ทัวร์เอเชียกลาง 5 ประเทศบนเส้นทางสายไหม โปรโมชั่น บินภายใน 15 วัน 13 คืน

ทัวร์เอเชียกลาง 5 ประเทศบนเส้นทางสายไหม โปรโมชั่น บินภายใน

บินตรง เที่ยวเต็มวัน ฟรีประกันการเดินทาง ฟรีน้ำหนักกระเป๋าตามที่สายการบินกำหนด ฟรีวีซ่า รวมค่าเข้าสถานที่เที่ยว
รายละเอียด

ทัวร์เอเชียกลาง 5 ประเทศบนเส้นทางสายไหม โปรโมชั่น บินภายใน 15 วัน 13 คืน เดินทางโดยสายการบินเติร์กมินิสถานแอร์ไลน์ อาชกาบัต (เติร์กเมนิสถาน) นิสา หลุมไฟนรก (Door to Hell) ดาโชกุซ คีวา (อุซเบกิสถาน) อูร์เก้นช์ ทาชเคนต์ คูจานด์ (ทาจิกิสถาน) อิสตาราฟชาน ไอนี เพนจิเค้นท์ แอนชอพพาส ดูชานเบ ฮิสซาร์ อัลมาตี (คาซัคสถาน) ทะเลสาบ Issyk Lake บิชเคก (คีร์กิซสถาน) อุทยานแห่งชาติอลา อาร์ชา โทกโม๊ค 


รหัสทัวร์ : GOKG8580
 อาชกาบัต, เติร์กเมนิสถาน
สายการบินเติร์กเมนิสถานแอร์ไลน์
วันที่เดินทาง :
05 เม.ย. 2568 ถึง 19 เม.ย. 2568 ช่วงเวลาอื่น
ราคาเริ่มต้น
USD 5,466
ทำไมต้องจองทัวร์กับเรา
  • ราคาสุดท้ายไม่บวกเพิ่ม
  • รับประกันราคาที่ดีที่สุด
ติดต่อสอบถาม
02 001 5855
จันทร์ - เสาร์ 09:00 น. - 18:00 น.
ตารางการเดินทาง
  • วันที่
    1
    กรุงเทพมหานคร – อาซกาบัต (ประเทศเติร์กมินิสถาน)

    10.00 น.    คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน เคาน์เตอร์สายการบินเติร์กมินิสถาน แอร์ไลน์ส ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
    13.00 น.    ออกเดินทางสู่สนามบินอาชกาบัต โดยเที่ยวบิน T5 648 (ใช้เวลาบินประมาณ 7.50 ชั่วโมง) สายการบินมีบริการ อาหารกลางวันบนเครื่องบิน
    18.50 น.    เดินทางถึงสนามบินอาชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถาน นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร 
    พร้อมดำเนินการเรื่อง Visa on arrival  นำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว Archabil Hotel Ashgabat (คืนที่ 1)

  • วันที่
    2
    อาชกาบัต

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
    นำท่านชมมัสยิดและสุสานของเติรก์ เมนบาชิ (Spiritual Mosque and Mausoleum of Turkmenbashi) เป็นสถานที่ฝังศพของอดีตผู้นำ นายซาปามีรัท นิยาซอฟ (Saparmyrat Niyazov) ซึ่งถูกขนานนามเรียกว่า “เติร์กเมนบาชิ” (Turkmenbashi) ได้เวลานำท่านผ่านชม ทำเนียบประธานาธิบดี (The Presidential Palace) อาคารในสถาปัตยกรรมร่วมสมัย สะท้อนถึงมรดกทางสถาปัตยกรรม และ วัฒนธรรมที่สืบทอด จากเปอร์เซียโบราณ ผ่านชมอาคารรัฐสภา (Turkmen Parliament Building) ผ่านชมมัสยิดอาร์โตกรูล (Artogrul Gazy) ซึ่งตั้งชื่อตามชื่อบิดาของบุรุษผู้ยิ่งใหญ่อย่างออสมาน กาซี ผู้ก่อตั้งจักรวรรดิออตโตมาน
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันในโรงแรม
    บ่าย นำท่านเที่ยวชมจัตุรัสอิสรภาพ (Independence Square) เป็นอนุสาวรีย์ที่แสดงถึงการประกาศอิสรภาพของ ประเทศโดยมีรูปปั้นของอดีตผู้นำของประเทศในยุคต่างๆ และมีการตกแต่งด้วยน้ำพุอย่างสวยงาม บริเวณจัตุรัสเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญ เช่น พระราชวังของประธานาธิบดีเติร์กเมนบาชิ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงกลาโหม (หากท่านต้องการถ่ายภาพ อาจมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ซึ่งไม่รวมในโปรแกรม) นำท่านเที่ยวชมเมืองอาชกาบัต(Ashgabat) หรือที่รู้จักในนาม “เมืองแห่งความรัก” เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศเติรก์เมนิสถาน ตั้งอยู่ระหว่างทะเลทรายคาราคุม( Kara Kum) และเทือกเขาโคเพตแด๊ก (Kopet Dag) เป็นที่ต้ังของที่ทำการรัฐบาล และศูนย์กลางการบริหารประเทศ เป็นอีกหนึ่งเมืองสำคัญบนเส้นทางสายไหม (Silk Road) 
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว Archabil Hotel Ashgabat (คืนที่ 2)

  • วันที่
    3
    อาชกาบัต – หลุมไฟนรก (Door to Hell) – อาชกาบัต

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
    นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านเดอเวเซ (Darvaza) (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3-3.30 ชั่วโมง) เป็นหมู่บ้านที่เป็นหน้าด่านสู่การเข้าชมหลุมไฟขนาดใหญ่ หรือที่รู้จักในชื่อ หลุมไฟนรก หรือ ประตู่สู่นรก (Door to Hell) 
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน แบบ Picnic
    บ่าย นำท่านชมหลุมไฟนรก หลุมยักษ์กว้างใหญ่ที่มีเปลวเพลิงลุกสว่างไสวต่อเนื่อง ชวนให้นึกถึงกระทะทองแดงขนาดยักษ์ ประตูนรก (Door to Hell) เป็นหลุมก๊าซกว้าง 70 เมตร ที่อยู่บนพื้นที่ทะเลทรายคาราคัมอันโล่งกว้าง ใกล้กับหมู่บ้านเดอเวเซ เมืองอาฮาล ประเทศเติร์กเมนิสถาน ถูกเรียกว่า "ประตูนรก" จากลักษณะหลุมที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงที่ไม่มีวันมอดดับ สำหรับที่ไปที่มาของหลุมยักษ์แห่งนี้ เดิมทีแล้วเป็นทะเลทรายโล่งกว้าง กระทั่งเมื่อปี ค.ศ. 1971 ได้มีวิศวกรของโซเวียตมาตั้งแคมป์ขุดเจาะน้ำมันบริเวณนี้ แต่หลังจากที่พวกเขาเริ่มการขุดเจาะเพื่อหาน้ำมัน กลับพบว่าที่ที่เขาขุดเจาะนั้นมีแต่ก๊าซมีเทน และต่อมาหน้าดินก็เกิดทรุดตัวเป็นหลุมก๊าซกว้าง ด้วยความกังวลว่าก๊าซมีเทนอาจจะทำอันตรายกับผู้คนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่ห่างออกไปไม่ไกล วิศวกรจึงตัดสินใจจุดไฟเผาก๊าซในหลุมนี้ โดยคาดว่ามันจะดับภายในไม่กี่สัปดาห์ เมื่อก๊าซถูกเผาจนหมด นับตั้งแต่วิศวกรจุดไฟให้ลุกโชนขึ้นในหลุมยักษ์แห่งนี้ ไฟก็ไม่เคยมอดดับลงอีกเลย มันโชติช่วงร้อนระอุอยู่อย่างนั้นมายาวนาน สิบปีผ่านไปก็แล้ว 20 ปีผ่านไปก็แล้ว จนถึงวันนี้ 44 ปีผ่านไป ไฟในหลุมก็ยังคงเผาไหม้อยู่เหมือนเดิม อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความน่าอัศจรรย์ของหลุมไฟนรกแห่งนี้ได้ตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับอาซกาบัต
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว Archabil Hotel Ashgabat (คืนที่ 3)

  • วันที่
    4
    อาชกาบัต –  นิสา – ดาโชกุซ (ประเทศเติร์กเมนิสถาน)

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
    นำท่านเดินทางเมืองนิสา (Nisa) อดีตเมืองหลวงของจักรวรรดิเปอร์เซียและปาร์เทียน ห่างจากเมืองอาชกาบัตไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เมืองนิสาคือเมืองหลวงแห่งแรกของอาณาจักรปาเทียน ก่อตั้งขึ้นโดยกษัตริย์ อาซาเซสที่ 1 (Arsaces I) ครองราชย์ในช่วง 211-250 ก่อนคริสตกาล เมืองถูกทำลายลงจนราบคาบโดยพวกมองโกล ในช่วงศตวรรษที่ 13 เมืองโบราณแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ในปี 2007 นำท่านเข้าชมป้อมปราการโบราณปาร์เทียน (Parthian Fortress of Nisa) นำท่านชมร่องรอยแห่งอารยธรรมโบราณที่ยังคงหลงเหลือให้ได้ชมจากซากปรักหักพังที่พอจะสามารถสันนิษฐานถึงความรุ่งเรืองของอาณาจักรแห่งนี้ในอดีตกาล ไม่ว่าจะเป็น พระราชวัง อาราม หรือ ห้องพระคลัง ห้องเก็บไวน์ และห้องเก็บพืชผลต่างๆ นอกจากนี้เมืองนิสา ยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองสำคัญในการทำการค้าระหว่าง เปอร์เซีย กรีก และ เอเชียกลางอีกด้วย อิสระให้ท่านได้เก็บภาพป้อมปราการโบราณได้ตามอัธยาศัย
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    บ่าย  นำท่านเดินทางกลับสู่กรุงอาชกาบัต นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ (National Museum of History and Ethnography) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้มีการเก็บรวบรวมโบราณวัตถุจากแหล่งอารยะธรรมโบราณทั่วประเทศเติร์กเมนิสถาน การจัดแสดงจะแบ่งเป็นส่วนๆโดยไล่ตามยุคต่างๆของอารยะธรรม เช่นยุคของอาณาจักรปาร์เทียน ยุคของอาณาจักรเมิร์ฟ เป็นต้น ภายในมีการจัดแสดงโบราณวัตถุมากกว่า 5 แสนชิ้น สิ่งที่เป็นจุดเด่นในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คือ การเก็บรวบรวมไรตัน (Rhyton) ซึ่งเป็นภาชนะที่ทำจากงาช้างแกะสลักลวดลายสวยงามมาก
    16.00 น.    นำท่านเดินทางสู่สนามบินอาชกาบัต เพื่อเชคอิน
    18.40 น.    ออกเดินทางสู่เมืองดาโชกุซ โดยเที่ยวบิน .... (ใช้เวลาบินประมาณ 50 นาที)
    19.30 น.    นำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Dashouz Hotel

  • วันที่
    5
    ดาโชกุซ – คีวา (ประเทศ อุซเบกิสถาน)

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
    นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ประเทศอุซเบกิสถาน
    นำท่านเดินทางสู่เมืองคีวา (Khiva) ประเทศอุซเบกิสถาน โดยนำท่านข้ามพรมแดนและพิธีการตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นเดินทางสู่เมืองคีวา ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นเมืองที่มีโดมนับพันโดม (The City of a thousand Domes) มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญตั้งอยู่ในกำแพงเมืองเก่าที่เรียกว่าอินชานคาร่า (Ichan Qula) และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี คศ.1990 นำท่านแวะถ่ายรูปกับมัสยิดเอ๊ค (Ak Mosque) ชาวบ้านเรียกกันว่ามัสยิดสีขาว สร้างในช่วงศตวรรษที่ 19 อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามตามอัธยาศัย
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    บ่าย นำท่านชมป้อมปราการพระราชวัง โรงเรียนสอนศาสนา สุเหร่าที่ยิ่งใหญ่มีหอคอยสูง (Kalta Minor Tower) ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคสีสันที่สวยงาม นำท่านชม คุนยาอาร์ค (Kunya Ark)  ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง และยังมีวังของมูฮัมหมัด อามินข่าน มาดาสซ่าส์ (Muhammad Amin khun)  ชมรูปแบบและศิลปะในการก่อสร้างที่บ่งบอกถึงความคิดของคนในสมัยนั้นที่มีความสามารถและมีความละเอียดอ่อนในการก่อสร้าง นอกจากนั้นความสวยงามแบบศิลปะอิสลามของกระเบื้องทุกแผ่นที่ใช้ในการตกแต่งภายนอกและภายในสถานที่แห่งนี้ได้ถูกสร้างโดย อิสลามโคจา (Islam Khoja) ผู้มีบทบาทในการดูแล และเผยแพร่ศาสนา สร้างสุเหร่ามัสยิด โรงเรียน และยังมีหอคอยมินาเรตที่สูงที่สุด ประมาณ 45 เมตร ลวดลายสวยงาม สร้างในปี คศ.1910 นอกจากนั้นเขายังได้สร้างพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดในเมืองนี้อีก ชมที่ฝั่งศพของ พาร์ราวาน มัคหมูด (Pakhlavan Makhmud) ที่ถูกสร้างเป็นโดมสีฟ้าเพียงแห่งเดียวเท่านั้นในคีวา ชมพระราชวังฤดูร้อน ทัช คอบลี (Tash Hauli/ Stone courtyard) ที่มีรูปแบบการสร้างสวยงามอีกเช่นกัน และมีรูปแบบการใช้งาน และการจัดสรรการใช้งานของห้องต่างๆ ในตัวของพระราชวัง ไม่ว่าจะเป็นห้องรับแขก ห้องนางสนม ตำหนักของกษัตริย์ ซึ่งมีรูปแบบการสร้างอย่างสวยงาม 
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Farovon Hotel 

  • วันที่
    6
    คีว่า – ทาชเคนต์ (ประเทศ อุซเบกิสถาน)

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
    นำท่านเข้าชมพระราชวังนูรูลาเบย์ (Nurullabay Palace) เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นระหว่างปี 1910 – 1918 สร้างโดยท่านข่านมุฮัมหมัด ราฮิมข่าน ซึ่งท่านได้เสด็จเยือนรัสเซียบ่อยครั้งและมีพระประสงค์ต้องการสร้างวังในศิลปะผสมผสานกึ่งยุโรป จึงได้สร้างพระราชวังแห่งนี้ขึ้น ภายในมีการตกแต่งสีสรรสวยงามและการจัดข้าวของเครื่องใช้แบบยุโรปอีกด้วย
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    13.00 น.    นำท่านเดินทางสู่สนามบินเมืองอูร์เกนซ์ 
    15.20 น.    ออกเดินทางจากสนามบินอูร์เกนซ์ สู่ สนามบินทาชเคนต์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.20 ชั่วโมง
    16.40 น.    เดินทางถึงสนามบินเมืองทาชเคนต์
    นำท่านเดินทางสู่เมืองทาชเคนต์(Tashkent) เป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของประเทศอุซเบกิสถาน มีความหมายว่า เมืองศิลา (The City of Stone) เป็นเมืองที่ใหญ่ประกอบไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรมและเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมในเอเชียกลางมีประชากรประมาณ 2 ล้านคน เป็นเมืองที่ถูกล้อมรอบด้วยประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล นำท่านเที่ยวชม จัตุรัสเสรีภาพ หรือ จัตุรัสมุสตาคิลลิก (Independence Square หรือ Mustakillik Square) เป็นหัวใจของเมืองและเป็นสัญลักษณ์แห่งอิสรภาพของคนในชาติ ทางเดินสู่จัตุรัสออกแบบด้วยประตูโค้งที่สวยงามกับรูปปั้นนกกระทุงแปดตัวบินขึ้นสู่ท้องฟ้าผ่านความหวังไปยังใจกลางของจัตุรัส และอีกด้านของจัตุรัสเป็นอนุสาวรีย์ของทหารและวีรชนที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่สอง
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Ramada Hotel Tashkent

  • วันที่
    7
    ทาชเคนต์ – ด่านออยเบค – คูจานด์ (ประเทศ ทาจิกิสถาน)

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
    นำท่านชม จัตุรัสคาสต์อิหม่าม ( Khast-Imam Square) เป็นศูนย์กลางศาสนาอิสลามของทาชเคนต์ จัตุรัสกว้างใหญ่มีพิพิธภัณฑ์ ห้องสมุดโมอีมูบารักเป็นสถานที่สำคัญของทาชเคนต์ ห้องโถงหน้าของพิพิธภัณฑ์ เป็นห้องสำคัญ แสดงคัมภีร์อัลกุรอานของอุตซมาน เป็นคัมภีร์ฉบับใหญ่ลายมือเขียน เขียนบนหนังกวางในศตวรรษที่ 7 ถือเป็นคัมภีร์อัลกุรอานที่เก่าแก่ที่สุดในโลก นำท่านถ่ายรูปกับสุเหร่าจูมา (Juma Mosque) หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า สุเหร่าของซาร์ (Tsar’s Mosque) สุเหร่าแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1451 โดยเชคห์ อูเบย์ดุลลา โคจา อาคห์เรอร์ (Sheikh Ubaydulla Khoja Akhror) มหาบุรุษแห่งลัทธิซูฟี ที่สืบสกุลมาจากผู้เผยแพร่ศาสนามุคฮามัด ต่อมาในศตวรรษที่ 19 เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง สุเหร่าได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก และซาร์แห่งรัสเซีย พระเจ้า อเล็กซานเดอร์ที่ 3 ได้ให้เงินบูรณะขึ้นมาใหม่ ทำให้เป็นที่รู้จักในชื่อ สุเหร่าของซาร์ นำท่านเดินทางสู่ชายแดนอุซเบกิสถาน-ทาจิกิสถานที่ด่านออยเบค (ใช้เวลาประมาณ 1.30 – 2 ชั่วโมง) นำท่านผ่านการตรวจคนเข้าเมือง นำท่านเดินทางต่อไปยังเมืองคูจานด์ (Khujand) ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศ ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดซุกด์ (Soghd) เดินทางถึงเมืองคูจานด์เป็นเมืองใหญ่อันดับสองรองจากดูชานเบ ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำซีดาโย เป็นเมืองเก่าแก่ที่ก่อตั้งขึ้นมาโดยอเล็กซานเดอร์มหาราช เพื่อเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชาวกรีกกับชนเผ่าไซเธียน เมื่อ 329 ปี ก่อนคริสตกาล และในช่วงศตวรรษที่ 8 ถูกครอบครองโดยชาวอาหรับ ต่อมาถูกปกครองโดยเผ่ามองโกลกว่า 5 ศตวรรษ จนกระทั่งถึงยุคทาเมอเลน ผู้รวบรวมดินแดนแถบเอเชียกลาง และเป็นเมืองสำคัญบนเส้นทางการค้าของเส้นทางสายไหมในเวลาต่อมา จนในปีค.ศ.1866 เอเชียกลางถูกรัสเซียยึดครองและเปลี่ยนชื่อเป็น “เลนินอบาด” จนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1939 กลับมาใช้ชื่อเดิมหลังจากโซเวียตล่มสลาย
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น 
    บ่าย นำท่านเที่ยวชมเมืองคูจานด์ นำท่านชม อนุสาวรีย์อิสมาอิล โซมานี(Ismail Somani Monument) อันเป็นสัญลักษณ์ของการตั้งเมือง และเป็นต้นกำเนิดของการสร้างประเทศทาจิกิสถาน ชมอนุสรณ์สถานของกวีผู้ปกครองทาจิกิสถาน ในยุคศตวรรษที่ 12 (Mausoleum of Sheikh Muslihiddin) โครงสร้างสถาปัตยกรรมทำด้วยอิฐและดินเผาขนาดใหญ่และมีความซับซ้อน จากนั้นชมทะเลสาบเทียม Kayrakkum ที่สร้างขึ้นเพื่อกักเก็บน้ำจากแม่น้ำ Syr-Daryo แหล่งน้ำธรรมชาติสำคัญ ของเมืองคูจานด์ มีขนาดใหญ่ 55 กม. x 20 กม. ปัจจุบันเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา และสถานที่ตากอากาศในช่วงหน้าร้อน ชาวทาจิกเรียกทะเลสาบแห่งนี้ว่าทะเลทาจิก (Tajik Sea) นำท่านเข้าชมพระราชวังวัฒนธรรมของอาร์บอบ (Arbob Cultural Palace) สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1950 เพื่อเป็นสำนักงานใหญ่ดูแลกิจการฟาร์มใน ยุคโซเวียต โดยจำลองแบบมาจากพระราชวังฤดูร้อนปีเตอร์ฮอฟ ในเมืองเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก จากนั้นนำท่านชมปราสาททาเมมาริค (Temurmalik Castle หรือ Khojand Fortress) สร้างตามคำสั่งของผู้บัญชาการติเมอร์มาริค เพื่อต้านกองทัพมองโกลที่ขยายอำนาจในดินแดนนี้ในปี ค.ศ. 1219- 1220
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Khujand Delux Hotel 

  • วันที่
    8
    คูจานด์ – อิสตาราฟชาน – ไอนี– เพนจิเค้นท์ (ประเทศ ทาจิกิสถาน)

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
    นำท่านเดินทางสู่เมืองอิสตาราฟชาน (Istaravshan) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 – 2 ชั่วโมง) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ เทือกเขาเตอร์กิสถาน เมืองนี้มีความเก่าแก่กว่า 2,500 ปี เคยเป็นที่พักกองคาราวานการค้าบนเส้นทางสายไหม จึงเป็นศูนย์รวมของศิลปิน ช่างฝีมือ และเป็นที่อยู่อาศัยของชนชั้นสูง จึงทำให้เมืองมีการสร้างอาคารสลับซับซ้อน และแกะสลักด้วยไม้อย่างสวยงาม นำท่านเข้าชมปราสาทอิสทาราฟชาน (Istaravshan Castle) สร้างโดย กษัตริย์เปอร์เซีย สมัยราชวงศ์อะเคเมนิด ปัจจุบันเหลือเพียงซากกำแพงและป้อมปราการบางส่วน ท่านสามารถชมวิวทิวทัศน์ของเมืองจากด้านบนได้อย่างสวยงาม   
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองเพนจิเค้นท์ (Penjikent) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 – 4 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในแคว้นซูกด์ ติดกับชายแดนอุซเบกิสถาน เมืองนี้เคยเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรซอคเดียน (Sogdian) ตรงบริเวณหุบเขาซีรัฟชาน (Zeravshan Valley) (ซอคเดียน = คือกลุ่มคนที่พูดภาษาอิหร่าน ซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่ที่อาศัยอยู่ในแถบเอเชียกลางในยุคก่อนการเข้ามาของศาสนาอิสลาม) และเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวหลักของทาจิกิสถาน ที่ค้นพบซากอารยธรรมศาสนาโซโรอัสเตอร์ ระหว่างทางจะผ่านเมืองไอนี (Ayni) ซึ่งเป็นเมืองทางผ่านที่จะเดินทางสู่เมืองเพนจิเค้นท์ นำท่านเที่ยวชมเมืองไอนี เพื่อผ่อนคลายอิริยบถ และ ชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวทาจิส ซึ่งอาศัยอยู่ในแถบหุบเขาสูง 
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Sugd Hotel / Umarien Hotel *** หรือเทียบเท่า 

  • วันที่
    9
    เพนจิเค้นท์ – ซารามซ์ – แอนชอพพาส – ดูชานเบ (ประเทศ ทาจิกิสถาน)

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
    นำท่านเที่ยวชมเมืองเพนจิเค้นท์ เมืองที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเซราฟชาน ซึ่งในอดีตเป็นเมืองนี้เป็นที่อยู่อาศัยของพวกซ๊อกเดียน (Sogdiana) และเชื่อว่าในอดีตเมืองนี้เป็น 1 ใน 23 เมืองใหญ่แห่งอาณาจักรเปอร์เซีย ในยุคสมัยของราชวงศ์อะเคเมนิดส์ และเมืองนี้เป็นอีกเมืองที่มีความอุดมสมบูรน์รองลงมาจากเปอร์เซีย นำท่านชมร่องรอยของอารายธรรมโบราณที่ค้นพบในบริเวณนี้ ได้เวลานำท่านชมเมืองซารามซ์ (Saramz Ancient City) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองโบราณต้นแบบของสังคมเมือง มีอายุเก่าแก่กว่า 5,500 ปี เพิ่งขุดค้นพบในปี ค.ศ.1975 และองค์การ ยูเนสโก้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 2010 เมืองนี้ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเชราฟชาน ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 100 เฮคเตอร์ และยังมีซากโบราณของวิหารไฟ ให้เห็น นำท่านเที่ยวชมเมืองโบราณพร้อมเก็บภาพความน่าประทับใจเมืองมรดกโลกแห่งทาจิกิสถาน 
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองดูชานเบ (Dushanbe) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในทาจิกิสถาน คำว่า ดูชานเบ ในภาษาทาจิก มีความหมายว่า "วันจันทร์" ซึ่งเป็นชื่อที่มาจากข้อเท็จจริงที่เมืองเป็นสถานที่ตั้งของหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงเรื่องตลาดวันจันทร์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 - 4.30 ชั่วโมง ซึ่งระหว่างการเดินทางสู่เมืองดูชานเบ จะผ่านทิวทัศน์เขาสูงอันสวยงาม ระหว่างทางให้ท่านได้มีโอกาสแวะถ่ายภาพ ณ จุดชมวิวที่แอนชอพพาส (Anzob Pass) ซึ่งมีความสูงกว่า 3,372 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ท่านจะได้สัมผัสกับวิวภูเขาสลับซับซ้อนสวยงามมาก 
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Serena Dushanbe Hotel (พักค้างคืนที่ 1)

  • วันที่
    10
    ดูชานเบ – ฮิสซาร์ – ดูชานเบ (ประเทศ ทาจิกิสถาน)

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
    นำท่านเที่ยวชมเมืองดูชานเบ เมืองหลวงของประเทศทาจิกิสถาน ชมอนุสาวรีย์อิสมาอิล ซาโมนิ(Ismail Somani) ผู้กอบกู้เอกราชให้แก่ประเทศทาจิกิสถาน จากนั้นนำท่านชมสวนสาธารณะรูดากิ (Rudaki Park) สถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวดูชานเบ ยามค่ำคืนจะมีน้ำพุดนตรีแสดง และใกล้กันเป็นที่ตั้งของ อาคารที่ทำการรัฐบาลอาคารใหม่ อาคารหอสมุดแห่งชาติ ซึ่งติดกับสวนสาธารณะมอสโคว และย่านดูชานเบเอเวนิว จากนั้นนำท่านชมตลาดกรีนมาร์เก็ต (Green Market) ตลาดพืชผัก ผลไม้พื้นเมือง นำท่านผ่านชม พระราชวังรวมชาติ (Palace of Unity) หรือมีชื่อว่า พระราชวังวาห์รัท (Vardat Palace) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมือง ผ่านชมพระราชวังแห่งชาติ (Palace of Nations) สวนแห่งชัยชนะ (Victory Park) 
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    บ่าย นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านฮิสซาร์ (Hissar Village) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ห่างจากเมืองดูชานเบ ประมาณ 30 ก.ม. สันนิษฐานว่าหมู่บ้านแห่งนี้ในอดีตเคยเป็นที่ถิ่นอยู่ของมนุษย์ยุคหิน ซึ่งพบเห็นจากหลักฐานทางประวัติศาตร์ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัยตามหุบเขา แต่ก็ถูกรุกรานและถูกทำลายจากกองทัพอันหลากหลายที่ได้บุกรุกเข้ามาในดินแดนนี้ไม่ว่าจะเป็นกองทัพของอเล็กซานเดอร์มหาราช เจงกีสข่าน ตลอดจนกองทัพแดง นำท่านชมป้อมปราการฮิสซาร์ (Hissar Fortress) สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 3 เพื่อเป็นปราการป้องกันและโรงเรียนสอนศาสนา แต่ต่อมาได้ถูกทำลายโดยกองทัพแดงของโซเวียต อิสระให้ท่านได้ชมซากอารยธรรมโบราณแห่งเอเชียกลาง สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่เมืองดูชานเบ
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Serena Dushanbe Hotel (พักค้างคืนที่ 2)

  • วันที่
    11
    ดูชานเบ – อัลมาตี

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
    นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์วัตถุโบราณและงานศิลปะ (Museum of National Antiquities) จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดของประเทศ ภายในจัดแสดงเรื่องราวผ่านวัตถุทางประวัตศาสตร์ร่วมสมัย แต่สิ่งที่โด่ดเด่นที่สุดคือองค์พระพุทธรูปนอนยาว 13 เมตร ที่ได้มาจากเมืองอาจินาเทปเป
    11.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินดูชานเบ เพื่อเชคอิน
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันแบบ Lunch Box
    13.30 น.    ออกเดินทางจากสนามบินดูชานเบ สู่สนามบินอัลมาตี โดยเที่ยวบิน KC132
    16.15 น.    เดินทางถึงสนามบินอัลมาตี 
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว Rixos Hotel (พักค้างคืนที่ 1)

  • วันที่
    12
    อัลมาตี – Issyk Lake

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
    นำท่านเดินชมความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ ‘Zhasylkol’ หรือ ‘Big Almaty Lake’ ทะเลสาบสีเขียวอ่อน อัญมณีแห่งอัลมาตี ทะเลสาบแห่งนี้ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,511 เมตรถูกแวดล้อมด้วย ยอดเขาอันใหญ่โตถึงสามยอด คือ ยอดเขาโซเวียต (Peak of Soviet) , ยอดเขา Ozerniy และยอดเขาทัวร์ริส (Tourist Peak) ที่ถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงามของเทือกเขาสูงที่มีหิมะขาวโพลนปกคลุมอยู่ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Ili-Alatau เหนือโกรกธารของแม่น้ำ Bolshaya Almatinka  ความพิเศษอยู่ที่สีของน้ำในทะเลสาบ โดยจะเปลี่ยนไปตามแต่ละฤดูกาล ตั้งแต่สีเขียวอ่อนไปจนถึงสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ และภาพของทะเลสาบสีเทอร์ควอยซ์ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาสูง อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามตามอัธยาศัย ได้เวลานำท่านเดินทางกลับสู่อัลมาตี
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    บ่าย นำท่านเดินทางสู่กรุงอัลมาตี (Almaty) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศคาซัคสถาน ดินแดนแห่งความหลาก หลายทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม เส้นทางแห่งคาราวานค้าขายอันเลื่องชื่อ นำท่านเที่ยวชมกรุงอัลมาตี อดีตเมืองหลวงของประเทศคาซัคสถานจนถึงปี 1998 ก่อนที่จะย้ายมาเป็นเมืองอัสตานา นำท่านขึ้นเคเบิ้ลคาร์สู่ยอดเขาคอคโตเบ (Kok-Tobe) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นจุดที่สูงที่สุดในเมืองอัลมาตี สูงถึง 1,130 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ณ จุดชมวิวเห็นนี้ท่านจะได้ชมทัศนียภาพและความสวยงามของเมืองอัลมาตีจากมุมสูง อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามตามอัธยาศัย นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาตร์แห่งกรุงอัลมาตี(Central Historical Museum) พิพิธภัณฑ์ที่แสดงประวัติความเป็นมาของชาวคาซัคสถาน ทั้งภาพถ่ายแบะสัตถุโบราณที่สามารถค้นพบ สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองและการดำเนินชีวิตของชาวคาซัคในอดีต ได้เวลานำท่านชมอนุสาวรีย์อิสรภาพ (Monument of Independence) ซึ่งสามารถมองเห็นเทือกเขาเทียนชานของจีนได้อย่างเด่นชัด  อนุสาวรีย์แห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของเสาหินที่สูงมากถึง 46 เมตร  ด้านบนเป็นรูปปั้นของ มนุษย์ทองคำขี่เสือดำติดปีก ซึ่งชาวคาซัคสถานมีความเชื่อว่ามนุษย์ทองคำนั้นเป็นบรรพบุรุษของพวกเขา ได้เวลานำท่านชมสวนสาธารณะแพนฟิลอฟ (Panfilov Park) ซึ่งสร้างเพื่อรำลึกถึงวีรบุรุษชาวคาซัคที่ช่วยโซเวียต รบกับนาซีในสงครามโลกครั้งที่สอง จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับโบถส์คริสต์เซนคอฟ (Zenkov Cathedral) ซึ่งสร้างด้วยไม้โดยไม่ใช้ตะปูในการสร้างโบสถ์แห่งนี้ นำท่านเดินทางสู่ ตลาดกรีนมาร์เกต (Green Bazaar)  ซึ่งมีทั้งสินค้าอุปโภค และบริโภค ทั้งเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย, ไข่ปลาคาร์เวียร์ และของที่ระลึก, ของสด, ของแห้ง อาทิ ถั่วชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พิตาชิโอ อัลมอนด์ ผลไม้แห้งต่างๆมากมาย ให้ได้เลือกซื้อ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ถนนอารบัท (Arbat) อันเป็นถนนแหล่งรวมสินค้า หลากหลายชนิด ทั้งของที่ระลึกและภาพวาดต่างๆ อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย
    ค่ำ รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารจีน
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว Rixos Hotel (พักค้างคืนที่ 2)

  • วันที่
    13
    บิชเคก – โทกโม๊ค – บิชเคก (ประเทศคีร์กิซสถาน)

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
    นำท่านเดินทางสู่เมืองบิชเคก (Bishkek) (ระยะทาง 264 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) ระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพเทือกเขาและแม่น้ำอันสวยงาม รวมถึงหมู่บ้านเล็กๆ และ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชนพื้นเมืองแถบเอเซียกลาง นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองระหว่างพรมแดน 2 ประเทศ
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    บ่าย นำท่านเที่ยวชมเมืองบิชเคก (Bishkek) ซึ่งเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดและเป็นศูนย์กลางการปกครองของประเทศคีร์กีซสถาน ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาเทียนชาน และหุบเขาชุย (Chuy Valley) มีแม่น้ำซุยไหลผ่าน บิชเคกยังอยู่ในเส้นทางรถไฟสายเตอร์กีสถาน -ไซบีเรีย นอกจากนี้เมืองบิชเคกได้สร้างขึ้นมาในยุคข่านอุซเบกที่เคยปกครองบริเวณนี้ โดยสร้างเป็นป้อมปราการดิน เพื่อเป็นจุดพักระหว่างการค้าบนเส้นทางสายไหม ในยุคที่ถูกปกครองโดยโซเวียต ได้ถูกเรียกขานชื่อเมือง เป็นฟุนเซ (Frunze) (ค.ศ.1962)  ต่อมาเมื่อโซเวียตล่มสลาย ก็ได้กลับมาใช้ชื่อ บิชเคกเหมือนเดิม นำท่านชมจัตุรัสกลางอะลาตู้ (Ala – too Square) ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เป็นเมืองหนึ่งในเส้นทางสายไหม โดยมีรูปปั้น Erkindik ที่แปลว่า อิสรภาพ ตั้งอยู่ตรงกลางจตุรัส ซึ่งถูกนำมาวางไว้ในปี ค.ศ 2003 แทนที่รูปปั้นของเลนิน   จากนั้นนำท่านชมอาคารรัฐสภา (Philarmonic Hall, จัตุรัสแห่งชัยชนะ นำท่านชม Manas Monument อนุสรณ์สถานของท่าน Manas บุคคลผู้ยิ่งใหญ่ของประเทศ  ได้เวลานำท่านถ่ายรูปพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ (National History Museum) ซึ่งจัดแสดงประวัติความเป็นมาและวัตถุโบราณอันล้ำค่าที่ถูกค้นพบในประเทศคีร์กิซสถาน (หากพิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชม ทางทัวร์จะนำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์)
    ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
    นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว Hyatt Regency Hotel Bishkek  (คืนที่ 1)

  • วันที่
    14
    บิชเคก – โทกโม๊ค – อัลมาตี

    เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
    นำท่านเดินทางสู่เมืองโทกโม๊ค (Tokmok) ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเมืองบิชเคก ห่างออกไปประมาณ 60 ก.ม. โดยเมืองโทกโม๊ค เป็นหนี่งในเมืองสำคัญของแคว้นซุย ตั้งเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 816 เมตร ด้านตะวันออกของเมืองนี้ติดกับชายแดนประเทศคาซัคสถาน จึงได้สร้างป้อมปราการและตั้งฐานทัพของทหารในสมัยของข่าน เนท แห่งโคแลนด์ และ ต่อมาตกเป็นของโซเวียตในช่วงที่โซเวียตเรืองอำนาจ ได้เวลานำท่านชมหอคอยบูรานา (Burana Tower) เป็นหอคอยมินาเรต์ สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 11 โดยข่านเนท และเป็นหอคอยมินาเรต์ หนึ่งเดียวที่สร้างในเอเชียกลางในสมัยนั้น มีความสูงประมาณ 45 เมตร ซึ่งในศตวรรษที่ 15 ได้เกิดแผ่นดินไหว ทำให้หอคอยแห่งนี้ได้รับความเสียหาย ทำให้ความสูงลดลงเหลือ 35 เมตร นำท่านชมความสวยงามและความเก่าแก่ของหอมินาเรต์แห่งเอเชียกลาง ได้เวลานำท่านเที่ยวชมเมืองโทกโม๊ค อีกหนึ่งเมืองประวัติศาสตร์และมีที่มีความสำคัญทางการรบของหลากหลายกองทัพที่เข้ามารุกรานเอเชียกลาง 
    กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
    บ่าย นำท่านเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติอลา-อาร์ชา (Ala-Archa) ซึ่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองบิชเคก ห่างออกไปประมาณ 40 กิโลเมตร ตั้งอยู่แนวบนเทือกเขาเทียนชาน บนพื้นที่กว่า 200 ตารางกิโลเมตร ที่ระดับความสูง 1,500-4,000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ที่อุดมไปด้วยป่าสนอัลไพน์ มีทิวเขาสวยงามที่ปกคลุมด้วยหิมะ แม่น้ำที่ไหลแรงและหน้าผาลึกชัน นับเป็นทัศนียภาพอีกแห่งหนึ่งในประเทศคีร์กิซสถาน นำท่านเที่ยวชมและเก็บภาพความสวยงามของอุทยานใหญ่แห่งเทือกเขาเทียนชาน ณ ประเทศคีร์กิซสถาน สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่เมืองบิชเคก
    16.00 น.    นำท่านเดินทางสู่สนามบินบิชเคก
    19.25 น.    ออกเดินทางสู่กรุงอัลมาตี โดยเที่ยวบิน KC110 (ใช้เวลาบิน 50 นาที) 
    20.15 น.    เดินทางถึงสนามบินอัลมาตี แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน

  • วันที่
    15
    กรุงเทพมหานคร

    01.55 น.    ออกเดินทางจากสนามบินอัลมาตี โดยเที่ยวบิน KC931 (ใช้เวลาบิน 6.40 ชั่วโมง)
    08.55 น.    เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)

มื้ออาหารและที่พัก
วันที่
อาหารเช้า
อาหารเที่ยง
อาหารเย็น
โรงแรม
1
Archabil Hotel Ashgabat (1st night)
2
Archabil Hotel Ashgabat (2nd night)
3
Archabil Hotel Ashgabat (3rd night)
4
Dashouz Hotel
5
Farovon Hotel
6
Ramada Hotel Tashkent
7
Khujand Delux Hotel
8
Umarien Hotelor equivalent
9
Serena Dushanbe Hotel
10
Serena Dushanbe Hotel
11
Rixos Hotel
12
Rixos Hotel
13
Hyatt Regency Hotel Bishkek
14
-
15
-
ข้อตกลงและเงื่อนไข
  • ชำระเงินเต็มจำนวน

  • การจองนี้ยังไม่ใช่การยืนยันที่นั่ง  (เนื่องจากที่ว่างมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา) เจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการเช็คที่นั่งว่างและแจ้งกลับลูกค้าอีกครั้ง ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง

แพ็กเกจนี้รวม
  • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบิน T5/ HY/ KC (กระเป๋าเดินทางน้ำหนัก ไม่เกิน 20 กก./ใบ)

  • ค่าภาษีสนามบิน, ภาษีน้ำมัน, ประกันภัยทางอากาศ

  • ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท

  • ค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท   (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 85 ปี)

  • ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่)

  • ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่ ตามระบุ, 

  • ค่าวีซ่ากลุ่ม 5 สถาน

  • เจ้าหน้าที่ (ไกด์ไทย) คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง พร้อมรวมค่าทิป เรียบร้อยแล้ว

แพ็กเกจนี้ไม่รวม
  • ค่าเจ้าหน้าที่ยกกระเป๋า ท่านต้องดูแลกระเป๋าด้วยตัวท่านเองเพื่อป้องกันการสูญหาย

  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์-แฟกซ์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ

  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%

เงื่อนไขการยกเลิก
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 60 วัน ไม่เก็บค่าใช้จ่าย (หากไม่ได้มีการยื่นวีซ่าล่วงหน้า)(เมษายน-ธันวาคม ปีใหม่ 90 วัน)

  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 45-59 วัน หักค่ามัดจำ 50,000 บาท + ค่าวีซ่า (ถ้ามี)(เมษายน-ธันวาคม ปีใหม่ 60-89 วัน)

  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30-44 วัน หักค่ามัดจำ 50,000 บาท + ค่าใช้จ่ายอื่น (ถ้ามี)(เมษายน-ธันวาคม ปีใหม่ 30-59 วัน)

  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 1-29 วัน หักค่าใช้จ่าย 100% ของค่าทัวร์ (เมษายน-ธันวาคม ปีใหม่ 1-29 วัน)

  • ผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากการยื่นเอกสารปลอม หักค่าใช้จ่าย 100% 

***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***

หมายเหตุ
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันก่อนการเดินทาง 

  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน

  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน  การนัดหยุดงาน  การประท้วง  ภัยธรรมชาติ  การก่อจลาจล  อุบัติเหตุ  ปัญหาการจราจร ปัญหาการเสริฟ์ช้าของร้านอาหาร หรือ เหตุใดๆที่อยู่เหนือการควบคุมของบริษัท ฯลฯ   ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด และหากหัวหน้าทัวร์ไม่ได้ดำเนินการทำทัวร์ตามโปรแกรม ท่านต้องแย้งและเรียกร้องสิทธิ์ในรายการนั้น หากท่านไม่มีการแย้งใดๆ ถือว่าท่านยอมรับการทำทัวร์ดังกล่าว

  • เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ  ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฏิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง

  • บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฏิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว  หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง เนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง 

  • ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ  บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู

  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น