เช็คราคาและจองทัวร์มาเก๊า 2568 ราคาถูก แพ็กเกจเที่ยวมาเก๊า

ทัวร์มาเก๊า อาณานิคมของยุโรปเก่าแก่ที่สุดของจีน

“มาเก๊า” คือหนึ่งในเขตบริหารพิเศษ ที่ตั้งอยู่ทางชายฝั่งทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน (Macao Special Administrative Region of the People's Republic of China) ซึ่งเคยอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศโปรตุเกสมาอย่างยาวนานถึง 400 ปี จัดเป็นอาณานิคมของยุโรปที่เก่าแก่ที่สุดในจีน จนกระทั่งวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 1999 หลังจากมาเก๊าได้รับอิสรภาพ ก็ได้กลับคืนสู่การปกครองของจีนเรื่อยมาจวบจนทุกวันนี้

ด้วยเหตุนี้มาเก๊า จึงเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะนอกจากในอดีตเคยเป็นหมู่บ้านเกษตรและทำประมงเล็ก ๆ แล้ว ยังมีความเจริญรุ่งเรืองทางด้านสถาปัตยกรรมและศิลปวัฒนธรรม ที่ถูกชาติตะวันตกนำเข้ามามากมาย ทำให้มาเก๊าเป็นกลายเป็นเมืองที่ถูกผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกได้อย่างลงตัว จนสามารถขนานนามได้ว่ามาเก๊าคือ “ยุโรปใจกลางเอเชีย” ที่ทรงเสน่ห์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเยือนเป็นจำนวนมาก

สถานที่เที่ยวน่าน่าสนใจ เมื่อไปเที่ยวทัวร์มาเก๊า

1. ประตูโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St.Paul’s) ทุก ๆ วันทั้งตอนเช้า จนตกดึก ที่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติ ที่นิยมเดินทางมาถ่ายรูปคู่กกับเศษซากของประตูโบสต์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงร่องรอยอารยธรรมแห่งความยิ่งใหญ่ในอดีต ที่เคยเป็นโรงเรียนสอนศาสนาแห่งแรกในเอเชียตะวันออก ก่อนประสบเหตุเพลิงใหม่เสียหายในปี ค.ส 1835 จนเหลือเพียงแค่ซากประตูเอาไว้ให้ดูต่างหน้า
2. จัตุรัสเซนาโด้ สแควร์ (Senado Square) สถานที่แห่งนี้ คือศูนย์กลางของมาเก๊า ที่ถูกรายล้อมไปด้วยตึกรามบ้านช่องและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ รวมถึงโบสต์สไตล์ยุโรปอีกจำนวนมาก ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากโปรตุเกศ ทำให้องค์การยูเนสโกเล็งเห็นถึงความสำคัญ จนถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกจากในที่สุด
3. เวนีเชียนมาเก๊า (Venetian Macau) จัดเป็นหนึ่งในสถานบันเทิงที่ยิ่งใหญ่ในเอเชีย เนื่องจากภายในเต็มไปด้วยคาสิโนหลากหลายชนิด ที่รอคอยนักพนันจากทั่วโลกเดินทางมาเสี่ยงโชค นอกจากนี้ยังมีห้องพักสุดหรูอีกมากกว่า 3,000 ห้องให้ได้ใช้บริการ ซึ่งมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ที่สำคัญยังมีร้านค้าให้ได้ช็อปกันอย่างจุใจมากถึง 350 ร้านด้วยเช่นกัน ทั้งหมดที่กล่าวมากนี้อยู่ท่ามกลางการตกแต่งอย่างสวยงาม ในสไตล์เวนิสของอิตาลี
4. มาเก๊า ฟิชเชอร์แมน วาร์ฟ (Macau Fisherman’s Wharf) ที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเป็นเมืองจำลองบนพื้นที่ขนาดใหญ่ ถูกแบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ ได้แก่ โซนของท่าเรือแห่งราชวงศ์ (Dynasty Wharf) ที่มีอาคารสถาปัตยกรรมของจีนในยุคราชวงศ์ถัง, โซนประเทศตะวันออกที่ผสมผสานกับประเทศแถบตะวันตก (East Meets West) และโซนท่าเรือแห่งตำนาน (Legend Wharf) ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านค้า โรงแรม ร้านอาหาร คาสิโน และอื่น ๆ อีกมากมาย
5. พิพิธภัณท์ศิลปะมาเก๊า (Macau Museum of Art) พิพิธภัณท์แห่งนี้มีทั้งหมด 5 ชั้นด้วยกัน ซึ่งแต่ละชั้นก็มีโซนจัดแสดงผลงานศิลปะที่แตกต่างกันออกไป เช่น ชั้น 4 เป็นโซนจัดแสดงภาพวาด ตัวอักษร และงานเซรามิกจากประเทศจีน ส่วนชั้น 3 นั้น มีรูปภาพประวัติศาสตร์ รวมถึงผลงานศิลปะร่วมสมัยสไตล์ยุโรปที่บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตในมาเก๊า และชั้น 2 เป็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีผลงานศิลปะหมุนเวียนมาจัดแสดงอยู่เรื่อย ๆ สุดท้ายคือชั้น 1 คือที่ตั้งของร้านค้าและร้านอาหารต่าง ๆ
6. พิพิธภัณฑ์รถแข่งกรังปรีซ์ (Grand Prix Museum) หากเป็นคนที่ชื่นชอบในความเร็ว ต้องหลงใหลไปกับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เพราะภายในได้เก็บรวบรวมรถแข่งรุ่นต่าง ๆ เอาไว้เป็นจำนวนมาก ทั้งขั้นตอนการพัฒนาระบบต่าง ๆ ภายในรถ ไปจนถึงรูปภาพ วิดีโอ ถ้วยรางวัล และของสะสมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแข่งรถทั้งหลาย ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้ทราบถึงการเปลี่ยนเปลงต่าง ๆ ของวงการรถแข่งได้เป็นอย่างดี

อาหารที่ต้องลองเมื่อไปเที่ยวทัวร์มาเก๊า

1. เบอร์เกอร์หมูพอร์คช็อปสไตล์มาเก๊า ขนมปังหน้าตาธรรมดาที่ใช้ทำเบอร์เกอร์ชนิดนี้ มีความพิเศษของรสชาติออกหวาน ๆ กรอบนอกนุ่มในและมีกลิ่นหอม ส่วนเนื้อหมูที่ใส่มานั้นก็มีชิ้นค่อนข้างใหญ่ จนล้นออกมานอกขนมปัง ซึ่งเนื้อหมูที่ให้มามีความชุ่มฉ่ำอย่างยิ่ง ส่วนซอสที่ให้มาก็รสชาติเข้มข้นอีกด้วย
2. โจ๊กปู เนื้อโจ๊กที่ให้มาให้รสชาติที่เข้มข้นเป็นอย่างยิ่ง ด้วยรสชาติของมันปูที่ผสมลงไปในเนื้อข้าว นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมของปูที่โดดเด่นอีกด้วย สามารถทานได้โดยไม่ต้องปรุงเพิ่มแต่อย่างใด ซึ่งอาจเป็นเพราะโจ๊กชนิดนี้ มักใส่ปูทั้งตัวลงไป บวกกับสูตรเฉพาะของแต่ละร้าน จนเป็นที่มาของรสชาติที่กล่าวมา
3. ลวกจิ้มด่วนสไตล์มาเก๊า มีความคล้างคลึงกับร้านขายลูกชิ้นทอดในไทย แต่ร้านที่มาเก๊าไม่มีที่ให้นั่ง ซึ่งของส่วนใหญ่ที่ขายก็เป็นพวกลูกชิ้นประเภทต่าง ๆ และผักอีกหลายประเภท เมื่อเลือกได้แล้ว ทางร้านก็ทำการคิดราคารวมทั้งหมด จากนั้นก็นำไปลวกรวมกัน พอสุกก็เทใส่ถ้วยแล้วราดน้ำจิ้มที่มีรสชาติคล้ายแกงกะหรี่ลงไป
4. ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นแกงกะหรี่ มีรสชาติใกล้เคียงกับข้าวซอยที่ขายในไทย แต่หากไม่ชอบทานอาจรู้สึกว่าเลี่ยนอยู่บ้าง เนื่องจากไม่มีผักดองและหอมแดงมาให้ ส่วนเส้นนั้นเป็นแบบกลม ๆ ไม่เหมือนเส้นข้าวซอย รวม ๆ แล้ว คือต้องลองเอง หากไม่ชอบก็อาจเกลียดเมนูนี้ไปเลย
5. เซอร์ราดูร่า เมนูของหวานรสชาติอร่อย เหมาะกับคนติดหวานเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจาก “เซอร์ราดูร่า” เป็นขนมหวานที่ขึ้นจากครีมและนมข้นหวานเป็นหลัก นำมาวางสลับชั้นกับผงบิสกิตบด ให้รสชาติที่หวานลงตัวกำลังดี ไม่เลี่ยน เหมาะกับทานคู่กับชาและกาแฟ

เรื่องราวน่ารู้ เตรียมพร้อมก่อนไปเที่ยวทัวร์มาเก๊า

1. มาเก๊ามีพื้นที่เล็กมาก จึงทำให้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งสามารถเดินถึงกันได้ทันที ในระยะทางประมาณ 1-2 กิโลเมตรเท่านั้น
2. ห้องน้ำสาธารณะในมาเก๊ามีค่อนข้างน้อย
3. ถึงแม้มาเก๊าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีน แต่คนไทยก็สามารถไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ซึ่งมีระยะเวลาอยู่อาศัยได้รวม 30 วัน
4. มาเก๊าค่อนข้างมีความปลอดภัย เนื่องจากอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำมาก
5. ประชากร 1 ใน 5 ของมาเก๊ามีอาชีพที่เกี่ยวข้องกับกาสิโน เป็นเพราะว่ามาเก๊าเต็มไปด้วยคาสิโน
6. มาเก๊าอยู่ใกล้กับฮ่องกงมาก สามารถเดินทางไปมาหากันได้ด้วยเรือเฟอร์รี่ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น
7. การกดเงินจากตู้ ATM ในมาเก๊ามีค่าธรรมเนียมค่อนข้างแพง เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 75 บาท

ตรวจเช็คสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง เที่ยวทัวร์มาเก๊า ที่มาเก๊ามี 4 ฤดูกาลดังนี้

1. ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 18 - 25 องศาเซลเซียส
2. ฤดูร้อน (พฤษภาคม – กันยายน) อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 28 - 32 องศาเซลเซียส
3. ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 16 - 25 องศาเซลเซียส
4. ฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์) อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 12 - 22 องศาเซลเซียส

เมื่อมาเที่ยวมาเก๊า ของฝากที่ควรซื้อจากมาเก๊า

1. คุกกี้อัลมอนด์ (Almond Cakes) คุกกี้ชนิดนี้ทำจากถั่วผสมอัลมอนต์ ให้รสสัมผัสกรอบร่วน ไม่หวานมาก โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมของอัลมอนต์ มีรสชาติที่เข้ากันอย่างลงตัว เมื่อทานคู่กับชา ซึ่งสามารถหาซื้อได้ทั่วไปในมาเก๊า
2. เนื้อแผ่น / หมูแผ่น (Meat Jerky) มีลักษณะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมหนา ถูกปรุงรสอย่างพิถีพิถัน แล้วนำไปอบจนกรอบ สามารถทานเล่นก็ได้ หรือทานเป็นกับข้าวก็ดี โดยมีให้เลือกทั้งเนื้อวัวและเนื้อหมูหลากหลายชนิด หากไม่มั่นใจในเรื่องรสชาติ ก็ชิมก่อนซื้อได้เช่นกัน
3. ทองม้วนมาเก๊า (Egg Rolls) ถึงแม้หน้าตาเหมือนกับทองม้วนที่ขายในไทย แต่ในเรื่องรสชาตินั้นก็ค่อนข้างมีความแตกต่างกันอยู่มาก ซึ่งทองม้วนมาเก๊านั้น มีกลิ่นหอมของไข่โดดเด่นและรสชาติไม่หวานจัด นอกจากนี้ ยังมีให้เลือกหลากหลายรสชาติอีกด้วย เช่นมะพร้าว หมูหยอง สาหร่าย
4. โปสการ์ด (Macau Postcard) หากต้องการส่งมอบความสุขให้กับคนสำคัญผ่านทางข้อความ เมื่อไปเที่ยวที่ไหนก็ตาม “โปสการ์ด” ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะมีเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไปตามสถานที่ ที่มาเก๊าเองก็มีโปสการ์ดสวย ๆ ให้เลือกหลากหลายแบบ นอกจากนี้ยังมีดีไซน์ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาขายเฉพาะในมาเก๊าอีกด้วย
5. พวงกุญแจซากโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul’s Keychain) พวงกุญแจรูปซากโบสถ์เซนต์ปอล จากสถานที่ท่องเที่ยวโด่งดังของมาเก๊า มีให้เลือกหลายแบบมากตามราคา สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายของทั่วไปตาในตัวเมือง