สัมผัสดินแดนไอย์คุปต์ที่มีมนต์เสน่ห์และลึกลับรอให้คุณเดินไปไปสำรวจ พักผ่อนสบายๆในโรงแรมระดับ 5 ดาว

23.30 น. สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยดูแลเช็คสัมภาระและบัตรที่นั่งบนเครื่อง

02.40 น. ออกเดินทางสู่สนามบินดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ เที่ยวบิน EK377
06.00 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ นำท่านเปลี่ยนเที่ยวบิน
08.15 น. ออกเดินทางสู่สนามบินไคโร โดยสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ EK927
11.05 น. เดินทางถึงสนามบินไคโร ประเทศอียิปต์ หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำท่านออกเดินทางสู่ กรุงไคโร 
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร 
นำเข้าชมป้อมปราการเก่าแห่งซาลาดิน (Citadel of Saladin) สร้างเมื่อ ค.ศ. 1176 โดยสุลต่าน ซาลาดิน เพื่อเป็นป้อมปราการป้องกันการรุกรานของศัตรู สมัยสงครามครูเสด อยู่บนเนินเขากลางกรุงโคโร สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของกรุงไคโรได้ไกลถึงพีรามิดที่กีซ่า ชมสุเหร่าแห่งโมฮัมหมัดอาลี (Muhammad Ali Mosque) สุเหร่าที่ใหญ่และสูงที่สุดในกรุงไคโร สร้างในปี ศ. 1830เสร็จปี ค.ศ. 1848 เป็นสัญลักษณ์ของกรุงไคโร ประกอบด้วย 2 ส่วน คือตัวสุเหร่า และส่วนของสนามตรงกลางเป็นรูปสี่เหลี่ยมมีโดมขนาดใหญ่สูง 52 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 21 เมตร มีโดมขนาดเล็กรองรับอีก 4 มุม ตัวอาคารสร้างด้วย หิน อลาบัสเตอร์ตกแต่งด้วยโคมไฟระย้างดงามตามแบบศิลปะอิสลาม หน้าสุเหร่ามีหอนาฬิกา ที่พระเจ้าหลุยส์ ฟิลิป แห่งฝรั่งเศสมอบให้รัฐบาลอียิปต์เป็นของขวัญ แลกกับเสาโอเบลิสก์จากวิหารลักซอร์ 
........น. เดินทางสู่สนามบินอัสวาน โดยสายการบินภายในประเทศ เที่ยวบินที่..............  
........น. เดินทางถึงสนามบินอัสวาน(Aswan) หลังรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พักเมืองอัสวาน
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม  
พักที่: TOLIP ASWAN, MOVENPICK HOTEL ASWAN หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก 
นำท่านออกเดินทางสู่ “เมืองอาบู ซิมเบล” (ASWAN ABU SIMBEL) สถานที่ตั้งของวิหารอาบู ซิมเบล เคยเป็นหนึ่งในหกวิหารหินแกะสลักที่ก่อสร้างขึ้นในนิวเบีย ในช่วงระยะเวลาการครองราชย์อันยาวนานของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ซึ่งอียิปต์โบราณเจตนาให้เป็นที่ประทับใจต่ออาณาจักรเพื่อนบ้านทางใต้ อีกทั้งยังเจตนาเพื่อเป็นการเผยแพร่ศาสนาของชาวอียิปต์เข้าไปในแคว้นทางใต้  “อาบู ซิมเบล” มาจากชื่อของเด็กท้องถิ่นที่เคยนำชมมหาวิหารในช่วงที่มีการสำรวจ ซึ่งเขาเป็นผู้ค้นพบส่วนที่ถูกฝังของมหาวิหารที่เหลือ จากการที่ทรายได้เคลื่อนตัวเผยให้เห็นส่วนที่เหลือ กระทั่งท้ายที่สุดได้มีการเรียกชื่อตามชื่อของเขา
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร 
บ่าย นำท่านชมมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์อาบู ซิมเบล(Abu Simbel Temple) มหาวิหารของอียิปต์โบราณ อันประกอบขึ้นจากหินขนาดใหญ่สองก้อน เป็นโบราณสถานหนึ่งในมรดกโลกขององค์การยูเนสโก (UNESCO) นอกจากนี้ยังรู้จักกันในนามอนุสรณ์สถานแห่งนิวเบีย เดิมมหาวิหารถูกก่อสร้างโดยการเจาะแกะสลักเข้าไปในภูเขาหินในช่วงรัชสมัยของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ในช่วงศตวรรษที่ 13 ก่อนคริสตกาล ตั้งอยู่ทางใต้ของอียิปต์ริมฝั่งตะวันตกทะเลสาบ นัสซอร์ แต่หลักจากมีการสร้างเขื่อนอัสวานส่งผลให้มหาวิหาร และโบราณสถานรายรอบต้องจมอยู่กันทะเลสาบ ทางองค์กรยูเนสโกและรัฐบาลฝรั่งเศสได้ช่วยเหลือทางด้านเงินทุนเพื่อกู้วิหารขึ้นมาจากทะเลสาบ และเชื่อกันว่าวิหารถูกจัดวางใหม่ตามหลักของสถาปนิกชาวอียิปต์โบราณด้วยการดูองศาและหมู่ดาวตามแบบเดิมทุกตารางนิ้ว ชมวิหารใหญ่แห่งฟาโรห์รามเสสที่ 2 เป็นวิหารที่สำคัญสร้างขึ้นในปี 1264 ปีก่อนคริสกาล ใช้เวลาสร้าง 20 ปี รู้จักในชื่อวิหารรามเสสผู้เป็นที่รักของอามุนราด้านหน้าวิหารจะมีรูปสลักซึ่งมีพระพักตร์ของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ในท่านั่งสี่องค์ องค์ที่สองถล่มลงเนื่องจากเหตุแผ่นดินไหว สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นที่บูชาแด่เทพอามุนรา ฮอรากาติ และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองกับชัยชนะของอียิปต์ที่มีต่อนิวเบีย (ซูดานในปัจจุบัน) ที่สมรภูมิแห่งคาเดสและเป็นการข่มขู่นิวเบียไม่ให้มารุกรานอียิปต์ซึ่งเป็นอาณาจักรใกล้เคียงอีกด้วย และสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นทุกปีคือทุกวันที่ 22 ตุลาคม และ 22 กุมภาพันธ์ซึ่งตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาและวันราชาภิเษก องค์ของฟาโรห์รามเสสที่ 2 แสงดวงอาทิตย์ยามเข้าจะส่องผ่านเข้าไปในวิหาร และส่องแสงไปที่ห้องบูชาที่มีรูปสลัก 4 องค์นั่งอยู่ หนึ่งในนั้นคือฟาโรห์รามเสสที่ 2 พร้อมด้วยเทพเจ้าต่าง ๆ อีก 3 องค์ ในวันดังกล่าวผู้คนทั่งโลกต่างมารวมตัวกันที่ Abu Simbel เพื่อเป็นสักขีพยานและรวมปรากฎการณ์ และรับพลังในวันดังกล่าวทุกปี ในบริเวณเดียวกัน ชมวิหารเล็กสำหรับบูชาเทพีแฮธอร์ และยังเป็นอนุสรณ์สถานแห่งสุดท้ายขององค์ฟาโรห์รามเสสที่ 2 และพระนางเนเฟอร์ทารี พระมเหสีสุดที่รักของพระองค์และเป็นหนึ่งในไม่กี่ตัวอย่างในศิลปะอียิปต์ที่ที่รูปปั้นของกษัตริย์ และมเหสีของเขามีขนาดเท่ากัน / ได้เวลาสมควรนำท่านออกเดินทางกลับสู่เมืองอัสวาน
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร 
พักที่: TOLIP ASWAN, MOVENPICK HOTEL ASWAN หรือที่พักระดับใกล้เคียง 

เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านแวะถ่ายรูปบริเวณเขื่อนยักษ์อัสวาน (High Dam) เขื่อนหินที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อกั้นแม่น้ำไนล์ในอัสวาน อียิปต์ ในช่วงระหว่าง ค.ศ. 1960 และ 1970 ความสำคัญส่วนใหญ่ได้บดบังเขื่อนระดับต่ำของอัสวานที่สร้างขึ้นก่อนหน้านี้ และอยู่ปลายน้ำ ด้วยความสามารถในการควบคุมน้ำท่วมได้ดีเพิ่มการกักเก็บน้ำเพื่อการชลประทาน และสร้างไฟฟ้าพลังน้ำ เขื่อนแห่งนี้จึงถูกมองว่าเป็นหัวใจสำคัญของอียิปต์ นำท่าน ชมวิหารฟินเลย์ เป็นวิหารที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพีไอซิส ต้องโดยสารเรือเล็กเข้าไปประมาณ 15 นาที เป็นวิหารที่มีความสำคัญ และงดงามมาก ในอดีตวิหารนี้เคยถูกสร้างขึ้นบนเกาะฟินเลย์ กลางแม่น้ำไนล์ แต่เมื่อเขื่อนอัสวานสร้างเสร็จ วิหารทั้งวิหารก็จมอยู่ใต้ระดับน้ำ นานาชาติจึงเข้ามาช่วยเหลือโดยการทำทำนบกั้นน้ำ และค่อยๆย้ายหินที่ละก้อน ขึ้นมาสร้างวิหารแห่งใหม่ที่เกาะอากิลเกียแทนที่วิหารเดิม นำท่านชม เสาหินโอเบลิสก์ ที่สร้างไม่เสร็จ มีขนาดความสูง 42 เมตร หนัก 1,168 ตัน สร้างขึ้นเมื่อ 1,500 ปีก่อนคริสต์กาล ถูกสร้างในสมัยมหาราชินีฮัตเซปชุต ฟาโรห์หญิงแห่งอียิปต์ เพื่อใช้เป็นเสาโอเบลิสก์ตั้งไว้หน้าวิหารคาร์นัค ในเมืองลักชอร์ แต่ระหว่างการก่อสร้างเสาโอเบลิสก์มีรอยแตกร้าว ช่างแกะสลักจึงล้มเลิกโครงการ เชื่อกันว่าหากเสาเสาโอเบลิสก์นี้สร้างเสร็จะเป็นเสาโอเบลิสก์หินแท่งเดียวที่สูงที่สุดในโลก นำท่านทำการเช็คอินขึ้นเรือสำราญ ซึ่งเป็นเรือสำราญขนาดใหญ่ ล่องไปตามแม่น้ำไนล์ ให้ท่านอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย 
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคารบนเรือ
บ่าย ได้เวลาอันสมควร นำท่านสัมผัสประสบการณ์ ล่องเรือเฟลุคกะ เรือใบโบราณที่ใช้เป็นพาหนะในการค้าขายในสมัยโบราณ ผ่านชมสวนพฤกษศาสตร์ เป็นที่ศูนย์รวมพันธ์ไม้นานาชนิด, สุสานอากาข่าน, วิวชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมืองอัสวาน ชมวิวทิวทัศน์อันงดงามหน้าเมืองอัสวานขณะล่องไปตามแม่น้ำไนล์ นำท่านชมหมู่บ้านนูเบียน ที่ตั้งอยู่บนเกาะเอเลแฟนไทน์ ท่ามกลางทิวทัศน์อันงดงามของแม่น้ำไนล์ เป็นสถานที่ที่ให้ความรู้สึกสงบและเงียบสงัด สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวนูเบียนที่มีเอกลักษณ์ โดยชาวนูเบียนเป็นกลุ่มชน ที่มีรากฐานมาจากชูดานตอนเหนือ และอียิปต์ตอนใต้ มีประวัติศาสตร์ยาวนานและยังคงรักษาขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ได้อย่างดี หมู่บ้านเต็มไปด้วยบ้านเรือนสีสันสดใส ที่สร้างขึ้นจากวัสดุธรรมชาติ พื้นที่รอบ ๆ หมู่บ้านเต็มไปด้วยความเขียวขจี และทัศนียภาพที่สวยงามของแม่น้ำไนล์ที่ไหลผ่าน ชาวนเบียนมีความสามารถพิเศษในการยิงธนูและการขี่ม้า รวมถึงมีทักษะในการทำงานฝีมือที่สวยงาม เช่น การทอผ้า และการประดิษฐ์เครื่องประดับจากทองคำ และเงิน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความประณีตในวัฒนธรรรมของพวกเขา การเที่ยวชมหมู่บ้านนูเบียนจึงไม่เพียงแต่เป็นการชมทิวทัศน์ที่สวยงาม แต่ยังเป็นโอกาสในการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมอันหลากหลายและการใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติอย่างสมดุลของชาวนูเบียน จนทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ ที่นักท่องเที่ยวหลายคนต้องมาลองสัมผัส 
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ห้องอาหารบนเรือ
พักที่: พักบนเรือ M/S DELUXE NILE CRUISE

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารบนเรือ
เรือเทียบท่าเมืองคอมออมโบ เมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ระหว่างเมืองอัสวาน และเอ็ดฟู สภาพตัวเมืองดูโบราณกว่าไคโร หรือ อัสวานอย่างเห็นได้ชัด ตัวบ้านเรือนส่วนใหญ่สูงเพียงหนึ่ง หรือสองชั้น ฉาบปูน และทาสีต่างๆ ชมวิหารคอมออมโบ (Temple of Kom Ombo) เป็นอีกหนึ่งเทวสถาน ศิลปะแบบกรีกโรมัน โดยวิหารนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่เทพเจ้า 2 องค์ ฝั่งหนึ่งสำหรับ เทพโซเบ็ก ผู้มีเศียรเป็นจระเข้ ชาวอียิปต์โบราณถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์และเป็นเทพผู้สร้างโลก รักษาโรคภัยไข้เจ็บ และอีกฝั่งหนึ่งสำหรับเทพฮอรัส ผู้มีเศียรเป็นเหยี่ยว ชาวอียิปต์โบราณถือว่าเป็นเทพเจ้าท้องฟ้า สงครามและการแพทย์ อีกทั้งที่ผนังของวิหารคอมออมโบ ยังปรากฎภาพสลักเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้ได้เห็นอยู่ นอกจากนี้ยังมีเครื่องวัดระดับน้ำที่เรียกว่า ไนล์โลมิเตอร์ ที่เป็นตัวช่วยประเมินการบอกปริมาณผลผลิตในแต่ละปีอีกด้วย ถัดจากตัววิหารไปทางด้านข้างจะมี พิพิธภัณฑ์มัมมี่จระเข้ เป็นพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ ที่จัดแสดงมัมมี่จระเข้ พบที่วิหารคอมออมโบโดยเฉพาะ มีทุกช่วงอายุตั้งแต่ตัวเล็กไปถึงตัวโต รวมไปถึงเรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับเทพจระเข้โซบก ผ่านงานปั้นแกะสลักต่าง ได้เวลาอันสมควร นำท่านกลับขึ้นเรือ เพื่อเดินทางสู่ “เมืองเอ็ดฟู” (Edfu)
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ห้องอาหารบนเรือ
บ่าย อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยบนเรือ ชมบรรยากาศสองฝั่งริมแม่น้ำในท์ สายนทีแห่งชีวิตหลักของชาวอียิปต์ตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน เรือจอดเทียบท่าเมืองเอ็ดฟู นำท่านนั่งรถม้าเพื่อไปชมวิหารเอ็ดฟู(Edfu Temple) ที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าฮอรัส ปัจจุบันได้รับการยกย่องว่าเป็นวิหารอียิปต์โบราณที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ที่สุด ตั้งอยู่ศูนย์กลางของบริเวณที่อยู่อาศัย อดีตวิหารถูกปกคลุมด้วยทรายเกือบลึกกว่า 12 เมตรง เป็นเวลานาน กระทั่งปี ค.ศ. 1860 มีการขนทราย ปรากฏว่าตัววิหารยังคงแข็งแรง แน่นหนา ขนาดของวิหารยาว 137เมตร มีเสาใหญ่แบบไพรอนที่วัดได้ 79 เมตรตรงด้านหน้าและสูง 36 ม. วิหารนี้มีขนาดใหญ่และสวยงาม ได้เวลาอันสมควรนำท่านกลับขึ้นสู่เรือเดินทางสู่ เมืองลักซอร์ ผ่านไปทางประตูน้ำอีสน่าล๊อค ซึ่งการผ่านของเรือทำโดยการปิด-เปิดประตูน้ำเพื่อปรับระดับน้ำจากระดับน้ำที่สูงกว่า และค่อยๆลดระดับลงให้เท่ากับระดับน้ำที่ต่ำกว่า ก่อนจะปล่อยเรือผ่านประตูน้ำออกไป เมืองสักซอร์อยู่ทางตอนใต้ของเมืองไคโร ประมาณ 650 กิโลเมตร
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ห้องอาหารบนเรือ
พักที่: พักบนเรือ M/S DELUXE NILE CRUISE

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารบนเรือ
นำท่านนั่งรถม้าเพื่อไปชมวิหารเอ็ดฟู(Edfu Temple) ที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าฮอรัส ปัจจุบันได้รับการยกย่องว่าเป็นวิหารอียิปต์โบราณที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ที่สุด ตั้งอยู่ศูนย์กลางของบริเวณที่อยู่อาศัย อดีตวิหารถูกปกคลุมด้วยทรายเกือบลึกกว่า 12 เมตร เป็นเวลานาน กระทั่งปี ค.ศ.1860 มีการขนทราย ปรากฏว่าตัววิหารยังคงแข็งแรง แน่นหนา ขนาดของวิหารยาว 137เมตร มีเสาใหญ่แบบไพรอนที่วัดได้ 79 เมตรตรงด้านหน้าและสูง 36 ม. วิหารนี้มีขนาดใหญ่และสวยงาม 
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ห้องอาหารบนเรือ 
เรือเทียบท่าเมืองลักชอร์ (Luxor) ได้เวลาอันสมควร นำท่านชมแสงสีเสียงยามค่ำคืน ณ วิหารลักซอร์ (The Temple of Luxor by Night) ซึ่งสร้างถวายแก่เทพอามอน-รา กษัตริย์แห่งเทพทั้งปวง ประกอบด้วยซุ้มประตูขนาดใหญ่ หน้าวิหารมีรูปสลักหินแกรนิตขนาดมหึมาเป็นฟาโรห์รามเสสที่ 2 และมหาราชินีเนเฟอตารี ชมเสาโอบิลิสก์ เสาหินแกรนิตขนาดใหญ่ซึ่งแกะสลักด้วยอักษรอียิปต์โบราณ (เฮโรกริฟฟิค) ***การชมวิหารลักซอร์ในยามค่ำคืน ส่วนมากจะเริ่มต้นเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งขึ้นอยู่กับฤดูกาล แต่โดยทั่วไปแล้ว จะเริ่มประมาณช่วงเย็น
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ห้องอาหารบนเรือ
พักที่: พักบนเรือ M/S DELUXE NILE CRUISE

OPTIONAL TOUR สำหรับท่านที่ต้องการเก็บภาพยามเข้าแบบอันซีน "ไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์" *ขึ้นบอลลูนชมเมืองลักซอร์ อีกหนึ่งกิจกรรมเสริม สำหรับท่านที่สนใจ ท่านจะได้เห็นวิวมุมสูงของเมืองลักซอร์อีกทั้งสถานที่สำคัญต่าง ๆ ในมุมที่แปลกตาออกไป โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของทางผู้ให้บริการมารับและส่งที่เรือเพื่อไปขึ้นบอลลูนแต่เช้าตรู่ (ส่วนเพิ่มเติมนี้เป็นไปตามสมัครใจ ราคาประมาณ 150 USD ต่อท่าน)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารบนเรือ
นำท่านชมเมืองลักซอร์ฝังเวสต์แบงค์ หรือเมืองทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ เข้าสู่ “หุบเขากษัตริย์” (Valley of Kings) หุบเขาที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ซึ่งมีชื่อเสียงจากการค้นพบสุสานของฟาโรห์ตุตันคาเมน โดยในปี ค.ศ.1979 ถูกยกให้เป็นมรดกโลก นำท่านเข้าชม 3 สุสานที่สวยที่สุด และสมบูรณ์ที่สุด (ค่าทัวร์ ไม่รวมเข้าชมที่เก็บพระศพฟาโรห์ ตุตันคาเมน ซึ่งท่านที่ต้องการชมต้องชำระเงินเพิ่ม กรุณาติดต่อฝ่ายขาย) ชมวิหารเดียร์เอลบาฮารี (Deir EI-Bahari) (วิหารฮัตเชปซุต) วิหารอียิปต์โบราณทีตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ ก่อนอนุสรณ์สถานที่ประดิษฐานพระศพของฟาโรห์หญิงฮัตเชปซุต หรือที่รู้จักกันในนามของ "ราชินีหนวด" ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกคนสนิท "เซเนนมุต" เมื่อกว่า 3,500 ปีมาแล้ว ชมอนุสาวรีย์แห่งเมมนอน (Colossi of Memnon) รูปสลักหินทรายขนาดใหญ่ 2 รูป มีความสูงถึง 20 เมตร ซึ่งสมัยก่อนเป็นวิหารที่ใช้ฝั่งพระศพของฟาโรห์อเมโนฟิสที่ 3 แต่เมื่อ 27 ปี ก่อนคริสตกาล เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ทำให้ตัววิหารทั้งหลังพังลงมา เหลือเพียงรูปสลัก 2 รูป
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร 
จากนั้น นำท่าน “ชมมหาวิหารคาร์นัค” (The Temple of Karnak) เป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตัววิหารหลังเดียวมีเนื้อที่ถึง 60 เอเคอร์ ซึ่งใหญ่พอที่จะนำโบสถ์ขนาดใหญ่ของยุโรปไปวางได้ถึง 10 หลัง มหาวิหารแห่งนี้เริ่มก่อสร้างในสมัยฟาโรห์ทุตโมสที่ 1 เพื่อถวายแต่เทพอามอน-รา เมื่อกว่า 3,600 ปี มาแล้ว นำท่าน ชมบรรยากาศเมืองลักชอร์ ชม Avenue of Sphinxes เป็นหนึ่งในสถานที่ทางประวัติศาสตร์ในลักซอร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มวิหารคาร์นัค Karnak อันกว้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งตะวันออกของแม่น้ำ อาคารแห่งนี้เริ่มสร้างในช่วง"อาณาจักรกลาง"โดยฟาโรห์เซซอสทริสที่ 1 แต่ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงสมัยราชวงศ์ปโตเลมี
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร // ได้เวลาอันสมควร นำท่านออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานสนามบินลักซอร์เช็คอิน 
........น. เดินทางสู่สนามบินไคโร โดยสายการบินภายในประเทศ เที่ยวบินที่..............  
........น. เดินทางถึงสนามบินไคโร // จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ที่พัก
พักที่: HOLIDAY INN CITYSTARS HOTEL หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านออกเดินทางสู่ “เมืองอเล็กซานเดรีย” (Alexandria) เที่ยวชม เมืองอเล็กซานเดรีย ซึ่งเป็นเมืองสำคัญในสมัยโรมันปกครองอียิปต์ เดิมทีเป็นหมู่บ้านประมงเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า ราคอนดาห์ เมื่อ 1,200 ปีก่อนคริสตกาล จนเมื่อ 332 ปี ก่อนคริสตกาลหรือประมาณ 2,300 กว่าปีก่อนพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชมาพบจึงให้มีการปรับปรุงขยายเมือง เพื่อเป็นเมืองหลวง และตั้งชื่อให้คล้องจองกับชื่อของพระองค์ เมืองอเล็กซานเดรียนี้ยังเป็นสถานที่สำคัญในตำนานรักอันยิ่งใหญ่ของราชินีเลอโฉมชื่อก้องโลก พระนางคลีโอพัตรา และนายทหารโรมัน มาร์ค แอนโทนี และปัจจุบันเมืองนี้ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ เป็นเมืองพักผ่อนตากอากาศที่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก ชมหลุมฝังศพใต้ดินแห่งอเล็กซานเดรีย 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกยุคกลาง สุสานของขาวโรมันในอดีต มีกว่า 50,000 ศพ สุสานใต้ดินแห่งนี้มีสามชั้น ชั้นที่ 1 มีไว้สำหรับลำเลียงโลงศพ ชั้นที่ 2 เป็นที่ฝังศพ และชั้นที่ 3 ใช้เป็นที่รวมญาติ เพื่อระลึกถึงผู้ตาย โดยมีการเลี้ยงสังสรรค์กันทั้งวัน ซึ่งเล่ากันว่าตอนที่นักโบราณคดีค้นพบที่นี่เป็นครั้งแรก บนโต๊ะยังมีขวดไวน์ และจานวางอยู่ ชมเสาปอมเปย์ เป็นสิ่งสำคัญโบราณในสมัยโรมันปกครองอียิปต์ เป็นเสาแกรนิตสูง 27 เมตร ปอมเปย์ เป็นชื่อเพื่อนสนิทของ จูเลียส ซีซ่า ผู้นำที่ยิ่งใหญ่แห่งโรมัน ซึ่งภายหลังทั้งสองได้กลายเป็นศัตรูกัน และปอมเปย์ได้หลบหนีมายังเมืองอเล็กซานเดรียในอียิปต์ และได้ถูกชาวอียิปต์ฆ่าเสียชีวิต ปัจจุบันนี้เหลือเพียงแค่เสาโบราณแบบกรีก ตั้งอยู่อย่างโด่ดเด่น และสฟิงซ์อีกสองตัว
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร 
บ่าย นำท่านแวะชมและถ่ายรูปกับ ห้องสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย หนึ่งในห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุด และสำคัญที่สุดของโลกในยุคสมัยโบราณถูกสร้างขึ้นราว 283-246 ปีก่อนคริสตกาล สถานที่แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันการศึกษาMouseion ที่อุทิศตนเองให้กับเทพีแห่งศิลปะทั้งเก้า โดยผู้ที่บุกเบิกแนวคิดในการสร้างห้องสมุดแห่งนี้นั้นคือDemetrus of Phalerum อดีตรัฐบุรุษชาวเอเธนส์ที่ถูกเนรเทศและมาอาศัยอยู่ ณ อเล็กซานเดรีย โดยเขาได้เสนอความคิดดังกล่าวแก่ กษัตริย์ปโตเลมีที่ 1 โชเตอร์ ด้วยต้องการความรู้และวิทยาการจากทั่วทุกสารทิศมาไว้ ณ สถานที่แห่งเดียวกัน ทั้งกษัตริย์ปโตเลมีเอง ก็มีความเห็นชอบ และให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีสถานที่แห่งนี้จึงถูกสร้างขึ้นในที่สุด ทั้งยังรวบรวมม้วนกระดาษปาปิรุสที่บันทึกสิ่งต่าง ๆ เอาไว้กว่า 40,000 ถึง 400,000 ม้วน นำท่านถ่ายรูปคู่กับป้อมปราการไคว์ทเบย์ (Qaile Bay Ctadel) ซึ่งในอดีตนั้นเป็นที่ตั้งของประภาคารฟาโรส ถือว่าเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ ปัจจุบันกาเหลือเพียงส่วนที่เป็นฐานและได้มีรับการทะนุบำรุงต่อเติมจากสุลต่านเกย์ตเบย์ โดยรวบรวมซากเดิมบางส่วนเข้ามา อิสระให้ท่านพักผ่อนหย่อนใจกับการชมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่สวยงาม ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงไคโร
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: HOLIDAY INN CITYSTARS HOTEL หรือที่พักระดับใกล้เคียง 

เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านชมมหาพีระมิดแห่งกิซ่า (The Great Pyramid of Giza) หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่ตั้งของมหาพีระมิด 3 องค์ อันประกอบด้วย พีระมิดคูฟู (Khufu) มีขนาดใหญ่ที่สุด และเก่าแก่ที่สุดในหมู่พีระมิดแห่งกีซ่าสร้างโดยฟาห์โรคูฟู ที่มีจุดประสงค์เพื่อเป็นที่ประทับสำหรับการฟื้นคืนชีพ สูง 146 เมตร สร้างด้วยหินแกรนิต 2.3 ล้านแท่ง พีระมิดคาเฟร (Khafre) ตั้งอยู่ตรงกลางของพีระมิดทั้ง 3 สร้างโดยฟาโรห์เคเฟรน ในปี 2465 ก่อน ค.ศ.ศ.สูง 136 เมตร ต่ำกว่าพีระมิด 10 เมตร สร้างบนเนินดินดินขนาดใหญ่ จึงทำให้ดูสง่ากว่าพีระมิดอีก 2 องค์ กินเนื้อที่ประมาณ 1.6 ล้านลูกบาศก์เมตร มีห้องโถงกว้าง 2 ห้อง แต่ภายในถูกบุกรุก ทำลายเสียหาย พีระมิดมิเซรินุส(Mycernos) สร้างโดยฟาโรห์เมนเคอเร ปี 2420 ก่อน ค.ศ. มีขนาดเล็กที่สุด และเก่าแก่น้อยที่สุดในหมู่พีระมิดแห่งกิซ่าชม สูง 66.45 เมตร ปัจจุบันสูงเพียง 62.18 เมตร อิสระให้ท่านเที่ยวชมตามอัธยาศัย มีความเชื่อกันว่าพี่ระมิดนี้ถูกสร้างขึ้นโดยประสงค์ขององค์ฟาโรห์แห่งอียิปต์โบราณ เพื่อฝังพระศพของพระองค์เอง ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้นกว่า 30 ปี จากแท่งหินขนาดใหญ่แต่ละก้อนหนักกว่า 2 ตัน วางชิดติดกันแบบแนบสนิทมากแม้แต่กระดาษก็สอดไม่ผ่าน นำท่าน ขี่อูฐชมทิวทัศน์รอบๆ โดยมีหมู่พีระมิดเป็นฉากหลัง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมุมถ่ายภาพวิวพีระมิดยอดนิยม ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยื่อนพีระมิดกีซ่า จากนั้น นำท่านชมสฟิงซ์ ที่แกะสลักจากเนินหินธรรมชาติ มีหน้าที่เฝ้าวิหารและสุสานของกษัตริย์ เป็นเครื่องแสดงถึงอำนาจ ส่วนหัวเป็นพระพักตร์ของฟาโรห์เคฟเฟร ลำตัวเป็นสิงโตหมอบเพศผู้ มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกยาวประมาณ 73 เมตร สูง 20 เมตร แกะสลักจากหินปูนเพียงก้อนเดียว ซึ่งเป็นสฟิงซ์หนึ่งเดียวในบริเวณที่ราบสูงก็ซ่าแห่งนี้
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์แกรนด์อียิปต์แห่งใหม่ (GEM) อัครสถานสำหรับจัดแสดงมหาสมบัติของกษัตริย์ตุตันคามุน เป็นพิพิธภัณฑ์โบราณคดีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 480,000 ตร.ม. ห่างจากมหาพีระมิดแห่งก็ชาราว 2 กิโลเมตร จัดแสดงโบราณวัตถุของอารายธรรมอียิปต์โบราณ กว่าหนึ่งแสนชิ้น จุดน่าสนใจคือการจัดแสดงครั้งแรกอย่างเต็มรูปแบบของวัตถุโบราณที่ขุดค้นได้จากสุสานของฟาโรห์ตุตันคาเมน ทั้งชุด ซึ่งหลายชิ้นเป็นการจัดแสดงเป็นครั้งประกอบด้วยสิ่งของทั้งหมดประมาณห้าพันชิ้น และของที่ย้ายจากพิพิธภัณฑ์อียิปต์ในกรุงไคโร พิพิธภัณฑ์ในลักซอร์ มินยา โซฮัก อัสยูต เบนิ ซูเอฟ ฟายุม เดลต้า และอเล็กซานเดรีย ได้เวลาอันสมควร จากนั้นนำท่านสู่ "ตลาดข่านเอลคาลิลี่" ตลาดสำคัญทางการค้าขายของพื้นเมืองและแหล่งสินค้าที่ระลึกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงไคโร อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสิ้นค้าพื้นเมืองมากมาย ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำหอมที่ทำด้วยมือสินค้าต่างๆ เครื่องทองคำรูปพรรณ และเพรชพลอยลวดลายแบบอาหรับ พรม และของที่ระลึกแบบพื้นมือง / นำท่านออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานสนามบินไคโร...นำท่านเช็คอิน
20.05 น. ออกเดินทางสู่สนามบินดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ EK924

00.40 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ นำท่านเปลี่ยนเที่ยวบิน
02.50 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯโดยสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ EK384
12.30 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ