ขึ้นยอดเขามองบลองก์ ชมหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส ชมทุ่งดอกไม้แห่งโพรวองซ์

21.30 น. สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 4 เคาท์เตอร์สายการบินไทย (เคาเตอร์ H-J ) พร้อมเจ้าหน้าที่คอยดูแลเช็คสัมภาระและบัตรที่นั่งบนเครื่อง

00.35 น. ออกเดินทางสู่กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี โดยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG940 
07.10 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติมัลเพนซา กรุงมิลาน หลังจากผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว
เดินทางสู่เมืองโตริโน่ “ตูริน” (130 กม.) เมืองเก่าของอาณาจักรโรมันตั้งแต่สมัยก่อนคริสตศักราช เข้าสู่บริเวณลานจตุรัสซาน คาร์โล “Piazza San Carlo” ซึ่งสร้างมาตั้งเเต่ศตวรรษที่ 17 เป็นที่ตั้งอาคารสถาปัตยกรรมเก่าอันสวยงามสถานที่สำคัญ เช่น โบสถ์ศซานตา คริสติน่า “Chiesa di Santa Cristina” และโบสถ์ ซาน คาร์โล San Carlo และรูปปั้นของ Emanuel Philibert ดยุ๊คแห่งซาวอย ในช่วงปี ค.ศ.1553-1580 เก็บภาพเป็นที่ระลึกกับพระราชวังมาดามา “Palazzo Madama” Piazza Castello ซึ่งเป็นวังเก่าในอดีต ที่อยู่ของพระญาติในราชวงศ์ซาวอย ถ่ายภาพกับวิหารดูโอโม่แห่งตูริน (Duomo di Torino) ที่สร้างมาตั้งเเต่ปี ค.ศ.1498 
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร 
บ่าย เดินทางสู่เมืองชาโมนิกซ์ (Chamonix) (170 กม.) เมืองที่ล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอล์ป ที่เป็นเมืองตากอากาศของชาวฝรั่งเศส มีการตกแต่งบ้านเรือนไว้อย่างสวยงาม อิสระให้ท่านเพลิดเพลินเดินเล่น ชมเมือง ชาโมนิกซ์ ในวันอากาศดี ท่านสามารถมองเห็นยอดเขามองบลองค์ อิสระให้ท่านเดินเล่นพักผ่อนตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: MERCURE CHAMONIX LES BOSSONS หรือระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารนําท่านนั่งเคเบิ้ลไฟฟ้าขึ้นสู่สถานี ไอกุย ดู มิดิ (Aiguille du Midi)  ด้วยความสูงระดับ 3,842 เมตร เป็นกระเช้าที่สูงที่สุดในโลก ถูกสร้างขึ้นเมือปี ค.ศ.1955 ใช้เวลานั่งกระเช้าประมาณ 45 นาที จนถึงสถานีไอกุย ดู มิดิ จากสถานีนี้ท่านจะสามารถมองเห็นยอดเขามองบลองค์ ยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรป และสูงเป็นอันดับที่ 11 ของโลก ที่มีความสูง 4,807 เมตร ในท่านอิสระเล่นหิมะหรือถ่ายรูปตามอัธยาศัย ท่านสามารถลองพิสูจน์ความกล้าโดยการยืนอยู่บนกระจก (Step into the Void) เปิดครั้งแรกในปี 2013 โคลงสร้างทั้งหมดเป็นแก้วชนิดพิเศษ มีพื้นเป็นแก้วใสสามารถมองเห็นหุบเหวด้านล่างได้อย่างชัดเจน ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางลงสู่สถานีชาโมนิก  
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย หลังอาหารเดินทางสู่หมู่บ้าน “อีวัวร์” (Yvoire) (90 กม.) “หนึ่งในหมู่บ้านสวยในฝรั่งเศส” ได้รับฉายาว่า “ไข่มุกแห่งทะเลสาบเจนีวา” (la Perle du Lac Léman) ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลสาบเจนีวาของฝรั่งเศสระหว่างเจนีวาและเมืองเอเวียง เป็นหมู่บ้านในยุคกลางที่สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 14 ศูนย์กลางของหมู่บ้านคือป้อมปราการและเชิงเทินยุคกลางในศตวรรษที่ 14 ที่ใช้ในการปกป้องหมู่บ้านซึ่งได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี ถนนที่เต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสันสวยงามตลอดทั้งปี แต่มีเสน่ห์เป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนเมื่อเต็มไปด้วยดอกไม้บานบนขอบหน้าต่างจากทุกระเบียงบ้าน จากนั้นเดินทางสู่เมืองอานซี (Annecy) (70 กม.) เมืองเล็กๆ น่ารัก ตามแบบชนบทฝรั่งเศส ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดโอต-ซาวอย (Haute-Savoie) หรือ อับปอร์ซาวอย อยู่ทางตอน เหนือของทะเลสาบอันซี (Annecy Lake) และเห็นวิวเทือกเขาแอล์ปในสวิตเซอร์แลนด์ ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับต้นๆ และยังได้รับสมญานามว่า "เวนิสแห่งเทือกเขาแอลป์" ใจกลางเมืองยังมี Palais de L’Isle เป็นปราสาทรูปหัวเรือโบราณ ปราสาทหลังนี้ตั้งอยู่กลางน้ำ และยังเป็นสัญลักษณ์ของอานน์ซี อีกด้วย ฝรั่งเศส อิสระให้ท่านเดินเล่นในตัวเมืองริมทะเลสาบตามอัธยาศัย 
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: MERCURE ANNECY CENTRE หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเดินทางสู่เมือง “ช็องเบรี” (Chambery) (52 กม.) เมืองหลวงเก่าแก่แห่งซาวอย (Savoie) ตั้งอยู่ในแคว้นโรห์น-แอลป์ เป็นอีกเมืองที่เสน่ห์ของประเทศฝรั่งเศสในเรื่องของความงดงามทางด้านสถาปัตยกรรมแบบสไตล์โกธิค ถ่ายภาพกับปราสาทช็องเบรี “Chateau de Chambery” ที่ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 11 สร้างขึ้นแบบโกธิค และชมลานน้ำพุช้าง (Elephants Fountain) ได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมือง จากนั้นเดินทางสู่เมืองเกรอน๊อบ (Grenoble) (58 กม.) เมืองหลวงแห่งจังหวัดอีแซร์ (Isère) ชมเมืองเกรอน็อบส์ที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์และแม่น้ำอีแซร์ไหลผ่าน ด้วยทัศนียภาพที่สวยงามทำให้เมืองนี้มีฉายา “Capital of the Alps” หรือ “เมืองหลวงแห่งเทือกเขาแอลป์” ชมสวน Jardin de Ville ของดยุ๊คแห่ง Lesdiguières สวนเก่าแก่ที่สุดในในเมืองเกรอน๊อบ สร้างเมื่อปีค.ศ. 1622 ภายในประดับด้วยดอกไม้และรูปปั้นเฮอร์คิวลีสในสีบรอนซ์ที่อยู่ตรงกลางสวน 
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย หลังอาหารเดินทางสู่เมืองอาวิญง (220 กม.) เมืองเก่าแก่สร้างมาตั้งแต่ 539 ปีก่อนคริสตศักราช ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโรน เคยอยู่ภายใต้การปกครองของโรมัน เมื่อเข้าสู่ตัวเมืองจะเห็นกำแพงยาวโอบล้อมเมืองเก่าไว้ด้านใน สร้างด้วยหิน มีความหนา 17 ฟุต อาวีญง ได้ถูกขนานนามว่า “เมืองแห่งพระสันตะปาปา” เพราะในอดีตเคยใช้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระสันตประปาถึง 9 พระองค์ นอกจากนี้อาวีญงยังเป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองในประเทศฝรั่งเศสที่ยังมีกำแพงเมืองเก่าที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ชมสะพานอาวีญง หรือสะพาน (Pont Saint-Bénézet) สร้างขึ้นระหว่างปี 1177 -1728
ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: HOTEL MERCURE PONT D'AVIGNON CENTRE หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารนำท่านเข้าชมพระราชวังของสันตะปาปา (Palais des Papes) เป็นพระราชวังสไตล์โกธิกที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยพื้นที่ 15,000 ตารางเมตร พระราชวังสมเด็จพระสันตะปาปาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก จากนั้นเดินทางสู่หมู่บ้าน “กอร์เดส” (Gordes) (45 กม.) ชมหมู่บ้านกอร์เดส เป็นหมู่บ้านที่ได้รับการโหวดให้เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส และสวยที่สุดในแคว้นโปรวองซ์ตัวเมืองที่น่ารักมี ถนนที่ปูด้วยหินแบบโบราณ ผ่านบ้านเรือนที่ได้รับการอนุรักษ์ รวมถึงโบสถ์และปราสาทเก่า ตัวปราสาทตั้งอยู่เหนือสุดของหมู่บ้าน ท่านสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาและ พื้นที่รอบๆ เมืองได้อย่างชัดเจน
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เดินทางสู่หมู่บ้าน “รูร์ซีญง” (Roussillon) (12 กม.) หมู่บ้านสีส้มแห่งโพรวองซ์ ที่มีจุดเด่นตรงที่บ้านเรือนสีสันสดใส ทั้งสีแดง สีเหลือง สีส้ม และสีชมพูที่ผสานเข้าด้วยกัน และตัดกันอย่างน่าทึ่งระหว่างสีเขียวของต้นสนกับหน้าผาสีแดง และสีฟ้าสดใส รูร์ซีญงยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน “หมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส” เดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย จากนั้นเดินทางสู่หมู่บ้าน “เล โบ เดอ โพรว็องซ์” (Les Baux de Provence) (19 กม.) ตั้งอยู่บนภูเขาในเขตเทือกเขาแอลป์ อีกหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส ที่ยังคงรักษาศิลปะและวัฒนธรรมโบราณโบราณเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ภายในหมู่บ้านโอบล้อมไปด้วยอาคารบ้านเรือน ซากปราสาทขนาดใหญ่ ร้านค้าที่ขายของที่ระลึก จากนั้นเดินทางกลับสู่เมืองอาวิญง (38 กม.)  
ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: MERCURE AVIGNON HOTEL หรือที่พักระดับใกล้เคียง 

เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารนำท่านเข้าสู่ ปงต์ ดู การ์ (Pont du Gard) (28 กม.) สะพานส่งน้ำอันยิ่งใหญ่และสวยงาม ปงต์ ดู การ์ เป็นสะพานส่งน้ำที่สร้างขึ้นโดยชาวโรมันในศตวรรษที่ 1 มีความโดดเด่นด้วยขนาดที่สูงถึง 49 เมตร และเป็นสะพานส่งน้ำโรมันที่สูงที่สุดในโลก มีความโดดเด่นในด้านสภาพการเก็บรักษาที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ทุกวันนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของอัจฉริยภาพเชิงสร้างสรรค์ของมนุษย์ เป็นเพียงตัวอย่างเดียวของสะพานโบราณสามชั้นที่ยังคงหลงเหลืออยู่จนทุกวันนี้ จากนั้นเดินทางสู่เมือง นีมส์ (Nimes) (34 กม.) เมืองเก่าแก่ตั้งแต่สมัยจักวรรดิโรมัน ตั้งอยู่ในแคว้นอ็อกซีตานี (Occitanie) ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและภูเขาเซเวนเนส (Cévennes) เก็บภาพสนามกีฬาโรมัน “Arena de Nimes” สร้างขึ้นมาสมัย 100 ปีก่อนตริสต์ศักราช มีอายุกว่า 2,000 ปี ปัจจุบันนี้ยังคงใช้เป็นสถานที่สำหรับจัดงานคอนเสิร์ตและประเพณี การต่อสู้วัวกระทิง ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1981 จากนั้นชม Maison Carrée หรือวัดโรมัน ถูกสร้างขึ้นในสมัยเดียวกับอารีน่า เป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของเมืองนีมส์ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสต์ศักราช ที่นี่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมสมัยจักรวรรดิโรมันที่ถูกค้นพบและถูกเก็บรักษาไว้ได้เป็นอย่างดีที่สุด 
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย หลังอาหารเดินทางสู่เมือง “อาร์ลส์” (Arles) (32 กม.) อาร์ลส์เป็นตัวอย่างที่ดีของการปรับตัวของเมืองโบราณให้เข้ากับอารยธรรมยุโรปในยุคกลาง มีอนุสรณ์สถานโรมันที่น่าประทับใจบางแห่ง โดยอนุสาวรีย์ที่เก่าแก่ที่สุด ได้แก่ สนามกีฬา โรงละครโรมัน มีอายุย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสต์ศักราช จิตรกรระดับโลก วินเซนท์ แวนโก๊ะ ได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองอาร์ลในช่วงปลายของชีวิต และได้สร้างผลงานชั้นยอดที่นี่จำนวนมาก เป็นภาพเขียน 200 ภาพ นำท่านเก็บภาพร้านกาแฟคาเฟ่ ลา นุย (Le Café La Nuit) ที่โด่งดัง เนื่องจากเป็นร้านกาแฟที่อยู่ในภาพวาดของแวนโก๊ะ จากนั้นเดินทางสู่เมือง เอ็ก ออง-โปรวองซ์ (Aix en provence) (70 กม.) ชม เมือง เอ็กซ์ ออง โพรว็องซ์ (Aix en Provence) เมืองเก่าแก่ทึ่มีความเจริญรุ่งเรืองตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 15 เป็นเมืองศูนย์กลางการศึกษาและการฟื้นฟูศิลปะในยุคเรเนสซองซ์ของฝรั่งเศส ตึกรามบ้านช่องต่างๆ ที่เก่าแก่แต่หรูหรานั้นส่วนใหญ่เป็นสถาปัตยกรรมยุคบารอค ศตวรรษที่ 17-18 ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี เข้าสู่จัตุรัสแปร์เซอร์ (Place des Precheurs) อันเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญ เช่น โบสถ์มาเดอลีน (Eglise de la Madeleine) และศาลยุติธรรม (Palais de Justice) รวมถึงตลาดและแผงขายสินค้าพื้นเมือง ชม วิหาร แซงต์ ซาเวียร์ (St.Sauveur Cathedral) สถานที่รวบรวมสถาปัตยกรรมอันหลากหลายตั้งแต่ ศตวรรษที่ 5-17 เดินเล่นบน ถนนกูร์ค มิคาโบ (Cours Mirabeau) ถนนสายสำคัญที่สุดของเมืองที่สองฟากถนนปลูกต้นไม้รื่นรมย์และประดับด้วยน้ำพุตลอดทาง
ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: GOLDEN TULIP AIX EN PROVENCE หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเดินทางสู่เมือง “วาล็องโซล” (Valensole) (69 กม.) ‘เมืองหลวงของภูมิภาคลาเวนเดอร์’ตั้งอยู่ใจกลางที่ราบสูงวาล็องโซลตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 500 เมตรทางใต้ของเทือกเขาแอลป์-เดอ-โอต-โพรวองซ์ ชมทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงสดใสโดยมีเทือกเขาแอลป์ที่ปกคลุมด้วยหิมะเป็นฉากหลัง วาลองโซลเป็นเมืองที่สวยงามในโพรวองซ์ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาที่มองเห็นหุบเขาลาเวนเดอร์ และเป็นสถานที่ที่ต้องไปชมเมื่อมาเยือนฝรั่งเศสตอนใต้ (หมายเหตุ ทุ่งดอกลาเวนเดอร์จะมีให้ท่านเห็นเฉพาะเดือนมิถุนายน – สิงหาคมเท่านั้น) นำท่านชมขั้นตอนการผลิตและเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองใน พิพิธภัณฑ์ล็อคซิแทน L'Occitane Museum Provence เข้าเยี่ยมชม The Unique World of L'Occitane en Provence ที่รวมเอาโรงงาน พิพิธภัณฑ์ และสวนขนาดใหญ่ มาไว้ในที่เดียวโรงงาน L’OCCITANE en Provence เดินทางสู่เมือง มัวร์ติเยร์ส เซนต์ มาเรีย (Moustiers-Ste-Marie) (31 ก.ม.) นำท่านชมหมู่บ้านน่ารักที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขา ที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับเครื่องเคลือบ “Faïence” ที่สวยงามเป็นที่ยอมรับจากทั่วยุโรป ตั้งอยู่ท่ามกลางลำธารที่ไหลผ่านภูเขาซึ่งแบ่งออกเป็นสองส่วนมีน้ำตกเล็กๆ อยู่ในหมู่บ้าน ช่วยสร้างบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ชมบ้านเรือน จากยุคกลางที่สวยงาม เสียงของแม่น้ำและน้ำพุที่ไหลผ่านหมู่บ้านทำให้เมืองมัวร์ติเยร์ส รู้สึกเหมือนหมู่บ้านแถบอัลไพน์ โบสถ์นอเทรอดาม คือส่วนสำคัญของหมู่บ้าน สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 ได้รับการบูรณะอย่างสวยงามในปีค.ศ.1928
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นเดินทางสู่ เมืองคานส์ (Cannes) เป็นเมืองของการท่องเที่ยวฝรั่งเศสตอนใต้ เป็นเมืองที่จัดงานที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก คือ เทศกาลเมืองคานส์ (Cannes Films Festival) เป็นเทศกาลที่มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1946 ถือเป็นเทศกาลภาพยนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเทศกาล หนึ่ง อาคารที่ใช้ในการจัดงานเป็นอาคารขนาดเล็กสูง 2-3 ชั้นในช่วงเทศกาล อาคารจึงจะได้รับการตกแต่งให้ดูเลิศหรูอลังการสักครั้งหนึ่ง ที่  ลานด้านหน้าอาคาร มีรอยประทับเท้าพร้อมลายเซ็นของดาราฮอลลีวู๊ด มีชื่อหลายคน หากใครที่คลั่งไคล้ดาราแล้วละก็พลาดไม่ได้ที่กับการวัดรอยมือดาราคนโปรดที่หน้าปาเล่ เด เฟสติวาล Palais des Festivals ที่เหล่าดาราชื่อดังทั้งหลายได้ประทับรอยมือไว้ให้เป็นที่ระลึก ผ่านชมท่าจอดเรือยอร์ชลำงามๆ ของบรรดามหาเศรษฐีทั้งหลาย จากนั้นเดินทางสู่เมืองนีซ(Nice) ชมโบสถ์นอร์ทเทรอดาม ของเมืองนีซ (BASILQUE NOTRE-DAME DE NICE) เป็นโบสถ์ที่ได้รับการออกแบบสไตล์โกธิก นำเข้าสู่จัตุรัสมาสเซนา (Place Massena) ที่ประดับด้วยน้ำพุ Fontaine du Soleil และย่าน LA PLANETA Events Nice ซึ่งเป็นลานกว้าง และเป็นย่านศูนย์การค้า ที่เห็นเป็นสไตล์ฝรั่งเศสผสมอิตาลี บริเวณนี้เต็มไปด้วยร้านอาหาร โรงแรม ร้านขายสินค้าแบรนด์เนม และห้างชื่อดังอย่าง Nice Etoile และ Galeries Lafayette อิสระทุกท่านเดินเล่นช้อปปิ้งตามอัธยาศัย 
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำท่นเข้าสู่ที่พัก
ที่พัก : PARK INN BY RADISSON BLU HOTEL หรือระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่หมู่บ้าน เซนต์พอล เดอ วองซ์ (Saint Paul de Vence) (19 กม.) หมู่บ้านเซนต์ พอล เดอ วองซ์ เป็นหมู่บ้านในยุคสมัยกลางของยุโรป ที่ยังคงสภาพดั้งเดิมไว้อย่างค่อนข้างสมบูรณ์ ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา และมีกำแพงหินล้อมรอบหมุ่บ้านแบบโบราณ ที่มีลักษณะคล้ายๆปราสาท ไว้ล้อมรอบ ทางเดินในหมู่บ้านจะเป็นเหมือนตรอกเล็กตรอกน้อยผสมปนเปกันไป ระหว่างบ้าน, ร้านค้า แกลเลอรี่ของศิลปิน รูปแบบการก่อสร้างเป็นแบบโบราณ  ที่ใช้หินในการก่อสร้างบ้าน ในหมู่บ้านได้ถูกปรับปรุงให้เป็นร้านค้า ร้านแสดงสินค้า พวกศิลปะ และหัตถกรรม เช่น เครื่องถัก ตุ๊กตาผ้าแต่งตัวแบบวัฒนธรรมอันเก่าแก่ สร้อยหิน รวมทั้งภาพวาด ต่างๆ สวยงามมาก จากนั้นนำท่านเดินทางสู่มลรัฐโมนาโค (33 กม.) รัฐอิสระที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ชมเมืองมอนติ คาร์โล เมืองหลวงของประเทศโมนาโค เป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองแคว้นตั้งอยู่บนหน้าผาสูง 60 เมตร เข้าสู่ลานหน้าพระราชวัง เก็บภาพพระราชวังแห่ง โมนาโค ซึ่งเป็นที่ประทับของประมุขแห่งรัฐโมนาโค
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเช้าชมพระราชวังแห่งโมนาโค(Prince's Palace of Monaco) ซึ่งเป็นที่ประทับของประมุขแห่งรัฐโมนาโคในปัจจุบัน พระราชวังของเจ้าชายแห่งโมนาโกเดิมเป็นป้อมปราการ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1215 และกลายเป็นทรัพย์สินและที่อยู่อาศัยของตระกูล Grimaldi ในปลายศตวรรษที่ 13 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของอำนาจอธิปไตยเหนือโมนาโก จนได้รับเอกราชในปี 1512 จากกษัตริย์แห่งฝรั่งเศส นำท่านชมห้องต่างๆที่สำคัญ เช่น The Court of Honour, The Hercules Gallery, The Hall of Mirrors, The Salon and the York Room, The Salon and the Louis XV room, The Throne Room ชมวิหารโมนาโค (Cathedral of Our Lady Immaculate) ที่สร้างในรูปแบบนี้โอโรมานซ์ เป็นที่ฝังพระศพของเจ้าหงเกรซ แห่งโมนาโกและเจ้าชายเรนิเยร์ พระสวามี ของมอนติคาร์โล เดินเล่นไปตามทางเดินในเมือง ซึ่งสองข้างทางเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนร้านค้า ที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมอันงดงาม จากนั้นเดินทางกลับสู่เมืองนีซ (21 กม.) เมืองในแคว้นโพรอว็องแอลป์โกตดาซูร์ (Provence-Alpes-Côte d'Azur) ถือว่าเป็นชายฝั่งที่สำคัญที่สุดของเฟรนช์ริเวร่า (French Riviera) ชมเมืองนีซ เมืองซึ่งอุดมไปด้วยสถาปัตยกรรม พิพิธภัณฑ์ ตลาด 
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: PARK INN BY RADISSON BLU HOTEL หรือระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเดินทางสู่เมืองเจนัว เมืองหลวงของแคว้นลิกูเรียของอิตาลี และเป็นเมืองใหญ่อันดับหกของอิตาลี เจนัวเป็นเมืองท่าที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในอดีต และเป็นหนึ่งในศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญของอิตาลี  
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร 
บ่าย เดินทางสู่ เซอร์ราวาเล เอ้าท์เล็ท Serravalle Designer Outlet เลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมมากมายในราคาพิเศษ เช่น Armani, Bally, Bulgari, Burberry, Calvin Klein, Camper, Diesel, Hugo Boss, L'Occitane, Lacoste, Loewe, Michael Kors, Polo Ralph Lauren, Samsonite, Swarovski, TAG Heuer, Timberland, Tommy Hilfiger, Versace, etc. จากนั้นนําท่านเดินทางสู่เมือง มิลาน (Milan) (94 กม.) เมืองหลวงทางอุตสาหกรรมและการค้าของอิตาลี และแบ่งปันตำแหน่งเมืองหลวงแห่งแฟชั่นระดับโลกร่วมกับปารีส ตั้งอยู่ในแคว้นที่ราบลอมบาร์ดี   
คํ่า บริการอาหารคํ่า ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง 
ที่พัก: NYX HOTEL MILAN หรือระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นําคณะชมลานจตุรัสบริเวณ มหาวิหารแห่งมิลานหรือมิลานดูโอโม สัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองซึ่งมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร สร้างขึ้นด้วย หินอ่อนสีขาวในศิลปะแบบโกธิคใช้เวลาสร้างนานกว่า 500 ปีปัจจุบันเป็นโบสถ์แคธอล์ลิกที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกและเป็นมหาวิหารใหญ่อันดับ 4 ของโลก สูง 157 เมตรกว้าง 92 เมตรเริ่มสร้างในปีค.ศ. 1386 ใช้เวลาก่อสร้าง นานถึง 500 ปีชมความงดงามยอดปราสาทที่มีปลายยอดแหลมกว่า 135 ยอด อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย จากนั้นออกเดินทางสู่สนามบิน (กรุณาตรงต่อเวลานัดหมาย) เพื่อให้ท่านได้มีเวลาทำ TAX REFUND คืนภาษีก่อนการเช็คอิน อาหารกลางวันอิสระตามอัธยาศัย
14.05 น. ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG941

05.55 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ / โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ