เช็คราคาและจองทัวร์ฮ่องกง 2568 ราคาถูก แพ็กเกจเที่ยวฮ่องกง

ทัวร์ฮ่องกง ประเทศที่อดีตเคยเป็นหมู่บ้านชาวประมง

หนึ่งในเขตปกครองตนเองพิเศษของจีนที่ตั้งอยู่ในมณฑลกวางตุ้งแห่งนี้ ในสมัยก่อนเดิมทีเป็นแค่หมู่บ้านชาวประมงแห่งหนึ่ง ซึ่งนอกจากการทำประมงแล้วยังเป็นแหล่งปลูกไม้หอมขึ้นชื่อ ที่สำคัญยังเป็นจุดยอดนิยมสำหรับขนถ่ายสินค้าอีกด้วย เนื่องจากเป็นท่าเรือน้ำลึกทำเลทองที่ตั้งอยูทางด้านชายฝั่งทางใต้สุดของจีน เรือสินค้าที่ผ่านมาจอดบริเวณนี้จึงสามารถมุ่งสู้ท่าเรือของประเทศอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยในช่วงเวลานั้น จักรวรรดิอังกฤษมีความต้องการขยายอณานิคมในแถบทะเลจีนใต้ เพื่อใช้เป็นที่จัดส่งสินค้า

สำหรับสินค้าสำคัญก็คือฝิ่น ซึ่งในขณะนั้นอังกฤษกับจีนมีปัญหาเรื่องการค้าขายฝิ่นจนเกิดเหตุบานปลาย จนเป็นที่มาสงครามฝิ่นครั้งที่ 1 ในปี ค.ศ. 1839 ทำให้กัปตันอีเลียตแห่งจักรวรรดิอังกฤษยกพลขึ้นบกที่ฮ่องกง จนสามารถทำสงครามชนะได้อย่างเบ็ดเสร็จ และทำการประกาศให้ดินแดนทั้งหมดในแถบนั้นเป็นของจักรวรรดิอังกฤษทันที เมื่อวันที่ 26 มกราคมค.ศ. 1841

หลังจากนั้น จีนและอังกฤษก็ยังคงมีปัญหาเรื่องการค้าฝิ่นมาตลอด จนกระทั่งเกิดสงครามฝิ่นขึ้นอีกถึง 2 ครั้ง ซึ่งในสงครามฝิ่นครั้งที่ 2 อังกฤษก็ได้บีบบังคับให้จีนทำสัญญา ด้วยเงื่อนไขว่าจีนต้องให้อังกฤษเช่าฮ่องกงเป็นเวลา 99 ปีโดยกำหนดวันหมดสัญญาเช่าในวันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 1997 เมื่อหมดสัญญาไม่มีอะไรค้างคาอีกต่อไป ฮ่องกงก็ได้มีความเจริญอย่างก้าวกระโดด จนสามารถกลายมาเป็นเมืองท่าการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในฮ่องกง

1. จิมซาโจ่ยพรอมเมอนาด (Tsim Sha Tsui Promenade) เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับเดินเล่นตากลมเย็น ๆ และอากาศบริสุดทธิ์ โดยในช่วงเย็นของทุกวัน จะเต็มไปด้วยผู้คนมากมายออกมาขับร้องเพลงกันเป็นกลุ่ม ไปจนถึงนักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติที่นิยมเดินทางมาเยือน เพื่อสัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์ พร้อมกับชื่อนชมความงดงามของบรรยากาศริมน้ำ ควบคู่ไปกับเรือเฟอร์รี่หลายลำที่แล่นข้ามฝากไปมา

2. ศูนย์การประชุมและนิทรรศการฮ่องกง (Hong Kong Convention and Exhibition Centre) จุดเด่นของศูนย์การประชุมแห่งนี้คือม่านกระจกขนาดใหญ่และหลังคาอะลูมิเนียมขนาด 40,000 ตารางเมตร ที่ถูกออกแบบให้สะท้อนเสียงของนักทะเลได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงไปทั่วโลกในชื่อว่า HKCEC เพราะการก่อสร้างได้แก้ปัญหาเรื่องที่ดิน ซึ่งมีอยู่อย่างจำกัดของฮ่องกงได้อย่างตรงจุด ที่สำคัญอาหารแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีส่งมอบเกาะฮ่องกงให้จีนอีกด้วย เมื่อ 30 มิถุนายน 1997 ที่ผ่านมา

3. โอเชี่ยนปาร์คฮ่องกง (Ocean Park Hong Kong) ถูกเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ส 1977 ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของฮ่องกง ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 870,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งจัดเป็นหนึ่งในสวนสนุกสัตว์ทะเลระดับโลก โดยมีการแบ่งพื้นที่ท่องเที่ยวออกเป็นโซนต่าง ๆ เช่น ดินแดนแห่งขั้วโลก Polar Adventure, Old Hong Kong ฮ่องกงในอดีต, , เครื่องเล่นรถไฟเหาะตีลังกาสุดหวาดเสียว Thrill Mountain, โลกแห่งพืชไม้นานาพันธุ์ Rainforest, ไปจนถึงสวนสนุกทางทะเล Aqua City และสัตว์หายากในเอเชีย Amazing Asian Animals

4. เขตอนุรักษ์ไมโป (Maipo Conservation Area) บริเวณหนองและบึงของเขตอนุรักษ์ทางธรรมชาติของฮ่องกงแห่งนี้ มีชื่อเสียงในระดับโลก สำหรับชมนกอพยพมากกว่าสองล้านตัว โดยมีนกมากกว่า 380 สายพันธุ์ ในจำนวนี้มี 35 สายพันธ์ที่อยู่ภายใต้การอนุรักษ์จากทั่วโลก นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์อีกหลากหลายชนิด เช่น นาก ปูก้ามดาบ และปลาตีน เป็นต้น

5. ฮ่องกงเวทแลนด์พาร์ค (Hong Kong Wetland Park) ภายในอุทยานแห่งนี้เป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด ทั้งนัก ผีเสื้อและแมลงปอสายพันธ์ต่าง ๆ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ไปจนถึงปลาน้ำเค็มและน้ำจืด จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

6. เลดี้ส์ มาร์เก็ต (Ladies Market) ตลาดกลางแจ้งชื่อเสียงโด่งดังของฮ่องกง เปิดให้บริการตั้งแต่เที่ยงวันยันห้าทุ่มครึ่ง สำหรับนักท่องเที่ยวที่รักการช็อบปิ้งต้องไม่ควรพลาด เพราะสามารถสนุกสนานไปกับการต่อราคากับสินค้าหลากหลายชนิดได้ ทั้งกระเป๋า, เครื่องประดับ, ของเล่น, เครื่องสำอาง ไปจนถึงของแต่งบ้านชิ้นเล็กชิ้นน้อย ร้าน

เมนูอาหารฮ่องกง และต้องลองเมื่อได้เที่ยวทัวร์ฮ่องกง

1. เต้าหู้เหม็น จัดเป็นเมนูที่มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่ง ถึงแม้คนไม่เคยกินอาจเหม็นอยู่บ้าง แต่ก็ให้รสชาติที่อร่อยล้ำเช่นกัน เสมือนกับปลาร้าของดีจากแดนอิสาน ซึ่งเต้าหู้เหม็นนั้น ถือเป็นอาหารประจำชาติของฮ่องกงเลยทีเดียว สำหรับวิธีการกินนั้น นิยมนำมาทอดให้กรอบนอกนุ่มใน แล้วราดด้วยซอสน้ำแดงปิดท้าย พร้อมเสิร์ฟ

2. หมูหัน 5 ชั้น หมูกันที่ขานในไทยส่วนใหญ่มีแค่หนังกับชั้นไขมันบาง ๆ เท่านั้น แตกต่างจากหมูหันสูตรเฉพาะของฮ่องกงอย่างยิ่ง เพราะหมูที่นำมาทำต้องถูกเลี้ยงอย่างดี จนทำให้มีชั้นเนื้อถึง 5 ชั้น คือ หนัง ไขมัน สันนอก ไขมัน และสันใน นิยมเสิร์ฟคู่กับซอสมัสตาร์ดรสชาติเค็ม ปนเปรี้ยว เผ็ดเล็กน้อย

3. ข้าวอบหม้อดิน เมนูนี้ค่อนข้างหาทานยาก มีวิธีทำคือ นำข้าวผัดใส่ลงไปในหม้อดินแล้วอบตามสูตรโบราณ จนได้กลิ่นหอมของข้าวผัด โดยลูกค้าสามารถเลือกท็อปปิ้งหน้าต่างๆไม่ว่าจะเป็น กุนเชียง หมูหวาน หมูแดง และอื่น ๆ อีกมากมายตามใจต้องการ

4. ห่านย่าง เฉลี่ยแล้วนักท่องเที่ยวจำนวนกว่าร้อยละ 90 ได้แนะนำว่าต้องมาจัดเมนูนี้ให้ได้ ซึ่งห่านที่นำมาทำนั้น มีขนาดตัวค่อนข้างใหญ่ ผ่านการหมักด้วยเครื่องเทศนานาชนิด แล้วไปย่างไฟปานกลางเรื่อย ๆ จนหนังกรอบ เนื้อชุ่มช่ำไปด้วยไขมันเยิ้ม ๆ นิยมเสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มซีอิ๊วดำรสหวาน ออกขมเล็กน้อย พร้อมด้วยขิงดอง

5. ทาร์ตไข่ฮ่องกง ภายหลังจากฮ่องกงตกเป็นอณานิยมของอังกฤษ ก็ได้นำขนมชนิดนี้เข้ามาฮ่องกงด้วย แต่ทว่าทาร์ตไข่รสดั่งเดิมของอังกฤษไม่ถูกปากคนฮ่องกงเท่าไหร่ จึงได้คิดค้นสูตรใหม่ขึ้นมา โดยลดครีมคัสตาร์ดลงไปแต่เพิ่มปริมาณไข่ให้เยอะขึ้น ทำมีรสชาติหวานน้อยลง ครีมมีความเข้มข้นผสมกับกลิ่นหอมของไข่ไก่

6. ชามัลเบอรรี่ ชาสมุนไพรโบราณที่นิยมในด้านการแพทย์ของจีน เนื่องจากมีสรรพคุณช่วยบำรุงไตและป้องกันโรคไขข้ออักเสบได้ ซึ่งผลมัลเบอร์รี่ที่นิยมเอามาต้มทำชานั้น ต้องมาจากธรรมชาติเท่านั้น จึงทำให้มีรสชาติหวานอ่อน ๆ ปนฝาดเล็กน้อย แต่เมื่อนำต้มคู่กับชาเม็ดบัวก็ช่วยให้มีกลิ่นหอมหวนยิ่งขึ้น

เรื่องราวน่ารู้ก่อนเตรียมตัวไปเที่ยวทัวร์ฮ่องกง

1. แท็กซี่ คือตัวเลือกที่ดีหากต้องการท่องเที่ยวยามราตรี เนื่องจากรถไฟใต้ดินฮ่องกงปิดบริการตอนเที่ยงคืน

2. รถเมล์ที่ฮ่องกงต้องยืนต่อแถวนาน นอกจากนี้การเดินทางท่องเที่ยวฮ่องกงด้วยรถเมล์ ต้องรู้ไว้ด้วยว่ารถเมล์ทุกสายของฮ่องกงไม่มีการทอนเงิน ดังนั้น ต้องเตรียมเงินให้พอดี

3. ค่าโดยสารระบบขนส่งต่าง ๆ ที่ฮ่องกง มีราคาค่อนข้างแพง เช่น ค่ารถไฟใต้ดินขั้นต่ำอยู่ที่ 50 บาท ที่สำคัญการเดินทางด้วยเรือข้ามฟากก็มีค่าบริการสูงอีกด้วย จึงต้องวางแผนการเดินทางให้ดี

4. ต้องตรวจสอบเวลาเช็คอิน-เช็คเอาท์ ให้ดีด้วย เพราะโรงแรมที่ฮ่องกง เวลาเช็คอิน-เช็คเอาท์ อาจไม่ใช้มาตรฐานเดียวกันทั้งหมด

5. น้ำชักโครกคือน้ำทะเล เนื่องจากน้ำจืดมีราคาค่อนแพง ดังนั้น เครื่องชักโครกในส้วม จึงต้องใช้น้ำทะเล ซึ่งที่ฮ่องกงได้วางท่อน้ำในทะเล เพื่อนำมาใช้สำหรับน้ำชักโครกโดยเฉพาะ

6. รถยนต์มีไว้สำหรับคนมีฐานะ เพราะการครอบครองรถหนึ่งคันในฮ่องกงไม่เหมือนที่ไทย เนื่องจากต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงมาก นอกจากค่าประกัน ค่าบำรุงรักษาที่แพงกว่าปกติแล้ว ยังมีค่าที่จอดรถอีกด้วย

7. ธนบัตรฮ่องกงค่อนข้างหลากหลาย เป็นเพราะมีหลายธนาคารที่รับผิดชอบการพิมพ์ การผลิต จึงทำให้ธนบัตรฮ่องกงในมูลค่าเดียวกันมีหลายแบบ หลายลวดลาย แต่เหมือนกันอยู่อย่างเดียวคือ สี ที่จำแนกตามราคา

ตรวจเช็คสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง ที่ฮ่องกงมี 4 ฤดูกาลดังนี้

1. ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) อุณภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 18 ถึง 25 องศาเซลเซียส

2. ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) อุณภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 28 ถึง 32 องศาเซลเซียส

3. ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) อุณภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 19 ถึง 28 องศาเซลเซียส

4. ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) อุณภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 12ถึง 20 องศาเซลเซียส

เมื่อมาเที่ยวทัวร์ฮ่องกง ของฝากที่ควรซื้อจากฮ่องกง

1. เครื่องเซรามิกแบบโบราณ ฮ่องกงเป็นเมืองที่มีความทันสมัย ซึ่งถูกผสมผสานด้วยวัฒนธรรมของชนชาติจีนโบราณได้อย่างลงตัว ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ข้าวของเครื่องใช้ที่ทำจากเซรามิกแบบจีนโบราณ ยังคงเปิดสายการผลิตออกมาจำหน่ายให้ได้เลือกซื้อกันอยู่ทั่วไป ซี่งจุดเด่นของเครื่องเซรามิกแบบโบราณนั้น อยู่ตรงที่ลวดลายการตกแต่งจากในศตวรรษที่ 9

2. เครื่องรางนำโชค ในฮ่องกงนั้นเต็มไปด้วยวัดวาอารามและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีชื่อเสียงแตกต่างกันออกไป เครื่องรางนำโชคจึงเสมือนตัวแทนของการไปเยือนสถานที่เหล่านี้ โดยชาวฮ่องกงมีความเชื่อว่าสามารถมอบสิ่งดีๆ ให้กับผู้ครอบครองได้หลายด้าน ทั้งสุขภาพ ความรัก ไปจนถึงโชคลาภต่างๆ

3. ตราประทับชื่อแบบชาวฮ่องกงโบราณ หากใครเป็นคอหนังหนังจีน ต้องเคยเห็นตราประทับชื่อที่ทำจากหิน หรือไม้กันอย่างแน่นอน ซึ่งถือเป็นของฝากที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างยิ่ง ที่สำคัญยังสามารถสั่งทำตราประทับได้ในแบบที่ตนเองต้องการอีกด้วย

4. สินค้าต่าง ๆ จากแบรนด์ G.O.D. สินค้าหลายประเภทที่ถูกผลิตจากแบรนด์ G.O.D. ทั้งเสื้อผ้า เครื่องเขียน ผ้าพันคอ ของตกแต่ง และอื่น ๆ อีกมากมาย ถือว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างยิ่ง เนื่องจากมีการผสมผสานความทันสมัยเข้ากับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมฮ่องกงในอดีต

5. ชุดกี่เพ้า ถึงแม้ชุดกี่เพ้าอาจหาซื้อได้ในเมืองไทย แต่หากซื้อที่ฮ่องกง ซึ่งถือเป็นต้นตำหรับชุดชนิดนี้ ก็สามารถเลือกร้านดี ๆ ที่ตัดเย็บชุดด้วยผ้าไหมแท้ได้ทั้งชุด ซึ่งในเมืองไทยมีร้านที่ตัดเย็บด้วยชุดผ้าไหมได้ค่อนข้างยาก

6. บอร์ดเกมส์จีน บอร์ดเกมส์ หรือเกมส์กระดานเป็นที่นิยมเล่นกันมาในทุกยุคสมัย แต่เชื่อเลยว่าหลายคนอาจไม่เคยมีโอกาศได้เล่นบอร์ดเกมจีนคลาสสิก อย่าง ไพ่นกกระจอก หรือ หมากฮอสจีน หากรู้ว่าใครมีรสนิยมเล่นอะไรแบบนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งของฝากที่เหมาะเป็นอย่างยิ่ง