เช็คราคาและจองทัวร์ออสเตรเลีย 2568 ราคาถูก แพ็กเกจเที่ยวออสเตรเลีย

ทัวร์ออสเตรเลีย ประเทศเกาะขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

“ออสเตรเลีย” ถูกค้นพบโดยชาวยุโรปครั้งแรกในปีค.ศ. 1606 โดยชาวดัตซ์ นามว่า Willem Janszoon ผู้เป็นกัปตันเดินเรือ เมื่อเข้าสู้ ค.ศ. 1787 ก็มีคนเข้ามาตั้งถิ่นฐานเป็นจำนวนมาก ซึ่งนักโทษและบรรดาครอบครัวทหารจัดเป็นพวกแรกที่เข้ามาอยู่อาศัย จนกระทั่งในปี ค.ศ 1793 ก็เริ่มมีผู้อุปยบเสรีจากทั่วโลกเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ออสเตรเลียจึงมีภาษาพูดที่หลากหลายมากกว่า 260 ภาษา นอกจากภาษอังกฤษที่นิยมใช้มากแล้ว ภาษาจีนกลาง อิตาเลียน อาหรับ กวางตุ้ง และกรีก ก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน แม้กระทั่งชาวอะบอริจิน หรือชาวพื้นเมืองของออสเตรเลียก็ยังมีภาษาเป็นของตัวเอง ที่สำคัญออสเตรเลียยังจัดเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย จึงทำให้มีความหลากหลายทางธรรมชาติสูงมาก อีกทั้งมีสถานที่น่าสนใจอยู่เป็นจำนวนมาก สิ่งเหล่านี้จึงเป็นเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้ใครหลายคนติดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวออสเตรเลีย เพื่อมาสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากเดิม

สถานที่เที่ยวน่าสนใจในออสเตรเลีย ทัวร์ออสเตรเลีย

1. แนวปะการังยักษ์ (The Great Barrier Reef) “เกรตแบร์ริเออร์รีฟ” จัดเป็นแถวปะการังขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความยาวกว่า 2,000 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่กว่า 215,000 ตารางไมล์ หรือ 345,000 ตารางกิโลเมตร ถือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติขนาดมหึมาที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศ ซึ่งเป็นที่หล่อเลี้ยงสิ่งมีชีวิตจำนวนมากกว่า 6,000 ชนิด จนทำให้องค์การ UNESCO ประกาศให้สถานที่แห่งนี้เป็นมรดกโลกในที่สุด

2. โขดหินอูลูรูหรือหินแอร์ส (Ayers Rock) เป็นสถานที่ซึ่งมีลักษณะทางภูมิศาสตร์โดดเด่นที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ทั้งยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของค้างคาวจำนวนมาก ที่สำคัญยังเต็มไปด้วยสัตว์เลื้อยคลานมากถึง 73 สายพันธ์ รวมถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิด ที่สามารถพบได้ในออสเตรเลียเท่านั้น เช่น วัลลาบี้กระต่ายสีน้ำตาลแดง (Rufous Hare-Wallaby) ตุ่นมีถุงหน้าท้อง (Marsupial Mole) และจิ้งเหลนทะเลทรายยักษ์ (Great Desert Skink)

3. หุบเขาสายรุ้ง (Rainbow Valley) เขตอนุรักษ์ทางธรรมชาติที่แสนสวยงาม ด้วยวิวทิวทัศน์ของแนวโขดหินปูนหลากหลายรูปแบบที่กระจัดกระจายให้เห็นทั่วไปกว่า 100 กม. ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมักต้องการมาสัมผัสประสบการณ์ดวงอาทิตย์ขึ้นและลับขอบฟ้า แม้ในความจริงสถานที่แห่งนี้มีความสวยงามน่าดึงดูดทุกช่วงเวลาก็ตาม

4. เกาะจิงโจ้ (Kangaroo Island) ณ เกาะนี้ จัดเป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ป่าที่สามารถพบได้ในออสเตรเลียเท่านั้น ทั้งจิงโจ้ โคอาล่า วอลลาบี เพนกวิน ตัวกินมดหนาม โดยเฉพาะฝูงสิงโตออสเตรเลียที่กำลังใกล้เข้าสู่ช่วงเวลาศูนย์พันธ์อยู่ทุกขณะ ด้วยเหตุนี้ นักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติจึงมาเยือนเกาะแห่งนี้อยู่เป็นประจำ

5. อุทยานกากาดู (Kakadu National Park) สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่ง ที่ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ จากองค์การ UNESCO ซึ่งอุทยานแห่งที่มีพื้นที่กว้างขวางกว่า 200 กม. เต็มไปด้วยสัตว์ป่าหลากหลายสายพันธ์ นอกจากนี้ยังเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชาวอะบอริจิน จำนวนมากกว่า 500 คน ที่ยังสืบทอดวิถีชีวิตแบบดั่งเดิมเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

6. ซิดนีย์โอเปร่าเฮาส์ (Sydney Opera House) หากไม่มาเยือนสถานที่แห่งนี้ เพื่อปิดท้ายการเดินทางท่องเที่ยวถือว่ายังมาไม่ถึง เนื่องจากซิดนีย์ โอเปร่าเฮาส์ เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของออสเตรเลีย ที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก ซึ่งมีวิวทิวทัศน์ที่แสนสวยงามของอาคารทรงเรือใบ หรือสามารถเข้าไปนั่งฟังโอเปร่าก็ได้เช่นกัน

อาหารทัวร์ออสเตรเลีย มาแล้วต้องลอง

1. เนื้อจิงโจ้ นอกจากเป็นสัตว์ประจำชาติของออสเตรเลียแล้ว เนื้อจิงโจ้ก็จัดเป็นอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อด้วยเช่นกัน ซึ่งชาวพื้นเมืองอาบอริจินของออสเตรเลีย ชื่นชอบการทานเนื้อจิงโจ้มาเป็นเวลายาวนานหลายพันปีแล้ว ที่สำคัญเนื้อจิงโจ้ยังประกอบไปด้วยโปรตีนที่สูง แต่มีปริมาณไขมันต่ำมาก จึงนำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย อีกทั้งยังมีราคาไม่แพงอีกด้วย

2. เวจเจไมท์ (Vegemite) จัดเป็นอาหารราคาถูก แต่อุดมไปด้วยวิตามินซี มีลักษณะคล้ายคลึงกับเนยข้นสีดำ ถูกทำขึ้นมาจากยีสต์ เซเลอรี่ หอมหัวใหญ่ ถูกปรุงรสด้วยเกลือ มีรสชาติขมเล็กน้อย มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งชาวออสซี่นิยมทานกันทุกเพศทุกวัย โดยนำมาทากับขนมไป ผสมกับซุปและสลัด หรือนำไปผสมในอาหารอื่น ๆ ก็ได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้เวจเจไมท์ จึงถูกผลิตขึ้นมาเป็นจำนวนหลายล้านกระปุก

3. เค้กลามิงตัน (Lamington cake) จัดเป็นเค้กสัญชาติออสเตรเลียอย่างแท้จริง มีรูปทรงสีเหลี่ยมคล้ายลูกเต๋า เนื้อเค้กเป็นแบบสปองจ์ ด้านนอนถูกเคลือบด้วยช็อกโกแลต พร้อมโรยด้วยเกล็ดมะพร้าวแห้ง ซึ่งพ่อแม่ชาวออสซี่นิยมทำเค้กชนิดนี้ในงานวันเกิด หรืองานปาร์ตี้ของเด็กอายุ 1-8 ปี

4. บิสกิต Anzac Biscuits บิสกิตชนิดนี้แตกต่างจากทั่วไป ตรงที่ส่วนผสมหลัก ได้แก่ข้าวโอ๊ต แป้งสาลี มะพร้าวแห้ง น้ำตาบ เนย โกลเด้นไซรัป (น้ำเชื่อจากผลไม้แท้ 100%) และผงเบกกิ้งโซดา ซึ่งถูกคิดขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 จากจุดเริ่มต้นที่ต้องการขนมที่สามารถทำได้ง่ายและไว้ได้นาน แม่บ้านชาวออสซี่จึงทำบิสกิตชนิดนี้ส่งไปให้ทหารที่ปฏิบัติภารกิจไว้กินแก้หิวและเสริมสร้างกำลังใจ

5. พายเนื้อ ออสเตรเลียมีแหล่งเลี้ยงวัวคุณภาพดีอยู่หลายแห่ง เมนูที่ทำจากเนื้อวัวจึงค่อนข้างมีชื่อเสียงมาก พายเนื้อเองก็เช่นกัน ซึ่งใส้พายชนิดนี้ถูกทำขึ้นจากเนื้อวัว มีทั้งแบบเนื้อเป็นชิ้นและเนื้อบด นำมาผสมกับน้ำเกรวี่สูตรลับเฉพาะของแต่ละร้าน

เรื่องราวน่ารู้ เตรียมความพร้อมก่อนไปเที่ยวทัวร์ออสเตรเลีย

1. ใส่ใจกับคำเตือนที่เขียนไว้บนป้ายตามชายหาด ทะเลของออสเตรเลียกับทะเลไทยนั้น ไม่สามารถนำมาเทียบกันได้ โดยเฉพาะในเรื่องความอันตราย ซึ่งทะเลออสเตรเลียมีอยู่เยอะมาก ทั้งฉลาม แมงกะพรุนมีพิษ จระเข้าน้ำเค็มขนาดยักษ์ กระแสน้ำต่าง ๆ ไปจนถึงสัตว์อีกนับไม่ถ้วนที่สามารถก่อให้เกิดอันตรายได้ง่าย ๆ แต่หากใส่ใจป้ายเตือนดีแล้ว ทะเลออสเตรเลียถือว่าเป็นสถานที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว

2. ไม่ควรให้ทิป ที่ออสเตรเลีย คนไม่ค่อยนิยมให้ทิปกันมากนัก เนื่องจากทีนี่ถือคติว่าพนังงานได้รับค่าจ้างที่เหมาะสมเพียงพอกับงานที่ทำอยู่แล้ว แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปการให้ทิปก็มีให้เห็นอยู่บ้างตามเมืองใหญ่ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องให้ทิปพร่ำเพรื่อเหมือนกับที่อเมริกา

3. อย่าพูดคำว่า Root เด็ดขาด ที่ออสเตรเลียคำว่า Root จัดเป็นคำที่มีความหมายหยายคายมาก ซึ่งความก็ไม่ต่างจากประโยคที่ขึ้นต้นด้วย F**k ดังนั้น ไม่ควรหลุดปากพูดในที่สาธารณะเด็ดขาด เพราะหากโดนมองด้วยสายตาอาฆาตแค้นได้ หรือหากโชคไม่เข้าข้างก็ถึงขึ้นเจ็บตัวกันได้เลย

4. ห้ามให้อาหารและสัมผัสหมาป่าดิงโก้ เวลาออกไปเที่ยวนอกเมืองใหญ่ เช่น ปิกนิก ก็สามารถพบเจอกับหมาป่าดิงโก้ได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้จะมีหน้าน่าเอ็นดูแต่ยังไงก็ถือว่าเป็นสัตว์ป่า ดังนั้น การให้อาหาร หรือเข้าใกล้มากเกินไป ก็อาจโดนทำร้ายเอาได้

5. พกหมวก ร่ม หรือครีมกันแดดติดตัวไว้เสมอ แสงแดดที่ออสเตรเลียรุนแรงมาก ประกอบกับมีรังสี UV ในระดับสูง เป็นเหตุผลที่ทำให้คนออสซี่มีอัตราป่วยเป็นมะเร็งผิวหนังเยอะมาก ดังนั้น ต้องห้ามลืมพวกหมวก แว่น ร่ม หรือครีมกันแดดติดตัวไปด้วยเสมอ เมื่อรู้ตัวว่าต้องออกเดินกลางแจ้งโดนแดดบ่อย

ตรวจเช็คสภาพอากาศก่อนออกเดินทางเที่ยวทัวร์ออสเตรเลีย ที่ออสเตรเลียมี 4 ฤดูกาลดังนี้

1. ฤดูใบไม้ผลิ ช่วงเดือนกันยายน - เดือนพฤศจิกายน มีอากาศกำลังดีไม่ร้อนไม่หนาว ดอกไม้บานสวยงามในช่วงนี้

2. ฤดูร้อน ช่วงเดือนธันวาคม - เดือนกุมภาพันธ์ มีอากาศร้อนและแห้งแล้งสูงมาก บางพื้นที่ร้อนจัดและอาจเกิดไฟป่า

3. ฤดูใบไม้ร่วง ช่วงเดือนมีนาคม - เดือนพฤษภาคม อากาศเริ่มเย็นลงตามระดับ ส่วนตามเมืองชายฝั่งทางตอนใต้และเมืองในเขตป่ามีฝนจะตกชุก จนทำให้มีท่วมเกิดขึ้น

4. ฤดูหนาว ช่วงเดือนมิถุนายน - เดือนสิงหาคม อากาศค่อนข้างเย็น ไปจนถึงหนาวจัด มีหิมะตกบนเขตภูเขาสูงทั่วไป

ของฝากจากทัวร์ออสเตรเลีย

1. ถั่วแมคคาเดเมีย (Macadamia nut) และผลไม้ ถั่วแมคคาเดเมียจากออสเตรเลีย มีให้เลือกหลากหลายรสชาติ ทั้งรสชาติแบบออริจินอล เคลือบน้ำผึ้ง เกลือยและวาซาบี เป็นต้น มีขายแบ่งเป็นขีด หรือแบบกิโล ยิ่งซื้อเยอะก็ยิ่งลดเยอะ ส่วนผลไม้นั้น ก็ได้แก่ เชอร์รี่ ลูกพลัม พีช เนทารีน ซึ่งผลไม้พวกนี้ที่ไทยขายแพงมาก

2. ไวน์พื้นเมือง (Local Wine) ไวน์จัดเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพมากหากกินอย่างถูกต้อง ซึ่งไวน์รสชาติดีที่ออสเตรเลียมี ก็มีทั้ง White Wine, Red Wine Wine หรือสามารถซื้อไวน์ขึ้นชื่อจาก Yarra Valley ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน เพราะทำจากองุ่นที่ปลูกจากไร่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง

3. น้ำผึ้งมานูก้า Manuka Honey น้ำผึ้งชนิดนี้ มีคุณสมบัติเหนือว่าน้ำผึ้งทั่ว ๆ ไป เนื่องจากผลวิจัยระบุว่ามีสรรพคุณช่วยรักษาร่างกายได้จากภายในสู่ภายนอก ทั้งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ชะลอความเสื่อมสภาพของผิวพรรณ นอกจากนี้ยังมีวิตามินและเกลือแร่มากกว่าน้ำผึ้งทั่วไปถึง 4 เท่า

4. ผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวต่างๆ ออสเตรเลียขึ้น ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีแดดแรงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ประชาชนในประเทศมีอัตราป่วยเป็นมะเร็งผิวหนังสูงในระดับต้น ๆ ของโลก จึงทำให้ที่นี่มีผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวคุณภาพเยี่ยมให้เลือกซื้อมากมาย โดยเฉพาะสินค้าจากแบรนด์ David Jones เหมาะกับซื้อไปเป็นของฝากอย่างยิ่ง เช่น ครีมบำรุงผิว ซึ่งจัดเป็นตัวเลือกลำดับต้น ๆ

5. ที่เปิดขวดจากถุงอัณฑะจิงโจ้ ไม่ต้องกังวลว่าว่าของฝากชนิดนี้ หากซื้อมาแล้วเป็นการทารุณกรรมสัตว์มีกระเป๋าหน้าท้องอย่าง “จิงโจ้” หรือไม่ เนื่องจากที่เปิดขวดชนิดนี้มีวางขายอยู่ทั่วไป ซึ่งเป็นไปตามกฎระเบียบขององค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่าแล้ว จัดเป็นของฝากที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง