เช็คราคาและจองทัวร์สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2568 ราคาถูก แพ็กเกจเที่ยวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ทัวร์สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมืองธุรกิจระดับโลกและศูนย์กลางการท่องเที่ยว

ชีค คาลีฟะฮ์ บิน ซายิด บิน สุลฏอน อัลนะฮ์ยาน แห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ทรงประกาศว่า UAE มีแผนการส่งยาวอวกาศไปเยือนดาวอังคารให้ได้ โดยมีกำหนดการปล่อยยานอวกาศหนัก Hope น้ำหนัก 1.5 ตัน ภายในปี 2020 และจะเดินทางถึงดาวอังคารให้ได้ในปี ค.ศ. 2021 ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นศักราชของการสำรวจอวกาศและเฉลิมฉลองปีแห่งการก่อตั้งประเทศ ในวาระครบรอบ 50 ปี

ทว่า โครงการ Hope ก็เป็นเพียงแค่ก้าวแรกของการสำรวจอวกาศของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE เท่านั้น เพราะยังมีโครงการต่าง ๆ ที่ถูกวางแผนออกมาอีกมาก เช่น เปิดรับสมัครนักบินอวกาศ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการคัดเลือกไปแล้วกว่า 3,000 คน และ 1 ใน 4 ล้วนเป็นผู้หญิง

ที่สำคัญ ภายในปี ค.ศ. 2117 UAE ก็ได้ตั้งเป้าไว้อีกว่า ประเทศของพวกเขาต้องสามารถไปตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคารให้จงได้ ทำให้ ณ ตอนนี้ มีการริเริ่มโครงการ Mars City เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งเป็นการจำลองการใช้วิตบนดาวอังคาร โดยจะมีการเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2020

สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

1. ตึกเบิร์จคาลิฟา (Burj Khalifa) ตึกที่มีระดับความสูง 829.8 เมตร ที่สามารถโค่นแชมป์ตึกที่มีความสูงที่สุดในโลกอย่าง ตึกไทเป 101 มาครองได้ ซึ่งตึกแห่งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองดูไบ โดยนักท่องเที่ยวที่มาเยือนสามารถขึ้นลิฟท์ที่มีความเร็วที่สุดในโลก เพื่อขึ้นไปชมวิวเมืองแบบ 360 องศายังชั้นบนสุดของตึกได้

2. คลองดูไบ คลองแห่งนี้ คือเวิ้งน้ำทะเลธรรมชาติที่ไหลมาจากอ่าวเปอร์เซีย ที่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน ซึ่งคลองดูไบนั้น นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือเพื่อชมความงามของ 2 ฝากฝั่งได้ โดยเฉพาะในตอนเย็นการล่องเรือก็จะยิ่งมีความสวยงามมากขึ้น ด้วยแสงสีจากตึกสูงใหญ่ภายในเมือง ผสมผสานกับเสียงบทสวดของคนที่นี่ และเมื่อล่องเรือจนสุดทางแล้ว ก็ลงเดินต่อไป เพื่อหาซื้อของทานได้ที่ตลาดดูไบได้อีกด้วย

3. หมู่เกาะต้นปาล์ม (Plam Island) สุดยอดอภิมหาโปรเจคส์ ด้วยการถมทะเลให้กลายเป็นกาะเทียมรูปต้นปาล์มจำนวน 3 เกาะ โดยภายในเกาะนั้น ก็จะประกอบไปด้วยที่พัก ร้านค้า ภัตตาคาร รวมทั้งสำนักงานต่าง ๆ ซึ่งจัดเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก ทั้งนี้ โปรเจคส์ดังกล่าว ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับการอยู่อาศัยในอนาคต ที่มีพื้นที่จำกัดขึ้นเรื่อย ๆ

4. สวนดอกไม้ดูไบ (Dubai Miracle Garden) ถูกจัดอันดับให้เป็นสวนที่มีจัดดอกไม้โครงสร้างใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งส่วนแห่งนี้ เกิดจากความร่วมมือระหว่าง ดูไบ มิราเคิล การ์เดน และสายการบินเอมิเรตส์ ที่มีการจัดดอกไม้ขึ้นเป็นรูปเครื่องบินแอร์บัส เอ 380 ขนาดเท่าของจริง ด้วยการสร้างขึ้นจากวัสดุรีไซเคิล และดอกไม้สดรวมถึงพรรณพืชเป็นจำนวนกว่า 500,000 ต้น

5. สวนสนุกในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก (Ferrari World Theme Park) สวนสนุกในร่มแห่งแรกนี้ ถูกจัดอันดับว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่ถูกออกแบบมาได้อย่างมีเอกลักษณ์โดดเด่น ด้วยการใช้ตราของเฟอร์รารี่ขนาดมหึมากลางหลังคาสีแดงสด มีขนาดคลอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดกว่า 200,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งภายในสวนสนุกก็มีกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย โดยเฉพาะการแข่งขัน F1 บนเครื่องเล่นสุดหวาดเสียว รถไฟเหาะที่เร็วที่สุดในโลก มีความเร็ว 240 กิโลเมตร/ชั่วโมง สูง 52 เมตร ที่สำคัญยังมีสินค้านานาชนิดจากเฟอร์รารีให้เลือกซื้อติดมือกลับไปอีกด้วย

เมนูอาหารสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และต้องลองเมื่อได้เที่ยวทัวร์สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ผลจากการเป็นประเทศทะเลทราย จึงทำให้การปลูกพืชทำได้อย่างจำกัด อาหารส่วนใหญ่ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เลยเน้นหนักไปที่เนื้อสัตว์ ธัญพืช เป็นหลัก ดังนั้น เมนูอาหารหลายประเภทจึงมีการใช้ ปลา ข้าว เนื้อสัตว์ต่าง ๆ เช่น เนื้อแพะ เนื้อวัว และเนื้อแกะ ที่มักจะเสิร็ฟคู่พร้อมกับไข่ ชีส หรือขนมปัง
1. Kebab Kashkash เมนูอาหารจานเดียว ซึ่งประกอบไปด้วยเนื้อสัตว์ ที่นำไปเคี่ยวในซอสมะเขือเทศ และเครื่องปรุงนานาชนิด มีรสชาติค่อนข้างเผ็ด
2. Harees อาหารจานนี้มีรสเค็มนำ แต่ก็มีความกลมกล่อมลงตัว เพราะใช้เนื้อสัตว์และข้าวสลี ที่นำมาผสมกับเกลือและเครื่องเทศต่าง ๆ
3. Shawarma แซนวิชเนื้อแกะ ซึ่งบางร้านก็อาจมีการใช้เนื้อไก่ หรือเนื้อวัว
4. Ghuzi เมนูอาหารจานเดียวที่ทำมาจากถั่ว ข้าว เนื้อแกะ หรือเนื้อวัวย่าง
5. Falafel ถือเป็นเมนูอาหารเรียกน้ำย่อยที่มีชื่อเสียงโดงดัง ในประเทศแถบตะวันออกกลาง และยังถือเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมที่สุดอีกด้วย

เรื่องราวน่ารู้ก่อนเตรียมตัวไปเที่ยวทัวร์สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

1. ผู้หญิงที่ต้องการไปเยือนมัสยิด ต้องปกปิดร่างกายให้มิดชิด หรือถ้าต้องไปเยือนทางตอนเหนือของประเทศ (Ajman, Sharjah, Fujairah และ Ras Al Khaimah) ก็ต้องระวังเรื่องการเปลือยเข่า หรือหัวไหล่
2. ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีการแสดงความรักและความโรแมนติก ด้วยคำพูดและกิริยาท่าทาง แต่การแสดงออกในที่สาธารณะถือเป็นเรื่องไม่สุภาพอย่างยิ่ง ส่วนคู่รักที่แต่งงานแล้วอนุญาตให้จับมือกันได้
3. ขณะอยู่ในพื้นที่สาธารณะ ให้ระวังคำพูดคำจาไว้ด้วย ซึ่งการพูดจาสบถในที่สาธารณะ หรือการกล่าวถึงองกรณ์ใดใดก็ตามในทางเสียหาย อาจทำให้โดนปรับได้ในโทษฐานใส่ร้ายป้ายสี
4. สำหรับประเทศแถบตะวันออกกลางแล้ว ต้องเอ่ยถามก่อนว่าสามารถถ่ายรูปได้หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นผู้หญิงชาวอาหรับด้วยแล้ว ซึ่งในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นั้น มีความเชื่อว่ากล้องถ่ายรูปสามารถสูบวิญญาณของผู้คนได้
5. เวลารับประทานอาหารพื้นบ้าน ต้องใช้มือขวาในการกิน หรือหากถูกเชิญให้ไปทานอาหารร่วมกับชาวอาหรับ ต้องระลึกไว้เสมอว่าเวลาอิ่มต้องเหลืออาหารอยู่บนจานเล็กน้อย
6. ตามหลักของศาสนาอิสลาม ดนตรีและการเต้นรำคืออบายมุข และมีจุดประสงค์เพื่อนำมาใช้ในวาระโอกาศพิเศษเท่านั้น และนักท่องเที่ยวเองก็ไม่ควรเต้นตามที่สาธารณะ ยกเว้นว่ามีการจัดงาน หรืออยู่ในบริเวณที่มีรั้วรอบปกปิดอย่างมิดชิด

ตรวจเช็คสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มี 2 ฤดูกาลดังนี้

1. ฤดูร้อน (พฤษภาคม - กันยายน) อากาศร้อนจัดและมีความชื้นสูง อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 32-48 องศาเซลเซียส
2. ฤดูหนาว (ตุลาคม - เมษายน) อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 15-30 องศาเซลเซียส

เมื่อมาเที่ยวทัวร์สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ของฝากที่ควรซื้อจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

1. ช็อคโกแลต ที่ผสมถั่วต่างๆ มีให้เลือกหลากหลายยี่ห่อ และมีแต่ละยี่ห่อก็มีรสชาติกลมกล่อม หอมมันส์ ส่วนตัวช็อคโกแลตก็มีความเข้มข้น ไม่หวานจนเกินไป
2. โหลประดับทราย เป็นโหลแก้วที่มีการประดับประดาด้วยทรายมากกว่า 7 สี ซึ่งผลงานแต่ละชินนั้น ถูกทำขึ้นมาอย่างประณีต ทำให้กว่าจะสร้างเสร็จแต่ละใบก็ใช้เวลานานพอสมควร ซึ่งเหมาะกับการซื้อกลับไปตกแต่งบ้านอย่างยิ่ง
3. ทองดูไบ ดูไบขึ้นชื่อเรื่องทองคำมาก ๆ เนื่องจากที่นี่มีตลาดทองคำปลอดภาษีตั้งอยู่ ซึ่งถือเป็นตลาดทองรูปพรรณที่มีขนาดที่สุดในตะวันออกกลางอีกด้วย
4. น้ำมันหอมระเหยเปลือกไม้ ทันทีที่ออกมาสู่ย่านชุมชน นักท่องเที่ยวก็จะได้กลิ่นน้ำนมันหอมเหล่านี้ตลอดเวลา ซึ่งเหมาะกับการซื้อไปเป็นของฝากมาก เพราะมีกลิ่นไม่ฉุน และยังช่วยให้สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความดั่งเดิมของดูไบได้ดีเช่นกัน
5. ผ้าคลุมไหล่พัชมีนา เป็นผ้าคลุ่มไหล่แบบดั่งเดิม มีลวดลายมากมายและถูกทำขึ้นอย่างประณีต ซึ่งผู้หญิงสามารถนำมาใช้เป็นผ้าพันคอติดตัวเวลาไปเที่ยวมัสยิดได้ เพราะที่ดูไบมีความเคร่งครัดเรื่องการแต่งกายของผู้หญิงพอสมควร
6. ช็อคโกแลตนมอูฐ ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นเจ้าแรกของโลกที่ใช้นมอูฐมาทำเป็นช็อคโกแลต ซึ่งนมอูฐนั้น ก็อุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่มากกว่านมวัวถึง 5 เท่า ที่สำคัญยังมีอินซูลินมากกว่า แต่มีปริมาณไขมันและแลคโตสน้อยกว่านมวัวอีกด้วย จึงทำให้ผู้คนที่นี่นิยมดื่มนมอูฐมากกว่านมวัวนั่นเอง