด (กรุณาแจ้งให้ทางบริษัทฯ ทราบล่วงหน้าก่อนทำการจอง)
  • ประกันการเดินทาง บริษัทฯ ได้จัดทำแผนประกันภัยการเดินทางสำหรับผู้เดินทางไปต่างประเทศ แบบ Group tour โดยแผนประกันจะครอบคลุมอุบัติเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างช่วงที่เดินทาง และลูกค้าต้องทำการรักษาในโรงพยาบาลที่ประกันครอบคลุมการรักษาเท่านั้น (เข้ารับรักษาในรูปแบบอื่นๆ ประกันจะไม่ครอบคลุม) (เงื่อนไขตามกรมธรรม์ สอบถามได้กับเจ้าหน้าที่บริษัท)
  • ค่าประกันสุขภาพไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์ ท่านสามารถซื้อเพิ่มเติมเองได้
  • ทางบริษัทฯ ยึดตามประกาศของทางรัฐฯและประเทศที่เดินทางเป็นหลัก หากมีการเปลี่ยนแปลงหรือประกาศใดๆ ทางบริษัทฯจะคำนึงถึงความปลอดภัยและประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ
  • มัคคุเทศก์ พนักงาน หรือตัวแทนของทางบริษัท ไม่มีอำนาจในการให้คำสัญญาใดๆ แทนบริษัท เว้นแต่ มีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัทกำกับเท่านั้น
  • หากลูกค้าต้องจองตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ รถโดยสารภายในประเทศ หรือรถไฟ กรุณาแจ้งและสอบถามกับเจ้าหน้าที่ของบริษัททราบก่อนจองทุกครั้ง ไม่เช่นนั้นบริษัทจะไม่รับผิดชอบทุกกรณีหากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
  • ภาพที่ใช้ในโปรแกรมเป็นภาพที่ใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
  • เอกสารต่างๆ ที่ใช้ในการยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป ทางสถานทูตเป็นผู้กำหนดออกมา มิใช่บริษัททัวร์เป็นผู้กำหนด ท่านที่มีความประสงค์จะยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป กรุณาจัดเตรียมเอกสารให้ถูกต้อง และครบถ้วนตามที่สถานทูตต้องการ เพราะจะมีผลต่อการพิจารณาวีซ่าของท่าน บริษัททัวร์เป็นแต่เพียงตัวกลาง และอำนวยความสะดวกในการยื่นวีซ่าเท่านั้น มิได้เป็นผู้พิจารณาวีซ่าให้กับท่าน การผ่านหรือไม่ผ่านการพิจารณาขึ้นอยู่กับสถานทูต