เช็คราคาและจองทัวร์เลบานอน 2568 ราคาถูก แพ็กเกจเที่ยวเลบานอน

ทัวร์เลบานอน ศูนย์กลางด้านการค้า การเงิน ศิลปะและวัฒนธรรมของตะวันตกเฉียงใต้

ประเทศเลบานอนเคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสมาก่อน จนกระทั่งได้รับเอกราชเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 1943 โดยหลักจากนั้น เลบานอนก็สามารถพัฒนาประเทศจนกลายมาเป็นศูนย์กลางด้านการค้า การเงิน ศิลปะและวัฒนธรรมของภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี ค.ศ. 1975 – 1991 เลบานอนก็เคยตกอยู่ภายใต้สภาวะสงครามกลางเมืองมาก่อน ซึ่งมีความขัดแย้งกันเองในประเทศ ระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์อาหรับและคริสเตียน แต่ทว่า ทั้ง 2 ฝ่ายก็สามารถหาข้อยุติร่วมกันได้ และช่วยกันพัฒนาฟื้นฟูประเทศหลังสิ้นสุดภาวะสงครามกลางเมืองขึ้นมาได้อีกครั้ง จึงทำให้เลบานอนกลายมาเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง เพราะเต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจมากมาย

สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในเลบานอน

1. กรุงเบรุต ถูกขนานว่าเป็นปารีสแห่งตะวันออกกลาง ด้วยแสงไฟยามค่ำคืนที่ถูกประดับตกแต่งสว่างสดใสตระการตา ไม่ต่างจากเมืองหลวงของฝรั่งเศส ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าใจมากมาย เช่น โรงอาบน้ำโรมัน, ถ้าไจตา ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในถ้ำที่สวยงามที่สุดในโลก, พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ, โบสถ์เซนต์จอร์จ, กรีกออร์โธดอกซ์, และเซนต์จอร์จของมาโรไนต์

2. เมืองตันนูรีน เมืองแห่งนี้ น้ำตกบาตาราที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,150 เมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ด้วยสายน้ำที่ยาวเกือบ 300 เมตร ไหลผ่านช่องหลุบยุบจำนวน 3 ชั้นด้วยกัน และแต่ละชั้นนั้น ก็มีสะพานหินธรรมชาติที่สามาถเดินไปสัมผัสได้อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ พื้นที่ของน้ำตกมีการยุบตัวเป็นผาหลุมยุบสวยงามหลายแห่ง ซึ่งถือเป็นที่โปรดปรานของนักท่องเที่ยวที่ชอบกีฬาปีนผาอย่างยิ่ง ที่สำคัญยังมีป่าซีดาร์ที่ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกตั้งอยู่อีกด้วย

3. เมืองบีบลอส เป็นเมืองที่ตั้งติดกับชายฝั่งทะเล ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน โดยสามารถย้อนกลับไปได้กว่า 7,000-8,000 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งในอดีตนั้น เมืองแห่งนี้เคยเป็นชุมชนรองรับผู้คนจากหลายอณาจักร ทั้งในยุคกรีกและโรมัน หรือครูเซตที่เกิดสงครามศาสนา จึงทำให้มีเศษซากปราสาทและสิ่งก่อสร้างโบราณต่าง ๆหลงเหลือให้เห็นอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสุสานหลวงที่ฝังพระศพกษัตริย์ฟินิเชียน

4. เมืองบาอัลเบก ความน่าอัศจรรย์ของเมืองแห่งนี้คือ แหล่งขุดค้นโบราณสถานในสมัยโรมันท่ามกลางพื้นที่กว่าห้าแสนตารางเมตร โดยภายในเมืองบาอัลเบกก็ประกอบไปด้วยวิหาร ที่อุทิศถวายแด่เทพเจ้ากรีก-โรมันหลายหลัง ที่สร้างขึ้นด้วยการใช้เสาหินขนาดใหญ่น้ำหนักกว่า 400-800 ตัน ซึ่งถือว่าใหญ่กว่าหินที่ใช้สร้างพีระมิดอียิปต์เสียอีก

5. เมืองบะชาร์รี ขึ้นชื่อเรื่องหุบเขาที่มีความสวยงามของทุ่งดอกไม้ป่าหลากสีสัน ไปจนถึงพืชพรรณและสัตว์ป่านานาชนิด โดยในช่วงฤดูหนาวยังสามารถใช้เป็นที่เล่นสกีได้อีกด้วย นอกจากนี้ ก็ยังมีอารามหินที่ถูกบูรณะขึ้นมาใหม่ ซึ่งถือเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงการประดิษฐานศาสนาที่เข้ามาราวศตวรรษ 1200 รวมถึงหลุมศพและพิพิธภัณฑ์ที่อุทิศแด่ศิลปินชาวเลบานอน ที่ก็น่าไปเยี่ยมชมไม่แพ้กัน

เมนูอาหารเลบานอน และต้องลองเมื่อได้เที่ยวทัวร์เลบานอน

1. Zaaftar & Cheese Mankushe รูปร่างเหมือนพิซซ่า แต่เมนูนี้ทำจากแป้งพีต้าสูตรดั่งเดิม มีความกรอบนอกนุ่มใน โรยด้วยใบธีมหรือใบโหระพาอาหรับ และเครื่องเทศ ซึ่งมีความหอมมาก
2. Cheese and Sujuk Safiha ทำจากแป้งพีต้าเนื้อเนียมนุ่ม ข้างในถูกอัดแน่นด้วยชีส ทานคู่กับใส้กรอกเนื้อแกะสูตรดั่งเดิมที่มีความเผ็ดนิด ๆ
3. Musakaa เมนูนี้ทำมาจากมะเขือม่วงและชีกพี แล้วนำมาผัดกับซอสมะเขือเทศ จากนั้นปรุงรสเล็กน้อย มีรสเปรี้ยวนิดหวานหน่อย
4. Tabouleh ทำมาจากพาสลี่สับละเอียด และมะเขือเทศสับหยาบ ๆ แล้วปรุงรสด้วยน้ำมันมะกอก มีรสชาติที่เปรี้ยวโดดเด่น ตามสไตล์อาหารอาหรับที่ต้องมีมะนาวเป็นส่วนผสม
5. Arayes รูปร่างหน้าตาคล้ายแซนดวิชมาก ซึ่งเมนูนี้ทำมาจากแป้งพีต้า สอดใส้ด้วยเนื้อแกะสับหยาบ ๆ แล้วนำไปคลุกเคล้ากับพาสลี่ และหอมใหญ่
6. Cheese Mankushe ทำจากแป้งพีต้าขาว ๆ แล้วนำไปผสมเครื่องเทศ ตกแตกหน้าด้วยชีส มีรสชาติเค็มมัน กลมกล่อมกำลังดี

เรื่องราวน่ารู้ เตรียมความพร้อมก่อนไปเที่ยวทัวร์เลบานอน

1. พื้นที่ส่วนใหญ่เลบานอนเป็นชายฝั่งทะเลและภูเขา ซึ่งยคำว่า “เลบานอน” หรือ Lubnan ในภาษาอารบิคนั้น มีรากศัพท์จากภาษาโบราณของชาวฟินิเชียน ที่แปลว่า “สีขาว”
2. ภาษาทางการของเลบานอน คือ ภาษาอารบิค ส่วนภาษาอังกฤษมีการใช้กันทั่วไป และเนื่องจากเลบานอนเคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส จึงทำให้ภาษาฝรั่งเศสกลายเป็นอีกภาษาที่มีการใช้กันมากในเลบานอน
3. ประชากรในประเทศประมาณ 95% ถูกจัดว่าเป็นชาวอาหรับ แต่ก็มีชาวเลบานอนจำนวนมาก ต่างมีความภาคภูมิใจว่าจริง ๆ แล้วพวกเขาเป็นชาวฟินิเชียนที่ดั่งเดิมเคยอาศัยอยู่ในเลบานอนมาก่อน จนกระทั่งถูกรุกรานโดยชาวกรีกและโรมัน จากนั้นก็มีอีกหลายชนชาติที่สลับเปลี่ยนกันเข้ามาปกครอง ส่งผลให้เลบานอนมีความหลากหลายทางเชื้อชาติมากที่สุดแห่งหนึ่ง
4. ต้นสนซีดาร์ (Cidrus libani) คือต้นไม้เก่าแก่ที่ถูกประดับอยู่บนผืนธงชาติของเลบานอน ซึ่งเคยเป็นสินค้าส่งออกหลักที่สร้างความมั่งคั่งให้กับชาวฟินิเชียนในยุคโบราณ
5. ในเลบานอนมีการนับถือศาสนาที่แตกออกเป็นหลายนิกายครับ โดยประมาณ 55% ของประชากรในเลบานอนนับถือศาสนาอิสลามทั้งนิกายซุนหนี่และชีอะห์ ส่วนอีก 40% ที่เหลือนับศาสนาคริสต์

ตรวจเช็คสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง

สภาพอากาศของเลบานอนเป็นแบบเมดิเตอร์เรเนียน ตามชายฝั่งติดทะเลจะมีอากาศเย็นและฝนตกชุกในฤดูหนาว ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ -18 ถึง -30 องศาเซลเซียส ส่วนฤดูร้อนอากาศจะค่อนข้างชื้นและมีอุณหภูมิเฉลี่ย 20-30 องศาเซลเซียส ในพื้นที่ภูเขาสูงจะมีหิมะตกบ่อยและมีอุณหภูมิต่ำมากในฤดูหนาว

เมื่อมาเที่ยวทัวร์เลบานอน ของฝากที่ควรซื้อจากเลบานอน

1. ของเก่า ผลิตภัณฑ์จากทองแดง เช่น แจกัน ถาดและชาม
2. ดาบที่ทำจากเหล็กดัด
3. งานเซรามิก
4. ผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่ทำจากผ้าคุณภาพสูง
5. อุปกรณ์ชงกาแฟ
6. ฟอสซิลโบราณ