เช็คราคาและจองทัวร์มาดากัสการ์ 2568 ราคาถูก แพ็กเกจเที่ยวมาดากัสการ์

ทัวร์มาดากัสการ์ เกาะขนาดใหญ่อันดับ 4 ที่อาจหายไปจากแผนที่โลก

ประเทศมาดากัสการ์ ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันออกของทวีปแอฟริกา ใกล้กับประเทศโมซัมบิก โดยเกาะหลักของมาดากัสการ์นั้น ถูกจัดอันดับให้เป็นกาะที่มี่ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก และเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์และพันธ์พืชจำนวนมากกว่าร้อยละ 80 ซึ่งในจำนวนนี้ ก็มีพืชและสัตว์ท่องถิ่นที่สามารถพบเจอได้ในมาดากัสการ์เท่านั้น ด้วยความหลากหลายของธรรมชาติที่มีความน่าสนใจเช่นนี้ จึงทำให้ในทุกปี มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาเยือนกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มางด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทำรายได้ให้แก่มาดากัสการ์เป็นอันดับที่ 2 รองจากด้านการส่งออกเขตเศรษฐกิจพิเศษ Free Zone

อย่างไรก็ตาม ผลของการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวและประชากร การตัดไม้ เผาป่า และการทำไร่เลื่อนลอย จึงทำให้ป่าไม้ของเกาะลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งจากเดิมอยู่ที่ 120,000 ตารางไมล์ ลดปริมาณลงเหลือพียงแค่ 20,000 ตารางไมล์เท่านั้น

ด้วยสมดุลทางธรรมชาติของมาดากัสการ์ที่กำลังถูกคุมคาม จึงทำให้สัตว์ท้องถิ่นของมาดากัสการ์อย่าง “ลีเมอร์” สูญพันธ์ไปถึง 15 สายพันธ์ และนักวิทย์ยาศาสตร์ยังเชื่อว่า อีกไม่เกิน 35 ปี เกาะแห่งนี้จะกลายเป็นแค่เรื่องเล่าขานในการ์ตูนเท่านั้น หากเหตุการณ์เช่นยังดำเนินต่อไป ประกอบกับภาวะโลกก็จะทำให้มาดากัสการ์หายไปจากแผนที่โลกในที่สุด

สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในมาดากัสการ์

1. อุทยานแห่งชาติ (Andasibe Mantadia) เป็นพื้นที่อนุรักษ์ขนาดรวมกว่า 155 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกของมาดากัสการ์ ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานแห่งนี้ มีระดับความความสูงตั่งแต่ 800–1260 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และมีสภาพอากาศที่ชื้น ทั้งยังขึ้นชื่อในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้เขียวขจี และความหลากหลายทางชีวภาพอีกด้วย โดยเฉพาะสัตว์ที่ใกล้สูญพันธ์ เช่น ลีเมอร์พันธุ์อินดรี ซึ่งจัดเป็นลีเมอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของมาดากัสการ์

2. อุทยานแห่งชาติ (Montagne d’Ambre) ตั้งอยู่อยู่บริเวณเทือกเขาหินภูเขาไฟที่แยกตัวออกมา พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหินบะซอลต์ ซึ่งภายในก็มีสถานที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะน้ำตกและทะเลสาบ และแม่น้ำลำธารจำนวนมาก ที่สำคัญยังมีพื้นที่กักเก็บน้ำสำหรับเมือง Antsiranana ตั้งอยู่ด้วย ซึ่งถูกล้อมลอบไปด้วยต้นบาวบับ ที่ขึ้นอย่างแพร่หลายในแอฟริกา นอกจากนี้ ก็ยังมีกิ้งก่าคามิลเลียนหลากสีและกล้วยไม้หายากหลายชนิด พบกับพืชพันธุ์กว่า 900 สายพันธุ์ ให้ได้ชมกันอีกด้วย

3. อุทยานแห่งชาติ (Lake Tsimanampetsotsa) เป็นทะเลสาบน้ำเค็มขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศมาดากัสการ์ ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้ จัดเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญของประเทศ โดยมีพื้นที่รวมทั้งหมดกว่า 456 ตารางกิโลเมตร นอกจากนี้พืชบางชนิดที่ขึ้นเฉพาะในทะเลสาบแห่งนี้ ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์โบราณได้อีกด้วย

4. หมู่เกาะ (Mitsio) ตั้งอยู่นอกชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของมาดากัสการ์ เป็นระยะทาง 70 กิโลเมตร ซึ่งเกาะแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องหาดทรายสีขาวนวลละเอียด และสัตว์ทะเลที่พบเจอได้บ่อย โดยเฉพาะปลากระเบนราหู และนักท่องเที่ยวก็สามารถลงดำน้ำเคียงคู่ไปกับมันอย่างใกล้ชิดได้ด้วย หรือจะไปเยี่ยมชมหมู่บ้าน Lavanono ที่ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย พร้อมกับหัดโต้คลื่นไปด้วยก็ได้เช่นกัน

5. เมืองหลวง (Antananarivo) เมืองอันตานานาริโว หรือที่ชาวเมืองนิยมเรียกกันสั้นๆว่า “ตานา” โดยในตอนกลางวันเมืองแห่งนี้จะมีความพลุกพล่านและครึกครื้นอย่าง แต่ในตอนกลางคืนนั้น จะค่อนข้างเงียบเชียบเนื่องจากเมื่องไม่มีเขื่อนเพื่อใช้ปั่นไฟ จึงต้องใช้น้ำมันปั่นไฟแทน ทำให้ในแต่ละวันทางรัฐบาลจะมีการดับไฟเป็นย่านไป ส่วนสถานที่น่าสนใจในเมืองแห่งนี้ก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน อาทิ ถนนแห่งอิสรภาพ(Avenue de L’Independence) ที่เปรียบเสมือนถนนราชดำเนินในไทย โดยมีสถานีรถไฟเก่าแก่หลังคาโค้งเป็นหนึ่งในจุดเด่นของถนน นอกจากนี้ ก็ยังทะเลสาบอะโนซี (Lac Anosy) เปรียบดังสัญลักษณ์ของเมือง รวมถึงพระราชวังของกษัตริย์อัมโบฮิมังกา” (King Ambohimanga’s Palace) ที่ยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2001

เมนูอาหารมาดากัสการ์ ต้องลองเมื่อได้เที่ยวทัวร์มาดากัสการ์

1. Sukuma ใบคะน้าแก่นำมาหั่นเป็นฝอย ๆ แล้วผัดกับหัวหอม กินพร้อมกับเมนูอาหารจานหลักประเภทต่าง ๆ หรือจะกินเป็นจานหลักเลยก็ได้เช่นกัน
2. Suya เป็นเนื้อย่างที่ที่ถูกหมักด้วยเครื่องเทศนานาชนิด
3. Crawfish หรือแปลว่ากั้งแม่น้ำนั่นเอง นำมาต้ม หรือนึ่ง กินคู่กับน้ำจิ้มรสเผ็ด
4. Vetkoek เป็นแป้งทอดที่ถูกยัดใส้ด้วยหมู หรือเนื้อวัวสับ ที่ถูกผัดรวมกับเครื่องเทศ
5. Katogo กล้วยนึ่ง หรือต้มก็ได้ตามความชอบ แล้วนำมาราดซอสอีกทีก่อนรับประทาน

เรื่องราวน่ารู้ก่อนเตรียมตัวไปเที่ยวทัวร์มาดากัสการ์

1. มาดากัสการ์ เป็นที่รู้นักกันในชื่อว่าเกาะแดงใหญ่ เนื่องจากสีของพื้นดิน ซึ่ง ณ ตอนนี้ กำลังถูกกัดเซาะลงทะเลในอัตราที่น่ากลัว ด้วยฝีมือของมนุษย์ นอกจากนี้ พืชและสัตว์หลายชนิดสามารถพบได้แค่ที่มาดากัสการ์เท่านั้น ทำให้พื้นที่หลายแห่งถูกกำหนดให้เป็นเขตคุ้มครอง ที่สำคัญมาดากัสการ์ก็ยังมีสัตว์โบราณอาศัยอยู่ด้วย โดยเฉพาะฮิปโปแคระ และเต่ายักส์
2. ด้วยสภาพภูมิประเทศของมาดากัสการ์เป็นเกาะขนาดใหญ่ ทำให้มีพื้นที่กว้างใหญ่ จากเหนือจดใต้ยาว 1,500กม. แนวตะวันตกจดตะวันออกยาว 600 กม. และชายฝั่งยาวกว่า 5,000 กม. ที่สำคัญเกาะมาดากัสการ์ยังเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเอเชียและแอฟริกาเข้าไว้ด้วยกัน
3. การทำประมงกุ้งเป็นที่นิยมอย่างมากในมาดากัสการ์ เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำ สัตว์ทะเล ซึ่งการทำประมงพื้นบ้านยังคงเป็นสัดส่วนที่สูงถึงร้อยละ 70 ของปริมาณสัตว์น้ำที่จับได้ทั้งหมด
4. มาดากัสการ์เป็นหนึ่งในประเทศที่แอฟริกา ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติหลาอย่าง โดยเฉพาะแร่ธาตุที่สำคัญ ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการสำรวจขุดเจาะและพัฒนาประโยชน์เชิงพาณิชย์ เช่น ถ่านหิน เหล็ก นิเกิล ทองแดง ก๊าซธรรมชาติ และน้ำมัน เป็นต้น
5. ไม่เคยมีหลักฐานบ่งชี้ชัดเจนว่า ต้นกำเนิดของชาวมาลากาซีที่อาศัยอยู่บนเกาะมาดากัสการ์เดินทางมาจากที่ใดกันแน่ แต่นักมานุษยวิทยาหลายท่านก็ได้สันนิษฐานว่า ชาวอินโดนีเซียได้อพยพมาจากเกาะบอร์เนียว มาจับจองพื้นที่บนเกาะแห่งนี้เป็นระยะเวลากว่า 2,000 ปีมาแล้ว

ตรวจเช็คสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไปมาดากัสการ์

ประเทศมาดากัสการ์มีทั้งหมด 2 ฤดูกาล ได้แก่ ฤดูฝนที่มีอากาศค่อนข้างร้อน ในช่วงเดือน พ.ย.- เม.ย. และฤดูแล้งที่มีอากาศเย็น ระหว่างเดือน พ.ค. – ต.ค. และต้องประสบภัยจากพายุไซโคลนเป็นระยะ ด้วยถูมิประเทศที่มีความหลากหลาย ประกอบไปด้วยเขตภูเขาสูงทางตอนกลางของประเทศ เขตป่าฝนตามแนวชายฝั่งตะวันออก เขตทุ่งหญ้าแห้งแล้งทางต้อนใต้และตะวันออกเฉียงใต้ และบริเวณ Canal des Pangalanes ที่มีการเชื่อมต่อของทะเลสาบและลำคลองที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ที่มีอาณาเขตกว้างขวางถึง 460 กิโลเมตร

เมื่อมาเที่ยวทัวร์มาดากัสการ์ ของฝากที่ควรซื้อจากมาดากัสการ์

ของฝากจากมาดากัสการ์ก็มีความน่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะในตลาด (La Digue) ที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวง ซึ่งมีสินค้าให้เลือกหลากหลายประเทศ เช่น สินค้าหัตถกรรมของมาดากัสการ์ มีตั้งแต่ตระกร้าพื้นเมืองสีสันแสบตา ไปจนถึงผลิตภัณฑ์จากผ้าปัก ฟอสซิลหอยแอมโมไนต์ หินสี พลอย และอัญมณี นอกจากนี้ ก็ยังมีเครื่องดนตรีพื้นเมืองและของตกแต่งบ้านอื่น ๆ อีกมายมาย และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือวานิลลาแท้ เพราะด้วยภูมิประเทศที่มีความชื้นสูง อุณหภูมิพอเหมาะ มาดากัสการ์จึงกลายมาเป็นผู้ส่งออกวานิลลารายใหญ่ที่สุดของโลก เคียงคู่กับประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งวานิลลาในขนมหวานหลายชนิดที่หลายคนเคยกินนั้น เกือบทั้งหมดเป็นสังเคราะห์จากผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมมีราคาถูกกว่าวานิลลาแท้ 20 เท่าเลยทีเดียว ซึ่งสารวานิลลินที่ได้จากฝักวานิลลามีนั้น มีรสชาติและคุณภาพที่แตกต่างกันไปตามพื้นที่ปลูก ไม่ต่างจากไวน์ แต่วานิลลาจากมาดากัสการ์นั้น จะมีกลิ่นหอมหวานและมีรสปะแล่ม ๆ คล้ายเหล้ารัม นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้ผลิตไอศกรีมชอบวานิลลาจากมาดากัสการ์มากกว่าที่อื่น ที่สำคัญบนโลกนี้ เหลือวานิลลาแท้อยู่เพียงแค่ 1% เท่านั้น จากผู้ส่งออก 4 ประเทศได้แก่ มาดากัสการ์ อินโดนีเซีย เม็กซิโก และปาปัวนิวกินี