เช็คราคาและจองทัวร์บรูไน 2568 ราคาถูก แพ็กเกจเที่ยวบรูไน

ทัวร์บรูไน นครแห่งสันติสุข

ประเทศบรูไน หรือบรูไนดารุสซาลาม ที่แปลว่านครแห่งสันติสุข เป็นประเทศขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หนึ่งในรัฐอิสระที่มีปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาอย่างยาวนาน โดยหลังจากที่บรูไนได้รับเอกราชจากประเทศอังกฤษเมื่อปี 1984 สถาบันพระมหากษัตริย์ของบรูไนก็สามารถสร้างอำนาจทางการเมืองขึ้นมาได้อย่างเข็มแข็ง จนเกือบเรียกได้ว่าไม่อาจมีสิ่งใดมาท้ายทายการควบคุมอำนาจของรัฐฯได้เลย ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้บรูไนมีการปกครองด้วยระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาอย่างยาวนั้น ทั้งหมดเกิดมาจากความสำเร็จของราชวงษ์บรูไน จากการรวบรวมอำนาจศูนย์กลางไว้ที่องค์สุลต่าน ที่ขึ้นอยู่กับความสามารถในการได้มาซึ่งความชอบธรรมทางขนบธรรมเนียมแบบดั่งเดิม จนนำไปสู่การความมีเสถียรภาพของการปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ รวมถึงความสามารถในการหลีกเลี่ยงการปฏิรูปการเมือง ด้วยการนำเอารายได้หลักของประเทศที่ได้มาจากการค้าขายน้ำมัน รวมถึงก๊าซธรรมชาติมามอบให้กับประชาชนในรูปแบบ “สวัสดิภาพที่มีเม็ดเงินจำนวนมาก”

สถานที่เที่ยวน่าน่าสนใจ เมื่อไปเที่ยวทัวร์บรูไน

1. มัสยิดโอมาร์ อาลี ไซฟัดดิน (Sultan Omar Ali Saifuddin Mosque) ถูกสร้างขึ้นโดยสุลต่าน โอมาร์ อาลี ไซฟัดดินที่ 3 ซึ่งเป็นพระราชบิดาของสมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์ จุดเด่นของมัสยิดแห่งนี้คือ ถูกสร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสีขาวจากอิตาลี, หินแกรนิตจากเซียงไฮ้, และแชเดอร์เลียร์จากอังกฤษ ส่วนยอดโดมของมัสยิตก็มีการใช้แผ่นทองคำจำนวนมากถึง 3.3 ล้านแผ่น นอกจากความสวยงามแล้ว มัสยิดแห่งนี้ ยังถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่สำคัญแห่งหนึ่งด้วย

2. พิพิธภัณฑ์รอยัลเรกกาเลีย (Royal Regalia Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางกรุงบันดาร์ เสรี เบกาวัน ซึ่งถูกยกย่องว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีสมบัติล้าค่าและน่าชื่นชมที่สุดแห่งหนึ่งของทวีปเอเชีย โดยภายในมีการเก็บรวบรวมข้าวของและเครื่องใช้ที่มิอาจประเมินค่าได้ของสุลต่านองค์ปัจจุบันเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นราชรถทองคำ ฉลองพระองค์ทองคำ เครื่องทรงทองคำ อาวุธทองคำล้วน เรียกได้ว่าเกือบทุกอย่างภายในพิพิธภัณฑ์ล้วนทำขึ้นมาจากทองคำทั้งสิ้น และยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีพระที่นั่งจำลองมาให้ได้ชมกันอีกด้วย

3. หมู่บ้านกัมปงไอเยอร์ (Kampong Ayer) หมู่บ้านกลางน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมศิลปะการสร้างบ้านเรือนนับพันบริเวณปกแม่น้ำบรูไน รวมถึงการคมนาคมของชาวบ้านที่มีความแปลกตาได้ โดยชาวยุโรปยุคแรกที่เดินทางเข้ามาบรูไน ต่างเรียกขานหมู่บ้านกลางน้ำนี้ว่า “เวนิซแห่งตะวันออก”

4. สวนสนุก (Jerudong Park) สวนสนุกแห่งนี้ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยสำคัญของบรูไนที่พลาดไม่ได้ ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับประชาชนโดยเฉพาะ ที่สำคัญยังมีพื้นที่กว้างขวางและใหญ่กว่าสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ในฮ่องกงอีกด้วย ส่วนภายในนั้น ก็มีเครื่องเล่นให้เลือกนานาชนิด

5. หาดตูตง (Tutong beach) ชายหาดขึ้นชื่อของบรูไน เพราะนอกจากหาดทรายสีขาวนวลละเอียด ตัดกับน้ำทะเลสีเขียวมรกตแล้ว ยังมีที่พักพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ที่สำคัญยังมีพระตำหนักของสมาชิกในพระราชวงศ์ที่ปลูกสร้างอยู่ด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง โดยเฉพาะการเช่ารถขับเที่ยวไปตามชายาหาด หรือจะเลือกเช่าเรือเฟอร์รี่ออกไปชมความงดงามกลางท้องทะเลก็ดีไม่แพ้กัน

อาหารที่ต้องลองเมื่อไปเที่ยวทัวร์บรูไน

1. อัมบูยัต (Ambuyat) อาหารยอดนิยมของชาวบรูไน มีความโดดเด่นที่ตัวแป้งเรสจืดเหนียว ๆ คล้ายข้าวต้ม หรือโจ๊ก กินคู่กับซอสผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว นอกจากนี้ ยังมีเครื่องเคียงอีก 2-3 ชนิด อาทิ ผักสด เนื้อห่อใบตองย่าง หรือเนื้อทอด ซึ่งเมนูนี้จะอร่อยยิ่งขึ้น เมื่อทานตอนร้อน ๆ

2. ดัง ซัมบัล เซอไร เบอร์ซันตัน (Udang Sambal Serai Bersantan) ถูกจัดให้เป็นอาหารประจำชาติของบรูไน โดยส่วนประหลักของเมนูนี้ ก็มีกุ้ง ตะไคร้ และน้ำกะทิ ตามด้วยหอมหัวใหญ่ พริกแกงและตะไคร้สับละเอียด เมื่อเสร็จแล้วมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับแกงกะหรี่

3. เกอตูปัต (Ketupat) หรือข้าวห่อใบมะพร้าว ที่กินคู่กับแกงเนื้อรสชาติเข้มข้น ซึ่งเมนูนี้ นอกจากเป็นที่นิยมในบรูไนแล้ว ความนิยมของเมนูนี้ยังแพร่หลายไปยังประเทศใกล้เคียงอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไน ฟิลิปปินส์ รวมทั้งภาคใต้ของ ประเทศไทย และด้วยความอร่อยที่มีเอกลักษณ์ ทำให้เมื่อปี 2011 ที่ผ่าน “เกอตูปัต” ก็ได้ถูกจัดอันดับให้เป็นอาหารอร่อยที่สุดในโลกมาครองได้

4. ข้าวผัดบรูไน หรือเบเรียนี่ เมนูอาหารสำหรับคนกินมังสวิรัติโดยเฉพาะ ซึ่งมีวิธีการทำไม่ยุ่งยากและมีวัตุดิบไม่กี่อย่างเท่านั้น ส่วนรสชาตินั้น ก็จะมีความอร่อยจากลูกหนำเลี๊ยบที่คนไทยนิยมนำไปผัดกับหมูสับรับประทานกับข้าวต้ม

5. เรินดังเนื้อ มีลักษณะคล้ายกับพะแนงเนื้อของไทย แต่เรินดังจะมีความแตกต่างตรงเครื่องแกง ที่มีส่วนผสมของพริกแห้ง หอม กระเทียม ขิง ข่า ตะไคร้ ลูกผักชี ยี่หร่า ลูกจันทร์ป่น พริกไทย มะพร้าวคั่วและแคนเดิลนัท จัดเป็นอาหารที่สามารถทานได้ทุกมื้อ ด้วยรสชาติหวานมันเค็มเผ็ดเล็กน้อยอย่างลงตัว

เรื่องราวน่ารู้ เตรียมพร้อมก่อนไปเที่ยวทัวร์บรูไน

1. หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายสีเหลืองในงานราชพิธี เนื่องจากเป็นสีของพระมหากษัตริย์เท่านั้น
2. ห้ามนำเข้าสุรา และบุหรี่จากต่างประเทศ และห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะเด็ดขาด เพราะมีความผิดตามกฎหมายบรูไน
3. การใช้นิ้วชี้ เพื่อชี้ไปที่คน หรือสิ่งของชาวบรูไนถือว่าไม่สุภาพ ควรใช้นิ้วหัวแม่มือแทน
4. ควรหลีกเลี่ยงการนิมนต์พระเดินทางเข้าประเทศบรูไน เพราะเคยเกิดเหตุการณ์ที่พระถูกกักตัวที่สนามบินมาก่อนในอดีต
5. หลีกเลี่ยงการบีบแตรรถพร่ำเพรื่อ เพราะคนบรูไนถือว่าการบีบแตรรถในกรณีต่าง ๆ ที่ไม่ฉุกเฉิน เป็นเรื่องไม่สุภาพอย่างยิ่ง

ตรวจเช็คสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง เที่ยวทัวร์บรูไน ที่บรูไนมี 2 ฤดูกาลดังนี้

ประเทศบรูไนเป็นภูมิอากาศเขตร้อนที่ตั้งอยู่ใกล้กับเส้นศูนย์สูตร จึงมีอุณหภูมิและความชื้นสูง ฝนก็ตกเกือบตลอดปี ซึ่งอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 24-32 องศาเซลเซียส และพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าไม้เขตร้อน อุดมด้วยน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
1. ฤดูฝน - พฤษภาคม-ตุลาคม (เดือนตุลาคมมีฝนตกชุกที่สุด)
2. ฤดูแล้ง - พฤศจิกายน-เมษายน (เดือนเมษายนมีอุณหภูมิสูงสุดที่สุดและเดือนมกราคมมีอุณหภูมิ ตํ่าที่สุด)

เมื่อมาเที่ยวบรูไน ของฝากที่ควรซื้อจากบรูไน

ถึงแม้บรูไนจะเป็นประเทศขนาดเล็กที่สุดในอาเซียน แต่ก็เต็มไปด้วยมนตร์เสน่ห์และวัฒนธรรม สำหรับของฝากที่ควรซื้อกลับไปก็มีหลายด้วยกัน โดยเฉพาะเครื่องแก้วแฮนด์เมดจากหมู่บ้านน้ำกัมปงไอเยอร์ และสินค้าปลอดภาษีนานาชนิดจากเมืองท่า เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ช็อคโกแล็ต หรือจะเป็นของฝากพื้นเมืองที่แตกต่างกันไปตามศิลปวัฒนธรรม ก็ดีไม่น้อย